อาจเรียก “โชคชะตา” หรือ “ความบังเอิญ” ก็ว่าได้ ที่ผลักดันให้ดีไซน์เนอร์อย่างตุ้ม-ณภาดา สุทธิบุญญาเกษม เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ Arada Couture ได้เจอเส้นทางฝันของตัวเอง และก้าวไปสู้จุดหมายปลายทางสร้างชื่อให้ตัวเองได้อย่างมหัศจรรย์ในวงการแฟชั่นโลก หลังกระทรวงพาณิชย์ติดต่อให้เป็นผู้ออกแบบฉลองพระองค์ชุดไทยถวายพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ที่ทรงร่วมเดินแบบส่งเสริมผ้าไหมไทยในงาน Vienna Fashion Week 2013 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ในวันที่ท้องฟ้าอึมครึม ตุ้ม-ณภาดา เจ้าห้องเสื้อ Arada Couture ผู้ออกแบบชุดไทยที่เรียกเสียงฮือฮาและสร้างความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมงาน Vienna Fashion Week 2013 เปิดประตูห้องเสื้อต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง เพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวความประทับใจที่ได้มีโอกาสถวายงาน พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ว่า ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำงานชิ้นใหญ่เช่นนี้ เพราะจริงๆแล้วเธอถนัดที่จะทำชุดราตรีแนวกูตูร์ และชุดไทยแต่งงาน โดยเฉพาะชุดไทยที่ทำส่วนใหญ่เป็นชุดเจ้าสาว อย่างเช่นผลงานชุดพิธีหมั้นของแอ๊ฟ-ทักษอร ส่วนการทำเสื้อผ้าให้นางแบบเดินบนรันเวย์นั้นก็มีบ้างแต่ไม่มากนัก
ตุ้ม-ณภาดาในชุดเรียบเก๋เล่าถึงวันแรกที่ได้รับการติดต่อว่าไม่รู้เลยว่า ผลงานของเธอจะได้ไปจัดแสดงบนเวทีแฟชั่นที่กรุงเวียนนา โดย 2 เดือนก่อนเริ่มงาน มีผู้หญิงเดินเข้ามาในร้านและบอกให้ช่วยออกแบบชุดไทยให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งตอนนั้น แม้จะตกใจและงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ตอบตกลงไปอย่างอัตโนมัติ เพราะภายในใจนั้นรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้รับใช้พระองค์
“ไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะคนที่มาติดต่อเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ชื่อคุณกุ้ง (พรพิมล เพชรกูล) เข้ามาบอกแค่ต้องการให้ตัดชุดไทย แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะนำไปใช้ในงานอะไร ตุ้มก็คิดว่าพระองค์ภาจะทรงใช้ออกงานที่เวียนนาน พอรับปากไปแล้วก็คิดว่าจะทำงานยังไง ทั้งในเรื่องของการวัดตัวซึ่งคุณกุ้งก็บอกว่าไม่ต้องกังวลเพราะจะประสานงานให้ และขอให้ออกแบบเลย โดยตุ้มขอเวลา 1 อาทิตย์ ทำได้ 3-4 แบบส่งไปให้คุณกุ้ง"
ตุ้ม-ณภาดาในชุดเรียบเก๋เล่าถึงวันแรกที่ได้รับการติดต่อว่าไม่รู้เลยว่า ผลงานของเธอจะได้ไปจัดแสดงบนเวทีแฟชั่นที่กรุงเวียนนา โดย 2 เดือนก่อนเริ่มงาน มีผู้หญิงเดินเข้ามาในร้านและบอกให้ช่วยออกแบบชุดไทยให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งตอนนั้น แม้จะตกใจและงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ตอบตกลงไปอย่างอัตโนมัติ เพราะภายในใจนั้นรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้รับใช้พระองค์
"ไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะคนที่มาติดต่อเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ชื่อคุณกุ้ง (พรพิมล เพชรกูล) เข้ามาบอกแค่ต้องการให้ตัดชุดไทย แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะนำไปใช้ในงานอะไร ตุ้มก็คิดว่าพระองค์ภาจะทรงใช้ออกงานที่เวียนนาน พอรับปากไปแล้วก็คิดว่าจะทำงานยังไง ทั้งในเรื่องของการวัดตัวซึ่งคุณกุ้งก็บอกว่าไม่ต้องกังวลเพราะจะประสานงานให้ และขอให้ออกแบบเลย โดยตุ้มขอเวลา 1 อาทิตย์ ทำได้ 3-4 แบบส่งไปให้คุณกุ้ง"
สำหรับฉลองพระองค์ที่ส่งไปถวายมี 3 - 4 แบบ โดยพระองค์ภาทรงเลือกเป็นแบบที่เธอเองก็ถนัดอยู่แล้ว คือเป็นชุดไทยที่ผสมผสานจากรูปแบบยุคโบราณซึ่งส่วนใหญ่จะใส่เป็นผ้าสไบกับผ้าถุงหน้านางนุ่งสด แต่ปรับประยุกต์มาให้ใส่สำเร็จรูปแต่เสมือนนุ่งเองเพื่อให้การสวมใส่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ส่วนลายละเอียดของผ้าตัวบน (top) เป็นผ้าไหมลายดอกไม้เล็กๆมีดิ้นสีเงินปักรอบๆลายสีชมพูอมเทานำมาจับเดรป (Drap) ที่ดูแล้วธรรมชาติที่สุดและเพิ่มความอ่อนหวานพลิ้วไหวด้วยผ้าสไบที่ใช้เป็นผ้าชีฟองไหม (Chiffon Silk) ในส่วนของผ้าถุงเป็นผ้าไหมปักดิ้นสีทองอ่อนผสมเงินลายไทยพุ่มข้าวบิณฑ์สีชมพูไล่มาโทนสีเทาที่ชายผ้าถุง จับเป็นผ้าถุงหน้านางที่มีการจับให้หน้านางทิ้งชายลงมาให้ชายยาวกว่าผ้าถุงเพื่อเพิ่มความอ่อนหวานพลิ้วไหวให้กับชุดโดยองค์รวม
ทันทีฉลองพระองค์เสร็จพระองค์ภาก็รับสั่งให้ส่งไปให้ทอดพระเนตร ซึ่งตุ้ม-ณภาดายอมรับว่า รู้สึกกังวลเล็กน้อยเนื่องจากเธออยากให้พระองค์ท่านลองสวมให้ดู เพราะถ้ามีข้อผิดพลาดก็จะแก้ไขได้ แต่ด้วยภารกิจท่านมีมาก ทีมงานจึงตกลงไปแก้กันที่หน้างานที่เวียนนา โดยทางกระทรวงพาณิชย์ทำเรื่องให้เธอไปร่วมงาน ซึ่งตอนที่ไปถึง เธอจึงได้รู้ว่างานนั้นยิ่งใหญ่มาก
“ตุ้มตัดตามขนาดของพระวรกายของพระองค์ท่านที่ได้มา แต่เราไม่ทราบว่าพระองค์ท่านจะทรงฉลองพระบาทสูงแค่ไหน ตอนทำชุดตุ้มทำกับหุ่นเตรียมเผื่อความยาวไว้ พอได้เข้าเฝ้าถวายฉลองพระองค์ให้ท่านท รง แว่บแรกที่เห็นคือเรารู้สึกว่าใช่เลยค่ะ พระองค์ท่านยังแย้มพระสรวล ทุกคนมีความสุข ไม่ต้องแก้ไขอะไรเลยจะมีก็แต่สไบที่ยาวมาก แต่ท่านตรัสว่าไม่ต้องแก้เพราะชอบแบบยาวๆ จนถึงวันซ้อมเดินสไบด้านหลังที่ยาวไปนิดนึง พระองค์ท่านทรงกลัวเปื้อนเลยนำชายสไบมาพันไว้ที่ข้อมือ ตอนนั้นตุ้มเองกลัวผ้าจะยับก็เลยทูลท่านว่าให้ลองพาดดีกว่า ซึ่งท่านก็ลองทำและทำได้อย่างงามสง่า" ดีไซเนอร์เล่าพร้อมรอยยิ้ม
ตุ้มยังเล่าถึงวันงานที่ทำให้เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจอีกว่า ขณะที่พระดำเนินอยู่บนรันเวย์ สายตาทุกคู่คู่จับไปที่พระองค์ภา “บนรันเวย์ พระองค์ภาทรงสง่างามมาก พระองค์ทรงชุดไทยสวยมาก ชาวต่างชาติก็ตื่นเต้น เราก็ตื่นเต้น พอจบโชว์เขาก็ชื่นชมผลงานเรา รู้สึกภาคภูมิใจในความเป็นไทย" ดีไซเนอร์มาดเท่กล่าวถึงความประทับใจในงานครั้งนี้
จากเรื่องบังเอิญที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครั้งนี้ นับว่ามีความหมายกับดีไซน์เนอร์ที่ชื่อ ณภาดา สุทธิบุญญาเกษม เจ้าของแบรนด์ Arada Couture เป็นอย่างมาก งานออกแบบฉลองพระองค์ชุดไทยครั้งนี้ นับเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สำคัญและภาคภูมิใจ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจ ที่เธอคิดว่าจะสานต่อและขยายความฝันออกไปอีกในอนาคต
