>>เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนคงตอบว่า ใครจะกล้า ผู้หญิงเราต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการแต่งหน้า แต่ที่ผู้หญิงหลายคนยังไม่รู้ก็คือ ทุกครั้งที่แต่งหน้า ผิวของเราก็เริ่มรับเคมีจากเมกอัพเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัวแล้ว จากงานวิจัยของ U.S. National Institute of Occupational Safety and Health พบว่า ในแต่ละปี ผิวของเรามีการดูดซึมสารเคมีจากเครื่องสำอางเข้าสู่ร่างกายกว่าปีละ 2 กิโลกรัม ซึ่งจะเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง และอาจเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ อาทิ มะเร็ง ความผิดปกติของตับ และโรคอื่นๆ อีกมากมาย
แพทย์หญิงภัทรินทร์ สุทธิบดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และศัลยกรรมเลเซอร์ ที่ปรึกษาปัญหาด้านความงามของบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย กล่าวว่า การดูแลผิวนั้นควรจะเริ่มตั้งแต่เมื่ออายุยังน้อย ทำให้ถูกขั้นตอน และที่สำคัญคือต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับวัยและสภาพผิวหน้าของแต่ละคน แต่ก็มีน้อยคนที่จะทราบว่าในระหว่างที่เครื่องสำอางอยู่บนผิวหน้าเรานั้น ผิวจะมีการดูดซับเอาเคมีเมกอัพที่อยู่ในผิวหนังไปด้วย เท่ากับว่ายิ่งเครื่องสำอางอยู่บนผิวหน้าของเรานานหรือหนาเท่าไหร่ การดูดซับเคมีเข้าสู่ร่างกายก็ยิ่งมากเท่านั้น
เคยสังเกตบ้างรึเปล่าคะว่า ทำไมแก้มเรามักจะมีกระขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป จากงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า การใช้บลัชออนปัดแก้มเป็นสาเหตุหนึ่งของกระที่ขึ้นบริเวณแก้มของเรา เพราะฉะนั้นเครื่องสำอางที่ซึมซับผ่านทางผิวหนัง และทางกระแสเลือดนั้นไม่สามารถป้องกันได้เลยและจะไปสะสมที่ตับ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถกำจัดออกทางผิวหนังและการขับถ่ายได้ แพทย์หญิงภัทรินทร์ อธิบายต่อ
ผิวสวยก็เพิ่มความสวยด้วยตัวเอง
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักขาดความมั่นใจเมื่อต้องออกไปเผชิญโลกด้วยลุค “หน้าสด” จึงทำให้ต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ว่าเทคนิคการดูแลผิวให้สวยแม้ในขณะที่ใบหน้าต้องรับเครื่องสำอางโดยตรงนั้นคือ
- หาตัวช่วยปกป้องผิว ก่อนการแต่งหน้าควรมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีคุณสมบัติเหมือนเป็นมาสก์เคลือบหน้าเพื่อปกป้องไม่ให้ผิวของเราต้องสัมผัสกับเคมีในเครื่องสำอางโดยตรง ขณะเดียวกันก็ต้องช่วยซ่อมแซมสภาพผิวจากรอยหมองคล้ำต่างๆ ที่เกิดจากเครื่องสำอางไปด้วย
- ต้องไม่โปะ การใช้เครื่องสำอางมากเกินไปนั้นจะยิ่งทำให้ผิวของเราดูดซึมเอาเคมีเมกอัพเข้าสู่ผิวมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วผิวยังไม่มีโอกาสได้หายใจ เนื่องจากเครื่องสำอางไปอุดตันรูขุมขนไว้
- ทำความสะอาดเปิดรูขุมขน สิ่งที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ทุกๆ เย็นเมื่อเสร็จจากธุระแล้ว ต้องไม่ลืมขั้นตอนปรนนิบัติดูแลผิวของตัวเอง เริ่มตั้งแต่การล้างเครื่องสำอางให้หมดจด ทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าที่ไม่ทำลายค่าความเป็นกรดด่างของผิว และปรับสภาพผิวหน้าด้วยครีมบำรุงที่ปราศจากสารสเตียรอยด์
ด้วย 3 เทคนิคนี้ของการดูแลผิวหน้า เท่ากับว่าเป็นการเติมความสวยให้กับตัวผู้หญิงเราเองไปด้วย ยิ่งสภาพผิวดีมากเท่าไหร่ การใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ ก็จะน้อยลงไปเท่านั้น ความมั่นใจก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น “ลุคหน้าสด” ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
นีเวีย เมคอัพ เคลียร์และนีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไวท์
เมคอัพ สตาร์ทเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด เพื่อเป็น “คู่แท้สาวแต่งหน้า” ที่จะช่วยสลาย 10 คราบเมกอัพอันเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ และปัญหาผิวพรรณอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสิว หรือริ้วรอยอื่นๆ และยังมีมอยส์เจอไรซิ่ง เซรัม ที่จะช่วยปกป้องผิวของสาวแต่งหน้าทั้งหลายจากสารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอาง และยังจะช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำจากการแต่งหน้า
ให้ทุกคนสวยได้ ไม่ต้องพัก และพกพาความมั่นใจไปได้ในทุกที่...
*ขอขอบคุณข้อมูลจาก แพทย์หญิงภัทรินทร์ สุทธิบดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และศัลยกรรมเลเซอร์ ที่ปรึกษาปัญหาด้านความงามของบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย และผู้อำนวยการสถาบันผิวหนังเดอะพรีเมี่ยม
แพทย์หญิงภัทรินทร์ สุทธิบดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และศัลยกรรมเลเซอร์ ที่ปรึกษาปัญหาด้านความงามของบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย กล่าวว่า การดูแลผิวนั้นควรจะเริ่มตั้งแต่เมื่ออายุยังน้อย ทำให้ถูกขั้นตอน และที่สำคัญคือต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับวัยและสภาพผิวหน้าของแต่ละคน แต่ก็มีน้อยคนที่จะทราบว่าในระหว่างที่เครื่องสำอางอยู่บนผิวหน้าเรานั้น ผิวจะมีการดูดซับเอาเคมีเมกอัพที่อยู่ในผิวหนังไปด้วย เท่ากับว่ายิ่งเครื่องสำอางอยู่บนผิวหน้าของเรานานหรือหนาเท่าไหร่ การดูดซับเคมีเข้าสู่ร่างกายก็ยิ่งมากเท่านั้น
เคยสังเกตบ้างรึเปล่าคะว่า ทำไมแก้มเรามักจะมีกระขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป จากงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า การใช้บลัชออนปัดแก้มเป็นสาเหตุหนึ่งของกระที่ขึ้นบริเวณแก้มของเรา เพราะฉะนั้นเครื่องสำอางที่ซึมซับผ่านทางผิวหนัง และทางกระแสเลือดนั้นไม่สามารถป้องกันได้เลยและจะไปสะสมที่ตับ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถกำจัดออกทางผิวหนังและการขับถ่ายได้ แพทย์หญิงภัทรินทร์ อธิบายต่อ
ผิวสวยก็เพิ่มความสวยด้วยตัวเอง
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักขาดความมั่นใจเมื่อต้องออกไปเผชิญโลกด้วยลุค “หน้าสด” จึงทำให้ต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ว่าเทคนิคการดูแลผิวให้สวยแม้ในขณะที่ใบหน้าต้องรับเครื่องสำอางโดยตรงนั้นคือ
- หาตัวช่วยปกป้องผิว ก่อนการแต่งหน้าควรมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีคุณสมบัติเหมือนเป็นมาสก์เคลือบหน้าเพื่อปกป้องไม่ให้ผิวของเราต้องสัมผัสกับเคมีในเครื่องสำอางโดยตรง ขณะเดียวกันก็ต้องช่วยซ่อมแซมสภาพผิวจากรอยหมองคล้ำต่างๆ ที่เกิดจากเครื่องสำอางไปด้วย
- ต้องไม่โปะ การใช้เครื่องสำอางมากเกินไปนั้นจะยิ่งทำให้ผิวของเราดูดซึมเอาเคมีเมกอัพเข้าสู่ผิวมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนั้นแล้วผิวยังไม่มีโอกาสได้หายใจ เนื่องจากเครื่องสำอางไปอุดตันรูขุมขนไว้
- ทำความสะอาดเปิดรูขุมขน สิ่งที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง ทุกๆ เย็นเมื่อเสร็จจากธุระแล้ว ต้องไม่ลืมขั้นตอนปรนนิบัติดูแลผิวของตัวเอง เริ่มตั้งแต่การล้างเครื่องสำอางให้หมดจด ทำความสะอาดผิวด้วยโฟมล้างหน้าที่ไม่ทำลายค่าความเป็นกรดด่างของผิว และปรับสภาพผิวหน้าด้วยครีมบำรุงที่ปราศจากสารสเตียรอยด์
ด้วย 3 เทคนิคนี้ของการดูแลผิวหน้า เท่ากับว่าเป็นการเติมความสวยให้กับตัวผู้หญิงเราเองไปด้วย ยิ่งสภาพผิวดีมากเท่าไหร่ การใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิดจุดบกพร่องต่างๆ ก็จะน้อยลงไปเท่านั้น ความมั่นใจก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น “ลุคหน้าสด” ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
นีเวีย เมคอัพ เคลียร์และนีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไวท์
เมคอัพ สตาร์ทเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด เพื่อเป็น “คู่แท้สาวแต่งหน้า” ที่จะช่วยสลาย 10 คราบเมกอัพอันเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ และปัญหาผิวพรรณอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสิว หรือริ้วรอยอื่นๆ และยังมีมอยส์เจอไรซิ่ง เซรัม ที่จะช่วยปกป้องผิวของสาวแต่งหน้าทั้งหลายจากสารเคมีที่อยู่ในเครื่องสำอาง และยังจะช่วยฟื้นบำรุงผิวหมองคล้ำจากการแต่งหน้า
ให้ทุกคนสวยได้ ไม่ต้องพัก และพกพาความมั่นใจไปได้ในทุกที่...
*ขอขอบคุณข้อมูลจาก แพทย์หญิงภัทรินทร์ สุทธิบดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และศัลยกรรมเลเซอร์ ที่ปรึกษาปัญหาด้านความงามของบรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย และผู้อำนวยการสถาบันผิวหนังเดอะพรีเมี่ยม
