ฝ้าย-นภัทร บุญตานนท์ ผู้หญิงตัวเล็กกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ “ดาษดา”

>>จากความชื่นชอบดอกไม้และธรรมชาติ สู่ความใช่ครั้งสำคัญในการทำธุรกิจของ “ฝ้าย-นภัทร บุญตานนท์” กับสารพัดโปรเจกต์ใหญ่ยักษ์ทั้งเป็นผู้ส่งออกดอกไม้ โรงแรม และดาษดา แกลอรี่ สถานที่จัดโชว์ดอกไม้สุดเทรนดี้บนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่กำลังถูกกล่าวถึงมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง

“ฝ้ายต้องพยายามปรับตัวมากเลยค่ะ เพราะธุรกิจน้ำมันและธุรกิจดอกไม้มันต่างกันมาก” ฝ้ายเล่าถึงปัญหาที่เธอต้องเผชิญในการเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนอย่างเต็มตัวทั้งในบริษัท PSP Group กลุ่มธุรกิจคลังน้ำมันและโรงผลิตน้ำมันหล่อลื่นรายใหญ่ของประเทศ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าฝ้ายเป็นผู้หญิงที่ทรงพลังและมีความมุ่งมั่นมาก เธอใช้เวลาเกือบทั้งหมดแบ่งให้กับทั้งสองธุรกิจพอๆ กัน

แต่สำหรับธุรกิจดอกไม้และโรงแรมภายใต้แบรนด์ดาษดานี้ล้วนเกิดจากความชอบดอกไม้และธรรมชาติของครอบครัวบุญตานนท์ โดยฉพาะคุณลุงของฝ้าย “ดร.ปวเรศ บุญตานนท์” ซึ่งเป็นผู้จุดประกายธุรกิจดังกล่าวว่ามันน่าจะเป็นรูปเป็นร่างได้ “ตอนแรกเราก็ปลูกกันเป็นงานอดิเรกของที่บ้านค่ะ แต่ด้วยความชอบเราเลยพยายามหาพันธุ์ดอกไม้แปลกใหม่มา จนเกิดไอเดียกันว่าทำไมเราไม่ปลูกขายไปเลยล่ะในเมื่อเราก็มีที่ทางพร้อมอยู่แล้ว”

และแทนที่จะเริ่มจากตลาดในประเทศ ฝ้ายกลับเริ่มตีตลาดต่างประเทศทันที เธอเล่าให้ฟังว่าใช้เวลาเป็นเดือนในการไปหาตลาดถึงตะวันออกกลาง สรุปสุดท้ายได้ตลาดมา 4 ประเทศ ทั้งนี้ทั้งนั้น ธุรกิจของฝ้ายไม่ใช่การขนส่งดอกไม้ออกไปขายโดยตรง ซึ่งเสี่ยงต่อการที่ดอกไม้อาจจะช้ำหรือเสียหาย แต่เป็นการทำสัญญากับผู้เพาะปลูกในประเทศนั้นๆ ฝ้ายเล่าถึงวิธีการทำธุรกิจของเธอว่า “เราหาผู้ร่วมลงทุนที่นั่นและให้เขาสร้างเรือนกระจกขึ้นมา แล้วเราจะส่งดอกไม้แบบที่ยังไม่บานไปให้ แต่พอเขาเลี้ยงไปได้สักสองสัปดาห์ดอกไม้เหล่านั้นก็จะบานพร้อมจำหน่ายพอดี”

หลังจากที่ทำธุรกิจส่งออกดอกไม้มาได้สักพัก ฝ้ายจึงตัดสินใจสร้างดาษดา แกลอรี่เพื่อให้คนอื่นได้ร่วมชมความงามของดอกไม้จากแบรนด์ของเธอ ซึ่งในแกลเลอรีจะแบ่งเป็นส่วนๆ ได้แก่ ส่วนจัดแสดงดอกไม้และส่วนของร้านอาหาร โดยดอกไม้ทั้งหมดที่ใช้ในแกลเลอรีเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากยุโรปแต่นำมาเพาะปลูกในไทย “ฝ้ายอยากให้คนได้รู้ว่า บ้านเราก็สามารถปลูกดอกไม้เมืองหนาวได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องอิมพอร์ตเข้ามาเสมอไป” ก่อนหน้านี้ดาษดา แกลอรี่จะเปิดให้เข้าชมเป็นช่วงๆ แต่ล่าสุดสาวฝ้ายบอกกับเราว่าอีกไม่นานเกินรอจะเปิดให้เข้าชมแกลเลอรีได้ตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน

ด้วยปัจจัยหลายๆ ด้านทั้งพื้นที่ที่เขาใหญ่นับพันไร่ของครอบครัว และตัวดาษดา แกลอรี่ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักท่องเที่ยว โครงการโรงแรมดาษดาจึงเกิดขึ้น ฝ้ายเล่าถึงที่มาของโรงแรมว่า “พอทำแกลเลอรีมาได้ประมาณปีหนึ่ง ฝ้ายคิดว่าเราน่าจะพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นโรงแรมได้นะ และไหนๆ เราก็มีธุรกิจดอกไม้อยู่แล้วจึงใช้ดอกไม้มาเป็น gimmick ประจำโรงแรมของเรา” เป็นเพราะความช่างคิดของฝ้ายจึงทำให้โรงแรมดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้

“คอนเซ็ปต์ของโรงแรมเราคือ Close to Nature หรือใกล้ชิดธรรมชาตินั่นเอง ห้องพักทุกห้องได้รับการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกสบาย เป็นธรรมชาติสำหรับแขกผู้เข้าพักทุกคน” โรงแรมดาษดาเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า โดยโครงการแบ่งออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกได้แก่อาคารห้องพักจำนวน 72 ห้อง และวิลล่าอีก 10 หลัง ส่วนเฟสที่สองซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นจะประกอบด้วยห้องสวีตและวิลล่าอีกจำนวน 60 ยูนิตเลยทีเดียว

แต่ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครคงต้องยกให้ห้องประชุมสไตล์กลาสเฮาส์ เป็นห้องกระจกซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเขาใหญ่ได้ชัดเจน และแทนที่จะปูพรมเหมือนห้องประชุมทั่วไป ฝ้ายเลือกปูด้วยหญ้าแทน เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโรงแรมมากที่สุด และในอนาคตอาจจะขยายธุรกิจโรงแรมไปเปิดสาขาที่เวียดนาม “ถ้าAEC เปิดเมื่อไหร่ และโรงแรมที่นี่อยู่ตัวแล้ว ฝ้ายคิดว่าประเทศเวียดนามน่าจะเวิร์กพอสมควรในการขยายสาขาของเราออกไปค่ะ” ต้องเรียกว่าเธอคนนี้มีโปรเจกต์ต่อไปเรื่อยๆ ได้ตลอดเวลา

เมื่อถามถึงความฝันของฝ้ายในอนาคตอันใกล้ เธออยากจะสร้างให้ดาษดาเป็นแบรนด์ดอกไม้ครบวงจร ทั้งจำหน่ายดอกไม้และอุปกรณ์ต่างๆ ในการจัดดอกไม้ด้วยเช่นกัน “อยากให้เมื่อไหร่ที่คนนึกถึงดอกไม้ ต้องนึกถึงดาษดาของเราค่ะ” ฝ้ายบอกอย่างมั่นใจ

สำหรับผู้ที่สนใจจะไปเยี่ยมเยียน “ดาษดา” ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ กำลังมีงานเทศกาลดอกไม้ Floral Coral ซึ่งเป็นการเนรมิตเรือนกระจกให้กลายเป็นโลกใต้น้ำที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ จัดแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึงต้นปีหน้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dasada-happiness.com/

สร้างสมดุลชีวิตง่ายๆ สไตล์ ฝ้าย นภัทร

ถึงแม้จะทำงานหนักเพียงใด สาวฝ้ายบอกว่าเราต้องหาสมดุลให้เจอ วันทำงานเธอก็ทำงานเต็มที่ทุกวันตั้งแต่จันทร์-ศุกร์ แต่สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์เธอจะแบ่งเวลาไว้ให้ครอบครัวและเพื่อนๆ โดยเฉพาะ ด้วยการจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวกันเองแบบสบายๆ ที่บ้าน

นอกจากนี้แล้ว การเดินทางไปทำงานของเธอก็นับว่าเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง ฝ้ายจะเลือกเดินทางไปเขาใหญ่ตั้งแต่เช้า ได้ชมวิวทิวทัศน์รวมไปถึงความน่ารักของสัตว์เลี้ยงต่างๆ เช่น เป็ด ห่าน หรือนกยูงที่ไร่ของเธอ ฝ้ายยืนยันว่าสมดุลของชีวิตนั้นเราสร้างเองได้ โดยการเลือกทำสิ่งที่เราชื่นชอบและรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น เพียงเท่านี้ความสุขก็อยู่ในมือของคุณแล้ว :: Text by FLASH
ร้านกาแฟน่ารักสไตล์กลาสเฮาส์ La Lalla