แม้ว่าราคาผักจะแพงมหาโหดแต่กระแสของคนกินเจปีนี้ก็คึกคักสวนกระแสทำให้รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คนเราเริ่มหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ เช่นเดียวกับอาหารเจที่เดี๋ยวนี้มีให้เลือกกินตั้งแต่ริมถนนไปยังห้างสรรพสินค้าถึงโรงแรมห้าดาวเหมือนกัน ทำเอาคนที่ไม่ได้กินเจบ่นกันเป็นแถวว่าหาของกินลำบาก
ผู้เขียนเริ่มกินเจเมื่อ 20 กว่าปีก่อนตอนคุณแม่เสียชีวิต เพื่อต้องการอุทิศส่วนกุศลในช่วงเวลาที่ละจากการเบียดเบียนสัตว์ให้แก่ดวงวิญญาณของคุณแม่ สิ่งที่ได้นอกจากจะอิ่มเอมใจที่ได้ตอบแทนพระคุณของแม่แล้วยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความเป็นคนชอบกินจึงทำให้ตระเวนหาอาหารเจกินอย่างมีความสุขชนิดที่เรียกว่า 9 วันยังตระเวนไปกินไม่ทั่วเลย อย่างปีนี้ไปเจอร้านขายอาหารเจใหม่ล่าสุดซึ่งบอกได้เต็มปากเต็มคำว่าภูมิใจนำเสนอ ชื่อ "เจ มันตรา" J MANTRA เป็นชื่อที่นำมาจากบทสวดของฮินดูแปลว่า ...ขอให้สุขภาพแข็งแรง...
ร้านนี้จะขายทั้งมังสะวิรัตและเจตลอดทั้งปี และเจ้าของร้านยังเป็นมังสะวิรัติด้วยจึงสรรหาแต่วัตถุดิบที่ปลอดภัยและให้ประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างผักที่ใช้ในร้านจะเป็นผักปลอดสารพิษที่สั่งโดยตรงจากสวนของ”ลุงไกล วังน้ำเขียว” แหล่งปลูกผักออแกนิกที่ใหญ่ของเมืองไทย
ความโดเด่นของร้านนี้ที่อดไม่ได้ต้องมาแนะนำคือรสชาติของอาหารเจที่เข้มข้น ทั้งกลิ่นและรสชาติอร่อยจนไม่ง้อเนื้อสัตว์ได้เลย ใครที่คิดว่ากินเจแล้วรสชาติจืดชืด ต้องมาท้าพิสูจน์ร้านนี้ดู ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีน อาหารไทยและอาหารสไตล์ฝรั่ง กลิ่นรสได้ใจใกล้เคียงของจริงที่สุด
ร้านนี้เปิดบริการได้ไม่กี่เดือน แต่เบื้องหลังการเตรียมการนั้นต้องส่งกุ๊กคนไทยไปเรียนรู้และฝึกฝนการทำอาหารเจที่ไต้หวันนานถึง 2 ปี คุณเก๋-จิราพร เชาว์เฉียบและคุณหยิม-ดลจิตต์ ไชยสุริวิรัตน์ สองสาวเจ้าของร้านเล่าว่าหุ้นส่วนเป็นคนไต้หวันที่กินเจเช่นกัน และที่ไต้หวันก็หันมากินเจกันเยอะขึ้นเนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งกันเยอะ ดังนั้นเรื่องอาหารเจของประเทศนี้จึงพัฒนาไปไกลมาก อย่างวัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์เจทั้งหลายก็ผลิตและส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศที่กินเจรวมทั้งเมืองไทยด้วย
มาที่ร้านนี้มีเมนูมังสะวิรัติและเจให้เลือกสั่งเป็นร้อย แต่ถ้าเข้าสู่ช่วงเทศกลเจก็จะขายเจทั้งหมด มาร้านนี้เมนูแรกที่ต้องสั่งมากินให้ได้คือ “หูฉลามน้ำแดง” ( 150 บาท) เสิร์ฟร้อน ๆ มาในกะทะทองเหลืองที่ตั้งอยู่บนเตาเซรามิค ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาก ทั้งหน้าตา รสชาติไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นเจ แค่ซดซุปน้ำแดงร้อน ๆ ลิ้นสัมผัสรสชาติที่หอมเข้มข้นเหมือนใส่เหล้าจีน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าซุปทั้งหมดเป็นน้ำสต็อคที่เคี่ยวจากสารพัดผักล้วน ๆ ปรุงกับสมุนไพรจีนที่ให้กลิ่นและรสชาติหอมหวาน ส่วน”หูฉลาม”เป็นของเลียนแบบทำจากถั่วเหลือง เหมือนมาก ๆ เคี้ยวแล้วกรุบ ๆ เมนูนี้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เต้าหู้นึ่งซีอิ้ว (120บาท) เมน฿นี้เลือกใช้เต้าหู้ญี่ปุ่นที่ให้เนื้อนุ่มเนียนละเอียด กลิ่นหอมเด่นชัด ราดด้วยซอสน้ำแดงกลิ่นหอมรสเข้มข้น ช่วยชูรสชาติด้วยเห็ดหอมและก้านคึ่นฉ่าย กินกันเพลิน ๆ ได้เลย
พล่าเห็ดกรอบ ( 120บาท ) จานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำได้สมศักดิ์ศรี เพราะใครที่ได้ลิ้มลองแล้วอร่อยจนหยุดไม่ได้เช่นกัน ใช้ขาเห็ดออเรนจิมาคลุกแป้งทอด ทีเด็ดอยู่ที่ส่วนผสมของแป้งที่กรอบนอกนุ่มในเพื่อให้ขาเห็ดมีรูปทรงเลียนแบบเนื้อไก่ ส่วนน้ำพล่าใช้น้ำพริกเผาเจปรุงออก 3 รสกินแล้วอร่อนยจี๊ดจ๊าดจริง ๆ
ร้านนี้ยังมีออเดิร์ฟเจไว้สั่งมากินเล่น ๆ อีกหลายอย่างเช่น เต้าหู้ทอด (99 บาท ) ทอดมันกุ้ง (120 บาท) แฮกึ้น(120 บาท) เต้าหู้น้ำแดง , ปอเปี๊ยะสยาม (99 บาท ) ไส้กรอกทอด ( 120 บาท) ฯลฯ หรือถ้าอยากลิ้มลองหลาย ๆ อย่างก็สั่งเป็นจานรวมมาก็ได้
ผัดหมี่ฮ่องกง (120บาท) ใช้เส้นบะหมี่นำเข้ามาจากไต้หวัน เส้นนุ่มละมุนลิ้นมาก ใส่ทั้งเห็ดหอม ถั่วงอก ผักกะหล่ำ คึ่นฉ่าย แครอท และไส้กรอกเจ รสชาติหอมอร่อยใช้ได้ทีเดียว
ตบท้ายด้วยขนมหวานที่อยากให้ลิ้มลองคือ ว่านหางจรเข้ลอยแก้ว ที่ไม่หวานเพราะใช้น้ำองุ่นขาวแทนน้ำเชื่อม จึงกลายเป็นการจับคู่รักคู่รสใหม่ที่ลงตัวมาก ๆ ขนมหวานถ้วยนี้เก็บไว้ตบท้ายเพราะคุณสมบัติของว่านหางจรเข้ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารด้วย เป็นการจบมื้อร่อยแบบเพอร์เฟค
บรรยากาศของร้านตกแต่งแนววินเทจหรู คุมโทนสีขาวสะอาดตา มีทั้งโซนติดแอร์ด้านใน หรืออยากจะนั่งชิว ๆ ก็เลือกนั่งหน้าร้านแบบโอเพ่นแอร์ได้ตามสบาย
ร้านเจ มาตรา ตั้งอยู่ที่โซน Canal Walk ที่ Mega Bangna เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. มีบริการดีลิเวอรี่ด้วย สนใจสอบถามได้ที่ 02-105-1921
**ราคานี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ**
Text by : ปราณ ชีวิน
Photo by : พลภัทร วรรณดี