>>จากการที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเพื่อเยี่ยมเยือนราษฎรตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วภูมิภาค ทรงเห็นและรับรู้ถึงทุกข์สุขปัญหาต่างๆ ของประชาชนอย่างใกล้ชิด อันถือเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการในพระราชดำริต่างๆ ที่ทรงดำริไว้เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่คนไทย อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดงานศิลปวัฒนธรรมตลอดจนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงความรักความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อคนไทยมาโดยตลอด
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดงาน “ตามรอยพระบาทโครงการตามพระราชดำริของแม่หลวง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา พร้อมร่วมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และกระตุ้นให้เกิดการตระหนัก พร้อมร่วมสืบสานพระราชดำริอย่างถูกต้องและกว้างขวาง โดยภายในงานได้รวบรวมเอาพระราชกรณียกิจที่พระราชทานไว้ทั่วประเทศ ตั้งแต่การฟื้นฟูงานหัตถกรรมผ้าไทยในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ ไปจนถึงโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ นำมาจัดแสดงผ่านนิทรรศการ พร้อมการสาธิต การออกร้านจำหน่ายสินค้าศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
โดยได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมีคณะกรรมการและผู้บริหารสยามพารากอน นำโดย พาสินี ลิ่มอติบูลย์, มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์, จิตตินี จอมปรัชญา, ปิยวรา ทีขะระ หัวหน้าโครงการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ร่วมให้การต้อนรับพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมชมงานและอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากโครงการฯ อาทิ คุณหญิงอรุณวรรณ ศรีสมทรัพย์, กฤตยา-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ, ปาลาวี บุนนาค อิสสระ, จิตรามณฑน์ เตชะไพบูลย์ และลูกสาว สรัญทร เตชะไพบูลย์
สำหรับในส่วนของนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ได้รับความร่วมมืออันดีจากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำเอาผลิตภัณฑ์จากโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ อาทิ ผ้าไหม, ผ้าฝ้ายพิมพ์ลาย และงานศิลปหัตถกรรมฝีมือราษฎรสมาชิกศิลปาชีพต่างๆ มาให้ชม และเลือกสรรภายในงาน โดยผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปหัตถกรรมโบราณของไทยอย่าง ผ้ายก ผ้าไหมทอมือที่ทอยกลวดลายอย่างวิจิตรบรรจงให้นูนสูงขึ้นกว่าผืนผ้า ก็ได้นำมาจัดแสดงพร้อมสาธิตการปักสะดึงกลึงไหม โดยสมาชิกผู้เชี่ยวชาญจากบ้านเนินธัมมังและบ้านตรอกแค จังหวัดนครศรีธรรมราช แบบที่เรียกว่าหาดูที่ไหนไม่ได้มาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังนำเสนอผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ จัดกิจกรรมสาธิต และการผลิตชิ้นงานศิลปหัตถกรรมต่างๆ อาทิ การปักซอยผ้าที่งดงามด้วยฝีมืออันประณีต การปั้นและทำตุ๊กตาชาววัง การสะดึงปักผ้าต่างๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์ อย่างผ้ายก ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าแพรวา ตลอดจนการจักสานย่านลิเภา พร้อมการทำหัวโขนจากช่างฝีมือวังชายที่มีความงดงามวิจิตรบรรจงยิ่งนัก
พร้อมกันนี้ยังมีนิทรรศการและการออกร้านจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปดาวเด่นประจำโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 90 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศมาเป็นวัตถุดิบในเมนูเด็ดของทั้ง 4 ภาค นำโดย “หมูจินหัว” หมูพันธุ์ดีที่มีเนื้อนุ่ม สีสวยสด และกลิ่นหอมมาก ที่จะถูกนำเสนอในเมนู “หมูจินหัวแดดเดียวทอด” และ “เป็ดอี้เหลียง” เป็ดที่เป็นพันธุ์คุณภาพดี โตเร็วและฟักไข่ได้อย่างมีคุณภาพ ที่จะปรุงในรูปแบบ “ลาบเป็ด” โดยสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสัตว์ที่รัฐบาลจีนได้น้อมเกล้าฯ ถวายพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์แด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี 2542 และ 2543 ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานให้ทดลองเลี้ยงในฟาร์มตัวอย่างเพื่อจะได้ซึ่งผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นแบบอย่างในการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ยังมีข้าวสังข์หยด ข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีพื้นบ้านขนานแท้ดั้งเดิมจากพัทลุง มรดกทางภูมิปัญญาพื้นถิ่นอีกด้วย ซึ่งทุกเมนูจากการออกร้านทั้ง 4 ภาคนั้น ยังนำผักปลอดสารพิษ รวมไปถึงเห็ดชนิดต่างๆ ที่ปลูกในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ มาประกอบเมนูจานเด็ดของแต่ละภาคอันประกอบไปด้วย ขนมจีนน้ำเงี้ยว และข้าวซอยไก่ อาหารประจำถิ่นของภาคเหนือ ที่ใช้ผักในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ เป็นเครื่องเคียง, ข้าวยำปักษ์ใต้ เมนูอาหารสุขภาพขึ้นชื่อจากแดนใต้ ที่โดดเด่นด้วยการใช้ข้าวสังข์หยดมาเป็นวัตถุดิบหลัก, ส้มตำไก่ย่าง อาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของภาคอีสานที่ใช้วัตถุดิบจากโครงการฯ ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีสินค้าแปรรูปต่างๆ จากมูลนิธิฯ มานำเสนอทั้งกาแฟอาราบิก้า, ชาใบหม่อน, ชาอู่หลงอัดเม็ด เป็นต้น :: Text by Flash