xs
xsm
sm
md
lg

เลี้ยงลูกในแบบ “ปลาวาฬ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ กับ น้องเวฬา ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน
 
ผ่านมรสุมชีวิตจนหวิดไม่ได้เห็นหน้าลูก ทำให้นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของศรีพันวา โรงแรมระดับ 6 ดาวอันดับต้นๆ ของโลก ปลาวาฬ-วรสิทธิ์ อิสสระ รู้ซึ้งว่า ทุกเวลาทุกนาทีมีค่ายิ่งนัก ดังนั้น เวลาของเขาส่วนใหญ่จึงมอบให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน น้องเวฬา-ด.ญ.ทอแสง อิสระ วัยขวบครึ่ง เกือบทั้งหมด...วันพ่อปีนี้ พบรูปแบบการเลี้ยงลูกง่ายๆ สไตล์ปลาวาฬ

 
“เวฬา” เป็นเสมือนของขวัญชิ้นสำคัญของครอบครัว “อิสสระ” และ “บุนนาค” ทันทีที่เธอลืมตาดูโลกใบน้อย เธอก็สร้างความสุขความสมหวังให้กับทุกคนในครอบครัวด้วยใบหน้าที่จิ้มลิ้มกับรอยยิ้มบริสุทธิ์ “วันคลอดไปให้กำลังใจภรรยากันทั้งบ้าน ผมยอมรับว่าตื่นเต้นมาก พอพยาบาลออกมาบอกว่า คลอดแล้ว ผมรีบไปดู แว่บแรกที่เห็น นี่คือลูกสาวผม”
ปลาวาฬใช้ความรักฟูมฟักเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจเป็นเพราะช่วงที่ “เวฬา” อยู่ในครรภ์ได้เพียง 7 เดือน "ปลาวาฬ" ต้องหมดเวลาไปกับการพักรักษาตัว จากอุบัติเหตุถูกทำร้ายร่างกายบาด เจ็บสาหัสจนหวิดไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนนี้ ดังนั้น เมื่อลูกเกิดมาเขาจึงทุ่มเวลาให้กับลูกเต็มที่

 
จากวันที่เด็กน้อยลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้ น้องเวฬา มีอายุครบขวบครึ่งแล้ว "อยู่กับเขาบ่อยๆ ปีนี้ผมทำงานค่อนข้างน้อย ทำงานไม่เกิน 5 ชม.ต่อวัน เวลาที่เหลืออยู่กับลูกตลอด คือตื่นเช้ามาก็อยู่เล่นกับเขาถึง 9 โมง ก็เอาลูกเข้านอน พอลูกหลับผมก็เข้าออฟฟิศทำงาน พอลูกตื่นผมจะกลับบ้านอยู่เล่นกับเขาจนเย็น ได้เวลาหลับของลูกอีกครั้ง ตัวใครตัวมัน (หัวเราะ) คือไปกินข้าวกับเพื่อนๆ”
ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนหนุ่มเจ้าสำราญ ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในวัยหนุ่ม ใครจะรู้ว่า ในวันที่เป็นพ่อคน หนุ่มปลาวาฬคนนี้ จะสอนลูกด้วยตัวเองเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่หัดพูด หัดทานข้าวด้วยตัวเอง หัดดูภาพยนตร์ นอกจากนี้ หนุ่มปลาวาฬจะใช้เทคโนโลยีที่เขาชื่นชอบ มาผสมผสานในการเลี้ยงลูก โดยใช้ไอแพดเปิดยูทูปให้ลูกได้หัดฟังหัดท่อง ก.ไก่ และคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ

 
“ตอนนี้กำลังติดการ์ตูน ผมสังเกตว่าเขาตั้งใจดู และพูดได้หลายคำแล้วครับ คำแรกที่พูดได้คือ ไม่ ไม่ และ ป่าป๊ะ แม่ ย่า ก็พัฒนาพูดไปเรื่อยๆ เวฬาเลี้ยงง่ายมาก เป็นเด็กไม่อ้อน อารมณ์ดี ตอนนี้แก่นและซ่าส์มาก ชอบเที่ยว (หัวเราะ) เรื่องเดินทางนี่ง่ายมาก ขึ้นรถปุ๊บจะนั่งที่นั่งของเขาเลย นั่งชิลล์ๆ สบายๆ ดูสองข้างทาง ผมขับรถไปเขาก็ไม่มายุ่ง นี่เพิ่งไปภูเก็ตกันมา 2 คน ได้ไปทะเลจะมีความสุขมาก ได้เล่นน้ำ นอนดูทะเลสบายใจ” ปลาวาฬเล่าถึงลูกสาวด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข
และด้วยความที่ปลาวาฬเป็นหนุ่มชอบทำอาหาร ดังนั้น เกือบทุกวันเขาจะต้องเข้าครัวเพื่อทำอาหารให้ลูกสาวด้วยตัวเอง เพราะอยากให้ลูกได้กินของที่ดีที่สุดด้วยฝีมือของเขา “ทานได้ทุกอย่าง คือป้อนอะไรใส่ปากลูกทานได้หมด จะชอบผักมาก โดยเฉพาะ บล็อกโคลี่ อาหารฝรั่งชอบ สปาเก็ตตี้ ถ้าเป็นอาหารไทยก็ ข้าวเหนียว-ไก่ย่าง”

 
เมื่อถามถึงอนาคตของน้องเวฬา พ่อปลาวาฬบอกว่า ไม่เคยคิดอยากให้ลูกต้องเป็นอะไร เขาเลือกที่จะเลี้ยงแบบ “อิสระ” อย่างที่เขาได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อ-แม่ของเขา “ผมมองว่ามันดีมาก ทำให้ผมได้ประสบการณ์ชีวิตเยอะมาก แล้วผมก็จะเลี้ยงลูกแบบนี้แหละ ผมจะให้อิสระแต่ไม่ให้เงินเยอะ ตอนนี้ก็ใช้เยอะแล้ว (หัวเราะ)พาไปชอปปิงก็ซื้อทั้งเสื้อผ้า ขนม ของเล่น เยอะมากแล้วครับ ใช้เงินมากไม่ดี”

 
เพราะ “เวฬา” คือสายเลือดและความภาคภูมิใจของปลาวาฬ ดังนั้น แม้เขาจะยังใช้ชีวิตสบายๆ เหมือนเดิม แต่เวลาในการพบปะเที่ยวเตร่กับเพื่อนฝูง อาจลดลงบ้าง เพราะทุกเวลาทุกนาทีที่ว่างจากงาน เขาจะรีบกลับมาอยู่กับลูก เล่นกับลูก ด้วยความเชื่อที่ว่า ความใกล้ชิดจะทำให้ลูกรู้สึกไว้ใจและมั่นใจ ยอมรับในตัวเขา ที่สำคัญคือสามารถใช้ชีวิตในแบบที่เขาเป็นได้

กำลังโหลดความคิดเห็น