>> ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาวงการแฟชั่นไทยมีการเติบโตเป็นอย่างมาก ผลงานต่างๆ ได้ถูกถ่ายถอดมาจากแนวคิดและตัวตนของดีไซเนอร์หน้าใหม่ รวมไปถึงสาวน้อยวัย 21 ปีคนนี้ “ณัฐ-ณัฐนิชา ธนาลงกรณ์” ยังดีไซเนอร์คนล่าสุดเจ้าของคอลเลกชัน Eyes On Me by Natnicha ซึ่งกำลังจะเปิดตัวกับแบรนด์ชุดชั้นในระดับท็อปอย่างซาบีน่าเร็วๆ นี้
ดีไซเนอร์ไทยส่วนใหญ่ที่เรารู้จักมักจะเรียนจบทางด้านแฟชั่นดีไซน์โดยตรง แต่เป็นเพราะความสนใจเรื่องแฟชั่นประกอบกับความสามารถทางศิลปะจึงทำให้เธอมีโอกาสออกแบบคอลเลกชันนี้ “ณัฐช่วยงานมูลนิธิคุณแม่จินตนา ธนาลงกรณ์ ค่ะ ร่วมกับพี่มิ้นท์-อรรถวดี จิรมณีกุล และพี่ๆ นักแสดงอีกหลายคนจัดคอนเสิร์ต ประมูลของเพื่อไปสนับสนุนน้องๆ ที่เรียนดีแต่ขาดโอกาสค่ะ ณัฐวาดรูปไปประมูลได้ราคา 3 แสนบาท ทางผู้ใหญ่ซาบีน่าเห็นแววก็เลยชวนมาทำ เพราะเขาคิดว่าเราน่าจะทำอะไรที่มันฉีกแนวได้ เพราะปกติคนอื่นเขาจะเรียนมาทางด้านดีไซเนอร์ แต่เราเรียนวาดรูป ไม่มีความรู้เรื่องแฟชั่นดีไซน์เลย” ณัฐเล่าถึงที่มาของคอลเลกชันแรกในชีวิตของเธอ
ปัจจุบัน ณัฐ กำลังศึกษาทางด้าน illustration อยู่ที่มหาวิทยาลัย Academy of Arts ในซานฟรานซิสโก อันเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกา เราจึงขอให้เธอโชว์ผลงานฝีมือเธอให้เราดู เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า อะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สาวสวยเซ็กซี่อย่างเธอมุ่งมั่นจะเป็นศิลปินให้ได้ “ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วค่ะ ณัฐจะเป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่ง แต่จะมีวิชานึงที่ได้ A-A+ ตลอดเลยคือ วิชาศิลปะ จนประมาณเกรด 10 ต้องเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย ณัฐเลยลองนั่งถามตัวเอง ค้นหาตัวเองว่าจะเรียนอะไรดี ก่อนหน้านี้เคยมีความฝันอยากเป็นหมอ เป็นนักกฎหมายนะคะ แต่พอณัฐหาจุดเด่นของตัวเองเจอก็เลยตัดสินใจมาสายนี้แทน”
“ตอนแรกเลยณัฐเรียนสถาปัตย์อยู่ปีครึ่ง เรียนทุกวิชาได้หมดค่ะ ยกเว้นพวกเลขเพราะว่าไม่ค่อยเก่งเลข ตอนนั้นมันยากมากเลยเปลี่ยนไปเรียนคณะนี้ คนส่วนใหญ่คิดว่า illustration ต้องใช้คอมพ์เยอะ แต่ที่ณัฐเรียนมันคือเหมือนเรียนวาดภาพประกอบในหนังสืออ่ะค่ะ ณัฐต้องเรียนวิชาเบสิกเหมือนของคณะศิลปกรรมศาสตร์เลยค่ะ เริ่มจากวาดภาพเปลือย มีคนมานั่งให้วาด จากนั้นก็เป็นเพนติ้งค่ะ หัดใช้สีประเภทต่างๆ แล้วค่อยเรียนพวกโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้ณัฐอยู่ปี 3 แล้ว ที่มหา'ลัยจะให้เริ่มลงดีเทลแล้วว่าเราจะไปด้านไหน อย่างณัฐจะเน้นเป็นแฟชั่น ได้เรียนเป็นการทำนิตยสาร ทำปก ทำภาพ อะไรประมาณนี้ค่ะ”
เมื่อถามณัฐว่าชอบวาดรูปแบบไหนมากที่สุด เธอตอบอย่างไม่ลังเลทันทีว่า “ณัฐชอบวาดภาพคนและภาพเปลือยที่สุด คงเป็นเพราะว่าณัฐชอบพวกโครงสร้างร่างกายของมนุษย์โดยเฉพาะดวงตา ณัฐชอบวาดตามากๆ เลยนำมาใส่ในคอลเลกชัน Eyes On Me ของณัฐค่ะ”
ถึงแม้ว่าหลายคนอาจมองณัฐ หรือแนตตี้ ว่าเป็นเซเลบริตี้ที่มีเพียบพร้อมอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นเลย “ณัฐอยากให้คนยอมรับณัฐที่ผลงาน ไม่ใช่แค่การไปออกอีเวนต์หรืออะไรแบบนั้น ตอนอยู่อเมริกาณัฐเรียนเต็มที่ค่ะ เวลากลับมาไทยณัฐก็จะไปทำงานบ้าง ฝึกงานบ้าง ยิ่งตอนนี้บ้านเรามีคนเก่งๆ มีความสามารถเยอะมาก ณัฐอยากฝึกตัวเองให้ได้มากที่สุดค่ะ อย่างเรื่องแฟชั่นณัฐก็ไม่ได้โดดเด่นมากเพราะไม่ได้เรียนแฟชั่นดีไซน์โดยตรง ส่วนเรื่องวาดรูปก็กำลังฝึกฝนอยู่ ตอนนี้ณัฐเลยพยายามนำสิ่งที่มีและชื่นชอบมารวมกันแล้วทำให้เป็นจุดเด่นของตัวเองค่ะ”
ณ จุดนี้ต้องยอมรับว่าสาวน้อยตัวเล็กคนนี้มีอะไรมากกว่าที่เห็นจริงๆ เพราะนอกจากเรียนแล้ว เธอยังใช้เวลาว่างทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งด้วย “คือมันเริ่มจากว่า เคยมีคนดูถูกว่าคนอย่างณัฐเนี่ยทำงานเสิร์ฟแบบนี้ไม่ได้หรอก เพราะตั้งแต่เด็กๆ ณัฐมีแม่บ้าน มีคนคอยดูแลจัดการให้ตลอด ทุกคนเลยคิดว่าณัฐไม่เข้มแข็ง ณัฐเลยอยากพิสูจน์ให้เขาได้เห็นว่าเราทำได้นะ
ณัฐทำงานที่นี่มาได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้วค่ะ ทำให้ณัฐเข้าใจเลยว่างานบริการต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะณัฐเคยเจอกรณีแบบ เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ลูกค้าเขาก็ว่าเรา โทษเรา แต่เราก็ต้องอดทน ต้องเข้มแข็ง เขาก็ด่ามา ในใจเราก็ท่องขันติ ขันติ พุทโธ พุทโธ บอกกับตัวเองว่าถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ จะไปทำอย่างอื่นได้ยังไง เพราะชีวิตคนเรามันต้องเจออุปสรรคอยู่ตลอดเวลา”
เห็นเปรี้ยวๆ แบบนี้ คนใกล้ชิดของน้องณัฐต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอเป็นคนที่ธรรมะธัมโมมาก ซึ่งเธอให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า “ณัฐไม่รู้เหมือนกันว่าคำว่าธรรมะธัมโมของคนสมัยนี้คืออะไร แต่มองว่าเราไม่ใช่แบบที่เขาคิดกัน ณัฐเคารพครูบาอาจารย์ มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะรู้สึกว่าพอได้ปฎิบัติธรรม สวดมนต์ แผ่เมตตาแล้วชีวิตเราดีขึ้น ใจเย็นขึ้นนะ เพื่อนบางคนก็ล้อว่าเป็นแม่ชีเพราะณัฐเป็นแบบนี้ สวดมนด์ทุกคืน ไม่ดื่มเหล้า แต่เขาไม่รู้ว่าที่เราไม่ดื่มเพราะโตมาไม่เคยเห็นพ่อแม่ดื่มเหล้า เราไม่ชอบก็เลยไม่ทำ แล้วสมัยก่อนณัฐเคยตามเพื่อนไปปาร์ตี้แฮงเอาต์นะคะ แต่พอไปเจอกับตัวเองก็รู้เลยว่าความสุขของเรามันไม่ใช่แบบนี้จริงๆ บอกตรงๆ เลยนะคะ ถ้าณัฐแก่ตัวไปก็อยากจะใช้เวลาช่วงบั้นปลายชีวิตในวัด เพราะรู้ว่ามันคือหนทางเดียวที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้”
ในฐานะที่เธอคือดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุดอีกคนหนึ่ง เราจึงอยากทราบว่าเธอจะมีผลงานอื่นๆ ให้เราได้ติดตามอีกหรือไม่ ณัฐตอบด้วยความมุ่งมั่นว่า “ตรงนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ณัฐคิดว่าในอนาคตน่าจะมีโอกาสออกแบบให้กับแบรนด์อื่นๆ บ้าง จะเป็นโปรดักต์หรือเสื้อผ้าก็ได้ค่ะ คือณัฐก็มีแพลนนะคะว่าอีก 5 ปีข้างหน้าเราอยากจะเป็นยังไง แต่ก็ไม่ได้หวังว่ามันต้องออกมาตามนั้นเป๊ะๆ เพราะณัฐจะทำทุกอย่างแบบสเต็ปบายสเต็ป ปรับเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต เพราะณัฐมีประสบการณ์ตอนเด็กว่า สิ่งที่เราแพลนตอนเด็กกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมันไม่มีอะไรตรงกันเลย
ก่อนหน้านี้ณัฐเคยจริงจังมากไปว่าทุกอย่างต้องออกมาตามแพลนทั้งหมด แล้วพอมันไม่เป็นไปตามนั้น ณัฐก็ทุกข์เอง ตอนนี้ณัฐเลยอยากจะเปลี่ยนไปตามโอกาสที่เข้ามาในชีวิตค่ะ ณัฐจะคว้าโอกาสทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เวลามีอะไรเข้ามาเราก็ดูว่า เหมาะกับเราไหม ดีกับเราไหม ทำแล้วเป็นยังไง เพราะณัฐเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์ของชีวิตค่ะ”
3 ภาพโปรดฝีมือน้องณัฐ ::
“เป็นรูปที่ณัฐวาดให้อาม่าก่อนที่ท่านจะเสีย ตอนนั้นท่านป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย รูปนี้เป็นรูปแรกเลยที่ณัฐฝึกวาดพอร์เทรตรูปแรก ณัฐไม่เคยวาดหน้าคน หรือวาดด้วยดินสอถ่านมาก่อน รูปนี้เป็นรูปแรกแต่ว่าเป็นรูปที่ดีที่สุดเลยค่ะ เพราะณัฐวาดมาจากใจ”
“ภาพนกฮูกเป็นภาพที่มีความหมายกับณัฐมากค่ะ เพราะเป็นภาพแรกที่ฝึกแกะสลักด้วยไม้มาเป็นแผ่นพิมพ์ (Relief) ซึ่งใช้ความอดทนมากค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นทำอยู่เกือบ 3 วัน ต้องพิมพ์ออกมา 40 กว่าแผ่นแล้วเลือกอันที่ดีที่สุดส่งอาจารย์”
“ดึงความโดดเด่นของชาวแอฟริกันมาใส่ในรูปนี้ เพราะณัฐคิดว่าพวกเขามีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนมาก รูปนี้ใช้เทคนิคอิชชิ่ง (Itching) คือเอาแผ่นทองแดงมาขูดรูปตามที่เราต้องการ หลังจากนั้นนำแผ่นไปแช่น้ำกรด เสร็จแล้วค่อยเอามาพิมพ์ค่ะ”
Eyes On Me สวยจนไม่อาจละสายตา ::
ณัฐถ่ายทอดผลงานศิลปะที่ออกแบบด้วยตัวเอง ผ่านกระบวนการพิมพ์ด้วยเทคนิค Digital print จนกลายมาเป็นผลงานศิลปะบนชุดชั้นในตัวสวยคอลเลกชันแรกของเธอ ด้วยเรื่องราวที่มาจากจินตนาการเกี่ยวกับอวกาศ ภาพวาดม้ายูนิคอร์นและดวงตา ผสมผสานในแนว illustration จนได้ผลงานที่สวยลงตัวจนไม่อาจละสายตาได้ อันเป็นที่มาของชื่อคอลเลกชัน Eyes On Me นี่เอง เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่สวมใส่ได้จริง
“กังฟู” รักแท้ของณัฐนิชา ::
สาวณัฐยอมรับกับเราว่าเธอมีคนรักแล้ว แถมยังเป็นรักแท้ของเธอเสียด้วย คือ “กังฟู” เจ้าหมาสุดน่ารักของเธอ “ณัฐรักมันมากจริงๆ อย่างเวลาณัฐเศร้านั่งร้องไห้ ฟูจะไม่ไปไหนเลย จะนั่งข้างๆ มองหน้าแล้วก็พยายามตะกายมาเลียเหมือนว่าเขาอยากให้กำลังใจ ฟูเป็นเพื่อนณัฐจริงๆ ค่ะ” :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/