>>อีกครั้งที่ “เธียร์รี วาซแซร์” (Thierry Wasser) นักออกแบบ-ผู้ปรุงสูตรน้ำหอมแห่งเกอร์แลง (Guerlain) ได้นำความรู้สึกซึ่งนำมาจากกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกเฉกเช่นรักแรก หลงใหลจนมิอาจลบไปจากใจ
ลา เปอติต ฮ็อบ นัวร์ (La Petite Robe Noire) น้ำหอมกลิ่นล่าสุดจากเกอร์แลง มาจากภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายว่า เดรสดำตัวสั้น ซึ่งเป็นเสื้อผ้าคลาสสิกที่ผู้หญิงทุกคนควรมีไว้อย่างน้อย 1 ชุดในตู้เสื้อผ้า ถูกรังสรรค์มาจากเสน่ห์อันหรูหราในความงามสง่าแบบปารีเซียง ด้วยการปรุงแต่งและเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่หัวน้ำหอมสูตรลับที่เธียร์รีในฐานะนักปรุงน้ำหอม ได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหากลิ่นหอมใหม่ๆ
โดยคราวนี้เขาหยิบอารมณ์หวานรัญจวนดุจได้กลิ่นมาการ็องรสกุหลาบอาบอยู่บนผิวกาย ความสดชื่นแบบส้ม-มะนาว อันได้จากมะกรูดในกลิ่นแรกของเกอร์ลินาด ผสานรวมเข้ากับกลิ่นกุหลาบ, มะลิ และดอกส้ม ซึ่งถูกเก็บด้วยมือในยามอรุณรุ่ง ก่อกลิ่นหอมบางเบา เย้ายวน แสดงถึงความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจน
กลิ่นกลางถ่ายทอดบุคลิกเด่นแบบฉบับเกอร์ลินาด นั่นคือความหอมหวานดุจขนมที่รอการลิ้มลอง ในโครงสร้างนี้ ความหอมหวานของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยความหวานฉ่ำแบบน้ำผลไม้ อันได้จากเชอร์รีฉ่ำชุ่ม, แอปเปิล และแบล็กเคอร์แรนท์ ก่อความรู้สึกเสมือนเมื่อต้องหยุดมองซ้ำสองไปที่หญิงสาวในชุดดำเพื่อค้นหารายละเอียด สาเหตุซึ่งใครๆ ก็ไม่สามารถละสายตาไปจากเธอ
สุดท้าย เพื่อคงบุคลิกกลิ่นผิวกายที่คล้ายจะรวมเป็นหนึ่งกับน้ำหอม อำพันขาวถูกนำมาใช้ร่วมกับมัสก์บริสุทธิ์เพื่อก่อสัมผัสเนียนละไมดุจแพรไหมที่นำมาใช้ตัดเย็บชุดเดรสสั้นสีดำ ที่แนบสนิทรับกับทุกสัดส่วนของผู้สวมใส่ราวกับเป็นผิวที่สอง เป็นการปกปิดที่เปิดเผยโดยแทบไม่เหลือสิ่งใดไว้ให้จินตนาการ
และกลิ่นหอมอันรัญจวนเหล่านั้นถูกบรรจุลงในขวดสัญลักษณ์เกอร์แลงทรงสี่เหลี่ยม ฝาจุกรูปหัวใจคว่ำ ที่ปัจจุบันยังคงเป็นรูปทรงของขวดน้ำหอม L’Heure Bleue และ Mitsouko ที่แม้ว่ารูปทรงจะเก่าแก่เกือบ 100 ปี แต่ยังเป็นที่ประทับใจ!
นอกจากนี้ เขายังมีเทคนิคการฉีดน้ำหอมเกอร์แลงที่ไม่เหมือนใครมาแนะนำสาวเดรสสั้นสีดำ ที่น่าค้นหาทุกคนด้วย
1. ฉีดน้ำหอมลากเป็นแนวมาทางแขนด้านซ้ายจากบน-ล่าง
2. ฉีดลงมาตามแนว neckline ด้านหน้า
3. จบด้วยการฉีดลากกลับมาด้านบนทางแขนขวา
และเคล็ดลับที่จะช่วยให้น้ำหอมหอมฟุ้งยาวนานนั้น แนะนำให้ลองฉีดน้ำหอมลงตรงบริเวณขอบของชุด dress ดู คราวนี้เราก็จะกลายเป็นสาวปารีเซียงร่างสะโอดสะองที่มีท่วงท่าสดใส และมีกลิ่นหอมที่แสนละเมียดละไมในทุกครั้งที่เคลื่อนกาย
Profile :: Thierry Wasser
เขาเริ่มเป็นนักปรุงน้ำหอมให้กับ Guerlain ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 ด้วยความสามารถในการใช้จมูกในการแยกแยะกลิ่น อันเป็นธรรมเนียมของ Guerlain มากว่า 180 ปี ซึ่งความโดดเด่นของเขาที่แตกต่างจากคนอื่นในอุตสาหกรรมน้ำหอมคือ ความเป็นอิสระและเปิดกว้างต่อสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆ รอบตัว รวมถึงความมีอารมณ์ขัน จึงทำให้เค้าเปิดรับแรงบันดาลใจได้หลากหลาย
บทบาทในการเป็นนักปรุงน้ำหอมของเค้าเริ่มจากแรงบันดาลใจที่ได้รับการผลักดันจากดนตรีซิมโฟนี และออเคสตรา เขาเริ่มพัฒนาความสามารถในการดมกลิ่น โดยการสะสมสมุนไพรแห้งจากแถบชนบทของสวิตเซอร์แลนด์ อันเป็นถิ่นที่เค้าเติบโตขึ้นมา จนกระทั่งได้เริ่มสร้างสรรค์น้ำหอมที่เกิดจากการผสมกลิ่นที่ปกติมักไม่ค่อยได้ใช้ด้วยกัน รวมถึงไปเข้ารับการฝึกดมกลิ่นจนได้รับประกาศนียบัตรทางด้านพฤกษศาสตร์
หลังจบการศึกษาจากโรงเรียน Givaudan Perfumery School ที่สอนในด้านการปรุงน้ำหอม เขาได้เข้าร่วมงานกับ Firmenich ในปี 1993 และได้ไปใช้ชีวิตที่ New York ถึง 9 ปี จนกระทั่งกลับมาที่ Paris ในปี 2002
Thierry Wasser ได้เข้าร่วมสืบทอดจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ในการปรุงน้ำหอมอันยาวนานของ Guerlain ในปี 2007 โดยได้สร้างน้ำหอมกลิ่น Iris Ganache (Quand vient la pluie) และปัจจุบันนี้เค้ายังร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Jean-Paul Guerlain ซึ่งยังคงบทบาทของที่ปรึกษาของ Guerlain และยังร่วมงานกับ Sylvaine Delacourte ซึ่งเป็นผู้อำนวยการด้านการพัฒนาน้ำหอมมาตั้งแต่ปี 2002 :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net