By Lady Manager
Question เข้าใกล้วัยทองแล้วค่ะ จากผิวมันกลายเป็นผิวแห้ง อยากทราบว่าควรกินอะไรดีคะที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวในวัยใกล้หมดประจำเดือน
Answer โดย นพ.ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท (แผนกผู้สูงอายุ)
“สาเหตุหลักของผิวที่เริ่มเหี่ยวย่นของสาววัยทอง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนในช่วงวัย 45 ปีขึ้นไป ซึ่งอายุเฉลี่ยของหญิงไทยเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเมื่อวัย 51 ปี โดยร่างกายจะหยุดการผลิตไข่
แต่รังไข่ก็ยังทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนต่างๆ เช่น เอสโตรเจน และโปรเจสโตโรน แต่ปริมาณจะลดลงไปกว่าเดิม ฮอร์โมนที่ส่งผลต่อคอลาเจนและอีลาสตินในผิวคือ เอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะผลิตลดลงปีละ 2.1 เปอร์เซ็นต์นับจากวันที่ประจำเดือนหมด ซึ่งหมายถึงจำนวนคอลาเจนจะลดลงเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์เมื่ออายุอยู่ในวัย 65 ปี
ผู้หญิงที่ประจำเดือนหมดแล้วและพบว่ามีปัญหาเรื่องผิวพรรณ ควรใส่ใจดูแลตนเองให้มากขึ้นด้วยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรเน้นการรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น นมถั่วเหลืองซึ่งมีไอโซฟลาโวนซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน นอกจากนี้ยังมีเลซิทินซึ่งช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ลดไขมัน และคอเลสเตอรอลได้ แต่ก็ควรรับประทานวันละประมาณ 1-2 แก้วในขณะท้องว่าง และก่อนหรือหลังมื้ออาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะนมถั่วเหลืองมีไฟเบอร์ที่ย่อยยาก หากรับประทานพร้อมอาหารจะทำให้ท้องอืด และการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้นลดลงได้
ควรดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำเพราะน้ำมะพร้าวมีสารไฟโตรเอสโตรเจนที่มีโครงสร้างคล้ายเอสโตรเจนในคนแต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า หรือน้ำมะม่วงสุก, กุยช่าย, เนื้อปลา, ถั่ว, ข้าวซ้อมมือ, มันฝรั่ง ฯลฯ รวมทั้งเมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดลินิน เมล็ดฟักทอง เมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน ฯลฯ แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี
ควรใช้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีเอ และยูวีบี และการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วเพราะช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ไม่แตกแห้ง
ถ้ายังมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนควรพบแพทย์เพื่อตรวจดูปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ถ้าไม่เพียงพอก็สามารถทานฮอร์โมนเสริมแต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเกินไปอาจทำให้เกิดเนื้องอกในรังไข่ หรือมะเร็งเต้านมได้
วิธีที่ดีที่สุดคือควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาปริมาณเอสโตรเจนในร่างกาย ในวัยหมดประจำเดือน ปริมาณเอสโตรเจนจะอยู่ในช่วง 50pg/mL-400 pg/mL ถ้าปริมาณน้อยกว่า 100 pg/mL ก็มักจะมีอาการร้อนวูบวาบ
วัยทองนับว่าเป็นวัยของการประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะมีเรื่องความเสื่อมทางด้านร่างกายโดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณมาด้วย แต่ถ้าเข้าใจหลักการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายและโครงสร้างของผิว แล้วใส่ใจดูแลอย่างถูกต้อง ผิวพรรณจะมีสุขภาพดีและช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยไปได้อีกนาน"
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Question เข้าใกล้วัยทองแล้วค่ะ จากผิวมันกลายเป็นผิวแห้ง อยากทราบว่าควรกินอะไรดีคะที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวในวัยใกล้หมดประจำเดือน
Answer โดย นพ.ก้องศาสดิ์ ดีนิรันดร์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท (แผนกผู้สูงอายุ)
“สาเหตุหลักของผิวที่เริ่มเหี่ยวย่นของสาววัยทอง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนในช่วงวัย 45 ปีขึ้นไป ซึ่งอายุเฉลี่ยของหญิงไทยเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเมื่อวัย 51 ปี โดยร่างกายจะหยุดการผลิตไข่
แต่รังไข่ก็ยังทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนต่างๆ เช่น เอสโตรเจน และโปรเจสโตโรน แต่ปริมาณจะลดลงไปกว่าเดิม ฮอร์โมนที่ส่งผลต่อคอลาเจนและอีลาสตินในผิวคือ เอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะผลิตลดลงปีละ 2.1 เปอร์เซ็นต์นับจากวันที่ประจำเดือนหมด ซึ่งหมายถึงจำนวนคอลาเจนจะลดลงเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์เมื่ออายุอยู่ในวัย 65 ปี
ผู้หญิงที่ประจำเดือนหมดแล้วและพบว่ามีปัญหาเรื่องผิวพรรณ ควรใส่ใจดูแลตนเองให้มากขึ้นด้วยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรเน้นการรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น นมถั่วเหลืองซึ่งมีไอโซฟลาโวนซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน นอกจากนี้ยังมีเลซิทินซึ่งช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ลดไขมัน และคอเลสเตอรอลได้ แต่ก็ควรรับประทานวันละประมาณ 1-2 แก้วในขณะท้องว่าง และก่อนหรือหลังมื้ออาหารประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะนมถั่วเหลืองมีไฟเบอร์ที่ย่อยยาก หากรับประทานพร้อมอาหารจะทำให้ท้องอืด และการดูดซึมสารอาหารในมื้อนั้นลดลงได้
ควรดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำเพราะน้ำมะพร้าวมีสารไฟโตรเอสโตรเจนที่มีโครงสร้างคล้ายเอสโตรเจนในคนแต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า หรือน้ำมะม่วงสุก, กุยช่าย, เนื้อปลา, ถั่ว, ข้าวซ้อมมือ, มันฝรั่ง ฯลฯ รวมทั้งเมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดลินิน เมล็ดฟักทอง เมล็ดงา เมล็ดทานตะวัน ฯลฯ แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่พอดี
ควรใช้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีเอ และยูวีบี และการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วเพราะช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ไม่แตกแห้ง
ถ้ายังมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนควรพบแพทย์เพื่อตรวจดูปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ถ้าไม่เพียงพอก็สามารถทานฮอร์โมนเสริมแต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเกินไปอาจทำให้เกิดเนื้องอกในรังไข่ หรือมะเร็งเต้านมได้
วิธีที่ดีที่สุดคือควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจหาปริมาณเอสโตรเจนในร่างกาย ในวัยหมดประจำเดือน ปริมาณเอสโตรเจนจะอยู่ในช่วง 50pg/mL-400 pg/mL ถ้าปริมาณน้อยกว่า 100 pg/mL ก็มักจะมีอาการร้อนวูบวาบ
วัยทองนับว่าเป็นวัยของการประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะมีเรื่องความเสื่อมทางด้านร่างกายโดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณมาด้วย แต่ถ้าเข้าใจหลักการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายและโครงสร้างของผิว แล้วใส่ใจดูแลอย่างถูกต้อง ผิวพรรณจะมีสุขภาพดีและช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยไปได้อีกนาน"
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net