xs
xsm
sm
md
lg

บทโหมโรงในกามสูตร กอดจูบมีกี่แบบ/Dr.DEN Sexociety

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN

การเตรียมตัว

เมื่อบุรุษใดไม่อาจบรรลุความปรารถนาของเขาตามวิถีทางปกติ เขาก็ควรพึ่งพาหนทางอื่นๆ ในการดึงดูดใจสตรี อันที่จริงการไม่มีหน้าตาดี ไม่มีคุณสมบัติที่ดี ไม่มีวัยเยาว์และไม่มีความมั่งคั่งนั้น บุรุษหรือสตรีจำต้องพึ่งพาเครื่องมือที่ประดิษฐ์ขึ้นเองหรือใช้ศิลปะโดยการปรุงแต่งบางอย่างเพื่อทำให้ตนเป็นที่น่าเสน่หามากขึ้น

การใช้น้ำมันหอมที่สกัดจากพืชอย่างผักชีฝรั่ง สะระแหน่ และดอกบานไม่รู้โรยสีเหลือง ทำให้บุคคลนั้นดูมีเสน่ห์ การกินผงบัวสัตตบุษย์กับเนยและน้ำผึ้ง ให้ผลอย่างน่าอัศจรรย์

ในทำนองเดียวกันเครื่องรางที่ทำจากกระดูกนกยูงหรือสุนัขป่า เลี่ยมทองแล้วผูกที่ข้อมือขวาจะทำให้บุรุษดูน่ารักในสายตาผู้อื่น นอกจากนี้การร่ายเวทมนตร์จากคัมภีร์อาถรรพเวทยังช่วยขยายผลให้ด้วย

สำหรับสตรี เธอพึงมีความเชี่ยวชาญในศิลปะของการขับร้อง เล่นเครื่องดนตรี เต้นระบำ การเขียนหนังสือ การวาดรูป การสัก การปูที่นอน และโรยด้วยดอกไม้ การทำสีฟัน การตกแต่งอาภรณ์ เล็บและเรือนร่าง การสวมใส่อัญมณี ศิลปะการเลียนแบบและศิลปะของการทาน้ำมันหอมบนเรือนร่าง รวมทั้งศิลปะของการแต่งผมด้วยโลชั่นและน้ำมันแล้วผูกเปีย

แม้ศิลปะเหล่านี้จะมีผู้เชี่ยวชาญเพียงน้อยนิด แต่แค่รู้เป็นบางอย่างและทำถูกต้องตามกาลเทศะ ก็ทำให้สตรีผู้นั้นมีเสน่ห์ขึ้นแล้ว

“หลังจากคววามปรารถนาพุ่งทะยานในการเริ่มต้น

ความปรารถนา อันเป็นเมล็ดพันธ์สำคัญและหน่อเนื้อของจิตวิญญาณ

บัณฑิตผู้ค้นหาด้วยความคิดแห่งหัวใจ

จักค้นพบสัมพันธภาพของความมีอยู่ด้วยความไม่มีอยู่”

: ริค เวท

การโหมโรง

การสังวาสทางเพศทุกครั้งย่อมเริ่มด้วยการกอด มีการกอดขั้นพื้นฐานอยู่ 4 แบบ

เมื่อบุรุษสัมผัสเรือนร่างของสตรีเพื่อเป็นการโหมโรงก่องการสังวาส มันก็ถูกเรียกว่า “กอดสัมผัส”

เมื่อสตรีก้มตัวลงราวกับเก็บอะไรบางอย่างและโผเข้าหาบุรุษที่กำลังนั่งหรือยืนอยู่ แล้วบุรุษนั้นรับเธอมากอดไว้ แบบนี้เรียกว่า “กอดเสียบ”

เมื่อคู่รักทั้งสองถูไถเรือนร่างของกันและกัน พวกเขาก็พึงพอใจอยู่กับการ “กอดบด”

และเมื่อคนหนึ่งกดทับเรือนร่างของอีกคนกับผนังหรือเสาหิน ก็เรียกว่า “กอดกด”

บางคนกล่าวว่าไม่มีเวลาตายตัวหรือข้อบังคับในระหว่างการกอด การจูบ การกดทับและการเกาด้วยเล็บหรือนิ้ว แต่กล่าวว่าควรมีการกระทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้โดยทั่วไปก่อนที่การสังวาสจะเกิดขึ้น ซึ่งวัตสญาณ คิดว่าการกระทำใดๆ ดังกล่าวนี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เพราะความรักไม่สนใจเวลาหรือกฎระเบียบ

ในโอกาสที่พบกันครั้งแรก การจูบและการโหมโรงในรูปแบบอื่นๆ ควรกระทำในระดับปานกลาง นอกจากนี้ มันยังไม่ควรให้ต่อเนื่องยาวนานและควรกระทำอย่างสลับกันไป

อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่ตามมาการกระทำทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นอย่างตรงกันข้าม และระดับปานกลางก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว อันที่จริงการโหมโรงทั้งหมดนี้อาจกระทำไปในเวลาเดียวกันก็ได้


มีการจูบที่แตกต่างกันไป 3 แบบ

“จูบเป็นพิธี” คือ เมื่อสตรีสัมผัสเฉพาะปากของคนรักด้วยปากของเธอ แต่ตัวเธอเองอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรอีก

แต่เมื่อสตรีสลัดความอายออกไปได้แล้ว และสัมผัสริมฝีปากที่กดลงมาในปากของเธอ แล้วริมฝีปากล่างของเธอก็ขยับไปตามวัตถุประสงค์นั้น โดยริมฝีปากบนไม่ขยับ ก็เรียกว่าเธอให้ “จูบระริก”

เมื่อสตรีสัมผัสริมฝีปากของคนรักด้วยลิ้นของเธอ และหลับตาลง วางมือทั้งสองของเธอลงบนมือทั้งสองของคนรัก นั่นก็คือเธอให้ “จูบสัมผัส”

มื่อตัณหาเริ่มเข้มข้น การกดด้วยเล็บหรือเกาเรือนร่างของคนรักด้วยเล็บจะกระทำในโอกาสต่อไปนี้

ในการเยือนครั้งแรก ในเวลาก่อนออกเดินทาง ในเวลากลับจากเดินทาง ในเวลาที่คืนดีหลังจากทะเลาะกันแล้ว และสุดท้ายเมื่อสตรีมึนเมา

การขบกัด ซึ่งเป็นรอยนูนวงกลมไม่เท่ากัน อันเนื่องมาจากช่องว่างระหว่างฟัน นั่นเรียกว่า “เมฆกระจาย” รอยนี้ประทับอยู่บนทรวงอก

การขบกัด ซึ่งเป็นรอยแถวกว้างๆ หลายแถวใกล้ๆ กัน และมีรอยจ้ำแดงๆ ระหว่างแถว นั่นเรียกว่า “การกัดของหมูป่า” รอยเหล่านี้ประทับอยู่บนทรวงอกและไหล่ วิธีการกัดแบบนี้เป็นของบุคคลที่มีตัณหาเข้มข้น

“เมื่อทั้งสองฝ่ายยังไม่ร่วมรักสมัครสโมสร

การกอดสี่แบบนี้คือเครื่องหมายแห่งสิเน่หาของพวกเขา

กอดสัมผัส กอดเสียบ กอดบดและกอดกด”

:
กามสูตร 2.2.6

 

>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
 
กำลังโหลดความคิดเห็น