By Lady Manager @Bitchy
หลายคู่อยู่ด้วยกันน้านนานเกิน ชีวิตเซ็กซ์ไม่แซ่บเหมือนสมัยก่อนลูกคนแรกเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายหญิง ‘ทำไมนะฉันเบื่อๆ อยากๆ ไม่กระตือรือร้น.. ถูกแตะก็ไม่รู้สึกตื่นเต้น..’
แม้ภรรเมียหลายท่านพยายามกระเพื่อมตัวเอง จุดเทียนหอมสร้างบรรยากาศโรแมนติคก็แล้ว ลงครัวทำสารพัดเมนูหอยนางรมก็แล้ว เลียนแบบท่าเอาใจผัวตามเว็บ ..ก็แล้ววว
…แต่ยังไม่เวิร์คอ่ะ!!
คุณผู้หญิงคะ! คุณไม่ต้องไปเพียรหาตัวช่วยภายนอกหรอกค่ะ การร่วมรักต้องเกิดจากความรู้สึกภายใน คุณจดจ่อกับท่วงทำนองลีลาสัมผัสรักกับคนรักของคุณ ณ ตอนนั้นล้ำลึกจริงจังขนาดไหนต่างหาก นั่นแหล่ะประเด็น
เพราะปัญหาหนึ่งของผู้หญิงคือ ชอบคิดระหว่างมีเซ็กซ์ มักมัววอกแวกพัลวันนึกในใจสารพัดทั้งๆ ที่นอนเปลือยกายบนเตียงอยู่แท้ๆ.. อุ้ย! เดี๋ยวเขาต้องเห็นแน่เลยว่าที่แท้หน้าอกชั้นเล็ก, เอ๊ะ! ลูกอยู่ห้องข้างห้อง จะได้ยินไหมเนี๊ย, โอ้ว ! มีงานบ้านต้องทำเยอะแยะ ทำให้เสร็จๆ เร็วๆ หน่อยดิ
ไม่ตระหนักว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่บนเตียง ไม่จดจ่อความรู้สึกยามถูกเขาสัมผัส ว่าตนรู้สึกอย่างไร อยากตอบสนองอย่างไร
“ผู้หญิงที่ผ่านการฝึกสมาธิจะตอบสนองกับภาพอีโรติคได้ดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ฝึก” ผลการศึกษาและทดลองของมหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University) บ่งบอกชัด
ซึ่งหมายความว่า การฝึกสมาธิสามารถช่วยชีวิตคู่บนเตียงได้!
อย่าเพิ่ง ‘ขำ’ หรือ ‘งง’
ขนาด ดร.มาร์ช่า ลูคัส จิตแพทย์ในกรุงวอชิงตัน, ดี.ซี., ยังใช้หลักการเจริญสติตามสไตล์ศาสนาพุทธ แก้ปัญหาเซ็กซ์จืดชืดแก่คนไข้หลายคู่มาแล้ว โดยปรับให้เข้าไลฟ์สไตล์คนปัจจุบัน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ทำได้ทุกที่ทุกเวลา
เริ่มต้น ตามลมหายใจ
“หากมีธุระเรื่องอะไร จงวางลง หยุดพักไว้ก่อน จดจ่อแต่ลมหายใจของตัวเอง” ดร.ลูคัส แนะฝึกสังเกตลมหายใจ ซึ่งก็คือ การอยู่กับปัจจุบัน เป็นการระลึกรู้โดยไม่มีการตัดสินใดๆ ที่ชาวพุทธเราคุ้นคำว่า ‘อุเบกขา’ มีสภาพที่เป็นกลาง ไม่บวกและไม่ลบ
ตามลมหายใจความรู้สึกตัวเอง ตั้งแต่หายใจเข้าตรงรูจมูก ลงไปบริเวณหน้าอก แล้วลงไปถึงท้อง คุณจะรู้สึกว่าช่องท้องขยายขณะลมหายใจเข้าไป ครั้นหายใจออก คุณก็ค่อยๆ ตามลมตามความรู้สึก ดูซิว่าอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายตอนหายใจออก
“การเพ่งไปที่ลมหายใจเป็นการฝึกฝนร่างกายให้ไวต่อการสัมผัส ซึ่งตรงนี้แหล่ะที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองและเซ็กซ์ของคุณ” ดร.ลูคัสบอก
หมั่นสมาธิ วันละนิด
เยี่ยมสุด ถ้าคุณฝึกเจริญสติตามลมหายใจทุกวัน สละเวลาวันละ 20 นาทีนั่งสมาธิก็พอ โดยไม่จำเป็นต้องคร่ำเคร่งบังคับตัวเองนั่งต่อเนื่อง คุณสามารถเบรก นั่งครั้งละ 10 นาทีก็ได้
คนส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 2-5 นาที แล้วค่อยๆ นานขึ้น จาก 5 นาที เป็น 8 นาที ค่อยๆ เป็นไป ให้ตัวเองเพลิดเพลินมีความสุข ที่สำคัญ อย่าฝืน
“ประเด็นคือ ขอให้ฝึกสม่ำเสมอ ไม่เน้นปริมาณว่าต้องนั่งนานๆ” ดร.ลูคัส เปรียบเหมือนการฝึกยกน้ำหนัก
“ฝึกทุกวันๆ ละนิด ดีกว่าลุยหนักนานๆ แต่เพียงครั้งเดียวต่อสัปดาห์”
หลีกเลี่ยง สิ่งแวดล้อมรบกวน
ดร.ลูคัส แนะนำให้ทำสมาธิตอนเช้า หลังตื่นนอน
“อาจจิบกาแฟสักนิดถ้าคุณต้องการความกระฉับกระเฉง
แต่ห้ามเปิดทีวีหรือคอมพิวเตอร์เด็ดขาด เพราะทันทีที่คุณเปิดปั๊บ คุณจะ ‘นิ่ง’ ยาก”
ดร.ลูคัส แนะอีกว่า อาจจุดเทียนหรือเปิดไฟสลัวๆ สร้างบรรยากาศ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย แล้วดิ่งด่ำไปกับการเจริญสติอย่างเต็มที่
ถ้าฟุ้ง ก็เริ่มใหม่
เป็นธรรมดาหากคุณจะเผลอฟุ้งซ่าน ขณะทำสมาธิ
สิ่งสำคัญคือ หลุดแล้วก็เริ่มต้นใหม่ค่ะ
“เมื่อคุณขาดสมาธิ จงนำสติตัวเองกลับมาที่ลมหายใจเข้าออกอย่างนุ่มนวลค่อยเป็นค่อยไปด้วยความเมตตา” ดร.ลูคัส บอกไม่ต้องกังวลว่ามันจะหลุดบ่อยแค่ไหน และนานเท่าไร
ตราบใดที่คุณรู้ตัวว่า ‘หลุด’ และกลับมาเริ่มต้นสูดหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ จิตอยู่ที่ลมหายใจ ตั้งสติใหม่ได้ นั่นแสดงว่าคุณระลึกรู้ตัวตลอดเวลา นี่แหล่ะคือ หัวใจของการเจริญสติ
ที่ไหนก็ได้ ตราบใดตั้งสติได้
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน คุณก็ทำสมาธิได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องพระ หรือห้องนอน
“เมื่อคุณตั้งใจฝึก… ระบบประสาทของคุณจะตอบรับโดยธรรมชาติไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน” ดร.ลูคัส บอกให้สังเกตตัวเองภายในเวลา 2 สัปดาห์
“ถ้าคุณฝึกเจริญสติอย่างสม่ำเสมอนะ ทันทีที่คุณเองขาดสติ เช่น หงุดหงิดอารมณ์เสียเวลาต้องเข้าแถวรอคิวจ่ายเงินที่แคชเชียร์ในซูเปอร์มาร์เก็ต คุณจะดึงสติกลับมาโดยอัตโนมัติ”
แนวความคิดนี้เป็นการฝึกสมองไม่ให้คล้อยตามภาวะการณ์เร่งรีบของชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องสุโค่ย หากอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันมากกว่า
“การเป็น Auto-Pilot คือ ศัตรูของเซ็กซ์ที่ดี” ดร.ลูคัส เน้นย้ำ “การฝึกเจริญสติก็เพื่อหยุดยั้งอาการ *Auto-Pilot Syndrome”
*การที่คุณต้องการให้ทุกๆ อย่างออกมาดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด ทำให้เวลาทำสิ่งต่างๆ ต้องคิดและตามมาด้วยความคาดหวังที่มากกว่าธรรมดาหลายเท่า นอกจากขาดความเป็นธรรมชาติ และเพิ่มความเครียดให้กับตัวเองแล้ว จะทำให้สติของคุณหายไปทันที อาการการแบบนี้เรียกว่า Auto-Pilot Syndrome
สแกน รู้จักร่างกายตัวเอง
หลังจากฝึกเจริญสติตามลมหายใจเข้าออกมาสักพักหนึ่งแล้ว ลองนอนหงายลงแบบท่าศพของโยคะ และกำหนดจิตสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ช้าๆ อ่อนโยน ตระหนักรู้อวัยวะแต่ละส่วนบนตัวเรา ด้วยความรักและความเมตตา
“ยิ่งคุณรู้จักอวัยวะร่างกายตัวคุณเองมากขึ้นเท่าไร เซ็กซ์ของคุณก็จะสุขหฤหรรษ์มากขึ้นเท่านั้น” ดร.ลูคัสว่าเช่นนั้น
ลื่นไหลปล่อยไป สวรรค์มาเอง
ขณะที่คุณกับคนรักคลอเคลียจ๊วบจ๊าบกันและกัน ดร.ลูคัส แนะให้ปล่อยตัวปล่อยใจตามธรรมชาติ
“อย่าแอบวิตกกังวลห่วงว่าจะบรรลุจุดสุดยอดหรือไม่ แต่โฟกัสไปที่ความรู้สึกเมื่อถูกกระตุ้นเล้าโลม”
คุณรู้สึกสุขซาบซ่าน อยากตอบสนองรุกรับยังไง จัดไป…
ไม่คาดหวัง แล้วก็จะไม่เกร็ง…
“การฝึกสมาธิช่วยให้คุณใส่ใจสิ่งที่คุณต้องการ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับคู่ของคุณ แล้วคุณก็จะสามารถโต้ตอบ เข้าจังหวะเป็นหนึ่งเดียวกับเขาอย่างเร่าร้อน” ดร.ลูคัส กล่าว
หมั่นทำสมาธิเจริญสติ นอกจากช่วยให้เกิดความสงบดั่งที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้ว ยังเป็นการฝึกระลึกรู้ทุกอณูการเคลื่อนไหวทุกขณะว่าอะไรเกิดขึ้นผ่านลมหายใจเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เมื่อสมองเชื่อมโยงได้ดีกับสัมผัสตระหนักรู้ทางกาย สวรรค์ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
หลายคู่อยู่ด้วยกันน้านนานเกิน ชีวิตเซ็กซ์ไม่แซ่บเหมือนสมัยก่อนลูกคนแรกเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายหญิง ‘ทำไมนะฉันเบื่อๆ อยากๆ ไม่กระตือรือร้น.. ถูกแตะก็ไม่รู้สึกตื่นเต้น..’
แม้ภรรเมียหลายท่านพยายามกระเพื่อมตัวเอง จุดเทียนหอมสร้างบรรยากาศโรแมนติคก็แล้ว ลงครัวทำสารพัดเมนูหอยนางรมก็แล้ว เลียนแบบท่าเอาใจผัวตามเว็บ ..ก็แล้ววว
…แต่ยังไม่เวิร์คอ่ะ!!
คุณผู้หญิงคะ! คุณไม่ต้องไปเพียรหาตัวช่วยภายนอกหรอกค่ะ การร่วมรักต้องเกิดจากความรู้สึกภายใน คุณจดจ่อกับท่วงทำนองลีลาสัมผัสรักกับคนรักของคุณ ณ ตอนนั้นล้ำลึกจริงจังขนาดไหนต่างหาก นั่นแหล่ะประเด็น
เพราะปัญหาหนึ่งของผู้หญิงคือ ชอบคิดระหว่างมีเซ็กซ์ มักมัววอกแวกพัลวันนึกในใจสารพัดทั้งๆ ที่นอนเปลือยกายบนเตียงอยู่แท้ๆ.. อุ้ย! เดี๋ยวเขาต้องเห็นแน่เลยว่าที่แท้หน้าอกชั้นเล็ก, เอ๊ะ! ลูกอยู่ห้องข้างห้อง จะได้ยินไหมเนี๊ย, โอ้ว ! มีงานบ้านต้องทำเยอะแยะ ทำให้เสร็จๆ เร็วๆ หน่อยดิ
ไม่ตระหนักว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่บนเตียง ไม่จดจ่อความรู้สึกยามถูกเขาสัมผัส ว่าตนรู้สึกอย่างไร อยากตอบสนองอย่างไร
“ผู้หญิงที่ผ่านการฝึกสมาธิจะตอบสนองกับภาพอีโรติคได้ดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ฝึก” ผลการศึกษาและทดลองของมหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University) บ่งบอกชัด
ซึ่งหมายความว่า การฝึกสมาธิสามารถช่วยชีวิตคู่บนเตียงได้!
อย่าเพิ่ง ‘ขำ’ หรือ ‘งง’
ขนาด ดร.มาร์ช่า ลูคัส จิตแพทย์ในกรุงวอชิงตัน, ดี.ซี., ยังใช้หลักการเจริญสติตามสไตล์ศาสนาพุทธ แก้ปัญหาเซ็กซ์จืดชืดแก่คนไข้หลายคู่มาแล้ว โดยปรับให้เข้าไลฟ์สไตล์คนปัจจุบัน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ทำได้ทุกที่ทุกเวลา
เริ่มต้น ตามลมหายใจ
“หากมีธุระเรื่องอะไร จงวางลง หยุดพักไว้ก่อน จดจ่อแต่ลมหายใจของตัวเอง” ดร.ลูคัส แนะฝึกสังเกตลมหายใจ ซึ่งก็คือ การอยู่กับปัจจุบัน เป็นการระลึกรู้โดยไม่มีการตัดสินใดๆ ที่ชาวพุทธเราคุ้นคำว่า ‘อุเบกขา’ มีสภาพที่เป็นกลาง ไม่บวกและไม่ลบ
ตามลมหายใจความรู้สึกตัวเอง ตั้งแต่หายใจเข้าตรงรูจมูก ลงไปบริเวณหน้าอก แล้วลงไปถึงท้อง คุณจะรู้สึกว่าช่องท้องขยายขณะลมหายใจเข้าไป ครั้นหายใจออก คุณก็ค่อยๆ ตามลมตามความรู้สึก ดูซิว่าอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายตอนหายใจออก
“การเพ่งไปที่ลมหายใจเป็นการฝึกฝนร่างกายให้ไวต่อการสัมผัส ซึ่งตรงนี้แหล่ะที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองและเซ็กซ์ของคุณ” ดร.ลูคัสบอก
หมั่นสมาธิ วันละนิด
เยี่ยมสุด ถ้าคุณฝึกเจริญสติตามลมหายใจทุกวัน สละเวลาวันละ 20 นาทีนั่งสมาธิก็พอ โดยไม่จำเป็นต้องคร่ำเคร่งบังคับตัวเองนั่งต่อเนื่อง คุณสามารถเบรก นั่งครั้งละ 10 นาทีก็ได้
คนส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 2-5 นาที แล้วค่อยๆ นานขึ้น จาก 5 นาที เป็น 8 นาที ค่อยๆ เป็นไป ให้ตัวเองเพลิดเพลินมีความสุข ที่สำคัญ อย่าฝืน
“ประเด็นคือ ขอให้ฝึกสม่ำเสมอ ไม่เน้นปริมาณว่าต้องนั่งนานๆ” ดร.ลูคัส เปรียบเหมือนการฝึกยกน้ำหนัก
“ฝึกทุกวันๆ ละนิด ดีกว่าลุยหนักนานๆ แต่เพียงครั้งเดียวต่อสัปดาห์”
หลีกเลี่ยง สิ่งแวดล้อมรบกวน
ดร.ลูคัส แนะนำให้ทำสมาธิตอนเช้า หลังตื่นนอน
“อาจจิบกาแฟสักนิดถ้าคุณต้องการความกระฉับกระเฉง
แต่ห้ามเปิดทีวีหรือคอมพิวเตอร์เด็ดขาด เพราะทันทีที่คุณเปิดปั๊บ คุณจะ ‘นิ่ง’ ยาก”
ดร.ลูคัส แนะอีกว่า อาจจุดเทียนหรือเปิดไฟสลัวๆ สร้างบรรยากาศ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย แล้วดิ่งด่ำไปกับการเจริญสติอย่างเต็มที่
ถ้าฟุ้ง ก็เริ่มใหม่
เป็นธรรมดาหากคุณจะเผลอฟุ้งซ่าน ขณะทำสมาธิ
สิ่งสำคัญคือ หลุดแล้วก็เริ่มต้นใหม่ค่ะ
“เมื่อคุณขาดสมาธิ จงนำสติตัวเองกลับมาที่ลมหายใจเข้าออกอย่างนุ่มนวลค่อยเป็นค่อยไปด้วยความเมตตา” ดร.ลูคัส บอกไม่ต้องกังวลว่ามันจะหลุดบ่อยแค่ไหน และนานเท่าไร
ตราบใดที่คุณรู้ตัวว่า ‘หลุด’ และกลับมาเริ่มต้นสูดหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ จิตอยู่ที่ลมหายใจ ตั้งสติใหม่ได้ นั่นแสดงว่าคุณระลึกรู้ตัวตลอดเวลา นี่แหล่ะคือ หัวใจของการเจริญสติ
ที่ไหนก็ได้ ตราบใดตั้งสติได้
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน คุณก็ทำสมาธิได้ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องพระ หรือห้องนอน
“เมื่อคุณตั้งใจฝึก… ระบบประสาทของคุณจะตอบรับโดยธรรมชาติไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน” ดร.ลูคัส บอกให้สังเกตตัวเองภายในเวลา 2 สัปดาห์
“ถ้าคุณฝึกเจริญสติอย่างสม่ำเสมอนะ ทันทีที่คุณเองขาดสติ เช่น หงุดหงิดอารมณ์เสียเวลาต้องเข้าแถวรอคิวจ่ายเงินที่แคชเชียร์ในซูเปอร์มาร์เก็ต คุณจะดึงสติกลับมาโดยอัตโนมัติ”
แนวความคิดนี้เป็นการฝึกสมองไม่ให้คล้อยตามภาวะการณ์เร่งรีบของชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องสุโค่ย หากอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันมากกว่า
“การเป็น Auto-Pilot คือ ศัตรูของเซ็กซ์ที่ดี” ดร.ลูคัส เน้นย้ำ “การฝึกเจริญสติก็เพื่อหยุดยั้งอาการ *Auto-Pilot Syndrome”
*การที่คุณต้องการให้ทุกๆ อย่างออกมาดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุด ทำให้เวลาทำสิ่งต่างๆ ต้องคิดและตามมาด้วยความคาดหวังที่มากกว่าธรรมดาหลายเท่า นอกจากขาดความเป็นธรรมชาติ และเพิ่มความเครียดให้กับตัวเองแล้ว จะทำให้สติของคุณหายไปทันที อาการการแบบนี้เรียกว่า Auto-Pilot Syndrome
สแกน รู้จักร่างกายตัวเอง
หลังจากฝึกเจริญสติตามลมหายใจเข้าออกมาสักพักหนึ่งแล้ว ลองนอนหงายลงแบบท่าศพของโยคะ และกำหนดจิตสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ช้าๆ อ่อนโยน ตระหนักรู้อวัยวะแต่ละส่วนบนตัวเรา ด้วยความรักและความเมตตา
“ยิ่งคุณรู้จักอวัยวะร่างกายตัวคุณเองมากขึ้นเท่าไร เซ็กซ์ของคุณก็จะสุขหฤหรรษ์มากขึ้นเท่านั้น” ดร.ลูคัสว่าเช่นนั้น
ลื่นไหลปล่อยไป สวรรค์มาเอง
ขณะที่คุณกับคนรักคลอเคลียจ๊วบจ๊าบกันและกัน ดร.ลูคัส แนะให้ปล่อยตัวปล่อยใจตามธรรมชาติ
“อย่าแอบวิตกกังวลห่วงว่าจะบรรลุจุดสุดยอดหรือไม่ แต่โฟกัสไปที่ความรู้สึกเมื่อถูกกระตุ้นเล้าโลม”
คุณรู้สึกสุขซาบซ่าน อยากตอบสนองรุกรับยังไง จัดไป…
ไม่คาดหวัง แล้วก็จะไม่เกร็ง…
“การฝึกสมาธิช่วยให้คุณใส่ใจสิ่งที่คุณต้องการ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับคู่ของคุณ แล้วคุณก็จะสามารถโต้ตอบ เข้าจังหวะเป็นหนึ่งเดียวกับเขาอย่างเร่าร้อน” ดร.ลูคัส กล่าว
หมั่นทำสมาธิเจริญสติ นอกจากช่วยให้เกิดความสงบดั่งที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้ว ยังเป็นการฝึกระลึกรู้ทุกอณูการเคลื่อนไหวทุกขณะว่าอะไรเกิดขึ้นผ่านลมหายใจเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เมื่อสมองเชื่อมโยงได้ดีกับสัมผัสตระหนักรู้ทางกาย สวรรค์ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net