ตอนนี้ถ้าใครถามหาร้านอาหารฝรั่งเศสใหม่ ๆ ที่อร่อย ตกแต่งร้านเก๋ ๆ คงต้องแนะนำให้ไปที่ร้าน SCARLETT เพราะที่นี่กำลังเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะต้องมาเยือนเพื่อลิ้มลองอาหารอันเลิศรสไปพร้อม ๆ กับดื่มด่ำบรรยากาศ nightlifeของกรุงเทพฯยามราตรี ชนิดที่แน่นแทบทุกคืน
SCARLETT ตั้งอยู่บนชั้นที่ 37 ของโรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ จี ถนนสีลมหรือเดิมก็คือห้องอาหารV9 Wine and Bar ของโรงแรมโซฟีเทลสีลมนั่นเอง ใครที่เคยไปเยือนห้อง V9 มาแล้ว ถ้ามาอีกครั้งคงจะจำไม่ได้แล้ว เพราะเขาปรับเปลี่ยนโฉมใหม่หมดให้ดูทันสมัยเหมือนเดินเข้ามาในร้านอาหารเก๋ ๆของมหานครนิวยอร์กทีเดียว
บรรยากาศของร้านโปร่งมีกระจกโดยรอบเพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นวิวเมืองได้เต็มตา มีที่นั่งทั้งอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ให้เลือกตามใจชอบ ที่พิเศษคือโต๊ะที่นั่งมีหลายแบบให้เลือกชิว ๆ จะเป็นที่นั่งแบบโซฟาแนววินเทจ หรือจะขึ้นไปนั่งห้อยขาบนโต๊ะไม้สูงแบบสตูก็ดูจะเก๋ไปอีกแบบ
ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในห้องห้องอาหารนี้จะได้รับการต้อนรับด้วยมุม Cold Cut อันตื่นตาตื่นใจ เพราะตั้งดักลูกค้าอยู่ด้านหน้าของทางเข้า แค่นี้ก็ยั่วน้ำย่อยในกระเพาะให้เริ่มทำงานแล้ว เพราะถือเป็นแหล่งที่รวบรวมบรรดาไส้กรอก แฮมรมควัน แฮมตากแห้ง ซาลามี่หรือไส้กรอกแห้ง และชีสจากแหล่งต่าง ๆ ดูจนละลานตาน่ากินไปหมด
โดยเฉพาะแฮมที่ยกมาทั้งขาตั้งอยู่บนสแตนโชว์สีสันของเนื้อตากแห้งที่แสนอร่อยอย่างน่าอัศจรรย์มีให้เลือกทั้งแฮมแห้งจาก Bayonne,Parma และแฮมจากหมูกีบดำ Pata Negra ที่มีชื่อจากสเปน
อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้นั่นคือรสชาติของอาหารที่รังสรรค์เมนูโดย เชฟมานูเอล มาร์ติเน่ซ์ (Manuel Martinez) เชฟมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาวจาก เลอ เฮอเล หลุยส์ที่ 13 แต่กระนั้นแนวอาหารที่นี่ก็ไม่ได้เลิศหรูจนต้องใส่สูทผูกไทมากินหรอกนะ เพราะเชฟตั้งใจให้เป็นอาหารฝรั่งเศสจานง่ายแบบบริสโท ซึ่งเลือกนำเสนออาหารดั้งเดิมหรือพื้นบ้านของแคว้นต่าง ๆ ของฝรั่งเศส ทั้งที่ปรุงจากสัตว์ปีกประเภทไก่บ้านพื้นเมือง เป็ด เนื้อวัวชั้นเยี่ยม ซี่โครงลูกหมูที่ในปัจจุบันแม้ตามเมืองใหญ่ ๆ ในฝรั่งเศสก็หาอาหารประเภทนี้มาลิ้มลองได้ยากแล้ว จะต้องขับรถไปไกลถึง ชนบทหรือหัวเมืองเท่านั้น
มาร้านนี้ไม่ต้องเรียกหาเมนูก็ได้ เพราะรายการอาหารต่าง ๆ จะเขียนขึ้นกระดานดำด้วยลายมือได้บรรยากาศของร้านแนวบริสโทจริง ๆ
เริ่มสั่งอาหารกินกันเลยดีกว่า มาร้านนี้เขามีจานเด็ดที่มาแล้วต้องสั่งหลายจานเหมือนกัน อุ่นท้องจานแรกด้วย Poached Eggs ( 360บาท) เป็นไข่ที่ต้มในไวน์แดงปิโนต์นัวร์ นาน 1 ชั่วโมงจนไข่ขาวสุกเนียนนุ่มแต่ไข่แดงยังเหนียวเป็นยางมะตูมอยู่ เวลากินต้องกินทั้งไข่กับซอสไวน์แดงไปพร้อมกันจะได้รสชาติความหวานหอมละมุน เป็นการเริ่มต้นที่ให้ความสุขทางรสชาติได้ดีทีเดียว
เคอเนลล์ เดอ โบรเชอท์ (quenelles de brochet)(760++) เมนูจากเด็ดเมืองลียง ฝรั่งเศส ทำจากปลาไพค์กับไข่ เนยและครีม หน้าตาของอาหารดูไม่ออกว่าทำจากปลา แต่ตักเข้าปากแล้วเหมือนกินมูสที่เนียนลิ้น ให้รสชาติหอมมันไม่มีกลิ่นคาวปลาเลย
อีกจานที่มาจากเมืองลียงเหมือนกันคือ Salade Lyonnaise (360 บาท ) สลัดผักพื้นบ้านในแบบลียง มีเบคอนเนื้อหนาเจียวจนกรอบหอม เนื้อเป็ดอบเค็มหั่น วางบนผัก ราดด้วยน้ำสลัดรสชาติเข้มข้นและวางทับด้วย Poached Egg และโรยด้วยขนมปังกรอบ ก่อนกินต้องตีไข่แตกแล้วคลุกเคล้าเครื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากัน สลัดจานนี้ชาวฝรั่งเศสนิยมกันมาก
แซลมอนตาต้าร์ (380++) สูตรของเชฟมานูเอลแปลกกว่าที่อื่น ๆ คือใช้เนื้อปลาแซลมอนสับหยาบ ๆ มาคลุกเคล้ากับครีมงาขาวปรุงด้วยวาซาบิกับซีอิ้วญี่ปุ่นจึงได้กลิ่นอายแบบเอเชีย เมนูนี้จัดจานสวยงาม เพราะเสิร์ฟแซลมอนตาต้าร์ในครอบแก้วที่รมควันจาง ๆ แต่กลับให้ความหอมที่ไปเพิ่มรสชาติความอร่อยได้ลงตัว
อาหารยังมีให้เลือกอร่อยอีกกว่า 50 เมนู ตั้งแต่ French Onion Soup ซุปหัวหอมโรยหน้าด้วยชีสอบสีเหลืองทอง หอมหวนอร่อย หรือใครชอบซุปกุ้ง Maine Lobster Bisque ที่ใช้กุ้งมังกรมาทำซุปได้หอมเข้มข้นถึงใจ หรือ ซุปใสเนื้อ Wagyu มาเคี่ยวปรุงจนเมื่อเปื่อยยุ่ย กรองเอาแต่น้ำซุปใสร้อนมาเสิร์ฟเท่านั้น อีกเมนูเด็ดเป็น "แก้มวัววากิว" (690++) ชั้นเลิศ อบด้วยเบียร์จากเบลเยียมจนกลิ่นหอม และตุ๋นกับไวน์แดงจนเปื่อยเข้าเนื้อ กับ "ไก่จากเมืองเบร๊สส์" (550++) ของฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติดีและความนุ่ม มีทั้งส่วนอกและสะโพกในครีมซอสหอมๆ
หรือถ้าจะกินเบา ๆ ก็มี ทาปาส หลากหลายให้เลือกสั่ง ถ้าสั่งไม่ถูกไปดูวัตถุดิบที่ครัวเปิดแล้วก็เลือกตามใจชอบได้เลย สั่งมากินกับไวน์หรือเหล้าผสม Sangria นั่งละเลียดกินไปฟังเพลงไปก็มีความสุขแล้ว
ถ้าใครอยากลิ้มลองก็แวะไปได้ ร้านเปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงตี 1 ทุกวัน( หยุดวันอาทิตย์) เฉพาะอย่างยิ่งศุกร์-เสาร์ ที่มีดีเจมาสร้างความบันเทิงกับเพลงจังหวะดีพเฮาส์ เลานจ์มิวสิก ขอแนะนำให้โทรจองก่อนที่ 0-2238-1991