“โจ้ เซอร์เฟซ” เผยภาพสเกตช์ชุดหมั้นและชุดงานเลี้ยงของ “ตั๊ก บงกช” 2 ชุดราคาร่วมล้าน ยังไม่นับมูลค่าเครื่องประดับจากบิวตี้เจมส์ เข็มขัดทองโบราณ สุดอลังการปักสไบลายเพดานพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ประดับเครื่องแขวนโบราณ ระดมทีมงาน 10 กว่าคน รุมชุดหมั้นให้เสร็จทันวันงาน ด้าน “ขวด เอ็มทีไอ” รับหน้าที่แต่งหน้าให้ไม่คิดเงิน ยกให้เป็นของขวัญวันหมั้น
ใกล้ถึงวันหมั้นเข้ามาทุกทีแล้วสำหรับคู่รักหมื่นล้าน “ตั๊ก บงกช คงมาลัย” กับ “เจ้าสัว บุญชัย เบญจรงคกุล” เศรษฐีอันดับที่ 13 ของประเทศไทย โดยจะเข้าพิธีหมั้นในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA ของเจ้าสัวบุญชัย เรียกว่า เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ชุดหมั้นของตั๊กก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่ง “โจ้ อธิษฐ์ ฐิรกิตสัฒน์” แห่งห้องเสื้อเซอร์เฟซ ก็ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องระดมทีมทำงานราวกับเป็นเซเว่นอีเลฟเว่น โดยใช้ทีมงานทั้งหมด 10 กว่าคน เพราะเป็นงานฝีมือและต้องใช้เวลาในการปักลายสไบ ซึ่งเป็นลายเพดานของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ประดับคริสตัลใช้เข็มขัดทองโบราณ สวมเครื่องประดับบิวตี้เจมส์ ส่วนชุดงานเลี้ยงตอนเย็นนั้น จะใช้ผ้าถุงชุดเดียวกับชุดหมั้นประดับด้วยเครื่องแขวนโบราณที่เป็นดอกไม้ประดับตามวังและวัด แต่ใช้ลูกไม้และคริสตัลแทน
“ผมรู้จักกับตั๊กตั้งแต่ตอนที่ตั๊กเล่นต้มยำกุ้ง เราไปทำเสื้อผ้าให้หนัง และก็มาเจออีกทีตอนที่ตั๊กเล่นจันดารา เราก็มาทำเสื้อผ้าให้หนัง พอเขาจะหมั้นเขาก็โทร.มาบอกให้ช่วยตัดให้เขาหน่อย เขาบอกว่าเขาใส่ชุดเราแล้วเขามั่นใจ งานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์จันดาราที่เขาใส่ชุดสีทองอันนั้นเราก็เป็นคนทำให้เขา”
“ตั๊กเขาเป็นคนที่ใส่ชุดไทยสวย ก็เปิดรูปดูกันว่าอยากได้ไทยแบบไหน ตั๊กเขาชอบชุดไทยจักรีก็เลยเป็นชุดไทยจักรี ชุดพิธีเป็นไทยจักรีสไบเฉียงสีชมพูทอง ใช้ผ้านุ่งลำพูนสีชมพูผสมด้วยสีเขียว เป็นทอลายทั้งตัวแต่ตรงเชิงจะมีสีทองสีเขียว ตรงหน้านางจะเป็นสีทองปักคริสตัลเลื่อมหลายๆ อย่าง และอุปกรณ์ที่เป็นโลหะด้วย ลายที่ปักบนสไบจะไม่เป็นไทยจ๋าจะผสมเป็นฝรั่งเข้าไป ลายจะคล้ายๆ บนเพดานพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จะไม่ใช่ลายไทยลายกนก ที่ใช้สีนี้เพราะว่าเราเอาไปให้พี่เขยที่เป็นหมอดูให้ เขาไม่ใช่หมอดูนะเป็นหมอจริงๆ แต่ว่ามีความรู้เรื่องการดูดวง ก็เอาวันเดือนปีเกิดไปให้ดูก็เลยรู้ว่าเขาเหมาะกับโทนสีชมพูเขียว แต่มันใช่ชมพูจ๋าจะเป็นชมพูกลีบบัว”
“สำหรับผ้าที่ต้องส่งมาจากลำพูน เพราะปกติที่ร้านจะสั่งผ้าที่นั่นอยู่แล้ว และผ้าลำพูนก็เป็นผ้าที่สวยและทอยาก เป็นการทอมือโดยใช้ไหมผสมดิ้นทอง เขาก็ส่งมาให้เลือกเป็น 10 ผืน ราคาผืนละไม่ถึงแสนหรอก แต่เลือกมาหลายผืน เพราะบางชิ้นก็ไปใช้เป็นผ้าถุง บางชิ้นก็เอาไปทำเสื้อก็แยกเป็นส่วนๆ ตั๊กเขาก็ไว้ใจให้เราเลือกเลยเห็นตามที่เราว่าสวย สำหรับชุดนี้ตั๊กจะเกล้าผมและก็ใส่เครื่องประดับทอง ไม่ใช่เครื่องไทยแท้แต่จะเป็นลายไทยสั่งทำพิเศษจะติดช่วงท้ายทอย”
“ชุดงานเลี้ยงตอนเย็นจะเป็นผ้าลูกไม้ แต่ใส่ผ้าถุงตัวเดิม ลูกไม้ที่ใช้ทำเสื้อจะมาจากฝรั่งเศสญี่ปุ่น และอีกหลายๆ ประเทศมาต่อกัน ตรงเอวเราจะมีเป็นเหมือนเครื่องแขวนโบราณในวังในวัดที่แขวนตามหน้าต่าง เหมือนพวงมาลัยจะเป็นดอกไม้ แต่เราจะร้อยลูกปัดผสมกันเข้าไปกับผ้าลูกไม้แทน ชุดนี้ตั๊กเขาไว้ใจให้เราดีไซน์ให้เลย นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีชุดแถลงข่าวด้วยแต่ตั๊กเขาตัดกับอีกเจ้าหนึ่ง”
“ราคายังไม่คิดว่าเท่าไหร่แต่ที่แน่ๆ หลักแสนอยู่แล้ว ยังไม่ได้คิดราคาเลยว่าเท่าไหร่ แต่ถ้ารวมทั้งสองชุดก็เกือบล้าน เพราะมันเป็นงานแฮนด์เมด และวัสดุมันใช้เยอะ เราใช้วัสดุทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ อย่างของต่างประเทศก็จะใช้พวกคริสตัลยังไม่รู้เลยว่าต้องใช้ซักเท่าไหร่ เพราะต้องเร่งปักอยู่ แต่คงไม่ใช้เยอะวิบวับทั้งตัว เพราะเราเน้นผ้าไทย ไม่อยากจะให้มันเด่นกว่าผ้าไทย และมันเป็นงานเช้าด้วยปักมากมันก็ไม่น่าจะเหมาะซักเท่าไหร่ ก็ถือว่าเป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือเยอะและเร่งมากเวลาน้อย เราใช้ทีมทำทั้งวันทั้งคืนเหมือนเซเว่นเลย ใช้ทีมทำประมาณ 10 กว่าคนช่วยกันรุมเลย ความพร้อมตอนนี้ผ้าถุงเสร็จแล้วสไบกำลังปัก ลูกไม้ก็กำลังตัดต่อทีละชิ้นเป็นตะเข็บๆ ไปเรื่อย”
“สำหรับเครื่องประดับ ผมเป็นคนรับหน้าที่หาให้ก็ต้องเป็นเครื่องประดับที่มีมูลค่า แต่กำลังหาอยู่ว่าจะใช้แบรนด์ไหนคิดว่าน่าจะเป็นบิวตี้เจมส์ แต่เครื่องประดับทองโบราณก็มีก็คือใช้เข็มขัดทอง ส่วนรองเท้าก็สั่งทำพิเศษครับโดยใช้ผ้าไหมยกลำพูนนี่แหละปักๆ เป็นรองเท้าชื่อร้านเซเรน่า ซึ่งเป็นร้านที่ทำรองเท้าเจ้าสาวโดยเฉพาะ ข้างในจะบุด้วยทองลูกแกะ ซึ่งมันจะนิ่มมากไม่กัดราคาก็ไม่แพง เขาใช้คู่เดียวทั้งงานพิธีและงานเลี้ยง คือ ตั๊กเขาเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้เว่อร์อะไรใช้ได้เขาก็ใช้ไม่ได้สั่งทำใหม่หมดทุกอย่าง ส่วนของคุณแม่ตั๊กทางเราก็ตัดให้ 1 ชุดเป็นชุดผ้าไหมมัดหมี่จากบุรีรัมย์ทำเป็นเสื้อ ท่อนล่างก็เป็นผ้าไหมไทย”
ชุดสวยเป็นฝีมือของ “โจ้ เซอร์เฟซ” หรือ “โจ้ อธิษฐ์ ฐิรกิตสัฒน์” ส่วนหน้านั้น “ตั๊ก” ให้ความไว้วางใจเลือก “อาจารย์ขวด มนตรี วัดละเอียด” เมคอัพอาร์ติสต์
ชื่อดังแห่งสถาบันเอ็มทีไอเป็นผู้บรรจงแต่งแต้มความงามบนใบหน้าในวันหมั้น
“รู้จักตั๊กมานานแล้วตั้งแต่เขาเล่นหนังซุ้มมือปืน และล่าสุด ก็ได้มาแต่งหน้าให้เขาในหนังจันดารา ก็เห็นข่าวว่า เขาจะหมั้นแล้วเขาก็โทร.มาว่าอยากให้เราแต่งหน้าให้เขาเราว่างหรือเปล่า ก็โอเครับ ทำให้ แต่จริงๆ แล้วเราไม่รับงานส่วนบุคคลแบบนี้มานานมากแล้ว จะรับแต่งานที่เป็นธีมแบบงานหนังงานละครมากกว่า เพราะงานส่วนตัวมันมีข้อจุกจิกเยอะ จะทำให้เฉพาะคนรู้จักกัน ทำให้ล่าสุดก็ตั้งแต่ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร แต่งงานกับ น้องผานิต แต่สำหรับตั๊กเรารับเพราะเขาอยากให้เราทำให้และถือว่าทำให้เป็นของขวัญเขาด้วย”
“สำหรับหน้าตั๊ก เราแต่งมาจนรู้หมดแล้ว เพราะตอนเล่นจันดารา ก็แต่งกันทั้งเรื่อง เรารู้อยู่แล้วว่าหน้าเขาสวยยังไง เราเห็นเขามานานแล้วแต่งให้เขามานานแล้ว เห็นตั้งแต่ยังไม่เต็มสาวจนกระทั่งมาเห็นเขาที่จันดารานี่รู้เลยว่าเขาสะพรั่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว หน้าเขาสวยอยู่แล้วและเขาไม่เรื่องเยอะด้วย อย่างตอนอยู่กองถ่ายมาถึงเขาก็มานั่งรออยากแต่งอะไรก็แต่งไป ตั๊กเป็นดาราที่ไม่มีเครื่องสำอางค์เป็นของตัวเอง เขาจะไม่หิ้วอะไรมาเลยให้เราแต่งไปตามสบาย ซึ่งมันก็ดีเพราะมันเป็นเรื่องความต่อเนื่องของหนัง บางทีถ้าเอาของตัวเองมาใช้แล้วบางวันดันลืมเอามาก็จะมีปัญหา”
“สิ่งเดียวที่ตั๊กเขาจะดูแลคือเรื่องผิว เขาจะมียารักษาสิวมาด้วยแค่นั้นแหละ นอกนั้นก็ใช้ของเราตามใจเรา อย่างงานหมั้นของตั๊กเขาก็ไม่ได้บอกว่าอยากได้แบบไหน ก็บอกแค่ว่าอยากให้เราทำให้ที่เหลือก็ให้แต่งได้เลย แต่เราก็คงต้องดูที่ชุดกับทรงผมด้วยว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่โดยคร่าวๆ ตอนนี้ก็ทราบหมดแล้ว ตั๊กเขาเป็นคนที่หน้าไทยไม่ได้ออกฝรั่งก็ต้องแต่งให้เหมาะกับเขา หน้าเขาสวยครบถ้วนอยู่แล้ว ตาเขาสวยเราก็ต้องทำให้ตามันโดดเด่นเน้นดวงตาให้สวยขึ้นต้องประณีต เพราะตาเขาโตถ้าทำไม่ดีก็จะดูดุ งานหมั้นจะต้องดูหวานหน่อย”
“ที่ตั๊กต้องดูแลก็คือเรื่องผิว เพราะบางทีใกล้ถึงวันงานจะเครียดกันอาจจะเกิดปัญหาเรื่องสิว ถ้าดูแลไม่ให้มีสิวเราก็จะทำงานง่ายขึ้น เพราะงานแบบนี้ควรแต่งเบาๆ ไม่อยากลงอะไรให้มันหนามากมันจะสวยกว่า ส่วนราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะมันไม่ใช่เรื่องเงิน ตั๊กเขารู้เรื่องนี้ไม่ต้องมาพูดเรื่องเงินกับเรา เรารู้จักกันถือว่าทำให้น้องสาวทำให้เปล่าๆ เป็นของขวัญแต่งงานจะมาใส่ซองอะไรให้ก็คงไม่เอา”