By Lady Manager
นอกจากต้องพกร่ม ในช่วงหน้าฝนแล้ว ยังมีวิธีป้องกันเพื่อสุขอนามัยของผู้หญิงเรายังมีวิธีป้องกันได้อีกหลายอย่าง เพราะนอกจากฝนจะทำให้เสื้อผ้าหน้าผมเยินแล้ว ยังนำพาเชื้อรา จุดอับชื้น และกลิ่นเหม็น มาทำให้หมดความมั่นใจอีกต่างหาก
มาดูกันค่ะ ว่าจะมีวิธีป้องกันใดบ้าง
วิธีแรก : งดเสื้อในเสริมอึ๋มฟองน้ำหนาเตอะ!
สำหรับสาวๆคัพเอทั้งหลาย ที่จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจใส่เสื้อผ้าสวยจึงนิยมเสื้อชั้นในเสริมฟองน้ำ บางคนเสริมฟองน้ำหนาเตอะใหญ่กว่า หน่มน้มตนเองสองเท่าก็มี ถ้าวันไหนไม่ใส่แทบจะไม่อยากออกจากบ้าน
แต่ในวันฝนพรำ และพายุฝนฟ้าคะนองอย่างนี้ ฟองน้ำที่ใส่เมื่อโดนเข้าไปก็ชุ่มฉ่ำสิคะ นพ.ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท1 กล่าว ออกมาเตือนสาวด้วยว่า
"โรคผิวหนัง ซึ่งมาจากเชื้อราในฟองน้ำ เพราะแฟชั่นเสื้อชั้นในแบบเสริมฟองน้ำเป็นที่นิยมมาก ในหน้าฝนฟองน้ำอาจจะแห้งสนิทยาก เช่น ข้างนอกแห้ง แต่ข้างในยังชื้น ทำให้เชื้อราจะแบ่งตัวได้ดี เมื่อสวมใส่จะก่อให้เกิดอาการคันเป็นผดผื่นบนผิวหนังได้
ทว่า ชุดชั้นในที่อับชื้นไม่แห้ง จะกลายเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อสวมใส่จะเกิดเหงื่อไคล คือ โปรตีน ไขมัน และอุณหภูมิเหมาะสม แบคทีเรียจะย่อยสลายคราบไคล ซึ่งจะทำให้เกิดกลิ่นอับเหม็นติดตัวไปทั้งวัน"
ดังนั้น ในฤดูชื้นแฉะฝนตกแบบนี้ พยายามลดขนาดฟองน้ำลงค่ะ หรือไม่มีฟองน้ำเลยยิ่งดีใหญ่ อย่าไปใส่ให้ใหญ่โตทำให้ผู้ชายนโนมากนัก ถึงแม้จะไซส์มินิ แต่ถ้ามีความมั่นใจ รู้จักแต่งตัว หน้าอกไม่ตูมก็สวยแซ่บได้ค่ะ
วิธีสอง : พก กกน.สำรอง เผื่อฝนสาดร่างชุ่ม
เมื่อพูดถึงเสื้อชั้นในไปแล้ว ต้องไม่ละทิ้งความสำคัญของกางเกงชั้นในค่ะ เพราะความอับชื้นก่อให้เกิดอาการคันคะเยอ จะเกาก็คงจะไม่สุภาพ ดูน่าเกลียด และเชื้อรายังทำให้เกิดตกขาวอีกด้วย คุณหมอก้องศาสดิ์ แนะนำด้วยว่า
"ส่วนกางเกงชั้นในที่อับชื้น จะก่อให้เกิดชื้อราที่ทำให้มีอาการคันในช่องคลอดได้ เชื้อที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของช่องคลอดที่พบบ่อยที่สุด คือ แคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) ซึ่งโดยปกติเป็นเชื้อที่อยู่ในช่องคลอดโดยไม่ทำให้เกิดโรค แต่หากใส่ชุดชั้นในที่อับชื้นเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้เชื้อรามีปริมาณมากขึ้นจนก่อโรค
ลองสังเกตดูว่า มักจะมีตกขาวออกมาร่วมกับมีอาการคันช่องคลอด ส่วนการป้องกันนั้น ควรเลือกเนื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดีไม่อุ้มน้ำ ไม่หนาหนัก เช่น ผ้าฝ้าย และหมั่นตรวจดูชุดชั้นในอยู่เสมอว่ามีจุดเล็กๆ หรือมีรอยของเชื้อโรคหรือไม่ หากมีควรทิ้งทันที ไม่ควรเสียดาย ที่สำคัญควรซักชุดชั้นในให้สะอาดและแห้ง พยายามให้โดนแดดบ้างหรือผึ่งให้แห้งในที่ระบายอากาศได้ดี
หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงชั้นในที่อับชื้น หรือเปียกเป็นเวลานาน หากรู้ล่วงหน้าว่าอาจจะเปียกฝน ควรเตรียมไปเผื่อไว้อีก 1 ตัว และเมื่อมีโอกาสควรเปลี่ยนใส่ตัวใหม่ที่แห้งสะอาด
และในกรณีที่อยู่ระหว่างการมีรอบเดือนแล้วเปียกฝน ก็ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทันที หรืออาจเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งสามารถจะช่วยให้คุณรู้สึกแห้งสบายไม่เหนอะหนะ" คุณหมอ กล่าว
วิธีสาม : ผ้าขนหนูต้องมีติดตัว เลี่ยงใส่ยีนส์ ไร้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว
นอกจากเชื้อราจะมากวนใจในหน้าฝนแล้ว กลิ่น ก็เป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงค่ะ
"หน้าฝนสาวๆ หลายคนที่ต้องฝ่าละอองฝนไปทำงาน ต้องทนกลิ่นอับชื้นไปทั้งวัน ทั้งจากเสื้อผ้า ผม รองเท้า สูญเสียความมั่นใจ กลิ่นอับชื้นออกเหม็นเปรี้ยวนั้น เป็นก๊าซที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์อาหารของแบคทีเรีย” คุณณัฐนันท์ ปัญญาโกษา นักสุขศึกษา โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 กล่าว
“หน้าฝนควรมีผ้าแห้งที่สะอาด เช่น ผ้าขนหนูพกติดตัวไว้ในยามจำเป็น โดยเฉพาะช่วงเช้าเมื่อออกไปทำงานแล้วเกิดถูกฝนไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่ สามารถใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้งก่อน แล้วพยายามผึ่งพัดลม หรือเดินไปเดินมาในออฟฟิศหรือที่อากาศถ่ายเท เช่น ริมระเบียงออฟฟิศ เพื่อให้เสื้อผ้าระบายความชื้นออกมาให้มากที่สุด
ทั้งนี้ หน้าฝนควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าเนื้อหนา ระบายอากาศได้น้อย เช่น ยีนส์ ผ้าใยสังเคราะห์ เพราะคุณสมบัติระบายอากาศไม่ดี หากโดนความชื้นจะเก็บความชื้นก่อให้เกิดกลิ่นอับติดตัวตลอดทั้งวัน”
วิธีสุดท้าย : รองเท้าฟองน้ำ แฟชั่นพลาสติก
มาถึงวิธีสุดท้าย รองเท้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากยามหน้าฝน ช่วงนี้รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าหนัง หรือกำมะหยี่ ควรเก็บไว้ก่อน เพราะเมื่อเจอน้ำนองอยู่บนพื้นอาจลื่นล้มหมดสวย เปื้อน แถมอายได้
ควรหารองเท้าแฟชั่นพลาสติกมาสวมใส่ นอกจากจะสวย เก๋ เหมาะกับช่วงนี้ ยังดูแลรักษาก็ง่าย เพื่อสุขภาพที่ดีของเท้าสุดๆ และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ รองเท้าฟองน้ำ
“สำหรับสาวออฟฟิศ กรณีเท้าเหม็นอับ เท้าเหม็นเป็นปัญหาที่เกิดได้บ่อยโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน หลายๆ คนต้องเดินลุยน้ำก่อปัญหากับผู้ที่ต้องใส่รองเท้าคัชชูบ่อยๆ ปกติกลิ่นเท้าเหม็นเกิดจากความอับชื้น และเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีอยู่ทั่วไปในอากาศ เชื้อนี้จะเติบโตได้ดีในที่อับชื้น
ดังนั้นการลุยน้ำแล้วมาสวมใส่คัชชูทันทีโดยไม่ทำความสะอาดเท้าให้ดีก่อน เชื้อแบคทีเรียจะเติบโตได้ดี โดยเฉพาะตามซอกนิ้ว เล็บ เป็นจุดที่จะทำให้เกิดกลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นขึ้นมาได้
การดูแลสุขภาพเท้าช่วงฤดูฝนสำหรับสาวๆ หลังลุยน้ำ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเพียงแต่ควรทำให้เป็นประจำเท่านั้น คือ หลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมขังแล้ว และต้องใส่รองเท้าที่เปียกชื้นนาน โดยอาจหารองเท้าฟองน้ำมาเปลี่ยน หลังการลุยน้ำควรล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ ทันที แล้วเช็ดให้แห้งก่อนโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้ว ซอกเล็บที่จะอับชื้นกว่า
หลังจากผึ่งเท้าแห้งแล้ว อาจใช้แป้งฝุ่นทั่วไปโรยให้ทั่วโดยเฉพาะซอกนิ้ว หรือการใส่ถุงเท้าผ้าฝ้ายที่หุ้มเฉพาะตรงเท้าก่อนสวมคัชชูร่วมด้วย จะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นอับได้ "คุณณัฐนันท์ แนะนำวิธีดูแลเท้าปิดท้าย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
นอกจากต้องพกร่ม ในช่วงหน้าฝนแล้ว ยังมีวิธีป้องกันเพื่อสุขอนามัยของผู้หญิงเรายังมีวิธีป้องกันได้อีกหลายอย่าง เพราะนอกจากฝนจะทำให้เสื้อผ้าหน้าผมเยินแล้ว ยังนำพาเชื้อรา จุดอับชื้น และกลิ่นเหม็น มาทำให้หมดความมั่นใจอีกต่างหาก
มาดูกันค่ะ ว่าจะมีวิธีป้องกันใดบ้าง
วิธีแรก : งดเสื้อในเสริมอึ๋มฟองน้ำหนาเตอะ!
สำหรับสาวๆคัพเอทั้งหลาย ที่จำเป็นต้องสร้างความมั่นใจใส่เสื้อผ้าสวยจึงนิยมเสื้อชั้นในเสริมฟองน้ำ บางคนเสริมฟองน้ำหนาเตอะใหญ่กว่า หน่มน้มตนเองสองเท่าก็มี ถ้าวันไหนไม่ใส่แทบจะไม่อยากออกจากบ้าน
แต่ในวันฝนพรำ และพายุฝนฟ้าคะนองอย่างนี้ ฟองน้ำที่ใส่เมื่อโดนเข้าไปก็ชุ่มฉ่ำสิคะ นพ.ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท1 กล่าว ออกมาเตือนสาวด้วยว่า
"โรคผิวหนัง ซึ่งมาจากเชื้อราในฟองน้ำ เพราะแฟชั่นเสื้อชั้นในแบบเสริมฟองน้ำเป็นที่นิยมมาก ในหน้าฝนฟองน้ำอาจจะแห้งสนิทยาก เช่น ข้างนอกแห้ง แต่ข้างในยังชื้น ทำให้เชื้อราจะแบ่งตัวได้ดี เมื่อสวมใส่จะก่อให้เกิดอาการคันเป็นผดผื่นบนผิวหนังได้
ทว่า ชุดชั้นในที่อับชื้นไม่แห้ง จะกลายเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อสวมใส่จะเกิดเหงื่อไคล คือ โปรตีน ไขมัน และอุณหภูมิเหมาะสม แบคทีเรียจะย่อยสลายคราบไคล ซึ่งจะทำให้เกิดกลิ่นอับเหม็นติดตัวไปทั้งวัน"
ดังนั้น ในฤดูชื้นแฉะฝนตกแบบนี้ พยายามลดขนาดฟองน้ำลงค่ะ หรือไม่มีฟองน้ำเลยยิ่งดีใหญ่ อย่าไปใส่ให้ใหญ่โตทำให้ผู้ชายนโนมากนัก ถึงแม้จะไซส์มินิ แต่ถ้ามีความมั่นใจ รู้จักแต่งตัว หน้าอกไม่ตูมก็สวยแซ่บได้ค่ะ
วิธีสอง : พก กกน.สำรอง เผื่อฝนสาดร่างชุ่ม
เมื่อพูดถึงเสื้อชั้นในไปแล้ว ต้องไม่ละทิ้งความสำคัญของกางเกงชั้นในค่ะ เพราะความอับชื้นก่อให้เกิดอาการคันคะเยอ จะเกาก็คงจะไม่สุภาพ ดูน่าเกลียด และเชื้อรายังทำให้เกิดตกขาวอีกด้วย คุณหมอก้องศาสดิ์ แนะนำด้วยว่า
"ส่วนกางเกงชั้นในที่อับชื้น จะก่อให้เกิดชื้อราที่ทำให้มีอาการคันในช่องคลอดได้ เชื้อที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบของช่องคลอดที่พบบ่อยที่สุด คือ แคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida albicans) ซึ่งโดยปกติเป็นเชื้อที่อยู่ในช่องคลอดโดยไม่ทำให้เกิดโรค แต่หากใส่ชุดชั้นในที่อับชื้นเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้เชื้อรามีปริมาณมากขึ้นจนก่อโรค
ลองสังเกตดูว่า มักจะมีตกขาวออกมาร่วมกับมีอาการคันช่องคลอด ส่วนการป้องกันนั้น ควรเลือกเนื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดีไม่อุ้มน้ำ ไม่หนาหนัก เช่น ผ้าฝ้าย และหมั่นตรวจดูชุดชั้นในอยู่เสมอว่ามีจุดเล็กๆ หรือมีรอยของเชื้อโรคหรือไม่ หากมีควรทิ้งทันที ไม่ควรเสียดาย ที่สำคัญควรซักชุดชั้นในให้สะอาดและแห้ง พยายามให้โดนแดดบ้างหรือผึ่งให้แห้งในที่ระบายอากาศได้ดี
หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงชั้นในที่อับชื้น หรือเปียกเป็นเวลานาน หากรู้ล่วงหน้าว่าอาจจะเปียกฝน ควรเตรียมไปเผื่อไว้อีก 1 ตัว และเมื่อมีโอกาสควรเปลี่ยนใส่ตัวใหม่ที่แห้งสะอาด
และในกรณีที่อยู่ระหว่างการมีรอบเดือนแล้วเปียกฝน ก็ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทันที หรืออาจเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งสามารถจะช่วยให้คุณรู้สึกแห้งสบายไม่เหนอะหนะ" คุณหมอ กล่าว
วิธีสาม : ผ้าขนหนูต้องมีติดตัว เลี่ยงใส่ยีนส์ ไร้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว
นอกจากเชื้อราจะมากวนใจในหน้าฝนแล้ว กลิ่น ก็เป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงค่ะ
"หน้าฝนสาวๆ หลายคนที่ต้องฝ่าละอองฝนไปทำงาน ต้องทนกลิ่นอับชื้นไปทั้งวัน ทั้งจากเสื้อผ้า ผม รองเท้า สูญเสียความมั่นใจ กลิ่นอับชื้นออกเหม็นเปรี้ยวนั้น เป็นก๊าซที่ได้จากกระบวนการสังเคราะห์อาหารของแบคทีเรีย” คุณณัฐนันท์ ปัญญาโกษา นักสุขศึกษา โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 กล่าว
“หน้าฝนควรมีผ้าแห้งที่สะอาด เช่น ผ้าขนหนูพกติดตัวไว้ในยามจำเป็น โดยเฉพาะช่วงเช้าเมื่อออกไปทำงานแล้วเกิดถูกฝนไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่ สามารถใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้งก่อน แล้วพยายามผึ่งพัดลม หรือเดินไปเดินมาในออฟฟิศหรือที่อากาศถ่ายเท เช่น ริมระเบียงออฟฟิศ เพื่อให้เสื้อผ้าระบายความชื้นออกมาให้มากที่สุด
ทั้งนี้ หน้าฝนควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าเนื้อหนา ระบายอากาศได้น้อย เช่น ยีนส์ ผ้าใยสังเคราะห์ เพราะคุณสมบัติระบายอากาศไม่ดี หากโดนความชื้นจะเก็บความชื้นก่อให้เกิดกลิ่นอับติดตัวตลอดทั้งวัน”
วิธีสุดท้าย : รองเท้าฟองน้ำ แฟชั่นพลาสติก
มาถึงวิธีสุดท้าย รองเท้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากยามหน้าฝน ช่วงนี้รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าหนัง หรือกำมะหยี่ ควรเก็บไว้ก่อน เพราะเมื่อเจอน้ำนองอยู่บนพื้นอาจลื่นล้มหมดสวย เปื้อน แถมอายได้
ควรหารองเท้าแฟชั่นพลาสติกมาสวมใส่ นอกจากจะสวย เก๋ เหมาะกับช่วงนี้ ยังดูแลรักษาก็ง่าย เพื่อสุขภาพที่ดีของเท้าสุดๆ และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ รองเท้าฟองน้ำ
“สำหรับสาวออฟฟิศ กรณีเท้าเหม็นอับ เท้าเหม็นเป็นปัญหาที่เกิดได้บ่อยโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน หลายๆ คนต้องเดินลุยน้ำก่อปัญหากับผู้ที่ต้องใส่รองเท้าคัชชูบ่อยๆ ปกติกลิ่นเท้าเหม็นเกิดจากความอับชื้น และเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีอยู่ทั่วไปในอากาศ เชื้อนี้จะเติบโตได้ดีในที่อับชื้น
ดังนั้นการลุยน้ำแล้วมาสวมใส่คัชชูทันทีโดยไม่ทำความสะอาดเท้าให้ดีก่อน เชื้อแบคทีเรียจะเติบโตได้ดี โดยเฉพาะตามซอกนิ้ว เล็บ เป็นจุดที่จะทำให้เกิดกลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นขึ้นมาได้
การดูแลสุขภาพเท้าช่วงฤดูฝนสำหรับสาวๆ หลังลุยน้ำ ทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเพียงแต่ควรทำให้เป็นประจำเท่านั้น คือ หลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วมขังแล้ว และต้องใส่รองเท้าที่เปียกชื้นนาน โดยอาจหารองเท้าฟองน้ำมาเปลี่ยน หลังการลุยน้ำควรล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ ทันที แล้วเช็ดให้แห้งก่อนโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้ว ซอกเล็บที่จะอับชื้นกว่า
หลังจากผึ่งเท้าแห้งแล้ว อาจใช้แป้งฝุ่นทั่วไปโรยให้ทั่วโดยเฉพาะซอกนิ้ว หรือการใส่ถุงเท้าผ้าฝ้ายที่หุ้มเฉพาะตรงเท้าก่อนสวมคัชชูร่วมด้วย จะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นอับได้ "คุณณัฐนันท์ แนะนำวิธีดูแลเท้าปิดท้าย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net