xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มฟิต “นนท์ อัลภาชน์” เคลียร์ข่าว “เกย์ & หวานใจนักกีฬาทีมชาติ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


>>ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน Celeb Online เคยมีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มน้อย นนท์ อัลภาชน์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มาจนวันนี้หนุ่ม “มิกกี้” เรียนจบกลับมาอยู่เมืองไทย แล้วปรากฎเป็นข่าวดังขึ้นมาตามสังคมออนไลน์ ว่าเขาคือหวานใจตัวจริงของนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติ “หน่อง - ปลื้มจิตร ถินขาว” เพราะมีรูปคู่หวานแหววออกมาเป็นหลักฐานหลายรูป ไม่พอแค่นั้นยังมีคนสงสัยว่าเขาเป็นเกย์อีกต่างหาก ครั้งนี้นอกจากเราจะไปถามความจริงจากเจ้าตัวกันแล้ว ก็ไม่พลาดที่จะอัปเดตชีวิตหลังเรียนจบและแผนการในอนาคตของหนุ่มหุ่นดีคนนี้กัน

เราก็เริ่มด้วยคำถามแรกที่หลายคนสงสัย กับความสัมพันธ์ของมิกกี้กับรุ่นพี่นักวอลเลย์บอลทีมชาติ ซึ่งมิกกี้ก็ตอบมาอย่างอารมณ์ดี “ผมกับพี่หน่องเป็นพี่น้องที่สนิทกันครับ รู้จักจากที่ผมได้มาเป็นเด็กฝึกงานที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ในแผนกวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งดูแลทีมวอลเลย์บอลทีมชาติอยู่ ก็สนิทจากตอนนั้น พี่หน่องเป็นคนนิสัยน่ารักมาก และขี้เล่นเหมือนผมเลยนะ ผมก็เข้ากับคนง่ายอยู่แล้วด้วย ก็ประมาณว่าแหย่กันไปแหย่กันมา ถ้าคนที่สนิทกับผมอยู่แล้ว จะรู้ว่าขำๆ เล่นๆ กัน แต่กับคนไม่รู้จัก เขาก็คงจะคิดไปจริงๆ เลย

อีกอย่างพวกชอบถ่ายรูปเล่นกัน จริงๆ ผมกับพี่หน่องถ่ายรูปกันมานานไม่เห็นเป็นข่าวเลย แต่พอทีมนี้ได้แชมป์เอเชีย ทีนี้ก็กลายเป็นข่าวดังไปเลย ผมก็เข้าใจนะว่ามันกำลังเป็นกระแส ซึ่งจริงๆ ในทีมผมก็สนิทกับพี่ๆ หลายคน อย่าง พี่นุศรา ต้อมคำ พี่อรอุมา สิทธิรักษ์ ผมก็สนิท เวลาเจอกันก็เข้าไปกอดกับทุกคนเป็นเรื่องปกติ ในความรู้สึกผมมองว่ามันเป็นเรื่องตลกมากนะครับ ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้ก็จะเป็นข่าว ผมแค่เป็นเด็กฝึกงาน ยอมรับว่าสนิทกันจริง แต่ก็สนิทแบบพี่น้องในวงการกีฬาเท่านั้น”

ส่วนเรื่องมีข่าวว่าความจริงเขาเป็นเกย์ต่างหาก เรื่องนี้มิกกี้บอกว่าเขาไม่ได้เป็น แต่ก็ไม่ซีเรียสถ้าคนจะมองแบบนั้น “ผมว่าอาจจะเป็นเพราะผมชอบเข้าฟิตเนส และชอบดูแลตัวเองให้ดูดีมั้งครับ เวลาเข้ายิมก็จะมีผู้ชายมองๆ อารมณ์เหมือนไก่ตกบ่อจระเข้เลยครับ (หัวเราะ) บางคนก็มองแบบส่งสัญญาณ ผมก็อยากจะบอกว่าไม่ต้องส่งหรอกครับ ผมไม่ใช่ เพื่อนของเพื่อนก็มาถามเยอะ ว่าเป็นหรือเปล่า ก็ขำๆ ไป คือผมไม่แคร์นะ เพราะเราไม่เป็นเสียอย่าง”

นอกจากนี้หนุ่มมิกกี้ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เคยโดนขโมยกางเกงในตอนอยู่ในฟิตเนสให้เราฟังอย่างอารมณ์ดี “คือห้องอาบน้ำในยิมที่ผมไปเล่น จะไม่มีที่แขวนเสื้อผ้า ผมเลยต้องพาดไว้กับประตู ผมก็อาบน้ำปกติ อยู่ดีๆ มันก็หายไป ผมคิดว่าคงจะตกลงพื้นเลยไม่คิดอะไร อาบน้ำต่อจนเสร็จ ออกมาก็หาไม่เจอ สรุปว่าหายไปเลย เราก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ได้โกรธนะ แต่เสียดายของเพราะมันแพงครับ”

หลังจากตอบคำถามข่าวลือต่างๆ กับเราจนหมด เลยได้โอกาสถามถึงสาวในสเปกของมิกกี้ เขาบอกว่าอันดับหนึ่งต้องเป็นสาวหุ่นดีและรักสุขภาพเหมือนๆ กัน ไลฟ์สไตล์ค้ลายๆ กัน ถึงจะดึงดูดใจเขาได้ “ผมอยู่ฟิตเนสเกือบทุกวันครับ และไม่ค่อยชอบแฮงเอาต์ตอนกลางคืน นานๆ ทีจะไปบ้าง อีกอย่างเราโตแล้ว จะให้ไปเที่ยวเพื่อไปจีบผู้หญิงมันก็ไม่ใช่แล้ว สไตล์ของผู้หญิงที่ผมชอบคือ เข้าฟิตเนสเหมือนกัน ไม่ได้มองว่าผมแปลกที่เข้ายิมทุกวัน ต้องรักสุขภาพ ดูแลตัวเอง และต้องหุ่นดี ต้องแนวเดียวกับผม ตอนนี้ก็มีคุยๆ อยู่นะครับ เขาเหมือนผมทุกอย่าง แค่เป็นผู้หญิงเล่นฟิตเนสเหมือนกันเลยเข้าใจกัน

ตอนที่ผมมีข่าวกับพี่หน่อง คนก็ไปถามเขาเยอะนะ ว่าอะไร ยังไง แต่เขาก็เข้าใจ ซึ่งดีมากที่เขาเข้าใจครับ อย่างผู้หญิงที่เคยเจอจากประสบการณ์ของผม จะแนวๆ ไม่อยากให้ผมไปฟิตเนสทุกวัน จะไม่ค่อยเข้าใจผมเท่าไหร่ ถ้าจะให้ผมไม่ทำในสิ่งที่ผมชอบ เพื่อจะไปนั่งกินขนมด้วยมันก็ไม่ใช่ เพราะขนมผมก็ไม่ชอบกินอยู่แล้ว ถ้าจะให้เข้ากับผมได้ต้องคุยกันรู้เรื่อง ต้องมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายๆ กัน”

เคลียร์ข่าวและเผยสเปกสาวในแบบที่ชอบกันแล้ว ก็มาถึงคราวอัปเดตชีวิตหนุ่มมิกกี้กันบ้าง เขาเป็นลูกชายคนเดียวของ สุภรัตน์ อัลภาชน์ โค้ชรักบี้ทีมชาติไทย และ ดร.สิริพร (ณ ป้อมเพชร) อัลภาชน์ เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีเกียรตินิยมจากคณะ Exercise Sport Science สาขา Fitness and Nutrition มหาวิทยาลัยโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา มิกกี้บอกว่า การได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาเป็น 10 ปี ตั้งแต่สมัยเรียนระดับมัธยม ทำให้เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬาและรักสุขภาพ

“จริงๆ ผมชอบเล่นฟุตบอลมาก ตั้งแต่ก่อนไปอเมริกานะครับ แต่ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ แต่พอได้ไปเรียนที่โน่น เราไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมากนัก ก็เลยมีเวลาได้เล่นบอลจริงจังมากขึ้น จริงจังถึงขั้นได้อยู่ในทีมของไฮสกูลและมหาวิทลัย แต่พอขึ้นปีสูงๆ เรียนหนักขึ้น ก็เลยห่างไปบ้าง จะมีก็แค่เล่นกับเพื่อนๆ เวลาว่างเท่านั้น

สาขาที่ผมเรียนมาเป็นด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย เรื่องสรีระ และโภชนาการโดยเฉพาะ คล้ายๆ วิทยาศาสตร์การกีฬาแต่จะเฉพาะเจาะจงกว่า ซึ่งที่เมืองไทยไม่มีสาขานี้ให้เรียน จุดเริ่มต้นที่ผมเลือกเรียนด้านนี้เพราะตัวผมเองนี่แหละครับ อยากหุ่นดี อยากสุขภาพดี และได้ฝึกตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยยังไม่ค่อยให้ความสนใจกันเท่าไหร่ แต่ที่อเมริกาเขานิยมกันมาก”

ปีหน้าเขามีแพลนที่จะเรียนต่อด้าน Strength and Conditioning ซึ่งเป็นสาขาเฉพาะทางมากขึ้นที่มหาวิทยาลัย Edith Cowan เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเดินตามความตั้งใจของมิกกี้ ที่อยากมีโอกาสได้เป็นเทรนเนอร์ให้นักกีฬาทีมชาติไทย “ใจจริงผมอยากเทรนให้นักบอลนะครับ ผมอยากพัฒนานักกีฬาที่เมืองไทย เพราะผมชอบและก็เป็นนักบอลอยู่ด้วย เลยมีความคุ้นเคยมากกว่า แต่อย่างกีฬาวอลเลย์ ที่ผมมีโอกาสได้เข้าไปช่วยตอนฝึกงาน ก็ถือว่าผมได้ฝึกกีฬาชนิดนี้ไปด้วย และตอนนี้ก็เข้าไปช่วยคุณพ่อดูแลเรื่องการฝึกในทีมรักบี้ด้วยเหมือนกันครับ”

แต่อีกไม่นาน เราอาจจะได้เห็นหนุ่มมิกกี้ตามหน้าจอทีวีก็ได้ เพราะหลังจากได้ลองชิมลางงานถ่ายแบบ เดินแบบ เจ้าตัวก็ติดใจและรู้สึกสนุกกับงานวงการบันเทิงไม่น้อย “ผมไม่ปิดกั้นตัวเองนะ อยากจะลองงานด้านบันเทิงเหมือนกันนะครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุนเต็มที่ จริงๆ มันก็ไม่ได้ง่ายหรือสนุกเหมือนที่ทุกคนเห็นไปเสียทุกงาน มีงานง่าย งานยาก ปนๆ กันไป ผมว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้เราได้รู้จักคนมากมาย และผมเป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้ว สนใจแฟชั่นอยู่บ้างเหมือนกันครับ”

นอกจากกิจวัตรประจำวันที่ต้องเข้าฟิตเนสเกือบทุกวัน มิกกี้เป็นหนุ่มรักสุขภาพแบบสุดๆ เพราะขนาดเวลาว่าง เขายังชอบทำอาหารรับประทานเอง และแน่นอนว่าต้องเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น “ถ้าไม่ออกไปกินข้างนอกบ้าน ผมชอบทำอาหารกินเองทุกมื้อนะครับ อบบ้าง ย่างบ้าง ทุกวันนี้เวลาผมกินอะไรก็จะนับแคลอรี บางคนอาจมองว่าผมบ้าหรือเปล่า เยอะไปหรือเปล่า แต่มันเป็นความเคยชินมากกว่า อย่างที่อเมริกาเป็นเรื่องปกติมากที่เขาจะคำนวณแคลอรีอาหารกัน ผมเองมีตาชั่งไว้ชั่งอาหารเลยนะ ถ้าเรากินที่บ้านเราก็จะได้รู้ว่าแต่ละวันเรากินอะไรเข้าไปบ้าง ทุกวันนี้ก็หมดเงินไปกับเรื่องอาหารเยอะ เพราะผมชอบซื้ออาหารดีๆ มาทำที่บ้าน ซึ่งมันก็จะแพงหน่อย”

เขายังฝากมาถึงคนไทยที่ตอนนี้หันมาฟิตแอนด์เฟิร์มรักษาสุขภาพกันมากขึ้น นอกจากจะออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากพอๆ กัน “การออกกำลังกายที่ดีต้องควบคู่กับการกินอาหารที่ดีด้วยนะครับ
ถ้าเราออกกำลังเยอะ แต่กินอาหารไม่มีประโยชน์ ถึงเราจะออกกำลังดีแค่ไหน แต่ถ้าเรากินไม่ดี มันก็เหมือนเราโยนทิ้งไป ผมว่าการกินที่ถูกต้อง คือกินให้เหมาะสม ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป” :: Text by FLASH

หนุ่มมิกกี้ฝากถึงสาวไทยที่อยากสุขภาพดี

1. ผมว่าผู้หญิงไทยเข้าใจผิดหลายๆ อย่างเช่น ไม่ยอมเล่นเวตเลย เพราะเข้าใจว่าจะทำให้ตัวใหญ่ ตัวหนา แต่ความเป็นจริงผู้หญิงผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่พอที่จะทำให้ตัวหนาได้ ยกเว้นว่าคุณจะฉีดฮอร์โมนเพศชายเข้าไป ซึ่งการเล่นเวตจะทำให้คุณมีกล้ามเนื้อที่ฟิตและเฟิร์มนะครับ

2. ถ้าอยากลดน้ำหนัก อย่าอดอาหาร แต่ให้หันมากินอาหารที่มีประโยชน์ ผู้หญิงบางคนจะชอบทำแบบ ตอนเที่ยงกินขนม แล้วตอนเย็นอดข้าว ผมว่ามันไม่ไช่เรื่องครับ ขนมน่ะกินได้แต่อย่ากินเยอะ หลายคนสับสนระหว่างลดน้ำหนักกับลดไขมัน ถ้าเราไม่กินน้ำหนักเราก็ลด แต่ถ้าจะลดไขมันเราต้องกินให้ถูกวิธี ผลข้างเคียงก็จะต่างกัน อย่างลดน้ำหนัก ถ้าลดเร็วเกินไป กล้ามเนื้อของคุณก็จะหายไปด้วย ผลด้านลบจะเยอะ แต่ถ้าเราลดไขมัน จะมีผลด้านบวกครับ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็แตกต่างกัน

3. บางคนจะกังวลเรื่องการกินแป้งมากเกินไป ความจริงมันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นครับ เพราะแป้งก็คือพลังงาน ยังไงก็ยังต้องกินอยู่ แค่เรากินให้ถูกวิธี

4. เวลาเจอบทความหรือหนังสือแนะนำเรื่องลดน้ำหนัก อยากให้ลองหาบทวิจัยการแพทย์ก่อน ว่ามันได้ผลจริงๆ หรือไม่ ผมเคยอ่านในเว็บไซต์ หรือนิตยสารในเมืองไทย บางอย่างมันเป็นความเชื่อต่อๆ กันมากกว่า ไม่ได้มีหลักฐานรองรับ ต้องจำว่าร่างกายเราต่างกัน ระบบเผาผลาญต่างกัน การกินอาหารจึงต้องต่างกัน สูตรของคนอื่นอาจจะไม่เหมาะกับตัวเราก็ได้นะครับ

ภาพหวานๆ กับพี่สาวคนสนิทที่ตกเป็นข่าว

ภาพหวานๆ กับพี่สาวคนสนิทที่ตกเป็นข่าว

ภาพสมัยเป็นนักบอลในทีมโรงเรียน/มหาวิทยาลัย

ภาพสมัยเป็นนักบอลในทีมโรงเรียน/มหาวิทยาลัย

ภาพสมัยเป็นนักบอลในทีมโรงเรียน/มหาวิทยาลัย

ภาพสมัยเป็นนักบอลในทีมโรงเรียน/มหาวิทยาลัย

ชีวิตสมัยอยู่อเมริกา

ชีวิตสมัยอยู่อเมริกา

ชีวิตสมัยอยู่อเมริกา

ภาพตอนรับปริญญา

ภาพตอนรับปริญญา

ภาพตอนรับปริญญา

ภาพตอนรับปริญญา

>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
กำลังโหลดความคิดเห็น