xs
xsm
sm
md
lg

“ภัทรา โชติวิทยะกุล” ผู้หญิงคลั่งงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ในแวดวงไฮโซ ชื่อของ ลูกน้ำ-ภัทรา โชติวิทยะกุล อาจไม่เป็นที่คุ้นหูนัก หากแต่ในแวดวงการผลิตเครื่องบิน ชื่อของเธอกลับได้รับการยอมรับในฐานะวิศวกรสาวไทยอายุน้อย ที่ยักษ์ใหญ่ด้านการบินอย่าง โบอิ้ง และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ชักชวนไปร่วมงาน แต่ความสำเร็จในหน้าที่การงานตั้งแต่อายุน้อยๆ กลับกลายเป็นบทเรียนอันแสนสาหัส ให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่แบบ 360 องศา

 
ลูกน้ำ-ภัทรา ผู้หญิงตัวเล็กแต่กลับเลือกเรียนวิศวกรรมอุตสาหการ Bachelor of Science, Industrial and Systems Engineering ที่เซาต์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบเธอเริ่มต้นการทำงานเป็นวิศวกรอุตสาหการ บริษัท เดอะโบอิ้ง จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติงานในส่วนของ Integrated Defense Systems เกี่ยวกับนาซ่า ซึ่งต้องดูเรื่องผลิตชิ้นส่วน ในห้องเครื่อง, ห้องที่คนอยู่ และห้องครัว ซึ่งจะต้องส่งขึ้นไปประกอบในอวกาศ

“ตอนจบสมัครงานไว้หลายที่ค่ะ แต่เลือกโบอิ้ง เพราะชอบอะไรที่แปลกใหม่ท้าทาย อีกอย่างคือ ที่นี่เขารับเพียงปีละ 4 คน แล้วเราติด เข้าไปทำก็ตื่นเต้น เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เห็นว่าในจรวดเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง? แล้วช่วงที่ทำงานตรงนั้น ทางบริษัทก็ส่งไปเรียนปริญญาโท พอต้องทำงานด้วยเรียนด้วย น้ำกลัวช้า เลยขอโบอิ้งว่าไปเรียนเองดีกว่า จบมาโบอิ้งจะให้ทำต่อ แต่พอดี บริษัทยูไนเต็ด แอร์ไลน์ สหรัฐ มีโบอิ้ง 777 มาใหม่ ก็มีคนมาชวนไปทำโปรแกรม เลยตัดสินใจไปเป็นวิศวกรอุตสาหการ ที่ยูไนเต็ด เพราะที่โบอิ้งเราก็รู้หมดแล้วว่า สร้างจรวดอย่างไร สร้างกระสวยอวกาศอย่างไร”

 
เมื่อถามถึงปัญหาและอุปสรรค จากที่คลุกคลีกับแวดวงการผลิตเครื่องบินมีอย่างไร เธอบอกว่าไม่มี เพราะเพื่อนร่วมงานเป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด เวลาทำงานก็จะทำกันแบบจริงจัง แลกเปลี่ยนความคิดกัน จึงไม่มีปัญหา แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบศึกษาความแปลกใหม่ เมื่อ บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา มายื่นข้อเสนอตำแหน่ง Senior Manufacturing Engineer ลูกน้ำจึงเลือกไปทำงานที่นั่น

ตลอด 10 กว่าปีที่ลูกน้ำทำงานให้ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ เธอยอมรับว่าสนุกมาก แต่งานก็หนักมาก จนไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ “ที่อินเทลทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าได้พักทานข้าวเที่ยงครั้งเดียว แล้วทำงานต่อจนเลิก ใช้ร่างกายเปลืองมาก ไม่มีเวลาปาร์ตี้ ส่งผลต่อสุขภาพมาก ทำได้ 3 ปีก็ลาออก ขอกลับมาเมืองไทย”

 
ที่เมืองไทย ลูกน้ำก็ยังเรียกได้เป็นคนคลั่งงาน เมื่อกลับมา เธอก็มาเป็นครูสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยหลายแห่ง แล้วจุดพลิกผันก็มาถึง เมื่องานหนักเกินตัว ทำให้ป่วยเป็นภูมิแพ้ ลมพิษอย่างหนัก ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ระยะหนึ่ง จุดนี้ทำเธอรู้ว่า สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ

“ช่วงนั้นมีเพื่อนเอาเห็ดหลินจือ “นิสสัน เรชิ” มาให้ทานแล้วดีขึ้นมาก พอซื้อกินเองก็หาลำบาก แล้วเราก็รู้สึกว่าอยากให้คนใกล้ตัวได้ลอง เลยติดต่อบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นขอนำมาขายในไทย น้ำใช้เวลาเจรจากับญี่ปุ่น 3 ปี กว่าจะได้เป็นตัวแทนจำหน่าย เห็ดนิสสัน เรชิ เป้าหมายตรงนี้คือ อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี ตอนนี้ขายได้ 4 เดือนแล้วค่ะ ผลตอบรับก็ค่อนข้างดี ลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกค้าคนสำคัญๆ ที่พอทานแล้วเขาเห็นผลจริงๆ"

 
สำหรับการก้าวข้ามมาทำธุรกิจของตัวเองภายใต้ชื่อบริษัท ธราภา ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้น ถามว่ามีผลต่อความรู้สึกเรื่องการทำงาน จากเดิมที่เคยอยู่ในแวดวงการผลิต หรือไม่นั้น ลูกน้ำบอกไม่เลย

“น้ำคิดว่าชีวิตต้องมีชาเลนจ์ ไม่ได้แค่ว่าหยิบสินค้าตัวหนึ่งมาแล้วขาย อันนี้ เหมือนเราเอาสิ่งดีให้เพื่อนมนุษย์ ตรงนี้ก็เหมือนกับเรามาสร้าง มาทำตลาดใหม่ น้ำถือว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเหมือนกัน และสิ่งที่เราทำก็สำเร็จหมด อย่างเจรจาเรื่องเห็ด มีหลายคนไปนะคะ น้ำเป็นผู้หญิงคนเดียวก็บินไปมา พูดญี่ปุ่นไม่ได้ด้วย เลยต้องพกล่ามไปหนึ่งคน สุดท้ายเราก็สำเร็จตรงนี้ น้ำพอใจแล้ว” ลูกน้ำกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่สดใส

 
สุดท้าย เมื่อหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ลูกน้ำบอกว่า จะใช้เวลาในการพักผ่อนมากขึ้น และปลายปีมีแผนไปพักผ่อนต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการทำงาน เธอยังบอกว่า ยังไม่ทิ้งอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังมีแผนจะคลอดโปรเจกต์ใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เพราะทุกสิ่งที่พบเจอ ล้วนเป็นเรื่องท้าทายที่เธออยากลองทำทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น