By Lady Manager
กับกระแสของทรงจมูกปลายหยดน้ำที่ฮิตกันนักหนา ถ้านึกไม่ออก ลองมโนหน้าแอฟ ทักษอร , หยาดทิพย์ , แพนเค้ก , พิ้งค์กี้ , แอน ทองประสม เป็นต้น สไตล์จมูกแบบลูกครึ่ง แขก อาหรับ แล้วจะร้องอ๋อ เลยล่ะ
"เทรนด์ของจมูกมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วแต่ช่วงนั้นกระแสอะไรฮิต ดารา แฟชั่น หรือเรื่องของภาพยนตร์ หากเราย้อนกลับไปสมัยก่อน จะนิยมเสริมจมูกให้โด่งเหมือนฝรั่ง คือโด่งเว่อร์ไปเลย ดังนั้นคนที่ทำจมูกในยุคนั้น จมูกก็จะโด่งเว่อร์เลย ลองสังเกตดูสิครับ"
น.พ.นพรัตน์ รัตนวราห แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช ศัลยแพทย์ผู้คร่ำหวอดในวงการศัลยกรรมความงาม กล่าวถึงเทรนด์จมูกปลายหยดน้ำ
คุณหมอนพรัตน์ เล่าถึงเทรนด์ของทรงจมูกที่เปลี่ยนไปตามกระแสต่อว่า
"จากนั้นยุคถัดมา เริ่มเป็นจมูกเอเชีย เกาหลี ตามกระแสนิยม ให้ดูซอฟท์ลงหน่อย ธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเทรนด์เกาหลีทุกคนจะโด่งโด่งมากนะ โด่งมากโด่งเว่อร์ก็ยังคงมี ส่วนเทรนด์ลูกครึ่ง ก็ยังมีอยู่ แล้วแต่ความชอบของและคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนมาทำจมูกแบบว่าเอาให้น้อยที่สุด อย่าให้คนทักว่าไปทำมา อย่าให้รู้เลย บางคนก็ขอโด่งจัดๆไปเลย ให้คนรู้ว่าทำแต่ให้ดูสวย แล้วแต่ความชอบ แต่ปัจจุบันนี้เทรนด์เกาหลีก็ยังคงมีอยู่ เทรนด์หน้าลูกครึ่งก็มา"
จมูกแบบไหนทำปลายหยดน้ำเวิร์ค!
"อย่าเรียกว่าการทำจมูกทรงหยดน้ำเลย เรียกว่า การทำให้จมูกปลายยาวอย่างเหมาะสมได้สัดส่วนกับทรงจมูกและทรงใบหน้าจะดีกว่า" คุณหมอนพรัตน์ กล่าว
"บางทีคำว่า หยดน้ำ บางคนยังเข้าใจไม่ตรงกันเลย บางคนคิดว่า ทำออกมาต้องเป็นลักษณะเหมือนหยดน้ำแน่เลย ทั้งนี้ โดยรวมจะเหมือนกับให้ปลายจมูกค่อนข้างยาวนิดหนึ่ง เหมือนอารมณ์ย้อยๆลงมาหน่อย บางทีเป็นการจินตนาการไปเองว่าเหมือนหยดน้ำ
บางคนก็จะมีลักษณะเนื้อๆตรงปลาย ให้เนื้อดูเต็มๆ เนื้อของคนเราไม่ได้แปลว่าทุกคนทำลักษณะจมูกหยดน้ำแล้วต้องออกมาลักษณะนั้นเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่ถ้าคนบางคนมีเนื้อตรงจะจมูกก็จะมี แต่คนบางคนจมูกรั้ง เชิด สั้น ปลายจมูกตัด เนื้อบาง ทำอย่างไรก็ไม่มี
ยกตัวอย่างคุณแพนเค้ก จมูกเขาจะเป็นทรงหยดน้ำอยู่แล้วโดยกรรมพันธุ์ เพราะคุณแม่เค้าก็จมูกแบบนั้น ปลายจมูกก็จะมีเนื้อๆ คนที่ไม่มีเนื้อทำยังไงก็ไม่มี ส่วนใหญ่คนที่มีเนื้อเมื่อทำจมูกแล้วก็จะเป็นทรงหยดน้ำ
คือคนเราไม่สามารถทำจมูกสั้นมาก งุ้มมาก หรือให้ยาวมากได้ คือถ้าเป็นคนที่จมูกมีเนื้อๆย้อยๆตรงปลายจมูกอยู่แล้ว ทำออกมาอย่างไรก็เป็นทรงปลายหยดน้ำ แต่ถ้าจมูกไม่มีเนื้อเลย จะทำให้มีหยดน้ำก็ลำบากครับ ทว่า สามารถทำได้ เพียงแต่เราก็ต้องมีออฟชั่นเสริมในกรณีคนที่ไม่มีเนื้อบริเวณปลายจมูก ด้วยการนำกระดูกหลังหูมาช่วยให้เราเพิ่มความยาวได้ดีมากกว่าซิลิโคน"
จมูกสั้นอย่าดันทุรัง เสี่ยงซิลิโคนทะลุ ปริ บาง อักเสบ!
คุณหมอยังเตือนด้วยว่า หากกรณีคนไข้อยากมีปลายจมูกที่ยาวผิดปกติ อาจจะเสี่ยงซิลิโคนทะลุ
“ในขณะที่คนไม่มีเนื้อบริเวณปลายจมูก ทำอย่างไรก็จะไม่มีหยดน้ำ การที่เราไปพยายามฝืนทำด้วยวิธีการผิดวิธีก็จะมีความเสี่ยงได้ เช่น ฝืนใส่ซิลิโคนที่ยาวมาก อยากจะมีปลายงุ้ม หรือดันมากเกินไป ด้วยวิธีการต่างๆ นานไปก็จะทำให้จมูก เนื้อตรงปลายจมูกที่ถูกแรงดันอัดลงมาข้างล่างก็จะบางๆ จนใส เห็นซิลิโคนได้ แต่ไม่ได้แปลว่า ทุกคนที่ฝืนแล้วจะทะลุทุกคน บางคนฝืนไม่เป็น ในขณะที่บางคนไม่ฝืนเลย ไม่ได้ดันอะไรเลย ปลายบางใสก็มี หรือดันมากๆก็จะเสี่ยงทะลุ เป็นแผลบริเวณปลายจมูก เพราะมีแรงอัดมากเกินไป
วิธีแก้ ถ้าจมูกสั้นมากผมจะแนะนำให้ใช้กระดูกหลังหูช่วยในการเสริมปลาย ปกติเราใช้ซิลิโคนเสริมเป็นหลักอยู่แล้ว แต่เอากระดูกหลังใบหูมานิดหนึ่งเพื่อมาป้องกันตรงปลายซิลิโคน ไม่ให้ปลายของซิลิโคนสัมผัสกับหนังของปลายจมูกที่เราจะดันให้ยาวโดยตรง ซึ่งจะทำให้ตัวกระดูกหลังใบหูช่วยเพิ่มเนื้อให้ปลายซิลิโคนได้ ถ้าเราไม่ฝืนมากเกินไป จะทนขึ้นอีกนิดหนึ่ง เพราะปลายแต่ละคนยืดได้ไม่เท่ากัน
ทั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปพื้นฐานของแต่ละคน ว่าเนื้อจะยืดยาวได้มากเท่าไหร่ มีความยืดหยุ่นได้มากน้อยแค่ไหน เนื้อบางคนตึงมากสั้นมาก มันก็จะยาวขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ถามว่าถ้าเปรียบเทียบระหว่างใช้กับไม่ใช้ ผลที่ได้จะยาวได้มากกว่า แต่ต้องไม่ฝืนนะ ถ้าฝืนก็จะบางๆใสๆเช่นกัน แต่โอกาสที่จะบาง เสี่ยง ทะลุ ก็จะมีเช่นกัน โดยรวมจะทำให้เปลี่ยนขึ้นได้มากกว่าไม่ใช้กระดูกหลังใบหูได้แน่นอน
ทั้งนี้ การใช้เทคนิคกระดูกหลังหูก็ไม่ใช่วิธีใหม่อะไรเลยนะ จริงๆการใช้เนื้อบางส่วนมาช่วยเขาเรียกว่าการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ เอาเนื้อเยื่อบริเวณอื่นมาช่วยใส่ในบางบริเวณที่เราต้องการ ใส่ได้หมดนะ เราย้ายเนื้ออีกบริเวณหนึ่งมาอีกบริเวณหนึ่งก็ทำได้อยู่แล้ว แต่จุดประสงค์ของการใช้ปลายมันก็สามารถจะใช้เนื้อเยื่อบริเวณอื่นได้อีกแต่กระดูกหลังหูจะใช้ได้ดีสุด อื่นๆ บางคนก็ใช้ผิวหนังจากขาหนีบ หรือเนื้อเยื่อจากขมับ ไขมันจากบางบริเวณ เป็นเซลล์เนื้อไขมัน พวกนี้ใช้ได้หมด
แต่จากประสบการณ์ผมเอง ผมรู้สึกว่าการใช้กระดูกหลังหู จะเวิร์คที่สุด มันจะได้เป็นเหมือนปลายจมูกจริงๆเลยที่เป็นกระดูกอ่อน จะมีลักษณะคล้ายๆกัน และโอกาสที่จะยึดติด มีลักษณะจมูกแบบปลายมนๆจะสวยกว่าความเสี่ยงในการอักเสบต่างๆ จะน้อย” คุณหมอนพรัตน์ กล่าวปิดท้าย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
กับกระแสของทรงจมูกปลายหยดน้ำที่ฮิตกันนักหนา ถ้านึกไม่ออก ลองมโนหน้าแอฟ ทักษอร , หยาดทิพย์ , แพนเค้ก , พิ้งค์กี้ , แอน ทองประสม เป็นต้น สไตล์จมูกแบบลูกครึ่ง แขก อาหรับ แล้วจะร้องอ๋อ เลยล่ะ
"เทรนด์ของจมูกมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วแต่ช่วงนั้นกระแสอะไรฮิต ดารา แฟชั่น หรือเรื่องของภาพยนตร์ หากเราย้อนกลับไปสมัยก่อน จะนิยมเสริมจมูกให้โด่งเหมือนฝรั่ง คือโด่งเว่อร์ไปเลย ดังนั้นคนที่ทำจมูกในยุคนั้น จมูกก็จะโด่งเว่อร์เลย ลองสังเกตดูสิครับ"
น.พ.นพรัตน์ รัตนวราห แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช ศัลยแพทย์ผู้คร่ำหวอดในวงการศัลยกรรมความงาม กล่าวถึงเทรนด์จมูกปลายหยดน้ำ
คุณหมอนพรัตน์ เล่าถึงเทรนด์ของทรงจมูกที่เปลี่ยนไปตามกระแสต่อว่า
"จากนั้นยุคถัดมา เริ่มเป็นจมูกเอเชีย เกาหลี ตามกระแสนิยม ให้ดูซอฟท์ลงหน่อย ธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเทรนด์เกาหลีทุกคนจะโด่งโด่งมากนะ โด่งมากโด่งเว่อร์ก็ยังคงมี ส่วนเทรนด์ลูกครึ่ง ก็ยังมีอยู่ แล้วแต่ความชอบของและคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนมาทำจมูกแบบว่าเอาให้น้อยที่สุด อย่าให้คนทักว่าไปทำมา อย่าให้รู้เลย บางคนก็ขอโด่งจัดๆไปเลย ให้คนรู้ว่าทำแต่ให้ดูสวย แล้วแต่ความชอบ แต่ปัจจุบันนี้เทรนด์เกาหลีก็ยังคงมีอยู่ เทรนด์หน้าลูกครึ่งก็มา"
จมูกแบบไหนทำปลายหยดน้ำเวิร์ค!
"อย่าเรียกว่าการทำจมูกทรงหยดน้ำเลย เรียกว่า การทำให้จมูกปลายยาวอย่างเหมาะสมได้สัดส่วนกับทรงจมูกและทรงใบหน้าจะดีกว่า" คุณหมอนพรัตน์ กล่าว
"บางทีคำว่า หยดน้ำ บางคนยังเข้าใจไม่ตรงกันเลย บางคนคิดว่า ทำออกมาต้องเป็นลักษณะเหมือนหยดน้ำแน่เลย ทั้งนี้ โดยรวมจะเหมือนกับให้ปลายจมูกค่อนข้างยาวนิดหนึ่ง เหมือนอารมณ์ย้อยๆลงมาหน่อย บางทีเป็นการจินตนาการไปเองว่าเหมือนหยดน้ำ
บางคนก็จะมีลักษณะเนื้อๆตรงปลาย ให้เนื้อดูเต็มๆ เนื้อของคนเราไม่ได้แปลว่าทุกคนทำลักษณะจมูกหยดน้ำแล้วต้องออกมาลักษณะนั้นเหมือนกันหมด ส่วนใหญ่ถ้าคนบางคนมีเนื้อตรงจะจมูกก็จะมี แต่คนบางคนจมูกรั้ง เชิด สั้น ปลายจมูกตัด เนื้อบาง ทำอย่างไรก็ไม่มี
ยกตัวอย่างคุณแพนเค้ก จมูกเขาจะเป็นทรงหยดน้ำอยู่แล้วโดยกรรมพันธุ์ เพราะคุณแม่เค้าก็จมูกแบบนั้น ปลายจมูกก็จะมีเนื้อๆ คนที่ไม่มีเนื้อทำยังไงก็ไม่มี ส่วนใหญ่คนที่มีเนื้อเมื่อทำจมูกแล้วก็จะเป็นทรงหยดน้ำ
คือคนเราไม่สามารถทำจมูกสั้นมาก งุ้มมาก หรือให้ยาวมากได้ คือถ้าเป็นคนที่จมูกมีเนื้อๆย้อยๆตรงปลายจมูกอยู่แล้ว ทำออกมาอย่างไรก็เป็นทรงปลายหยดน้ำ แต่ถ้าจมูกไม่มีเนื้อเลย จะทำให้มีหยดน้ำก็ลำบากครับ ทว่า สามารถทำได้ เพียงแต่เราก็ต้องมีออฟชั่นเสริมในกรณีคนที่ไม่มีเนื้อบริเวณปลายจมูก ด้วยการนำกระดูกหลังหูมาช่วยให้เราเพิ่มความยาวได้ดีมากกว่าซิลิโคน"
จมูกสั้นอย่าดันทุรัง เสี่ยงซิลิโคนทะลุ ปริ บาง อักเสบ!
คุณหมอยังเตือนด้วยว่า หากกรณีคนไข้อยากมีปลายจมูกที่ยาวผิดปกติ อาจจะเสี่ยงซิลิโคนทะลุ
“ในขณะที่คนไม่มีเนื้อบริเวณปลายจมูก ทำอย่างไรก็จะไม่มีหยดน้ำ การที่เราไปพยายามฝืนทำด้วยวิธีการผิดวิธีก็จะมีความเสี่ยงได้ เช่น ฝืนใส่ซิลิโคนที่ยาวมาก อยากจะมีปลายงุ้ม หรือดันมากเกินไป ด้วยวิธีการต่างๆ นานไปก็จะทำให้จมูก เนื้อตรงปลายจมูกที่ถูกแรงดันอัดลงมาข้างล่างก็จะบางๆ จนใส เห็นซิลิโคนได้ แต่ไม่ได้แปลว่า ทุกคนที่ฝืนแล้วจะทะลุทุกคน บางคนฝืนไม่เป็น ในขณะที่บางคนไม่ฝืนเลย ไม่ได้ดันอะไรเลย ปลายบางใสก็มี หรือดันมากๆก็จะเสี่ยงทะลุ เป็นแผลบริเวณปลายจมูก เพราะมีแรงอัดมากเกินไป
วิธีแก้ ถ้าจมูกสั้นมากผมจะแนะนำให้ใช้กระดูกหลังหูช่วยในการเสริมปลาย ปกติเราใช้ซิลิโคนเสริมเป็นหลักอยู่แล้ว แต่เอากระดูกหลังใบหูมานิดหนึ่งเพื่อมาป้องกันตรงปลายซิลิโคน ไม่ให้ปลายของซิลิโคนสัมผัสกับหนังของปลายจมูกที่เราจะดันให้ยาวโดยตรง ซึ่งจะทำให้ตัวกระดูกหลังใบหูช่วยเพิ่มเนื้อให้ปลายซิลิโคนได้ ถ้าเราไม่ฝืนมากเกินไป จะทนขึ้นอีกนิดหนึ่ง เพราะปลายแต่ละคนยืดได้ไม่เท่ากัน
ทั้งนี้ ต้องย้อนกลับไปพื้นฐานของแต่ละคน ว่าเนื้อจะยืดยาวได้มากเท่าไหร่ มีความยืดหยุ่นได้มากน้อยแค่ไหน เนื้อบางคนตึงมากสั้นมาก มันก็จะยาวขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ถามว่าถ้าเปรียบเทียบระหว่างใช้กับไม่ใช้ ผลที่ได้จะยาวได้มากกว่า แต่ต้องไม่ฝืนนะ ถ้าฝืนก็จะบางๆใสๆเช่นกัน แต่โอกาสที่จะบาง เสี่ยง ทะลุ ก็จะมีเช่นกัน โดยรวมจะทำให้เปลี่ยนขึ้นได้มากกว่าไม่ใช้กระดูกหลังใบหูได้แน่นอน
ทั้งนี้ การใช้เทคนิคกระดูกหลังหูก็ไม่ใช่วิธีใหม่อะไรเลยนะ จริงๆการใช้เนื้อบางส่วนมาช่วยเขาเรียกว่าการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ เอาเนื้อเยื่อบริเวณอื่นมาช่วยใส่ในบางบริเวณที่เราต้องการ ใส่ได้หมดนะ เราย้ายเนื้ออีกบริเวณหนึ่งมาอีกบริเวณหนึ่งก็ทำได้อยู่แล้ว แต่จุดประสงค์ของการใช้ปลายมันก็สามารถจะใช้เนื้อเยื่อบริเวณอื่นได้อีกแต่กระดูกหลังหูจะใช้ได้ดีสุด อื่นๆ บางคนก็ใช้ผิวหนังจากขาหนีบ หรือเนื้อเยื่อจากขมับ ไขมันจากบางบริเวณ เป็นเซลล์เนื้อไขมัน พวกนี้ใช้ได้หมด
แต่จากประสบการณ์ผมเอง ผมรู้สึกว่าการใช้กระดูกหลังหู จะเวิร์คที่สุด มันจะได้เป็นเหมือนปลายจมูกจริงๆเลยที่เป็นกระดูกอ่อน จะมีลักษณะคล้ายๆกัน และโอกาสที่จะยึดติด มีลักษณะจมูกแบบปลายมนๆจะสวยกว่าความเสี่ยงในการอักเสบต่างๆ จะน้อย” คุณหมอนพรัตน์ กล่าวปิดท้าย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net