>>งานโชว์เคสนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่สุดๆ ขณะนี้คงหนีไม่พ้น Siam Paragon Watch Expo 2013 ที่ปีนี้จัดเป็นปีที่ 8 แล้ว นำเสนอประดิษฐกรรมเรือนเวลาชั้นเลิศและคอลเลกชันใหม่ล่าสุดจากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกกว่า 200 แบรนด์ จำนวนกว่า 30,000 เรือน นำมาจัดแสดงภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Ultimate Time Creation’ ที่สุดของนวัตกรรมแห่งกาลเวลา เอาใจนักสะสมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม - 13 สิงหาคม ศกนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์, วอชท์ บูติก และแผนกนาฬิกา พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน
สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2013 เปรียบเสมือนเป็นเวทีใหญ่ของประเทศไทยสำหรับการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมเวลาชั้นเลิศและเทรนด์นาฬิกาใหม่ล่าสุดแห่งปีที่มีปีละครั้งเดียวเท่านั้น สำหรับ เทรนด์นาฬิกาในปีนี้ นาฬิกากลไกสลับซับซ้อนกำลังเป็นที่นิยม เพราะเป็นนาฬิกาที่มีคุณภาพสูงและมีความคงทน นอกจากนี้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำหลายแบรนด์ได้นำนาฬิการุ่นคลาสสิกที่เคยได้รับความนิยมในอดีตและรุ่นยอดนิยมมาผลิตอีกครั้งหนึ่งให้ได้เลือกสะสมในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น ส่วนวัสดุที่ได้รับความนิยมในปีนี้ยังคงเป็นทองหลายชนิด ทั้งเยลโล่โกลด์ พิงก์โกลด์ โรสโกลด์และแพลทินัม โดยสีที่มาแรงคือ สีน้ำเงิน Royal Blue ที่มีความคลาสสิกร่วมสมัย นอกจากนำเสนอเทรนด์ที่สอดรับกับกระแสนิยมของวงการนาฬิกาโลกแล้ว งานนี้ยังทำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มีโอกาสชื่นชมและสัมผัสนาฬิกาเรือนเด่น ได้จับจองคอลเลกชันล่าสุดภายในงานครั้งนี้ ตลอดจนเพื่อสร้างให้ประเทศไทยเป็นอีกจุดมุ่งหมายที่จะต้อนรับคนรักนาฬิกาจากทั่วทุกมุมโลก
พร้อมกันนี้ สยามพารากอนยังนำเสนอความพิเศษที่เหนือกว่า เพื่อให้เป็นงานนาฬิกาที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์และความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากงานนาฬิกาทั่วไป ในปีนี้เราได้รวบรวมที่สุดแห่งประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้ร่วมสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกกับการเผยโฉมสุดยอดผลงานนาฬิกาเรือนเด่น ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Masterpiece ประดิษฐกรรมชิ้นพิเศษ ที่รังสรรค์ขึ้นจากกลไกจักรกลคุณภาพสูง เน้นการทำงานของเทคโนโลยีที่เข้ากับดีไซน์ที่งดงาม ถ่ายทอดเอกลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ระดับโลก อาทิ
BOVET รุ่น Récital 9 Tourbillon Miss Alexandra (โบเวต์ รุ่นรีไซเทิล ไนน์ ทูร์บิญอง มิส อเล็กซานดรา) นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีของโบเวต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกทูร์บิญอง มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท ผลิตขึ้นเพียง 50 เรือนเท่านั้น
FRANCK MULLER รุ่น Skeleton Tourbillon (แฟรงค์ มุลเลอร์ รุ่นสเกเลตัน ทูร์บิญอง) นวัตกรรมแห่งสุนทรียศาสตร์ของเรือนเวลาไร้หน้าปัด มูลค่า 7 ล้านบาท ที่นำมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในงานครั้งนี้
ULYSSE NARDIN รุ่น Freak Phantom (ยูลิสนาร์แดง รุ่นฟรีค แฟนธอม) ผลงานศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูง นำเสนอความสมบูรณ์แบบของสมองกลทูร์บิญองพร้อมการคิดค้นเฟืองเอสเคปเมนต์ทำจากซิลิเซียมซึ่งทำงานผ่านระบบไขลานได้อย่างเที่ยงตรง มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
อีกทั้งกลุ่ม Luxury เรือนเวลาอันหรูหราสง่างามด้วยวัสดุตัวเรือนล้ำค่า และการคัดสรรอัญมณีชิ้นงามมาบรรจงตกแต่งบนเรือนนาฬิกา อาทิ
PIAGET รุ่น Limelight tonneau-shaped watch (เพียเจต์ รุ่นไลม์ไลท์) สวยสง่าด้วยตัวเรือนทรงตอนโน ทำจากทองคำขาว เลอค่าด้วยประกายระยิบระยับของเพชรน้ำงามทั้งเรือน 979 เม็ด น้ำหนักรวม 10.1 กะรัต มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
CORUM รุ่น Ti Bridge lady (โฆรุ่ม รุ่นไท-บริดจ์ เลดี้) เครื่องก้านไม้ขีดไฟแนวนอน ตัวเรือนทรงตอนโน ทำจากเซรามิกหรือทองคำขาวประดับเพชรรอบตัวเรือน ตลับฝาหลังสลักลายเส้น ผสานศาสตร์และศิลป์บนเรือนเวลาสีขาวรูปลักษณ์แปลกตาคู่ควรประดับบนเรียวแขนของสุภาพสตรีที่มีสไตล์เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร มูลค่ากว่า 7 แสนบาท
HARRY WINSTON รุ่น Midnight Monochrome (แฮร์รี่ วินสตัน รุ่นมิดไนต์ โมโนโครม) พลิกโฉมวงการเรือนเวลากับผลงานสร้างสรรค์ชิ้นล่าสุดด้วยการนำหินชนวนมาเป็นวัสดุในการทำหน้าปัดนาฬิกา ยังคงความแข็งแกร่งงดงามไม่ผุพังตามกาลเวลา มูลค่ากว่า 9 แสนบาท
GRAND SEIKO รุ่น The 44 GS Limited Edition (แกรนด์ ไซโก รุ่นเดอะ โฟร์ตี้ โฟร์ จีเอส ลิมิเต็ด อิดิชัน) นาฬิกาคลาสสิกยอดนิยมของนักสะสม
MAURICE LACROIX รุ่น Masterpiece Le Chronograph Squelette (มอริซ ลาครัวซ์ มาสเตอร์พีซ เลอ โครโนกราฟ สเควเล็ตต์) นาฬิกาสเกเลตันสไตล์สปอร์ตล้ำสมัย
LONGINES รุ่น La Grande Classique de Longines 100 Diamonds (ลองจินส์ ลา กรอง คลาสสิก เดอ ลองจินส์ 100 ไดมอนด์) รอบขอบตัวเรือนประดับด้วยเพชรท็อปเวสเซลตัน ความบริสุทธิ์ระดับวีวีเอส จำนวน 100 เม็ด
TECHNOMARINE รุ่น Black Reef (เทคโนมารีน แบล็ก รีฟ) กันน้ำลึกถึง 500 เมตร และสลัก Limited Edition ที่ด้านหลังของตัวเรือนทุกเรือน ที่นักสะสมนาฬิกาไม่ควรพลาดในงานนี้
สำหรับนาฬิกาไฮไลต์ในกลุ่ม Trend นาฬิการุ่นล่าสุด ล้ำสมัย นำเทรนด์จากแบรนด์ดังทั่วโลกมานำเสนอก่อนใคร อาทิ ORIS รุ่น Oris Aqvis Depth Gauge (โอริส อควิส เดพต์ เกจ) นาฬิกาที่ปฎิวัติโลกแห่งนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ, SEIKO รุ่น Seiko Monster power blue (ไซโก มอนสเตอร์ เพาเวอร์ บลู) มีจำนวนจำกัดเพียง 740 เรือนในประเทศไทย และ CHARRIOL รุ่น Ael Lady Watch ( ชาริออล แอลล์ เลดี้ วอทช์) นาฬิกาสำหรับหญิงสาว ตั้งชื่อรุ่นตามคำในภาษาเซลต์โบราณที่แปลว่า “นางฟ้า” เอ็กซ์คลูซีฟพิเศษเฉพาะในงานนี้ เป็นต้น
ใครชื่นชอบนาฬิกา รักในงานที่ล้ำค่า ควรคู่แก่การสะสม ไม่ควรพลาดงานนี้ เพราะนอกจากเรือนเวลาหรูราคาแสนแพง ก็ยังมีนาฬิกาที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกระดับ สามารถมีไว้ในครอบครองได้อย่างแน่นอน :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
สยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2013 เปรียบเสมือนเป็นเวทีใหญ่ของประเทศไทยสำหรับการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมเวลาชั้นเลิศและเทรนด์นาฬิกาใหม่ล่าสุดแห่งปีที่มีปีละครั้งเดียวเท่านั้น สำหรับ เทรนด์นาฬิกาในปีนี้ นาฬิกากลไกสลับซับซ้อนกำลังเป็นที่นิยม เพราะเป็นนาฬิกาที่มีคุณภาพสูงและมีความคงทน นอกจากนี้ ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำหลายแบรนด์ได้นำนาฬิการุ่นคลาสสิกที่เคยได้รับความนิยมในอดีตและรุ่นยอดนิยมมาผลิตอีกครั้งหนึ่งให้ได้เลือกสะสมในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น ส่วนวัสดุที่ได้รับความนิยมในปีนี้ยังคงเป็นทองหลายชนิด ทั้งเยลโล่โกลด์ พิงก์โกลด์ โรสโกลด์และแพลทินัม โดยสีที่มาแรงคือ สีน้ำเงิน Royal Blue ที่มีความคลาสสิกร่วมสมัย นอกจากนำเสนอเทรนด์ที่สอดรับกับกระแสนิยมของวงการนาฬิกาโลกแล้ว งานนี้ยังทำให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มีโอกาสชื่นชมและสัมผัสนาฬิกาเรือนเด่น ได้จับจองคอลเลกชันล่าสุดภายในงานครั้งนี้ ตลอดจนเพื่อสร้างให้ประเทศไทยเป็นอีกจุดมุ่งหมายที่จะต้อนรับคนรักนาฬิกาจากทั่วทุกมุมโลก
พร้อมกันนี้ สยามพารากอนยังนำเสนอความพิเศษที่เหนือกว่า เพื่อให้เป็นงานนาฬิกาที่ถ่ายทอดภาพลักษณ์และความแปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากงานนาฬิกาทั่วไป ในปีนี้เราได้รวบรวมที่สุดแห่งประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้ร่วมสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น ครั้งแรกกับการเผยโฉมสุดยอดผลงานนาฬิกาเรือนเด่น ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Masterpiece ประดิษฐกรรมชิ้นพิเศษ ที่รังสรรค์ขึ้นจากกลไกจักรกลคุณภาพสูง เน้นการทำงานของเทคโนโลยีที่เข้ากับดีไซน์ที่งดงาม ถ่ายทอดเอกลักษณ์และคุณค่าของแบรนด์ระดับโลก อาทิ
BOVET รุ่น Récital 9 Tourbillon Miss Alexandra (โบเวต์ รุ่นรีไซเทิล ไนน์ ทูร์บิญอง มิส อเล็กซานดรา) นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีของโบเวต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกทูร์บิญอง มูลค่ากว่า 9 ล้านบาท ผลิตขึ้นเพียง 50 เรือนเท่านั้น
FRANCK MULLER รุ่น Skeleton Tourbillon (แฟรงค์ มุลเลอร์ รุ่นสเกเลตัน ทูร์บิญอง) นวัตกรรมแห่งสุนทรียศาสตร์ของเรือนเวลาไร้หน้าปัด มูลค่า 7 ล้านบาท ที่นำมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในงานครั้งนี้
ULYSSE NARDIN รุ่น Freak Phantom (ยูลิสนาร์แดง รุ่นฟรีค แฟนธอม) ผลงานศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูง นำเสนอความสมบูรณ์แบบของสมองกลทูร์บิญองพร้อมการคิดค้นเฟืองเอสเคปเมนต์ทำจากซิลิเซียมซึ่งทำงานผ่านระบบไขลานได้อย่างเที่ยงตรง มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
อีกทั้งกลุ่ม Luxury เรือนเวลาอันหรูหราสง่างามด้วยวัสดุตัวเรือนล้ำค่า และการคัดสรรอัญมณีชิ้นงามมาบรรจงตกแต่งบนเรือนนาฬิกา อาทิ
PIAGET รุ่น Limelight tonneau-shaped watch (เพียเจต์ รุ่นไลม์ไลท์) สวยสง่าด้วยตัวเรือนทรงตอนโน ทำจากทองคำขาว เลอค่าด้วยประกายระยิบระยับของเพชรน้ำงามทั้งเรือน 979 เม็ด น้ำหนักรวม 10.1 กะรัต มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
CORUM รุ่น Ti Bridge lady (โฆรุ่ม รุ่นไท-บริดจ์ เลดี้) เครื่องก้านไม้ขีดไฟแนวนอน ตัวเรือนทรงตอนโน ทำจากเซรามิกหรือทองคำขาวประดับเพชรรอบตัวเรือน ตลับฝาหลังสลักลายเส้น ผสานศาสตร์และศิลป์บนเรือนเวลาสีขาวรูปลักษณ์แปลกตาคู่ควรประดับบนเรียวแขนของสุภาพสตรีที่มีสไตล์เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร มูลค่ากว่า 7 แสนบาท
HARRY WINSTON รุ่น Midnight Monochrome (แฮร์รี่ วินสตัน รุ่นมิดไนต์ โมโนโครม) พลิกโฉมวงการเรือนเวลากับผลงานสร้างสรรค์ชิ้นล่าสุดด้วยการนำหินชนวนมาเป็นวัสดุในการทำหน้าปัดนาฬิกา ยังคงความแข็งแกร่งงดงามไม่ผุพังตามกาลเวลา มูลค่ากว่า 9 แสนบาท
GRAND SEIKO รุ่น The 44 GS Limited Edition (แกรนด์ ไซโก รุ่นเดอะ โฟร์ตี้ โฟร์ จีเอส ลิมิเต็ด อิดิชัน) นาฬิกาคลาสสิกยอดนิยมของนักสะสม
MAURICE LACROIX รุ่น Masterpiece Le Chronograph Squelette (มอริซ ลาครัวซ์ มาสเตอร์พีซ เลอ โครโนกราฟ สเควเล็ตต์) นาฬิกาสเกเลตันสไตล์สปอร์ตล้ำสมัย
LONGINES รุ่น La Grande Classique de Longines 100 Diamonds (ลองจินส์ ลา กรอง คลาสสิก เดอ ลองจินส์ 100 ไดมอนด์) รอบขอบตัวเรือนประดับด้วยเพชรท็อปเวสเซลตัน ความบริสุทธิ์ระดับวีวีเอส จำนวน 100 เม็ด
TECHNOMARINE รุ่น Black Reef (เทคโนมารีน แบล็ก รีฟ) กันน้ำลึกถึง 500 เมตร และสลัก Limited Edition ที่ด้านหลังของตัวเรือนทุกเรือน ที่นักสะสมนาฬิกาไม่ควรพลาดในงานนี้
สำหรับนาฬิกาไฮไลต์ในกลุ่ม Trend นาฬิการุ่นล่าสุด ล้ำสมัย นำเทรนด์จากแบรนด์ดังทั่วโลกมานำเสนอก่อนใคร อาทิ ORIS รุ่น Oris Aqvis Depth Gauge (โอริส อควิส เดพต์ เกจ) นาฬิกาที่ปฎิวัติโลกแห่งนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ, SEIKO รุ่น Seiko Monster power blue (ไซโก มอนสเตอร์ เพาเวอร์ บลู) มีจำนวนจำกัดเพียง 740 เรือนในประเทศไทย และ CHARRIOL รุ่น Ael Lady Watch ( ชาริออล แอลล์ เลดี้ วอทช์) นาฬิกาสำหรับหญิงสาว ตั้งชื่อรุ่นตามคำในภาษาเซลต์โบราณที่แปลว่า “นางฟ้า” เอ็กซ์คลูซีฟพิเศษเฉพาะในงานนี้ เป็นต้น
ใครชื่นชอบนาฬิกา รักในงานที่ล้ำค่า ควรคู่แก่การสะสม ไม่ควรพลาดงานนี้ เพราะนอกจากเรือนเวลาหรูราคาแสนแพง ก็ยังมีนาฬิกาที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกระดับ สามารถมีไว้ในครอบครองได้อย่างแน่นอน :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/