By Lady Manager
Shading & Highlight คือเทคนิคการแก้ไขรูปหน้า เป็นสร้างแสงเงา เปลี่ยนสาวหน้าแบนให้ดูมีมิติขึ้น
อย่าคิดแต่ว่า การโบ๊ะหน้าขาว เอะอะหน้าวอกไว้ก่อน จะทำให้หน้าสวย สดใส สว่างโหงวเฮ้งเลิศ ทว่า เมื่อใดก็ตาม คุณโดนถ่ายรูป รับรองดับสนิท! เพราะหน้าจะแบนแต๊ดแต๋ หน้าบานเป็นจานดาวเทียม
อ๊ะ! เรามาเรียนรู้เทคนิคการเฉดดิ้ง และไฮไลท์กันดีกว่ามั้ย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเวลาถ่ายรูป เพราะแสงเงาจะทำให้หน้าดูเล็กลงนั่นเอง
->Before
“รูปหน้าของน้องนางแบบค่อนข้างจะมีแก้มยุ้ย งั้นเราลองมาเฉดดิ้งลดแก้มให้หน้าตอบกันดีกว่า”
เตชินี ป้อมสุวรรณ ช่างแต่งหน้าประจำเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง Arty ณ สยามพารากอน กล่าว
Step 1
->เฉดดิ้งกลบจุดด้อย
“ตามสเต็บลงรองพื้นก่อน จากนั้นจึงทำการเฉดดิ้ง จะมีการเฉดดิ้ง 2 แบบ คือ แบบเนื้อครีม และฝุ่นตอน เราจะลงเฉดดิ้งที่แก้ม กราม หน้าผาก ข้างๆ สันจมูก
4 จุดสำคัญในการลง เฉดดิ้ง คือ ใต้โหนกแก้ม ข้างสันจมูกทั้งสองด้าน แนวไรผมข้างหน้าผาก และสุดท้ายแนวขากรรไกร
เฉดดิ้ง คือการลงสีเข้ม ในเฉดสีน้ำตาล ส้ม เพื่อเน้นส่วนบนใบหน้าหรืออำพรางส่วนกว้างให้ดูแคบลงได้
ทุกคนจะมีกระดูกแก้ม ดังนั้นเฉดดิ้งด้วยการขีดยาวมาเลย หากมีผมหน้าม้าไม่ต้องเฉดดิ้ง แต่หากสาวคนใดค่อนข้างมีหน้าผากที่กว้าง และเถิก แนะนำให้เฉดดิ้งด้วยเพื่อใช้ความเข้มของสีน้ำตาลกลบให้หน้าผากไม่กว้างนัก เวลาแต่งหน้าจะได้ไม่ขาววอกจนเกินไป” พี่เตชินี บอกเคล็ดลับด้วยว่า เฉดดิ้งด้วยเนื้อครีมจะดูธรรมชาติมากกว่าฝุ่น แถมลบยาก
เฉดดิ้งเราเกลี่ยเกินจากแนวจมูกเพื่อจะได้ไม่ดูเหมือนว่าเราตั้งใจเฉดดิ้งเกินไป และจะดูเป็นธรรมชาติกว่า
สำหรับผู้ที่ไม่เซียนในการเฉดดิ้ง การใช้แบบเนื้อครีมอาจจะทำยากเล็กน้อย แต่หากทำได้จะสวยและเลิศมาก เพราะจะดูเหมือนอยู่ใต้ผิว หากเป็นเฉดดิ้งฝุ่นจะไม่ธรรมชาติเท่าและลบออกง่ายอีกซะด้วยแน่ะ
อ้อ! ในกรณีที่ทาเฉดดิ้งมากเกินไป พอเกลี่ยออกมาแล้วดำจนไปถึงเบ้าตาให้ใช้รองพื้นสีเดียวกับผิวที่เราใช้รองพื้นไปในขั้นตอนแรก เกลี่ยทับ
Step 2
->ดึงจุดเด่นด้วยไฮไลท์
“ใต้ตาต้องไฮไลท์เพื่อให้ดวงตาสว่างใสขึ้น พร้อมกับปลายจมูก เพื่อให้จมูก และคางให้ดูพุ่งๆ นูนออกมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปหน้าแต่ละคน หลักๆ คือ แนวกระดูกนั่นเอง
ใช้ไฮไลท์แต้มเบาๆ ที่สันจมูกอีกครั้ง แล้วลูบขึ้นลงเบาๆ ด้วยนิ้วจากนั้นเกลี่ยรอยต่อระหว่างเฉดดิ้งเล็กน้อย” คุณเตชินี แนะนำ
เทคนิกการไฮไลท์เป็นการดึงจุดเด่นของหน้าให้โดดเด่นออกมา ส่วนการเฉดดิ้งนั้นเป็นการอำพรางจุดด้อย
การลงไฮไลท์แบบครีมดีตรงที่ทำให้หน้ามีมิติแบบเป็นธรรมชาติ มากกว่าการใช้แบบแป้ง แต่แบบแป้งมันจะมีประกายซึ่งเป็นเป็นตัวช่วยให้หน้าดูฉ่ำๆ แต่สำหรับแป้งมันทำให้หน้าดูมัน
Step 3
->เกลี่ยให้เนียนไปกับผิว
ใช้นิ้วเกลี่ยให้เนียนไปกับผิว หรือเกลี่ยด้วยฟองน้ำให้กลืนกับผิวมากที่สุด แล้วใช้รองพื้นสีเดียวกับผิวเกลี่ยทับเบาๆให้สีดูไม่เข้มเกินไป
แต่ตอนเกลี่ยต้องให้กลมกลืนกับผิวนะคะ อย่าให้เป็นรอยขอบๆ เด็ดขาด
และขนบนใบหน้าจะเป็นอุปสรรคในการเกลี่ย สำหรับสาวหน้าผากแคบเพราะมีไรผมบางคนมีลูกผมบริเวณหน้าผากเยอะมาก แนะนำว่าควรจะกันออกไป ถ้าไม่อยากให้หน้าผากดูแคบและหมอง ขนบนใบหน้าก็เช่นเดียวกัน เมื่อกันออกไปแล้วจะทำให้หน้าดูสว่างขึ้นมากทีเดียว การเกลี่ยก็จะเนียนมากขึ้นด้วยล่ะ
สำหรับคนสีผิวขาวไม่ควรเฉดดิ้งสีเข้มมาก ส่วนคนผิวแทน หรือค่อนข้างคล้ำการเฉดดิ้งจะดูธรรมชาติและสวยมาก
ลักษณะการเกลี่ยต้องเกลี่ยขึ้น หากเกลี่ยลงระวังแก้มห้อย และบริเวณหน้าผากให้เกลี่ยเข้าตามไรผม
เมื่อเกลี่ยเสร็จ จากนั้นก็เข้าสู่การแต่งหน้าตามปกติ คือปัดแก้ม ระบายเปลือกตาด้วยอายแชโดว์ และกรีดอายไลเนอร์ ติดขนตาปลอม ทาปาก
หรืออยากจะเฉดดิ้งด้วยเนื้อฝุ่นอีกรอบเพื่อเพิ่มมิติให้แก่หน้า เพื่อความสวยเป๊ะ! ก็ไม่ว่ากัน
อั้ยย๊ะ! เสร็จแล้วจ้า
->เฉดดิ้ง-ไฮไลท์ ให้เหมาะกับรูปหน้า
หน้ารูปหัวใจ
หน้ารูปนี้ต้องเฉดดิ้งบริเวณขมับมากขึ้น เพื่อให้บริเวณหน้าผากดูแคบลง และใช้บลัชออนปัดแก้มตามแนวขวางให้รูปหน้าดูกว้างขึ้น แล้งเฉดดิ้งอีกครั้งบริเวณคาง ไม่ให้ดูแหลมจนเกินไป
หน้าเหลี่ยม
จะทำให้ใบหน้าดูกลมขึ้นได้ด้วยการเฉดดิ้งใต้โหนกแก้มให้ดูชัดขึ้น แล้วลบเหลี่ยมบริเวณช่วงกราม จากนั้นปัดแก้มเบาๆ ระหว่างใต้โหนกแก้มและกราม
หน้าสั้น
ใช้ไฮไลท์ปัดเน้นบริเวณปลายคางให้ดูยาวขึ้น และปัดบริเวณหน้าผาก เป็นการกระจายแสงทำให้หน้าดูยาวขึ้น
หน้าตอบ
รูปหน้านี้มีวิธีแก้คล้ายกกับรูปหน้าหัวใจ แค่ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีพีชตามแนวขวางเพื่อให้ใบหน้าดูกว้างขึ้น แก้มที่ตอบก็จะดูเต็มขึ้น
หน้าไม่สมดุล
หลายคนประสบปัญหานี้ คือมีช่วงจมูกยาวมาก ทำให้คางดูสั้น วิธีแก้คือให้แต่งหน้าตามปกติขั้นแรก แล้วใช้อายแชโดว์สีเบจหรือสีที่ใช้สำหรับปัดคิ้วมาปัดตรงปลายจมูกและแต้ม ไฮไลท์บริเวณปลายคางให้หน้าดูเรียวยาวสมดุลขึ้น
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
Shading & Highlight คือเทคนิคการแก้ไขรูปหน้า เป็นสร้างแสงเงา เปลี่ยนสาวหน้าแบนให้ดูมีมิติขึ้น
อย่าคิดแต่ว่า การโบ๊ะหน้าขาว เอะอะหน้าวอกไว้ก่อน จะทำให้หน้าสวย สดใส สว่างโหงวเฮ้งเลิศ ทว่า เมื่อใดก็ตาม คุณโดนถ่ายรูป รับรองดับสนิท! เพราะหน้าจะแบนแต๊ดแต๋ หน้าบานเป็นจานดาวเทียม
อ๊ะ! เรามาเรียนรู้เทคนิคการเฉดดิ้ง และไฮไลท์กันดีกว่ามั้ย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเวลาถ่ายรูป เพราะแสงเงาจะทำให้หน้าดูเล็กลงนั่นเอง
->Before
“รูปหน้าของน้องนางแบบค่อนข้างจะมีแก้มยุ้ย งั้นเราลองมาเฉดดิ้งลดแก้มให้หน้าตอบกันดีกว่า”
เตชินี ป้อมสุวรรณ ช่างแต่งหน้าประจำเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง Arty ณ สยามพารากอน กล่าว
Step 1
->เฉดดิ้งกลบจุดด้อย
“ตามสเต็บลงรองพื้นก่อน จากนั้นจึงทำการเฉดดิ้ง จะมีการเฉดดิ้ง 2 แบบ คือ แบบเนื้อครีม และฝุ่นตอน เราจะลงเฉดดิ้งที่แก้ม กราม หน้าผาก ข้างๆ สันจมูก
4 จุดสำคัญในการลง เฉดดิ้ง คือ ใต้โหนกแก้ม ข้างสันจมูกทั้งสองด้าน แนวไรผมข้างหน้าผาก และสุดท้ายแนวขากรรไกร
เฉดดิ้ง คือการลงสีเข้ม ในเฉดสีน้ำตาล ส้ม เพื่อเน้นส่วนบนใบหน้าหรืออำพรางส่วนกว้างให้ดูแคบลงได้
ทุกคนจะมีกระดูกแก้ม ดังนั้นเฉดดิ้งด้วยการขีดยาวมาเลย หากมีผมหน้าม้าไม่ต้องเฉดดิ้ง แต่หากสาวคนใดค่อนข้างมีหน้าผากที่กว้าง และเถิก แนะนำให้เฉดดิ้งด้วยเพื่อใช้ความเข้มของสีน้ำตาลกลบให้หน้าผากไม่กว้างนัก เวลาแต่งหน้าจะได้ไม่ขาววอกจนเกินไป” พี่เตชินี บอกเคล็ดลับด้วยว่า เฉดดิ้งด้วยเนื้อครีมจะดูธรรมชาติมากกว่าฝุ่น แถมลบยาก
เฉดดิ้งเราเกลี่ยเกินจากแนวจมูกเพื่อจะได้ไม่ดูเหมือนว่าเราตั้งใจเฉดดิ้งเกินไป และจะดูเป็นธรรมชาติกว่า
สำหรับผู้ที่ไม่เซียนในการเฉดดิ้ง การใช้แบบเนื้อครีมอาจจะทำยากเล็กน้อย แต่หากทำได้จะสวยและเลิศมาก เพราะจะดูเหมือนอยู่ใต้ผิว หากเป็นเฉดดิ้งฝุ่นจะไม่ธรรมชาติเท่าและลบออกง่ายอีกซะด้วยแน่ะ
อ้อ! ในกรณีที่ทาเฉดดิ้งมากเกินไป พอเกลี่ยออกมาแล้วดำจนไปถึงเบ้าตาให้ใช้รองพื้นสีเดียวกับผิวที่เราใช้รองพื้นไปในขั้นตอนแรก เกลี่ยทับ
Step 2
->ดึงจุดเด่นด้วยไฮไลท์
“ใต้ตาต้องไฮไลท์เพื่อให้ดวงตาสว่างใสขึ้น พร้อมกับปลายจมูก เพื่อให้จมูก และคางให้ดูพุ่งๆ นูนออกมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปหน้าแต่ละคน หลักๆ คือ แนวกระดูกนั่นเอง
ใช้ไฮไลท์แต้มเบาๆ ที่สันจมูกอีกครั้ง แล้วลูบขึ้นลงเบาๆ ด้วยนิ้วจากนั้นเกลี่ยรอยต่อระหว่างเฉดดิ้งเล็กน้อย” คุณเตชินี แนะนำ
เทคนิกการไฮไลท์เป็นการดึงจุดเด่นของหน้าให้โดดเด่นออกมา ส่วนการเฉดดิ้งนั้นเป็นการอำพรางจุดด้อย
การลงไฮไลท์แบบครีมดีตรงที่ทำให้หน้ามีมิติแบบเป็นธรรมชาติ มากกว่าการใช้แบบแป้ง แต่แบบแป้งมันจะมีประกายซึ่งเป็นเป็นตัวช่วยให้หน้าดูฉ่ำๆ แต่สำหรับแป้งมันทำให้หน้าดูมัน
Step 3
->เกลี่ยให้เนียนไปกับผิว
ใช้นิ้วเกลี่ยให้เนียนไปกับผิว หรือเกลี่ยด้วยฟองน้ำให้กลืนกับผิวมากที่สุด แล้วใช้รองพื้นสีเดียวกับผิวเกลี่ยทับเบาๆให้สีดูไม่เข้มเกินไป
แต่ตอนเกลี่ยต้องให้กลมกลืนกับผิวนะคะ อย่าให้เป็นรอยขอบๆ เด็ดขาด
และขนบนใบหน้าจะเป็นอุปสรรคในการเกลี่ย สำหรับสาวหน้าผากแคบเพราะมีไรผมบางคนมีลูกผมบริเวณหน้าผากเยอะมาก แนะนำว่าควรจะกันออกไป ถ้าไม่อยากให้หน้าผากดูแคบและหมอง ขนบนใบหน้าก็เช่นเดียวกัน เมื่อกันออกไปแล้วจะทำให้หน้าดูสว่างขึ้นมากทีเดียว การเกลี่ยก็จะเนียนมากขึ้นด้วยล่ะ
สำหรับคนสีผิวขาวไม่ควรเฉดดิ้งสีเข้มมาก ส่วนคนผิวแทน หรือค่อนข้างคล้ำการเฉดดิ้งจะดูธรรมชาติและสวยมาก
ลักษณะการเกลี่ยต้องเกลี่ยขึ้น หากเกลี่ยลงระวังแก้มห้อย และบริเวณหน้าผากให้เกลี่ยเข้าตามไรผม
เมื่อเกลี่ยเสร็จ จากนั้นก็เข้าสู่การแต่งหน้าตามปกติ คือปัดแก้ม ระบายเปลือกตาด้วยอายแชโดว์ และกรีดอายไลเนอร์ ติดขนตาปลอม ทาปาก
หรืออยากจะเฉดดิ้งด้วยเนื้อฝุ่นอีกรอบเพื่อเพิ่มมิติให้แก่หน้า เพื่อความสวยเป๊ะ! ก็ไม่ว่ากัน
อั้ยย๊ะ! เสร็จแล้วจ้า
->เฉดดิ้ง-ไฮไลท์ ให้เหมาะกับรูปหน้า
หน้ารูปหัวใจ
หน้ารูปนี้ต้องเฉดดิ้งบริเวณขมับมากขึ้น เพื่อให้บริเวณหน้าผากดูแคบลง และใช้บลัชออนปัดแก้มตามแนวขวางให้รูปหน้าดูกว้างขึ้น แล้งเฉดดิ้งอีกครั้งบริเวณคาง ไม่ให้ดูแหลมจนเกินไป
หน้าเหลี่ยม
จะทำให้ใบหน้าดูกลมขึ้นได้ด้วยการเฉดดิ้งใต้โหนกแก้มให้ดูชัดขึ้น แล้วลบเหลี่ยมบริเวณช่วงกราม จากนั้นปัดแก้มเบาๆ ระหว่างใต้โหนกแก้มและกราม
หน้าสั้น
ใช้ไฮไลท์ปัดเน้นบริเวณปลายคางให้ดูยาวขึ้น และปัดบริเวณหน้าผาก เป็นการกระจายแสงทำให้หน้าดูยาวขึ้น
หน้าตอบ
รูปหน้านี้มีวิธีแก้คล้ายกกับรูปหน้าหัวใจ แค่ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีพีชตามแนวขวางเพื่อให้ใบหน้าดูกว้างขึ้น แก้มที่ตอบก็จะดูเต็มขึ้น
หน้าไม่สมดุล
หลายคนประสบปัญหานี้ คือมีช่วงจมูกยาวมาก ทำให้คางดูสั้น วิธีแก้คือให้แต่งหน้าตามปกติขั้นแรก แล้วใช้อายแชโดว์สีเบจหรือสีที่ใช้สำหรับปัดคิ้วมาปัดตรงปลายจมูกและแต้ม ไฮไลท์บริเวณปลายคางให้หน้าดูเรียวยาวสมดุลขึ้น
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net