เดวิด และ ไซมอน เรอเบน อัครมหาเศรษฐีสองพี่น้องนักพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ตกลงใจลงขันที่จะแปลงโฉม “เคมบริดจ์ เฮาส์” คลับหรูเก่าแก่ของมหานครลอนดอน ให้กลับมาเป็นคลับที่หรูเริ่ดอลังการที่สุดในโลก
โปรเจกต์นี้ต้องเรียกว่าอลังการงานเสร้างทีเดียว เพราะต้องทุ่มงบสูงถึง 250 ล้านปอนด์ หรือกว่า 12,000 ล้านบาท โดยจะปรับโฉม “เคมบริดจ์ เฮาส์” ซึ่งตั้งอยู่บนถนน พิคาดิลลี ซึ่งพวกเขาซื้อมาเมื่อสองปีก่อน พร้อมกับวางแผนปรับปรุงให้เป็นคลับที่งดงามและหรูหราที่สุด
ในอดีต “เคมบริดจ์ เฮาส์” เคยเป็นสโมสรสำหรับสุภาพบุรุษ ที่ล้วนเป็นผู้ดีและศักดินาเมื่อศตวรรษที่แล้ว การปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ ปลุกให้อาคารหลังนี้กลับมางดงามอลังการราวกับวังที่อัครฐาน หลังจากที่ถูกทิ้งร้างมาเกือบร้อยปี โดยจะมีห้องพักสุดวิจิตรจำนวน 45 ห้องชุด มีสโมสรชั้นเยี่ยมและสระว่ายน้ำปรับอุณหภูมิได้ที่ชั้นใต้ดิน และที่สำคัญคือ จะมีคลังเก็บไวน์ชั้นเยี่ยมที่สุดของโลก ซึ่งคลังไวน์นี้สามารถเก็บไวน์ได้ถึง 35,000 ขวด
การปรับปรุงและตกแต่งคลับแห่งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ที่จะทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก โดยเมื่อทำการปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์ จะมีเนื้อที่ใช้สอยถึง 60,000 ตารางฟุต หรือขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลทั้งสนามทีเดียว และคลับแห่งนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 250 ล้านปอนด์ อันเป็นราคาที่แพงกว่าบ้านชั้นหรูในอังกฤษและเวลส์ถึง1,543 เท่า ซึ่งจะทำให้มูลค่าของคลับแห่งนี้ ขึ้นไปเทียบชั้นพระราชวังเคนซิงตันได้ทีเดียว
และที่สำคัญ เมื่อสร้างเสร็จจะทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ ของเหล่ามหาเศรษฐีทั้งหลาย ที่จะมาเดินชนไหล่กันในมหานครแห่งนี้ ทั้งนี้ เพราะหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง บ้านในย่านเมย์แฟร์และเบลกราเวีย ต่างถูกดัดแปลงเป็นที่ทำการของบริษัทไปเกือบหมด คงเหลือแต่คฤหาสน์เก่าแก่หลังนี้ ซึ่งน่าจะกลายเป็นสัญลักษณ์อันเก่าแก่ของถนนสายนี้
คาดว่าเมื่ออาคารแห่งนี้ก่อสร้างและตกแต่งเสร็จเรียบร้อย จะมีความสง่างามไม่แพ้พระราชวังเคนซิงตัน ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงไดอาน่า การที่นำไปเปรียบเทียบกัน ก็เพราะคฤหาสน์แห่งนี้แรกเริ่มเดิมที คือบ้านของ ชาร์ลส์ วินแดม เอิร์ลแห่งเอคเกรอมอนท์ ที่พักอยู่ ณ บ้านแห่งนี้ระหว่างปี 1756-1761 ต่อมาดยุคแห่งเคมบริดจ์ ได้ครอบครองในเวลาต่อมากว่า 20 ปี ในยุคกลางศตวรรษที่ 19 และลอร์ดพัลเมอร์สโตน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ใช้เป็นที่พักในเวลาต่อมา