ใกล้วันวาเลนไทน์เท่าไหร่ ผู้คนต่างก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักกันทั้งนั้น ล่าสุด ในงานเปิดตัว เคสไอโฟน 5 แพลทินัมฝังเพชรราคาแพงที่สุดในโลก ที่เกิดจากการร่วมมือของ เอส น้ำดื่มแห่งเสริมสุข กับ บิวตี้เจมส์ ที่ทำเอาคนในงานตะลึงกับความสวยของเคสแสนแพง ในงานนี้มีเซเลบรีตีมาร่วมงานหลายคน เราจึงขอให้แต่ละคนย้อนวันวานเผย “PUPPY LOVE” ในสไตล์ของแต่ละคนว่า คิขุอาโนเนะกันขนาดไหน
เริ่มที่ เจ้าพ่อแห่งเพชรบิวตี้เจมส์ หนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล ย้อนเล่าเรื่องรักแรก ซึ่งกลายมาเป็นรักยาวนานจนถึงปัจจุบันว่า “ผมเจอกับคุณเมก้าซึ่งเป็นภรรยาผม ตั้งแต่เมื่ออายุ 18 ปี ขณะนั้นเราทั้งคู่เรียนอยู่ที่เมืองนอก ตอนเจอกันครั้งแรกกำลังไปตีแบดมินตันกับเพื่อนๆ และสายตาก็มาสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมรองเท้าส้นสูง สวมกางเกงลาย ดูมั่นใจสุดๆ กำลังตีแบดอย่างสนุกสนาน เราก็ปิ๊งเลย ! ตามจีบแบบไม่รีรอ ทว่า ตอนนั้นก็ต้องต่อสู้กับคู่แข่งหลายคนที่มาจีบคุณเมก้า อย่างครั้งหนึ่งผมกับคู่แข่งเกิดใจตรงกันซื้อของมาให้คุณเมก้าเหมือนกัน ทั้งที่ไม่น่าจะเหมือนกันได้ แต่ครั้งนั้นผมเหนือกว่า ตรงที่นอกจากจะมีของที่เป็น “สร้อย” ที่เหมือนกันแล้ว ยังแถมด้วยดอกกุหลาบอีก 100 ดอก ทำให้คุณเมก้าเซอร์ไพรส์สุดๆ”
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ความรักของ หนึ่ง กับ เมก้า ยาวนานมากว่า 21 ปี เมื่อให้เปรียบความรักเป็นสิ่งของ “เพชร” จึงเป็นสิ่งที่ผู้ชายคนนี้เลือก เพราะ เพชร เป็นของที่คงทน แข็งแรง เปล่งประกาย เมื่อเปรียบกับความรักก็ต้องเป็นเช่นนั้น ที่ต้องแข็งแกร่ง มั่นคง เหมือนใจของตนเอง
“ความรักก็คล้ายๆ กัน มีขึ้น มีลง เหมือนกับการเต้นของหัวใจ ฉะนั้น เวลาที่คนไหนอ่อนกำลัง อีกคนก็ต้องคอยเสริมแรง พร้อมกับเดินไปพร้อมๆ กัน ทำให้สิ่งที่เราคิดสิ่งที่เราทำที่ผ่านมานั้น ต้องใส่ใจกันและกันมากขึ้น ยิ่งเรามีพยานรักถึง 2 คนด้วยแล้ว ก็ต้องยิ่งดูแลใส่ใจกันทวีคูณ เพราะ “การปรบมือข้างเดียว” นั้นไม่ดัง เราต้องช่วยกันประคับประคอง สร้างบรรยากาศทุกวันให้มีความสุข” เจ้าพ่ออัญมณีทิ้งท้ายเรื่องราวของการถนอมรักอย่างน่าสนใจ
ด้าน ป๊อป-วราวุธ เลาหพงษ์ชนะ ขอเผยรักในวัยเด็กแบบน่ารักว่า “ตอนนั้นเป็นอะไรที่น่ารัก สดใส จำได้ว่า สมัยนั้นอยู่ชั้นมัธยม เอาวิทยุที่มีเทป 2 ตัวมากดอัดเพลงที่เกี่ยวกับความรัก ใส่เข้าไปเพื่อทำเป็นอัลบั้ม แล้วก็ออกแบบหน้าปกเองด้วยสติ๊กเกอร์ตกแต่งสวยงาม นำไปมอบให้คนที่แอบชอบฟังในวันวาเลนไทน์ ซึ่งตอนนั้นมองว่า PUPPY LOVE เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนต้องมีประสบการณ์ เพราะเป็นอะไรที่ตื่นเต้น ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา เหมือนคำที่บอกว่า “รู้สึกมวนท้อง” ยังไงยังงั้นเลย ทว่า หากเปรียบเป็นความรักในตอนนี้ “การมวนท้อง” ก็เป็นแค่การท้องเสียเท่านั้น เพราะชีวิตผ่านโลกมาเยอะขึ้น ดังนั้น PUPPY LOVE จึงเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ยิ่งเวลามองย้อนกลับไป ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นจึงเป็นความประทับใจอยู่ตลอดเวลา”
เมื่อให้เปรียบความรักเป็นสิ่งของ ป๊อป ขอเปรียบเป็น “บ้าน” อย่างกับเนื้อร้องในเพลง Home ของ ปั่น-ไพบูลย์ เกียรติเขียวแก้ว เพราะที่แห่งนี้มีทุกอย่าง โดยเฉพาะ ความรักในที่นี้ ไม่ใช่แค่ความรักแบบแฟนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงรักจากคุณพ่อคุณแม่ด้วย
ปิดท้ายกันที่ ท็อป-ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี ผู้ชายที่มองความรักเป็นสิ่งสวยงาม เล่าว่า “PUPPY LOVE ของผมเกิดขึ้นตอนอยู่ ป.4 ตอนนั้นเห็นเด็กผู้หญิงลูกครึ่งคนหนึ่ง ปั่นจักรยานผ่านหน้าบ้านไป พอเห็นปุ๊บก็อยากจะรู้จักว่าเขาเป็นใคร จนวันหนึ่งมาปั่นจักรยานในหมู่บ้านตามปกติ และโชคก็เข้าข้างที่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็มาปั่นเหมือนกัน ก็เลยไปปั่นจักรยานเล่นในหมู่บ้านด้วยกัน ยอมรับเลยว่าเขิน และตื่นเต้นมาก แค่ปั่นจักรยานคู่กันก็มีความสุขแล้ว ตอนนั้นไม่ได้คุยอะไรมาก เนื่องจากก็ยังเด็กอยู่ ภาษาอังกฤษก็ไม่ถนัด หลังจากนั้นไม่นานการเต้นของหัวใจก็แรงขึ้น เพราะย้ายโรงเรียนไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ รู้สึกว่า “เรามีโอกาสแล้ว” แอบดีใจ เพราะเริ่มพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ดีใจได้ไม่นานก็ต้องเศร้า เพราะจู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็กลับไปอยู่กับคุณพ่อที่ต่างประเทศ ก็เลยต้องเดินคอตกกลับบ้านตามระเบียบ”
เพราะความรักมีหลากหลายแง่มุม ท็อป จึงเปรียบความรักของตนเองเป็นดั่ง “น้ำ” เพราะ น้ำเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากเป็นอาหารไม่มีก็ยังสามารถอยู่ได้ แต่ถ้าขาดน้ำคงอยู่ไม่ได้ นอกจากนี้ “น้ำ” เป็นสีใส เมื่อเทียบกับความรักของแต่ละคนก็ควรจะเป็นสีๆ โดยที่สามารถปรุงแต่งได้ว่า อยากให้ความรักเป็นสีอะไร ซึ่งความรักจริงๆ เป็นอะไรที่บริสุทธิ์มาก ดังเช่น ความรักที่แม่มีให้ลูกนั้นใสบริสุทธิ์เหลือเกิน เพราะไม่ว่าลูกจะทำความผิดมามากขนาดไหน ความรักของแม่ที่มีต่อลูกก็ไม่เคยลดน้อยลงไปเลย นี่คือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้เปรียบเทียบเกี่ยวกับความรัก
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net