xs
xsm
sm
md
lg

5 สุดยอดขนมไหว้พระจันทร์เจ้ายุทธจักร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ขนมไหวพระจันทร์” เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์ ปัจจุบันขนมไหว้พระจันทร์นี้กลายเป็นขนมเศรษฐกิจที่มีมูลค่าการตลาดปีละหลายร้อยล้านบาท โดยเฉพาะที่ฮ่องกซึ่งถือป็นต้นตำรับความอร่อยของขนมประเภทนี้ ถึงขนาดมีการส่งออกไปขายทั่วโลก
สำหรับเมืองไทยนั้นร้าน S&P ถือเป็นเจ้าแรกที่จุดพลุให้ขนมประเภทนี้กลายเป็นขนมติดตลาดที่ไม่เพียงแต่จะนำไปไหว้เท่านั้น ยังกลายเป็นขนมที่ซื้อหาไปกำนัลให้กับญาติผู้ใหญ่ และขยายไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆก็จะแสวงหาขนมไหว้พระจันทร์ที่อร่อยเพื่อนำไปมอบให้กับลูกค้า จนทำให้ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ของเมืองไทยเติบโตมากขนาดขายปีละไม่เกิน 45 วันแต่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
พอถึงเทศกาลนี้ที่ไรหลายคนมักจะมีคำถามว่า “ เจ้าไหนอร่อย???” วันนี้จึงขออนุญาตพาไปชิมขนมไหว้พระจันทร์อร่อยสุดยอดระดับเหลาของเมืองไทย โดยใช้ดัชนีชี้วัดจากยอดขายของห้างสรรพสินค้าพารากอน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์พรีเมี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและมีการเก็บสถิติยอดขายของแต่ละปีเอาไว้

**สุดยอดคัสตาร์ด**
ถ้าเอ่ยถึงขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดคงต้องยกให้ โรงแรมเพนนินซูล่า ฮ่องกง ที่ขึ้นชื่อว่าทำไส้คัสตาร์ดได้อร่อยที่สุดในโลกและผลิตขายเพียงไส้เดียวเท่านั้นที่ทำติดต่อกันมานานถึง 28 ปี ขนาดว่าโรงแรมเปิดขาย 10 โมงเช้า แต่ลูกค้ามายืนเข้าแถวยาวเหยียดตั้งแต่ 7 โมงแล้วเพราะกลัวจะไม่ได้กิน ซึ่งทางโรงแรมทำเพียงวันละ 300 กล่องเท่านั้นหมดแล้วหมดเลย ขนาดแค่ใบจองขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดก็ยังขายต่อได้เหมือนใบจองรถยนต์แบบบ้านเราเลย
ส่วนโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ ก็ครองเจ้ายุทธจักรขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดที่ขายดีที่สุดในเมืองไทยเช่นกัน โดยแจ็กกี้ โฮ เชฟประจำห้องเหม่ย เจียง เผยว่าได้รับการถ่ายทอดสูตรและกรรมวิธีการทำมาจากเชฟของโรงแรมเพนนินซูล่า ที่ฮ่องกง ด้วยรูปลักษณ์ขนมไหว้พระจันทร์ของที่นี่ไม่เหมือนใคร เป็นขนมลูกเล็กแป้งขนมสีเหลืองทองสุกปลั่งเปลือกกรอบนุ่ม ผ่าไส้ในออกมาจะเห็นคัสตาร์ดสีเหลืองส้มสดใส ให้กลิ่นหอมมันเนยเข้มข้นชัดเจน รสชาติหวานมันเหมือนกินขนมอบของฝรั่ง

เคล็ดลับของสูตรไส้คัสตาร์ดที่อร่อยนั้นอยู่ที่การเลือกวัตถุดิบที่เน้นคุณภาพ มีนมผง นมข้นหวาน เนยอย่างดีจากนิวซีแลนด์ ไข่ไก่ออร์แกนิค แป้งสาลี แป้งข้าวโพด น้ำตาล และแต่งสีด้วยผงคัสตาร์ด จึงทำให้ไส้ขนมออกมาเหลืองส้มชวนให้ลิ้มลอง
เชฟแจ็คกี้บอกว่แม้จะขายดีอย่างไรแต่กำลังผลิตมีประมาณ 7 - 8 พันชิ้นต่อวันเท่านั้นเพราะมีกำลังคนที่ทำเพียงเท่านี้ เพราะต้องการทำขายใหม่สดจากเตาทุกวัน ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดนี้ไม่ใส่ผงกันบูดจึงแนะนำให้กินใหม่สดแต่ถ้าเหลือต้องเก็บเข้าตู้เย็นได้ 10 วัน เวลาจะกินให้นำมาอุ่นในไมโครเวฟก็จะนุ่มอร่อยเหมือนอบใหม่ ๆ
ปัจจุบันนอกจากจะขายในโรงแรมแล้ว ยังส่งไปขายที่ห้างสยามพารากอน เอ็มโพเรียม เซ็นทรัลเวิล์ด และยังมีลูกค้าคอร์ปอเรทเจ้าประจำที่มาสั่งอาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ คาเธ่ย์แปซิฟิก ลุฟธันซา คาร์โก ฯลฯ. และปีนี้มีลูกค้าชาวฮ่องกงมาซื้อไป 100 กล่องเพื่อนำกลับไปแจกเพื่อนฝูงที่ฮ่องกง เพราะขี้เกียจไปเข้าแถวที่โรงแรมเพนนินซุล่า ฮ่องกงและที่สำคัญลูกค้าบอกว่ารสชาติ”ห๋อเจี๊ยะ” เหมือนกัน

**แชมป์หลายสมัย**
โรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มียอดขายขนมไหว้พระจันทร์ครองอันดับหนึ่งของห้างสยามพารากอนติดต่อมาหลายปีแล้ว แม้จะไม่ทำการตลาดหวือหวาแต่บรรดานักชิมที่เสาะหาของอร่อยมากำนัลกระเพาะก็รู้จักกันดีกว่าถ้าจะลิ้มลองขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนและโหงวยิ้งที่อร่อยก็ต้องแวะมาชิมกันที่นี่
ศักรินทร์ คันสร เชฟติมซำของห้องอาหารจีนแชงกรีล่า บอกว่าขนมไหว้พระจันทร์ของที่นี่เป็นสูตรฮ่องกงแท้ที่เชฟฮ่องกงคนเดิมทำขายมาตั้งแต่ 2531 ส่วนเชฟศักรินทร์ก็สืบสานสูตรนี้มานานกว่า 17 ปีแล้ว แต่เดิมขายเฉพาะที่ห้องอาหารของโรงแรม พอตอนหลังขยายไปตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ จึงต้องเพิ่มกำลังผลิต ปัจจุบันทำถึงวันละ 2 กะแม้กระนั้นขนมทุกชิ้นก็ยังทำด้วยมือทุกขั้นตอน
เชฟศักรินทร์บอกว่าเคล็ดลับของขนมไหว้พระจันทร์ที่อร่อยจะต้องเริ่มจาก “น้ำเชื่อม”ที่นำมาผสมกับแป้งเพื่อทำเปลือกขนมนั้น แต่ละที่ก็มีสูตรลับไม่เหมือนกัน ของที่นี่จะเริ่มเคี่ยวน้ำตาลก่อนจำทำถึง 2 เดือน เพราะน้ำตาลที่ดีจะทำให้แป้งห่อขนมบางนุ่มแทบเป็นเนื้อเดียวกับไส้ขนม
ขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ มีให้เลือกอร่อย 6 ไส้คือ ทุเรียน โหงวยิ้ง ลูกบัว ถั่วแดง คัสตาร์ด บัวหิมะไส้ลูกบัวสาหร่าย และพิเษาสำหรับปีนี้เป็น ไส้รังนก โดยเฉพาะไส้ทุเรียนที่ลูกค้าติดใจนั้นเกิดจากความพิถีพิถันของการเลือกวัตถุดิบจะต้องเลือกทุเรียนหมอนทองกวนจากสวนเจ้าประจำ เนื้อเนียนเหนียวและไม่หวานจัด ส่วนไส้โหงวยิ้งจะใส่สารพัดถั่วอาทิ อัลมอนด์ วอลนัท หนำหยั่น( จากประเทศจีนราคากิโลกรัมละ 2,500 บาท )งาขาว มะม่วงหิมพานต์ ใบมะกรูด แฮมยูนาน และมันหมูหั่นชิ้นเล็ก ๆ อบใหม่ ๆ กัดลงไปจะได้รสชาติหอมมันของถั่วเต็มปากเต็มคำ
ที่โดดเด่นของขนมไหว้พระจันทร์แชงกรีล่า กรุงเทพฯอีกอย่างคือ “ไข่เค็มแดง” สีแดงสดใหม่มาก เพราะเลือกจากเจ้าประจำและจะต้องดองเกลือตามวันที่กำหนดจึงจะได้ไข่แดงที่สีสดสวยและไม่เค็มจนเกินไป

**ช้าหมดอดกิน**
เมื่อเอ่ยถึบขนมไหว้พระจันทร์จะต้องมีของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ พ่วงไปด้วย เพราะที่นี่ทำขนมชนิดนี้ขายมาตั้ง 25 ปีแล้ว โดยใช้สูตรของเชฟฮ่องกงที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา ซึ่งเริ่มต้นครั้งแรกผลิตเพียง 300 กล่องจนถึงปัจจุบันมีความต้องการของลูกค้ามากขึ้นจึงเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4.5 หมื่นกล่อง หรือประมาณ 350,000 ชิ้นต่อปี
ขนมไหว้พระจันทร์ของที่นี่มีให้เลือก 4 ไส้ด้วยกันคือ ไส้ทุเรียน ลูกบัวขาว พุทราจีนและไส้คัสตาร์ดที่ถือว่าขายดีเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วน 60 % ของกำลังการผลิตทั้งหมด ขนมของที่นี่ยอดฮิตขนาดเปิดขายได้เพียง 2 อาทิตย์ก็มียอดสั่งจองทะลักเข้ามาไม่หยุด โดยเฉพาะลูกค้าคอร์ปอเรทใหญ่ ๆ ที่จองกันมากถึง 4 พันกล่อง
 

**ทุเรียนหอมอร่อย**
ปกติพิมพ์รูปขนมไหว้พระจันทร์ส่วนมากเป็นภาษาจีนหรือที่เกี่ยวข้องกับความเป็นจีน แต่สำหรับโรงแรมบันยัยทรี สาทรนั้นกลับใช้พิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์เป็นรูปต้นไม้ซึ่งเป็นโลโกของโรงแรม จึงทำให้เกิดความโดดเด่นรวมถึงความอร่อยจนลูกค้าจดจำได้ง่าย
เชฟสันติ สุขศิริวัฒนโรจน์ เป็นผู้คิดค้นสูตรขนมไหว้พระจันทร์ให้กับโรงแรมโดยนำสูตรจากฮ่อกงมาดัดแปลง ทำขายมาได้ 10 ปีแล้วเริ่มจากทำแจกลูกค้าที่มากินอาหารจีนที่ห้องอาหารจีนไบยุน ต่อมาลูกค้าติดใจในรสชาติจึงเริ่มทำออกขายบ้างปรากฏว่าขายดิบขายดีจนมียอดขายติดทอปไฟฟ์ของห้างสยามพารากอนทุกปี
ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของที่นี่ เชฟสันติบอกว่าจะต้องเลือกทุกกวนจากทางภาคใต้เท่านั้นเพราะไม่หวานจัด ทุกปีจะสั่งเจ้าประจำให้กวนพิเศษโดยใช้เนื้อทุเรียนเกือบ 100 % มีลูกบัวปนเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ไส้เหนียวจนเกินไป ต้องอบขนมให้สุดเต็มที่เวลายกขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนออกมาจากเตาอบร้อน ๆ นั้นกลิ่นทุเรียนจะหอมกำจายไปทั่ว

**โหงวยิ้งสูตรฮ่องกง**
ปิดท้ายเทศกาลฯด้วยขนมไหว้พระจันทร์ของโรงแรมคอนราดที่มียอดขายติดหนึ่งในห้าของห้างสยามพารากอน ซึ่งเชฟกัม เชฟประจำห้องอาหารจีนหลิว โรงแรมเล่าว่าทำขนมไหว้พระจันทร์ขายมาได้เพียง 7 ปีเท่านั้น โดยนำสูตรมาจากฮ่องกง
แต่เดิมทำลองตลาดก็ทำอยู่หลายไส้จนกระทั่งปัจจุบันเหลือเพียง 4 ไส้ซึ่งเชื่อมั่นว่าอร่อยจนลูกค้าติดใจ คือไส้ทุเรียน โหงวยิ้ง ลูกบัวและครีมคัสตาร์ด โดยเฉพาะโหงวยิ้งของที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น ๆ ซึ่งเชฟกัมบอกว่าใช้สูตรแบบฮ่องกงแท้ ๆ คือไม่ใส่ใบมะกรูดเพราะที่ฮ่องกงไม่มี แต่จะแต่งกลิ่นด้วยเปลือกส้มดองเพื่อให้ความหอม ส่วนถั่วก็เลือกใช้แต่ของสดใหม่เท่านั้นจึงทำให้ไส้โหงวยิ้งของที่นี่อร่อยเป็นที่เลื่องลือในยุทธจักร
ใครที่จะลิ้มลองความอร่อยของขนมไหว้พระจันทร์นั้นเชฟกัมแนะนำให้กินคู่กับชาจีนหลงจิ่นร้อน ๆ นอกจากจะช่วยให้รสชาติของขนมอร่อยกลมกล่อมยิงขึ้นแล้ว คุณประโยชน์ของชาชนิดนี้ยังช่วยล้างไขมันอีกด้วย
ตอนนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการขายขนมไหว้พระจันทร์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 กันยายนนี้แล้ว ใครสนใจอยากจะลิ้มลองขนมอร่อยของที่ไหนก็เชิญซื้อหากันได้เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น