ที่ผ่านมาชื่อของ “ดิมิทรี ไรโบลอฟเลฟ” เป็นที่รู้จักกันแต่เฉพาะในมุมของนักธุรกิจมหาเศรษฐี ที่เป็นเจ้าของเหมืองและบ่อน้ำมันมากมายในรัสเซีย แม้จะมีข่าวซุบซิบมาว่า ไรโบลอฟเลฟ คือมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย โดยว่ากันว่า ความมั่งคั่งของเขานั้นเหนือกว่า “โรมัน อับราโมวิช” เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซีหลายสิบเท่า แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะพิสูจน์คำกล่าวอ้างนั้นแต่อย่างใด
จนกระทั่ง ในช่วงระยะไม่กี่ปีให้หลังมานี้ ดิมิทรี ไรโบลอฟเลฟ มีการใช้จ่ายซื้อทรัพย์สินประเภทต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง จนหลายคนบอกว่า เขาใช้เงินเหมือนกับคนเมาที่ไร้สติ
ช่วงระยะเวลาไม่นานนัก ไรโบลอฟเลฟ ซื้อคฤหาสน์สุดหรูไปแล้วนับไม่ถ้วน แถมเป็นการซื้อต่อจากเจ้าของเดิมที่เป็นเซเลบริตีคนดังแทบทั้งสิ้น ยังไม่นับการที่เขาเพิ่งจะซื้อสโมสรฟุตบอล เอเอส โมนาโก แห่ง ลีกเอิงประเทศฝรั่งเศส เป็นของตัวเอง และดำเนินนโยบายทุ่มเงินกว้านซื้อนักเตะชื่อดัง ไม่ต่างจากทีมฟุตบอล ที่บรรดาเศรษฐีอาหรับเข้าเป็นเจ้าของ
จนในที่สุด ก็มีผู้ออกมาเปิดเผยว่า เหตุผลในการใช้เงินอย่างบ้าคลั่ง รวมไปถึงการซื้อคฤหาสน์ของเหล่าเซเลบนับไม่ถ้วนนั้น ก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ซ่อนเงินสด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแบ่งครึ่งจากคำสั่งศาล จากการที่ภรรยาจะฟ้องหย่านั่นเอง และผู้ที่ออกมาแฉเหตุผลอันน่าทึ่ง แยบยล ในการซุกเงิน ของไรโบลอฟเลฟนั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือ “เอลีนา ไรโบลอฟเลวา” ว่าที่อดีตภรรยาที่กำลังดำเนินการฟ้องร้องขอหย่า จากอภิมหาเศรษฐีชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งนั้นเอง
เอลีนา อ้างว่า ดิมิททรี นั้นใช้วิธีทยอยผ่องถ่ายสินทรัพย์ของตัวเอง ออกมาเป็นเงินสด และลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ บางส่วนก็ซื้อในชื่อของ เอกาเธอริน่า และ แอนนา ลูกสาวของเขาเอง และใช้สถานที่เหล่านั้น เพื่อเก็บเงินสดให้พ้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และอัยการ เพื่อทำให้ตัวเลขของสินทรัพย์ที่จะแบ่งกับเธอนั้น น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โดย เอลีนาเชื่อว่า หนึ่งในคฤหาสน์ที่มีเงินสดซ่อนอยู่นั้นคือ คฤหาสน์ในฮาวาย มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ ที่ดิมิทรีซื้อมาจากนักแสดงผิวสีชื่อดัง “วิล สมิธ”
สาเหตุที่ เอลีนา อ้างเหตุผลอันน่าเหลือเชื่อดังกล่าวนี้ ก็เพราะเธอสังเกตถึงความเคลื่อนไหวทางการเงินที่ผิดปกติของครอบครัว นับตั้งแต่เธอตัดสินใจยื่นฟ้องหย่าในช่วงปี 2008 เพราะหลังจากที่เธอยื่นเรื่องฟ้องศาลอย่างเป็นทางการ ดิมิทรีก็มีการใช้กองทุนของลูกสาว เข้าซื้อคฤหาสน์สุดหรูของมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ไปด้วยสนนราคาถึง 95 ล้านดอลลาร์
และหลังจากนั้น ก็ยังมีชื่อลูกสาวของดีมิทรี ซื้ออสังหาริมทรัพย์หรูๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เพนต์เฮาส์ ของ แซนดี้ เวลส์ อดีตซีอีโอซิตี้แบงก์ ที่ซื้อไปในราคา 85 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ชื่อของ เอกาเธอริน่า ไรโบลอฟเลฟ กลายเป็นสาววัย 21 ปี ที่สร้างสถิติให้กับประวัติศาสตร์การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ในนามบุคคล ที่แพงที่สุดแห่งมหานครนิวยอร์ก
และหลังจากการออกมาแฉของ เอลีนา ถึงเหตุผลในการทุ่มเงินซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ก็ทำให้ทีมทนายและโฆษกส่วนตัวของดิมิทรี จัดแถลงข่าวปฏิเสธเรื่องราวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง โดยให้เหตุผลว่า การที่ดิมิทรีใช้จ่ายเงินซื้ออสังหาฯ มากมายขนาดนั้น เป็นเพียงการหาความสุขตามประสาเศรษฐีที่ติดอันดับฟอร์บส เท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เขาซื้อ ก็ถือเป็นการลงทุนเพื่อลูกสาวทั้งสองของเขาเท่านั้นเอง
ทั้งนี้ ได้กล่าวอ้างบทสัมภาษณ์ของดิมิทรี ที่เคยให้กับสื่อฝรั่งเศสเมื่อตอนต้นปีว่า “ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผมประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านแล้ว มันถึงเวลาที่ผมจะหาความสุขในสิ่งที่ผมต้องการ แต่แน่นอน สิ่งที่ผมทำควบคู่ไปด้วยนั่นคือ การสร้างความมั่นคงให้กับอนาคต ของลูกสาวสุดที่รักทั้งสองของผมเอง ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้ผมทำมันได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบแล้ว”
เรื่องของคนรวยทำอะไรก็ไม่น่ากลียด แต่งานนี้คงต้องเคลียร์กับอดีตภรรยากันก่อน