xs
xsm
sm
md
lg

แค่ดื่ม “คอลลาเจนผง” แล้วเต่งตึงขาวจั๊วะ เรื่องจริงหรือเพ้อไปเอง!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

นับวันวัฒนธรรมความบ้า "ขาว" จะยิ่งทวีความแรงมากขึ้น เอะอะขอขาวใสไว้ก่อน สุขภาพมาที่หลัง ผลิตภัณฑ์เพิ่มความขาวใสในรูปแบบกินดูจะปลุกใจผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่า สิ่งที่กินเข้าไปเขายัดส่วนผสมอะไรในฉลากบ้าง แม้จะขาวเพียงชั่วครู่ชั่วยาม ตังค์หมดเลิกกินก็หายขาว พวกนางก็ยอม!

และความขาวแบบง่ายๆ มักครองใจคนรุ่นใหม่เสมอ เทรนด์ใหม่ล่าสุด! คอลลาเจน (Collagen) ในรูปแบบผง 1 ซองต่อ 1 วัน จึงตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซองเดียวชงกับน้ำ หรือเติมในอาหารง้ายง่าย

“ผิวขาว หน้าใส เร่งด่วน เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ !! โดดเด่นด้วยคอลลาเจนเข้มข้น ไม่ต้องฉีดปลอดภัย 100%”


นี่คือตัวอย่างคำโฆษณาสรรพคุณของเจ้าคอลลาเจนผง สาวกความขาวจึงแห่ซื้อมากินเพราะหวังว่าจะขาวและเต่งตึงได้ประโยชน์ 2 เด้ง

นอกจากจะมีส่วนผสมของคอลลาเจนเป็นตัวหลักแล้ว ยังอัดแน่นไปด้วยวิตามินที่ทำให้ขาวขึ้นเช่น วิตามินซี และสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน ด้วยแน่ะ

อ๊ะ! แต่มิใช่ว่าผลข้างเคียงของคอลลาเจนผงจะไม่มีนะจ๊ะ สาวเรานอกจากจะหน้าตาสะสวย ผิวพรรณเต่งตึงแล้ว ความคิดต้องชาญฉลาด ฟังหูไว้หูกันไว้ด้วย ลองฟังประสบการณ์ตรงของสาวผู้อยากขาวเสียก่อน

"แก อย่าไปเชื่อโฆษณามากนักเลย กินแล้วขาวภายใน 7 วันอ่ะ นี่ชั้นกินมาสองเดือนละ ยังดำตับเป็ดอยู่เหมือนเดิม"

เพื่อนสาวตัวดำผู้อยากขาวเล่าประสบการณ์คอลลาเจนผงยี่ห้อโด่งดังในเว็บไซต์ให้ฟังด้วยน้ำเสียงเซ็งเป็ด ยังไม่หนำใจนางยังเล่าอาการผลข้างเคียงให้ฟังอย่างเสียดายตังค์ว่า

"ยี่ห้อนี้เหรอแก โคตรจะแพงกล่องละสองพันกว่าแน่ะ กินได้แค่เดือนเดียว ชั้นกินเข้าไปนะ แกเชื่อปะ ชั้นวูบทั้งวันทั้งคืน หันหัวเร็วๆ ไม่ได้เลยนะ จะเป็นล้มทันที ใจชั้นนะสั่นมาก พอกันที ชั้นไม่กินละ สองเดือนโดนไปเกือบห้าพัน ไม่มีคนทักว่าขาวสักแอ่ะ เอาเงินไปซื้อหวยดีกว่า ยังได้ลุ้นได้รวยด้วย"

ดังนั้น เราจึงต้องรีบบึ่งไปถามทัศนะของแพทย์อีกมุมหนึ่งเพื่อเป็นการยืนยันการันตีกันดีกว่า ว่าคอลลาเจนผง นั้นทำให้ขาวเร็วได้จริงหรือแค่คำโฆษณาโกยตังค์เข้ากระเป๋าคนขาย

คอลลาเจนผงไร้ประโยชน์ ไม่ดูดซึม เปลือง!

"ครับ คอลลาเจนผง ไม่มีประโยชน์ แทบจะไม่ได้ดูดซึมอะไรเลย จะถ่ายทิ้งออกมาหมด เปลือง" นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Skeyndor Clinic กล่าว

"ถามว่า ทำไมคอลลาเจนผงถึงกำลังเป็นที่โด่งดัง คงจะเป็นเรื่องของการมาร์เก็ตติ้งมากกว่าครับ เพราะสารส่วนใหญ่ที่ออกฤทธิ์จะโดนกรดในกระเพาะทำลายหมด ยกเว้นวิตามินบางชนิดเท่านั้นเท่านั้นเอง

ถ้าจะได้ผล คอลลาเจนต้องฉีดเข้าไป หรือเป็นการใช้ทาข้างนอกและใช้เครื่องมือพิเศษผลักไอออนให้คอลลาเจนเข้าไป หรือมีเลเซอร์บางตัวไปกระตุ้น ไปสั่นเพื่อให้คอลลาเจนเกิดการกระตุ้น ปลุกให้คอลลาเจนตื่นตัว เพราะตอนนี้มันหลับอยู่ พอเข้าไปกระตุ้นมันก็จะตื่นนั่นเอง

และคอลลาเจนสามารถสร้างเพิ่มขึ้นมาได้ เช่น การร้อยไหม หรือการใช้เครื่องเลเซอร์ผลักหรือกระตุ้น จะทำให้คอลลาเจนตื่นตัวได้"

คุณหมอย้ำว่า "แต่ถ้าใช้กิน ไม่ค่อยเวิร์ก ไม่แนะนำ"

พร้อมอธิบายต่อว่า คอลลาเจนไม่ได้ทำให้ขาวหรอก แต่เป็นเพราะสารตัวอื่นมากกว่าซึ่งผลข้างเคียงเพียบ

"การกินแล้วแล้วขาวนั้น อาจจะเป็นเพราะการผสมกลูตาไธโอน หรือผสมสารปรอท ซึ่งสารปรอทนี่ขาวแน่นอน แต่ผลข้างเคียงเยอะมาก ทำให้ตับ ไต พังหมดเลยครับ ในระยะสั้นขาวจริง แต่ในระยะยาวเป็นผลเสียต่อร่างกายมาก ระยะยาวนั้นถ้าเป็นคนไข้ที่ไม่ได้มีโรคประจำตัว เช่น ตับไม่ได้วาย ไตไม่ได้วาย อาจจะราวๆ 1 ปี ติดต่อกันไตจะเกิดอาการวาย"

กินแล้วขาวออร่า “คิดไปเอง”

ดังนั้นการทานคอลลาเจนผง คุณหมอฟันโช๊ะว่า กินแล้วไม่ได้ขาวใสปิ๊งขึ้นหรอก แต่เป็นเรื่องของ "การคิดไปเอง”มากกว่า

"ถ้าไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการเงิน ถ้าซื้อได้ กินได้ รู้สึกดี ก็กินครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องของสุขภาพจิตด้วยนะ ถ้ากินแล้วรู้สึกดี รู้สึก healthy ราคารับไหว กินแล้วไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร ตรวจดูแล้วไม่ได้มีสารปรอท ไม่มีสารเคมีอื่นตกค้างก็สามารถกินได้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องต้องห้ามอะไร

แต่ถ้ากินแล้วจะหวังผลว่ามันจะต้องได้อย่างนั้นขาวได้อย่างนี้ก็คงไม่ใช่จุดประสงค์ เพราะการกินคอลลาเจนผงไม่ได้กระตุ้นให้ขาวได้จึงบอกไม่ได้ว่าทานกี่มิลลิกรัมต่อวันแล้วจะขาว น่าจะเป็นส่วนของกลูต้าไธโอนบวกกับวิตามินซีมากกว่า"

วูบเพราะขาดเลือด ขาวเพราะ "ซีด"

จากประสบการณ์ตรงของเพื่อนสาว ที่นางเล่าว่า ทานคอลลาเจนผงแล้ววูบ ลุกแล้วหน้ามืด ใจสั่น คุณหมอ ตอบว่า


“ส่วนผลข้างเคียง เช่น วูบ วิงเวียนศีรษะ ถ้าเขาเคลมว่าขาวใสภายใน 7 วัน และมีอาการวูบ น่าจะมีกลุ่มของยา Diuretic หรือ กลุ่มของยาขับปัสสาวะ ก็จะทำให้ปัสสาวะเยอะ และลดความดันบางตัว ทำให้ดูซีด จึงทำให้ดูขาว เพราะเกิดจากการซีดนั่นเอง

มนุษย์เราปกติจะมีเลือด เช่น ลองดูจากนัยตาเราซิ จะมีเลือดเส้นเลือดแดงๆ ให้เห็นอยู่ แต่ถ้ากินไปจะเกิดอาการซีดเพราะเลือดน้อยนั่นเอง จะทำให้มีผลในเรื่องความดัน เป็นอาการของ Orthostatic Hypotension เช่น ลุกขึ้นมาวิงเวียนศีรษะ ความดันต่ำ วูบ


ควรเลิกทานทันที และบำรุงความดันขึ้นมา เช่น กินผักใบเขียว ทานตับให้เยอะ ดื่มน้ำตามเยอะๆ จะช่วยได้ อันนี้ในส่วนของกรณีคนไข้ปกติไม่ได้มีโรคอะไร

หันมาทานผักผลไม้ อาหารที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน ผักใบเขียวทุกชนิด และผักที่มีสีสัน เช่น บีทรูท แครอท ฟักทอง และหากทานบล็อกโคลี่ได้จะมีประโยชน์มาก เพราะคอลลาเจนมาก กล้วยน้ำว้าก็เยี่ยมมาก แอปเปิล กีวี มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยได้ และมะเขือเทศ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า สามารถลดอาการ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายได้

ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ คุณพ่อของหมอเองมีต่อมลูกหมากโต ผมจึงให้คุณพ่อทานมะเขือเทศกินทุกวัน ผ่านไป 6 เดือน ไปอัลตราซาวนด์ดูก้อนมะเร็งลดลงไปเลย

สุดท้าย คุณหมอย้ำเตือนสาวๆ ผู้พิสมัยหลงใหลในความขาวว่า

“ต้องระวังเรื่องของมาร์เก็ตติ้งให้มาก เพราะคอลลาเจนจะช่วยให้ความชุ่มชื้นเต่งตึง แต่ไม่ใช่โดยการกิน ต้องเป็นโดยการผลัก หรือฉีดเท่านั้น”

ทำใจ! ไม่มีสารอะไรแก้ความเหี่ยวได้ถาวร

ข้อมูลทางการแพทย์ ระบุด้วยว่า ในปัจจุบันคอลลาเจนได้รับความสนใจในการใช้เป็นอาหารเพื่อเสริมสร้างสุขภาพผิวหนัง แต่ถ้าพิจารณาให้ละเอียดถึงภาวะร่วงโรยของผิวหนังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้งตามกาลเวลาแล้ว ก็พบว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างถาวร

วิธีง่ายๆ บ้านๆ จึงควรดูแลผิวด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของผิว โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินซีซึ่งจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน

ที่สำคัญควรดื่มน้ำที่สะอาดให้มาก พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอควบคู่กันไป ละเว้นจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสภาวะที่มีฝุ่นและควันพิษต่างๆ รวมทั้งแสงแดดจัดๆ ในช่วงเวลา 9.30-15.00 น. ซึ่งจะทำลายผิว




>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น