ART EYE VIEW ---ก่อนไปร่วมการแข่งขัน หัวหินไตรกีฬานานาชาติ 2555 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (The Queen's Cup Hua Hin International triathlon 2012) ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ศิลปินมากความสามารถนาม ติ๊ก ชีโร่ หรือ มนัสวิน นันทเสน ถือโอกาสใช้ฤกษ์สะดวกหลังวันแม่ 1 วัน เปิดแสดงเดี่ยวนิทรรศการศิลปะครั้งที่ 11 ของตัวเอง ที่ย่านทองหล่อ จึงมีทั้งแฟนเพลงและแฟนผลงานศิลปะตามไปเชคอินให้กำลังใจกันถ้วนหน้า
นิทรรศการครั้งนี้ NUDE ME & MORE ติ๊กนำเสนอผ่านสื่อหลายประเภท ทั้งภาพวาด สื่อผสม ประติมากรรมและเซรามิก
โดยเฉพาะผลงานภาพ NUDE ของเขา นอกจากส่วนหนึ่งจะสร้างสรรค์ขึ้นจากการไปร่วม NUDE ARTS WORKSHOP PROJECT ครั้งที่ 2 กับกลุ่มศิลปินและคณาจารย์ ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง เขายังนำเสนอภาพนู้ดของตัวเองที่มีนัยเกี่ยวกับเรื่องของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง
“นอกจากจะเปลือยร่างกาย นู้ดอีกนัยยังคือการเปลือยความคิด ผลักดันเอาความความคิดของเราออกมาข้างนอก เช่น ภาพนู้ดที่มีถุงยางอนามัยพุ่งขึ้นมาได้นี่ เป็นนัยสำคัญเรื่อง LIFE SAVER ถุงยางอนามัยเราต้องเห็นว่ามันต้องเป็นสิ่งจำเป็น ให้มองข้ามเรื่องของอนาจาร เรื่องความคิดในระดับต่ำ
ส่วน Me คือตัวของผม ที่มีเรื่องดนตรีกับศิลปะมารวมกัน อย่างภาพบางภาพ ผมใช้สัญลักษณ์ของดนตรีคือลำโพง มาเป็นส่วนหนึ่งของงานภาพเขียนเพื่อจะสื่อสารกับผู้ชมด้วย
และ More คือการที่ผมกับไปสู่เบสิก ก่อนหน้าผมทำงานในแบบเซมิแอบสแตรค (semi-abstract)
หรือ กึ่งนามธรรม คนไทยเข้าถึงยาก ผมจึงกลับไปสู่เบสิก ด้วยการมีภาพวาดทิวทัศน์ ภาพพอร์เทรต มาให้ชมด้วย
งานชุดนี้เราก็เลยต้องถอยกลับไปตั้งต้นให้ผู้ชมเค้ารู้ว่า ผมเคยวาดแบบนี้มาก่อนนะ การที่ผมนำเสนอเซมิแอบสแตรค มันมีที่มาที่ไป ถูกหลักการ เพื่อผู้ชมทั่วไปได้รู้ว่าแท้ที่จริงผมก็มีที่มาที่ไป ถูกทำนองครองธรรม เข้าตามตรอก ออกตามประตูเหมือนที่ทุกคนทำ อ๋อ ติ๊กเค้าวาดแบบนี้ได้นี่ แต่ที่เค้าไม่อยากวาด ก็เพราะว่าความคิดเค้ามันเตลิดเปิดเปิงไปไกลแล้ว ประมาณนั้นครับ”
คิด - ทำ - เปลี่ยน
หลายคนคงสงสัยว่าในชีวิตของ โต้ ชีริก นั้นทำหลายอย่างมาก เขาเอาเวลาที่ไหนไปทำงานศิลปะ
“ผมทำงานศิลปะในทุกช่วงเวลาที่ว่าง อย่างมีภาพหนึ่งที่เป็นภาพใบหน้าผู้หญิงโผล่ตรงพวงมาลัย ผมวาดตอนระหว่างที่ท่านผู้อำนวยการฝ่ายยานพาหนะ คุณฉลาด หรือ คนขับรถนั่นเอง กำลังขับรถอยู่ ผมก็วาดตอนที่เค้านั่งขับรถอยู่นั่นแหล่ะ ภรรยาถามว่า ใช่วาดรูปเค้าหรือเปล่า ผมก็บอกว่าเป็นรูปใครก็ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้จัก(หัวเราะ)
อย่างช่วงทำงานดนตรี ตื่นเช้ามา มักจะควานหาคีย์บอร์ดก่อน แต่ตอนนี้ตื่นมาปั๊บก็ต้องวาดภาพก่อน พอถึงเวลาทานข้าว ถึงเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่นแล้วค่อยไปทำ
ผมจะเป็นคนคิดทฤษฎีขึ้นมาใหม่คือ คิด ทำ เปลี่ยน อันนี้ภูมิใจมาก สมัยก่อนเค้าเรียกว่าหยิบโหย่ง คือ ทำอะไรก็ไม่เสร็จซักอย่าง คุณแม่ชอบพูดให้ฟังว่า สมัยก่อนติ๊กเป็นคนชอบทำงานคั่งค้าง แต่ความจริงผมพยายามที่จะคิดดูว่า เราสามารถที่จะทำอะไรได้สองอย่างในเวลาเดียวกันหรือเปล่านะครับ เช่น ในระหว่างแปรงฟันเราทำอะไรได้บ้าง ในระหว่างที่เราทำนู่น เราสามารถทำนี่ได้ไม๊ ประมาณนั้น ทฤษฎี คิด ทำ เปลี่ยนเนี่ย
พอเราทำงานดนตรีเสร็จปั๊บ พอถึงจุดหนึ่ง เราจะเปลี่ยนไปวาดภาพ ในระหว่างวาดภาพ เราก็คิดถึงเรื่องดนตรีด้วย คิดถึงการวาดภาพด้วย พอเราวาดภาพไปสักพัก เราก็กลับไปคิดถึงเรื่องดนตรีอีก พอดนตรีมันถึงจุดที่ติดขัด เราก็วิ่งออกไป ไปเตะฟุตบอล ขี่จักรยาน แล้วก็กลับมาทำงานศิลปะ กลับมาทำดนตรีอีก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งพิเศษที่จะทำให้ความคิดของเราพรั่งพรู ไม่ติดอยู่กับตัวเอง
ศิลปินบางคนทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ โดยไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลย เพราะว่าเค้าก็มีแนวทางของเค้า ศิลปินบางคนทำงานไปด้วย ฟังเพลงไปด้วยไม่ได้ บางคนต้องมีเพลงฟังถึงจะทำงานออก
ความคิดของผมในการสร้างทฤษฎีอันนี้ขึ้นมา เพราะว่าต้องการความหลากหลาย แล้วก็ความคิดที่ไม่ติดขัด ก็เลยกลายเป็นติ๊กวาไรตี้
ทุกภาพของผมจะมีที่มาที่ไปเสมอ มันไม่มีเลยที่จะมีบางภาพที่ Untitle ไม่มีชื่อ แต่มันจะมีชื่อทุกครั้งเลย เพราะเราถูกหล่อหลอมมาจากความคิดเบื้องต้น”
จากวีดีโอบันทึกเบื้องหลังการทำงานศิลปะ บอกให้เรารู้ว่า ขณะวาดภาพ ติ๊กจะขับกล่อมตัวเองด้วยเสียงเพลงเสมอ
“อาจจะดูเหมือนเว่อร์ๆ เฟกๆ ยังไงชอบกล แต่มันไม่ใช่ครับ บางทีก็มีตะโกนร้องอยู่คนเดียว เวลาทำงานผมจะฟังเพลงสมูธแจ๊ส และฟังคลื่นวิทยุพวกเพลงสากล ฟังไปได้เรื่อยๆ บางทีก็จะมีซีดีฟังเพลงแบบนู้น แบบนี้ ฟังหลากหลาย บางครั้งก็ฟังพั้งค์ ฟังร็อค ฟังอะไรไปเรื่อยเปื่อย พี่จิระนันท์ พิตรปรีชา ยังบอกว่า ไอ้นี่มันบ้า คุยอยู่ได้”
ก่อนจะมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการเป็นนักร้อง ติ๊กผ่านการเรียนศิลปะ มาจาก คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน จ.นครราชสีมา เคยเป็นศิษย์ของ ศิลปินแห่งชาติ ทวี รัชนีกร
เขาบอกถึงสิ่งที่เหมือนกันของดนตรีและศิลปะที่เวลานี้รวมเป็นหนึ่งเดียวในชีวิตเขาว่า
“สิ่งที่ดนตรีและศิลปะเหมือนกันก็คือ การเป็นนักศิลปะที่ดี กับการเป็นนักดนตรีที่ดีจะต้องมีวินัย การฝึกซ้อม การฝึกฝนถือว่าเป็นกิจวัตรสำคัญที่สำคัญมาก”
ดังนั้นเขาจึงไม่เคยหยุดที่จะวาดภาพ แม้ในช่วงเวลาที่ภาคของการเป็นนักร้องจะคุ้ยชินสายตาของใครหลายคนมากกว่า
“ไม่เคยเลย เพราะว่ามีความกลัวอยู่ชนิดนึงคือ กลัวว่าคนอื่นเขาจะหาว่าเราเอาต้นทุน เอาชื่อเสียงที่เรามีมาทางด้านร้องเพลง เอามาหากินทางด้านศิลปะ”
วาระเปิดแสดงผลงานศิลปะ สุดใจ นันทเสน คุณแม่ของติ๊ก ชีโร่ ได้แสดงความยินดีกับลูกชาย ด้วยถ้อยคำอ้นน่าประทับใจว่า
12 สิงหาคมที่กำหนดให้เป็นวันแม่ แม่ดูทีวีเห็นหลายๆคนได้รับรางวัล แม่ก็ภูมิใจกับเขา แม่ดูข่าวแล้วก็นึกถึงลูกแม่ว่า ติ๊ก ชีโร่ ของแม่คนนี้ ก็มีแนวทางที่จะได้รับประกาศว่า เป็นลูกกตัญญูกตเวที เช่นเดียวกัน
เพราะตั้งแต่ติ๊กเกิดมา แม่ก็ว่าติ๊กเป็นคนที่แม่ภูมิใจในความตั้งใจดี ที่ติ๊กอยากเรียนศิลปะ แม่ก็อยู่ข้างติ๊ก ถึงแม้ว่ามองไม่เห็นว่าจะเลี้ยงดูตัวเองได้ยังไง เมื่อแม่สอนหรือแม่เตือนให้ยึดมั่นในความถูกต้องติ๊กก็เชื่อฟัง เล่นดนตรีไปด้วย เรียนไปด้วย ซื้อเครื่องดนตรีของตนเอง ไม่เคยขอเงินพ่อแม่ซื้อ มีประกาศนียบัตร ปริญญาตรี โทและเอก มาฝากพ่อแม่ ปฏิบัติตนสมคำว่า
ปลาหมอขึ้นบกดิ้นเดี่ยวเสือก...สู้กระดิกกายกระเดือกเกลือกกลิ้ง...กูเป็นแบบกูเลือกแต่รู้เพียรนา…ไม่สละความเพียรทิ้ง ไม่หวั่นแท้ทุกข์ภัย
NUDE ME & MORE โดย ติ๊ก ชีโร่ เปิดแสดง วันนี้ - 2 กันยายน พ.ศ.2555 ณ อาร์เดลเธิร์ดเพลส แกลเลอรี ทองหล่อ ซ.10 โทร. 0-2422-2092
Text by ฮักก้า Photo by วชิร สายจำปา
ศิลปะเหมือนเครื่องยำตำโขลก
เป็นเชื้อโรคชั้นดีที่จะเคลื่อนตัวแทรกซึมเป็นเงาเรา
เข้าไปอยู่ในอณูของอารมณ์และความรู้สึก
ขับเคลื่อนชีวิตให้มีชีวา
ดั่งเครื่องแป้งผัดหน้าตา
สรรค์สร้างภาษาใจ
ให้แสงแดดอาจกลายเป็นสายลม
ศิลปะคือเพื่อนแท้ที่น่าชื่นชม
ไม่กิน
ไม่นอน
ไม่เหนื่อย
เพื่อนสนิทอยู่กันมา
ตั้งแต่ลืมตา
กระทั่งหลับตา
ชมคลิป ...เบื้องหลังการทำงานศิลปะ
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซคชั่น Celeb Online www.astvmanager.com, และ M-Art เซคชั่น Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com