By Lady Manager @Bitchy
ชีวิตคู่นอกจากต้องมีความรักความปรารถนาซึ่งกันและกันแล้ว ต้องมีความเข้าอกเข้าใจกันในเรื่องรสนิยมความต้องการทางเพศด้วย
ถึงจะแต่งงานมีลูกสาม อยู่ด้วยกันมาแล้วเหยียบยี่สิบปี ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเซ็กซ์จะจี๊ดจ๊าดซาบซ่านตล๊อดนะจ๊ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงเรา ไหนจะผ่านการผ่าคลอด เหน็ดเหนื่อยจากงานข้างนอก กลับมาต้องหาข้าวหาปลาให้ลูกให้ผัวกิน ตกดึกขึ้นเตียงจะคึกทันทีได้อย่างไร หรือบางนางอยากให้คุณสามีจุ๊บน้องสาวบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศเข้าครัวทำรักบ้าง เปลี่ยนท่าซ้ำซากฉันขออยู่บนบ้าง ..ก็ไม่กล้าเอ่ย!
“ชีวิตแต่งงานที่ดีคือ ทั้งคู่ช่วยกันแก้ไขปัญหาเซ็กซ์ด้วยกัน” คิมเบอร์ลี่ เอ.ชาร์กี้ (Kimberly A. Sharky) เซ็กซ์เทอราปีสในชิคาโก กล่าวว่า “คุณต้องคุยกับคู่ของคุณ”
ปัญหาคือ จะเปิดประเด็นคุยอย่างไรเพื่อให้สามีหันมาร่วมด้วยช่วยกัน…
ลำดับแรก อย่าหยิบยกขึ้นเตียง
ตอนคุณทั้งคู่เปลือยกายล่อนจ้อนไม่ใช่ช่วงเวลาสำหรับการถกเถียงวิเคราะห์ปัญหาเซ็กซ์กันหรอกนะ จำไว้ให้ขึ้นใจเลย เพราะขืนคุณเปิดประเด็นปั๊บ น้องจู๋ที่กำลังเริ่มปึ๋งปั๋งมีหวังหดกลับเข้าไปในกระดอง กลายเป็นตะพาบน้ำแน่นิ่ง ขณะที่ภายในใจของคุณผู้ชายเดือดปุ๊ดๆ พาลอารมณ์เสีย ใจปฏิเสธ..แม้แต่รับฟัง… …
“ห้องนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเตียงควรเป็น สถานที่อบอุ่นหลบภัย ไม่ใช่เวทีร้องเรียน” คิมเบอร์ลี่ แนะให้เลือกหาสถานที่กลางๆ อย่าง ร้านอาหารโรแมนติก อันอวลไปด้วยบรรยากาศซึ้งๆ ซึ่งช่วยให้คุณทั้งคู่ผ่อนคลายคุยเรื่องเอ็กซ์ ชิมิสองเรา
ลำดับสอง ต้องวางแผน เกริ่นนัดว่าจะคุย
เพราะเซ็กซ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คุณจะมาใช้อารมณ์หญิง พูดโพล่ง สักแต่ได้ระบายใส่สามีไม่ได้
“ถ้าสามีของคุณรู้สึกถูกโจมตี เขาจะต่อต้าน” คิมเบอร์ลี่ ยังแนะให้บอกสามีไปเลยว่าคุณจะขอคุยเรื่องนี้ เพื่อทั้งคุณและเขาจะได้มีเวลาเตรียมตัวคิดไตร่ตรองรอบด้านอย่างลึกว่า ต้องการพูดอะไรจริงๆ
ลำดับสาม ย้อนระลึกถึงวันวานที่สองเราฮอทฮีตสวีทตี้
แทนที่จะเปิดประเด็นคุยอย่างซีเรียส ราวกับถกปัญหาการเมือง ลองระลึกความหลัง กลับไปหาความรู้สึกหวานหวิวดีๆ ในอดีต ที่คุณทั้งสองเคยทำด้วยกัน มันจะนำมาซึ่งการพูดคุยเรื่องเซ็กซ์ด้วยจิตใจยินดีเปิดกว้างอย่างกันเอง
ก็ส่งสัญญาณไปยังสามีจอมบื้อหน่อยซี่ อาทิ “ชอบจังเหมือนก่อนเราจูบกันน้านนาน คุณจูบอร่อยมาก อยากได้อย่างนั้นอีก”, “หนูชอบนะเวลาที่พี่แอบเข้ามาโอบข้างหลัง ตื่นเต้นเกิดอารมณ์ดี!” …จัดไป
ลำดับสี่ ผู้ชายไม่มีทางรู้อัตโนมัติหรอกว่าจะเอาใจคุณยังไง
เมื่อก่อนคุณอาจเสพสมและสุขสม ซึ่งคุณสามีอาจแค่คลำสะเปะสะปะก็ได้ ทว่าอย่าลืมนะคะว่า ช่วงแรกๆ นั้นน่ะ ข้าวใหม่ปลามัน แค่เห็นหน้าหรือได้ยินเสียงเขา คุณก็น้ำแตกแล้ว
“ความเคยชินซ้ำซากไม่เวิร์คเสมอไป” ทอดด์ เครอเกอร์ (Todd Creager) นักเขียน Hot Marriage แถวลอสแองเจอลิส อธิบายข้อเท็จจริงตามภาวะวัยฝ่ายหญิงว่า การมีลูกหรืออายุที่มากขึ้นย่อมส่งผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
ถ้าคุณไม่บอกเขาว่าอะไรเวิร์ค อะไรไม่เวิร์คซะแล้ว ..เขาจะรู้ได้ยังไง
“เหมือนแผนที่ ต้องคอยอัพเดทเส้นทางใหม่ๆ ตลอดเวลา” ทอดด์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ลำดับห้า ต้องชัดเจนว่าตัวเองต้องการอะไร
“หากไม่แน่ใจตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่ คุณก็จะไม่มีทางสื่อสารกับคู่ของคุณได้หรอก” ทอดด์ เชียร์ให้ค้นหาความต้องการของตัวเองจริงๆ และกล้าที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยความสุภาพอ่อนโยน
อย่ามัวเขินอายหรือกระดากที่จะพูดเลยค่ะ ในเมื่อ ‘เขา’ คือ คนที่คุณยอมแก้ผ้านอนด้วยตั้งหลายปี ก็ไม่น่าเขินที่จะเปิดอก
สิ่งน่าอายคือ การโกหกคนรักต่างหาก
การปกปิดให้เขาหลงเข้าใจผิดว่า ลีลาของเขายังทำให้คุณแฮปปี้อยู่ เป็นบาปใหญ่ชีวิตคู่นะคะ ตรงกันข้าม การเปิดเผยความในใจเรื่องลับๆ ลึกๆ ซึ้งๆ นี้แล้ว จะช่วยก่อให้เกิดความสนิทสนมกันอย่างแนบแน่นมากขึ้นด้วยซ้ำ ทั้งนี้ต้องพูดอย่างนุ่มนวล และแยบยลค่ะ
ลำดับหก ห้ามตำหนิ ดูถูกดูแคลนเขาเด็ดขาด
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย ใช้ชีวิตผัวเมียนานปียิ่งนิสัยลามปาม เผลออำผัว ..ตาแก่ พุงโย้ จู๋เล็ก ..ช้าจัง เมื่อยขา ..อ๊ะ เสร็จแล้วเหรอ หรือไม่ก็ขี้บ่นแม้กระทั่งบนเตียง ..โอ้ย โดนผม เจ็บ ..ไม่เอา อย่าขยำนม ทำมาแพง ฯลฯ นานาสารพัดวาจาบั่นทอนอารมณ์ ทำลายบรรยากาศ
ไม่มีใครชอบถูกตำหนิหรอกค่ะ เพราะนอกจากทำให้เสียความมั่นใจแล้ว ยังพาลอารมณ์เสีย ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลย
“และห้ามพูดทำนองว่าเราจำเป็นต้องแก้ปัญหาเซ็กซ์ของเรากันแล้วล่ะ” ทอดด์สอนหญิงใช้ภาษาเชิงบวก... “รู้ค่ะ คุณอยากให้ฉันมีความสุข และฉันก็อยากให้คุณมีความสุข เรามาทำมันให้สนุกขึ้นดีมะ”
เพราะความสุขที่แท้จริงไม่ควรเกิดกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเท่านั้น หากควรจะได้รับการแบ่งปันซึ่งกันและกัน
ลำดับเจ็ด ตัวคุณเองเป็นบุรุษที่1 ในการสนทนา
“มันไม่ใช่สิ่งผิดสิ่งถูก แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องการ” ทอดด์ ยกตัวอย่างแทนที่จะพูดว่า “คุณเล้าโลมฉันน้อยไป”
จงพูดว่า “ฉันอยากให้คุณกอดจูบฉันนานขึ้นอีกนิด สัมผัสหน้าอกฉันนานขึ้นอีกหน่อย นะคะที่รัก แล้วค่อย… …”
ลำดับแปด แสดงออกซึ่งไร้คำพูดด้วย
การอยากได้ในสิ่งปรารถนาไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นคำพูดออกจากปากเท่านั้น
“การกระทำ ภาษากาย และน้ำเสียง สามารถช่วยได้” ตาทอดด์ พยายามสรรคิดวิธีช่วยให้สาวเราสื่อสารกับสามี
คุณอาจดึงมือคนรักไปวาง ณ จุดที่ตัวเองต้องการ หรือเคลื่อนไหวศีรษะ พลิกร่างกายไปในทิศทางที่ต้องการ เหล่านี้ล้วนชี้ให้เขารู้ว่าคุณกำลังมีความปรารถนาอะไร
สำคัญคือ คุณต้องผ่อนคลาย และแสดงออกอย่างออดอ้อน ไม่ใช่บังคับเขา
ลำดับเก้า มีทางออกในใจ แต่ไม่ลืมที่จะเปิดกว้างรับไอเดียของเขา
ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และพร้อมเปิดกว้างรับความคิดเห็นของเขาด้วย
“บางทีเขาอาจมีความคิดดีๆ ที่คุณนึกไม่ถึงมาก่อน” คิมเบอร์ลี่ เซ็กซ์เทอราปีสคนเดิม แนะว่า ให้พบกันครึ่งทาง
“พวกคุณอาจไปหาหนังสือหรือวีดิโอดูด้วยกัน เพื่อปรับปรุงชีวิตเซ็กซ์ด้วยกัน”
ลำดับสิบ จำไว้ นี่ไม่ใช่การสนทนาเซ็กซ์ครั้งเดียวจบ
การที่ผัวเมียมานั่งพูดคุยเรื่องบนเตียงกัน ไม่ใช่ประเด็นคอขาดบาดตาย และก็ไม่ใช่หัวข้อที่คุยกันครั้งเดียวในชีวิตคู่ ตรงกันข้าม ควรหมั่นเช็ครสนิยมความต้องการทางเพศซึ่งกันและกันสม่ำเสมอด้วยซ้ำ เสมือนวางแผนเรื่องเงินเรื่องลูก ร่วมด้วยช่วยกัน แล้วชีวิตคู่บนเตียงของคุณก็จะไม่น่าเบื่อ
ขอให้ชีวิตเซ็กซ์กระชุ่มกระชวยค่า
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ชีวิตคู่นอกจากต้องมีความรักความปรารถนาซึ่งกันและกันแล้ว ต้องมีความเข้าอกเข้าใจกันในเรื่องรสนิยมความต้องการทางเพศด้วย
ถึงจะแต่งงานมีลูกสาม อยู่ด้วยกันมาแล้วเหยียบยี่สิบปี ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเซ็กซ์จะจี๊ดจ๊าดซาบซ่านตล๊อดนะจ๊ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงเรา ไหนจะผ่านการผ่าคลอด เหน็ดเหนื่อยจากงานข้างนอก กลับมาต้องหาข้าวหาปลาให้ลูกให้ผัวกิน ตกดึกขึ้นเตียงจะคึกทันทีได้อย่างไร หรือบางนางอยากให้คุณสามีจุ๊บน้องสาวบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศเข้าครัวทำรักบ้าง เปลี่ยนท่าซ้ำซากฉันขออยู่บนบ้าง ..ก็ไม่กล้าเอ่ย!
“ชีวิตแต่งงานที่ดีคือ ทั้งคู่ช่วยกันแก้ไขปัญหาเซ็กซ์ด้วยกัน” คิมเบอร์ลี่ เอ.ชาร์กี้ (Kimberly A. Sharky) เซ็กซ์เทอราปีสในชิคาโก กล่าวว่า “คุณต้องคุยกับคู่ของคุณ”
ปัญหาคือ จะเปิดประเด็นคุยอย่างไรเพื่อให้สามีหันมาร่วมด้วยช่วยกัน…
ลำดับแรก อย่าหยิบยกขึ้นเตียง
ตอนคุณทั้งคู่เปลือยกายล่อนจ้อนไม่ใช่ช่วงเวลาสำหรับการถกเถียงวิเคราะห์ปัญหาเซ็กซ์กันหรอกนะ จำไว้ให้ขึ้นใจเลย เพราะขืนคุณเปิดประเด็นปั๊บ น้องจู๋ที่กำลังเริ่มปึ๋งปั๋งมีหวังหดกลับเข้าไปในกระดอง กลายเป็นตะพาบน้ำแน่นิ่ง ขณะที่ภายในใจของคุณผู้ชายเดือดปุ๊ดๆ พาลอารมณ์เสีย ใจปฏิเสธ..แม้แต่รับฟัง… …
“ห้องนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเตียงควรเป็น สถานที่อบอุ่นหลบภัย ไม่ใช่เวทีร้องเรียน” คิมเบอร์ลี่ แนะให้เลือกหาสถานที่กลางๆ อย่าง ร้านอาหารโรแมนติก อันอวลไปด้วยบรรยากาศซึ้งๆ ซึ่งช่วยให้คุณทั้งคู่ผ่อนคลายคุยเรื่องเอ็กซ์ ชิมิสองเรา
ลำดับสอง ต้องวางแผน เกริ่นนัดว่าจะคุย
เพราะเซ็กซ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน คุณจะมาใช้อารมณ์หญิง พูดโพล่ง สักแต่ได้ระบายใส่สามีไม่ได้
“ถ้าสามีของคุณรู้สึกถูกโจมตี เขาจะต่อต้าน” คิมเบอร์ลี่ ยังแนะให้บอกสามีไปเลยว่าคุณจะขอคุยเรื่องนี้ เพื่อทั้งคุณและเขาจะได้มีเวลาเตรียมตัวคิดไตร่ตรองรอบด้านอย่างลึกว่า ต้องการพูดอะไรจริงๆ
ลำดับสาม ย้อนระลึกถึงวันวานที่สองเราฮอทฮีตสวีทตี้
แทนที่จะเปิดประเด็นคุยอย่างซีเรียส ราวกับถกปัญหาการเมือง ลองระลึกความหลัง กลับไปหาความรู้สึกหวานหวิวดีๆ ในอดีต ที่คุณทั้งสองเคยทำด้วยกัน มันจะนำมาซึ่งการพูดคุยเรื่องเซ็กซ์ด้วยจิตใจยินดีเปิดกว้างอย่างกันเอง
ก็ส่งสัญญาณไปยังสามีจอมบื้อหน่อยซี่ อาทิ “ชอบจังเหมือนก่อนเราจูบกันน้านนาน คุณจูบอร่อยมาก อยากได้อย่างนั้นอีก”, “หนูชอบนะเวลาที่พี่แอบเข้ามาโอบข้างหลัง ตื่นเต้นเกิดอารมณ์ดี!” …จัดไป
ลำดับสี่ ผู้ชายไม่มีทางรู้อัตโนมัติหรอกว่าจะเอาใจคุณยังไง
เมื่อก่อนคุณอาจเสพสมและสุขสม ซึ่งคุณสามีอาจแค่คลำสะเปะสะปะก็ได้ ทว่าอย่าลืมนะคะว่า ช่วงแรกๆ นั้นน่ะ ข้าวใหม่ปลามัน แค่เห็นหน้าหรือได้ยินเสียงเขา คุณก็น้ำแตกแล้ว
“ความเคยชินซ้ำซากไม่เวิร์คเสมอไป” ทอดด์ เครอเกอร์ (Todd Creager) นักเขียน Hot Marriage แถวลอสแองเจอลิส อธิบายข้อเท็จจริงตามภาวะวัยฝ่ายหญิงว่า การมีลูกหรืออายุที่มากขึ้นย่อมส่งผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
ถ้าคุณไม่บอกเขาว่าอะไรเวิร์ค อะไรไม่เวิร์คซะแล้ว ..เขาจะรู้ได้ยังไง
“เหมือนแผนที่ ต้องคอยอัพเดทเส้นทางใหม่ๆ ตลอดเวลา” ทอดด์ เปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ลำดับห้า ต้องชัดเจนว่าตัวเองต้องการอะไร
“หากไม่แน่ใจตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่ คุณก็จะไม่มีทางสื่อสารกับคู่ของคุณได้หรอก” ทอดด์ เชียร์ให้ค้นหาความต้องการของตัวเองจริงๆ และกล้าที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยความสุภาพอ่อนโยน
อย่ามัวเขินอายหรือกระดากที่จะพูดเลยค่ะ ในเมื่อ ‘เขา’ คือ คนที่คุณยอมแก้ผ้านอนด้วยตั้งหลายปี ก็ไม่น่าเขินที่จะเปิดอก
สิ่งน่าอายคือ การโกหกคนรักต่างหาก
การปกปิดให้เขาหลงเข้าใจผิดว่า ลีลาของเขายังทำให้คุณแฮปปี้อยู่ เป็นบาปใหญ่ชีวิตคู่นะคะ ตรงกันข้าม การเปิดเผยความในใจเรื่องลับๆ ลึกๆ ซึ้งๆ นี้แล้ว จะช่วยก่อให้เกิดความสนิทสนมกันอย่างแนบแน่นมากขึ้นด้วยซ้ำ ทั้งนี้ต้องพูดอย่างนุ่มนวล และแยบยลค่ะ
ลำดับหก ห้ามตำหนิ ดูถูกดูแคลนเขาเด็ดขาด
ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย ใช้ชีวิตผัวเมียนานปียิ่งนิสัยลามปาม เผลออำผัว ..ตาแก่ พุงโย้ จู๋เล็ก ..ช้าจัง เมื่อยขา ..อ๊ะ เสร็จแล้วเหรอ หรือไม่ก็ขี้บ่นแม้กระทั่งบนเตียง ..โอ้ย โดนผม เจ็บ ..ไม่เอา อย่าขยำนม ทำมาแพง ฯลฯ นานาสารพัดวาจาบั่นทอนอารมณ์ ทำลายบรรยากาศ
ไม่มีใครชอบถูกตำหนิหรอกค่ะ เพราะนอกจากทำให้เสียความมั่นใจแล้ว ยังพาลอารมณ์เสีย ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลย
“และห้ามพูดทำนองว่าเราจำเป็นต้องแก้ปัญหาเซ็กซ์ของเรากันแล้วล่ะ” ทอดด์สอนหญิงใช้ภาษาเชิงบวก... “รู้ค่ะ คุณอยากให้ฉันมีความสุข และฉันก็อยากให้คุณมีความสุข เรามาทำมันให้สนุกขึ้นดีมะ”
เพราะความสุขที่แท้จริงไม่ควรเกิดกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเท่านั้น หากควรจะได้รับการแบ่งปันซึ่งกันและกัน
ลำดับเจ็ด ตัวคุณเองเป็นบุรุษที่1 ในการสนทนา
“มันไม่ใช่สิ่งผิดสิ่งถูก แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องการ” ทอดด์ ยกตัวอย่างแทนที่จะพูดว่า “คุณเล้าโลมฉันน้อยไป”
จงพูดว่า “ฉันอยากให้คุณกอดจูบฉันนานขึ้นอีกนิด สัมผัสหน้าอกฉันนานขึ้นอีกหน่อย นะคะที่รัก แล้วค่อย… …”
ลำดับแปด แสดงออกซึ่งไร้คำพูดด้วย
การอยากได้ในสิ่งปรารถนาไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นคำพูดออกจากปากเท่านั้น
“การกระทำ ภาษากาย และน้ำเสียง สามารถช่วยได้” ตาทอดด์ พยายามสรรคิดวิธีช่วยให้สาวเราสื่อสารกับสามี
คุณอาจดึงมือคนรักไปวาง ณ จุดที่ตัวเองต้องการ หรือเคลื่อนไหวศีรษะ พลิกร่างกายไปในทิศทางที่ต้องการ เหล่านี้ล้วนชี้ให้เขารู้ว่าคุณกำลังมีความปรารถนาอะไร
สำคัญคือ คุณต้องผ่อนคลาย และแสดงออกอย่างออดอ้อน ไม่ใช่บังคับเขา
ลำดับเก้า มีทางออกในใจ แต่ไม่ลืมที่จะเปิดกว้างรับไอเดียของเขา
ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และพร้อมเปิดกว้างรับความคิดเห็นของเขาด้วย
“บางทีเขาอาจมีความคิดดีๆ ที่คุณนึกไม่ถึงมาก่อน” คิมเบอร์ลี่ เซ็กซ์เทอราปีสคนเดิม แนะว่า ให้พบกันครึ่งทาง
“พวกคุณอาจไปหาหนังสือหรือวีดิโอดูด้วยกัน เพื่อปรับปรุงชีวิตเซ็กซ์ด้วยกัน”
ลำดับสิบ จำไว้ นี่ไม่ใช่การสนทนาเซ็กซ์ครั้งเดียวจบ
การที่ผัวเมียมานั่งพูดคุยเรื่องบนเตียงกัน ไม่ใช่ประเด็นคอขาดบาดตาย และก็ไม่ใช่หัวข้อที่คุยกันครั้งเดียวในชีวิตคู่ ตรงกันข้าม ควรหมั่นเช็ครสนิยมความต้องการทางเพศซึ่งกันและกันสม่ำเสมอด้วยซ้ำ เสมือนวางแผนเรื่องเงินเรื่องลูก ร่วมด้วยช่วยกัน แล้วชีวิตคู่บนเตียงของคุณก็จะไม่น่าเบื่อ
ขอให้ชีวิตเซ็กซ์กระชุ่มกระชวยค่า
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net