>>เพราะสาวไทยมีผมสีดำขลับโดยธรรมชาติ ดังนั้นเวลาที่เกิดรังแคขึ้นจึงทำให้สังเกตเห็นได้ง่าย และกลายเป็นผลเสียต่อบุคลิกและภาพลักษณ์อย่างมาก ยิ่งด้วยสาเหตุของการเกิดรังแคมีได้หลากหลาย ทั้งสภาพอากาศ สภาพความเครียด และการดูแลเส้นผมอย่างไม่ถูกวิธี ปัญหารังแคนี้จึงนับเป็นปัญหาหนักใจของสาวๆ หลายคน ด้วยจะส่งผลทำให้เส้นผมไม่นุ่มสลวยเงางาม
เนื่องจาก “หนังศีรษะ” ของคนก็เปรียบเหมือนกับ “แผ่นดิน” ที่ทำหน้าที่เป็นฐานยึดรากเส้นผมไว้อย่างแน่นหนา เมื่อต้องเจอกับ “สภาพอากาศแห้งและลมหนาว” ก็ย่อมสูญเสียความชุ่มชื้นจนเกิดความแห้งแล้งและแตกระแหง ส่งผลต่อความแข็งแรงและการเติบโตของต้นไม้ เช่นเดียวกับ “อาการหนังศีรษะแห้ง" ที่ย่อมส่งผลต่อสภาพ “เส้นผม” รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหารังแคและปัญหาที่เกี่ยวกับหนังศีรษะอื่นๆ ในอนาคต
ซึ่งนายแพทย์คนเก่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมจากโรงพยาบาลรามาธิบดี นายแพทย์พูลเกียรติ สุชนวณิช กล่าวถึงการเกิดรังแคว่า “อาการหนังศีรษะแห้งคืออาการที่ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะสูญเสียน้ำหรือความชุ่มชื่นจากการระเหยจนเกิดอาการแห้ง มีลักษณะเหมือนกับรอยแผ่นดินแตกแห้ง ส่งผลทำให้หนังศีรษะทนทานต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกได้น้อยลงหรือเสียความสมดุลจนเกิดอาการอักเสบ ค่อยๆ กลายเป็นขุยสีขาวบนหนังศีรษะ จากนั้นขุยจึงเริ่มแตกลอกออกเป็นแผ่นและกลายเป็นรังแค...
ดังนั้น อาการ “หนังศีรษะแห้ง” ที่คนมักมองข้ามจึงอาจเป็นจุดเริ่มต้นของอาการรังแคเรื้อรัง หรืออาจเป็นอาการแสดงเริ่มต้นของโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น โรคต่อมไขมันในหนังศีรษะอักเสบหรือ “เซ็บเดิร์ม” โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นแพ้สัมผัส หรือโรคภูมิแพ้ตนเองที่อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงอย่างรุนแรง”
โดยเจ้าอาการหนังศีรษะแห้งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจาก “กรรมพันธุ์” เช่น อาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่มีชั้นเคลือบผิวหนังและผิวบริเวณหนังศีรษะที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้เกิดปัญหารังแคได้บ่อยและง่ายกว่าคนปกติ และจาก “ความเครียด” ที่ทำให้สารสื่อประสาทบางชนิดเข้าไปกระตุ้นให้บริเวณหนังศีรษะเกิดอาการอักเสบ หรือจาก “สภาพอากาศ” โดยเฉพาะเวลานาน น้ำใต้ผิวบริเวณหนังศีรษะก็ยิ่งระเหยออกไปเร็วขึ้น ความชุ่มชื่นก็ยิ่งลดลงซึ่งส่งผลให้หนังศีรษะแห้งเร็วขึ้น รวมถึงอาจเกิดจาก “การสระผม” ที่ปราศจากการดูแลหรือเติมเต็มความชุ่มชื่นหลังสระผม เพราะทุกครั้งที่เราสระผมนั้นเท่ากับเราล้างความชุ่มชื่นของหนังศีรษะออกไปด้วยเช่นกัน
นอกจากการเกิดรังแคแล้ว อาการ “หนังศีรษะแห้ง” ยังอาจส่งผลให้เกิดอาการคัน และกระตุ้นให้เกิดการสัมผัสและจับบริเวณหนังศีรษะบ่อยขึ้น ยิ่งสัมผัสบ่อยครั้งมากขึ้น ซ้ำๆ เรื่อยๆ ก็ยิ่งกระทบต่อบริเวณรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะทำให้เกิดอาการอักเสบ ซึ่งหากเกิดการอักเสบมาก รูขุมขนก็จะปิดลง ทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ และทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบางอย่างถาวร จนสูญเสียบุคลิกภาพและความมั่นใจในที่สุด
ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาใหญ่สำหรับศีรษะและเส้นผมที่เกิดจากปัญหาหนังศีรษะแห้ง นายแพทย์พูลเกียรติ สุชนวณิช จึงได้แนะนำ 3 เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น คืนความมั่นใจให้หนังศีรษะได้
1. อย่าสัมผัส ถูหรือเกาหนังศีรษะมากเกินไป เพราะการสัมผัสหนังศีรษะบ่อยๆ อาจเป็นการกระตุ้นทำให้หนังศีรษะหรือรูขุมขนบริเวณผิวหนังศีรษะเกิดการอักเสบ หากการอักเสบมีความรุนแรง รูขุมขนอาจเกิดการปิดตัวจนทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้
2. รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี น้ำมันปลา และโอเมก้า 3 จากผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ฝรั่ง แอปเปิล น้ำมันจากธัญพืช ถั่วเปลือกแข็ง และปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ฯลฯ เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังบริเวณหนังศีรษะให้แข็งแรง ทนทานต่อปัจจัยกระตุ้นภายนอกที่อาจส่งผลต่อผิวหนังบริเวณหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงอาหารทะเล ของหมัก
ของดอง และแอลกอฮอล์ เพราะอาหารจำพวกนี้มีฤทธิ์ในการกระตุ้นอาการภูมิแพ้ต่างๆ รวมถึงอาการภูมิแพ้ของผิวหนังบริเวณหนังศีรษะ
3. เลือกแชมพูที่มีประสิทธิภาพในการขจัดรังแคและช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้หนังศีรษะ ด้วยการเลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นให้หนังศีรษะ เพื่อคงความสมดุลและรักษาความชุ่มชื้นบนหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งใช้ครีมบำรุงผมหลังสระผมทุกครั้ง เพื่อเป็นการบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะแข็งแรง อย่าง “เคลียร์ คอมพลีต ซอฟต์ แคร์” แชมพูและครีมนวดผมสูตรผสานคุณค่าทรีตเมนต์ ที่ให้ความชุ่มชื่นอย่างล้ำลึกถึงหนังศีรษะเทียบเท่าคุณค่าจากน้ำแร่ 1,000 ลิตร เพื่อผมนุ่มลื่นขึ้นถึง 4 เท่า และหนังศีรษะที่แข็งแรง ป้องกันปัญหาการกลับมาของรังแคอย่างมั่นใจ คงความชุ่มชื่น :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/