แม้จะมีโรงแรมอยู่ในเครือนับไม่ถ้วน แต่ เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อเบียร์ช้าง ก็ยังเดินหน้าลงทุนธุรกิจนี้อย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุด เปิดตัว โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการแบบเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ท่ามกลางแขกระดับเอลิสต์ของกรุงเทพฯ
งานนี้ เจริญควงคุณหญิงวรรณา มาเป็นประธานเปิดงาน โดยเล่าถึงความเป็นมาของ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ ผู้บริหาร อาคารปาร์คเวนเชอร์ ที่ตั้งของโรงแรมโอกุระ ว่าเป็นบริษัทเก่าแก่ที่ตั้งมา 30 กว่าปีแล้ว แต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนมีกลุ่มลงทุนต่างชาติ ได้เข้ามาสนับสนุนการเงินเพื่อลงทุน ปรากฏว่าเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีปัญหาภายในหลายๆ เรื่อง จนกระทั่งในปี 2550 ทั่วโลกมีเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก บริษัทยูนิเวนเจอร์มีการเปลี่ยนกลุ่มลงทุน โดยมี ตระกูลสิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และ ปณต สิริวัฒนภักดี ทายาทคนเล็กดำรงตำแหน่งประธานบริหารยูนิเวนเจอร์
“อาคารปาร์คเวนเชอร์ ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก เป็นอาคารที่มีความทันสมัย สวยงามโดดเด่น มีพื้นที่สำนักงานที่ดี มีแหล่งชอปปิ้งที่สะดวกกับผู้ที่มาใช้บริการ แต่ลูกๆ ได้มาปรึกษาผมว่า ทำอย่างไรจึงจะหาสิ่งพิเศษที่ยังไม่มีในเมืองไทยมาไว้ที่นี่ เราจึงเลือกโอกุระ ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก มาเป็นส่วนหนึ่งของอาคารแห่งนี้ อยู่ภายใต้การบริหารของลูกชายของผม ผมคิดว่าโรงแรมนี้สามารถให้บริการได้อย่างดี โดยเฉพาะ เมื่อมีการเปิดการค้าเสรีอาเซียน ที่จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น โดยประเทศไทยจะเป็นศูนย์รวมของการเดินทาง การลงทุนของผมครั้งนี้ เพื่อต้องการเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และเสริมด้านความผูกพันระหว่างประเทศที่เชื่อใจเรา” เจ้าสัวเจริญ กล่าว
ทางด้าน มร.โทชิฮิโร โอกิตะ ประธาน บริษัท โฮเท็ล โอกุระ จำกัด เผยว่า “ผมภูมิใจมากที่มีวันนี้ เพราะเป็นงานแบบที่ต้องอาศัยความร่วมมือ และทีมเวิร์ก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโอกุระ วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความท้าทายในการบริหารโรงแรมให้เป็นที่ 1 เพราะในญี่ปุ่นเราเป็นแบรนด์อันดับ 1 ใน 5 ที่ดีที่สุด ภายใต้ปรัชญาที่ต้องการมอบที่พักที่ดีที่สุด อาหารรสชาติเลิศที่สุด และบริการที่สุดแห่งความประทับใจ ที่ผสมผสานความเป็นไทยและความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว หวังว่าทุกท่านจะให้การสนับสนุนโรงแรมของเราตลอดไปครับ”
หลังจากประธานทั้ง 2 ฝ่ายกล่าวเสร็จ ก็เข้าสู่นาทีสำคัญคือ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ด้วยธรรมเนียมดั้งเดิมของญี่ปุ่น นั่นคือ การทุบฝาถังเหล้าสาเกแล้วดื่มเพื่อความเป็นสิริมงคล งานนี้ทั้งผู้บริหารทั้งฝั่งไทยและญี่ปุ่น ลงทุนใส่ชุดฮับปิแบบญี่ปุ่น พร้อมกับถือค้อนไม้ จากนั้นก็นับถอยหลังแล้วทุบพร้อมกันไปที่ฝาปิดถังสาเก จนแตก ตักสาเกใส่ถ้วย แล้ว “คัมปาย” ดื่มฉลองชัยกันอย่างชื่นมื่นถ้วนหน้า
จากนั้น ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานบริหารฯ ได้นำผู้ร่วมงานเคลื่อนตัวจากห้องบอลรูมชั้น 3 ขึ้นลิฟท์ไปปาร์ตี้กันต่อที่ สกายเลานจ์ ชั้น 24 ซึ่งมีทั้งเสียงเพลงเพราะๆ เครื่องดื่ม และอาหารรสเลิศหลายสัญชาติ ไว้ต้อนรับอย่างอลังการ