>>โคมไฟขนาดยักษ์สีสันสดใส ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปรียบเหมือนโรงลิเกขนาดจำลอง ที่ให้ผู้คนที่มาเดินชมงานศิลป์ได้ "เล่น" กับชิ้นงานนั้นได้ คือหนึ่งในผลงานของศิลปินสาวและดีไซเนอร์รุ่นใหม่ "เอิ้น - ศริญญา ลิมป์ทองทิพย์" เจ้าของแบรนด์สินค้าตกแต่งบ้าน"SRINLIM" ที่โดดเด่นด้วยการใช้งานกราฟิกสีสันฉูดฉาด บวกกับงานผ้าและงานปักมือ รวมกันเป็นตัวตนของสาวคนนี้ ซึ่งปัจจุบันแบรนด์นี้มีจำหน่ายที่ร้าน Aussino สาขาชิดลม
จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจสำคัญในผลงานของเธอ มาจากการได้ไปเปิดประสบการณ์เพิ่มเติมที่ประเทศอังกฤษ โดยหลังเรียนจบจากภาควิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เธอก็เลือกไปเรียนต่อระดับปริญญาโท ทางด้าน Textile Design ที่ Chelsea College of Art and Design, University of the Arts London
“หลังจากหาข้อมูลมหาวิทยาลัยในหลายประเทศ เอิ้นว่าที่อังกฤษเหมาะจะเรียนด้านไฟน์อาร์ตมากกว่า เนื่องจากสาขาที่เราอยากเรียนค่อนข้างเฉพาะด้าน และมหาวิทยาลัยนี้มีชื่อเสียงอยู่แล้วด้วย เลยไปปรึกษากับทาง Mentor International ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ เพราะที่นี่ได้รับมอบหมายจากทางมหาวิทยาลัยให้ดูแลในขั้นตอนการรับนักศึกษา เขาก็คอยให้ข้อมูลเพิ่มเติม เอิ้นได้สัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่จากทางอังกฤษและเอาพอร์ตโฟลิโอให้ดู และโชคดีที่ตอนนั้นมี Course Director บินมาสัมภาษณ์ถึงที่เลย
การที่ ศริญญา เลือกเรียนที่ประเทศอังกฤษ เพราะชอบบ้านเมืองที่มีรากเหง้าของวัฒนธรรม รวมถึงบรรยากาศของที่นั่นยังเอื้อต่อการเรียนด้านศิลปะเป็นอย่างมาก “ตอนเรียนที่นั่นสนุกมากค่ะ เพราะมหาวิทยาลัยจะอยู่ที่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ จะมีงานของศิลปินดังๆ มาให้ดูเยอะ และที่อังกฤษจะมีอีเว้นต์งานศิลปะตลอดเวลา พิพิธภัณฑ์ก็เยอะมาก เวลาเข้าไปทีก็อยู่ในนั้นทั้งวันเพราะกว้างขวางและระบบการจัดการดี ซึ่งนั่นก็ทำให้เอิ้นได้เก็บเกี่ยวอะไรมาเยอะมาก เป็นเหมือนการได้เปิดโลกทัศน์ของเรา เพราะอย่างบางงานศิลปะ เขาก็จะทำเป็น Sculpture อยู่ทั่วลอนดอนเลยก็มี
ส่วนร้านหนังสือที่โน่นก็เป็นแบบ Stand Alone ไม่ต้องเดินเข้าห้างก่อนถึงจะไปเจอร้านหนังสือแบบเมืองไทย แถมยังสามารถนั่งอ่านหนังสือก่อนได้ บางทีก็กลายเป็นที่สิงสถิต เพราะบรรยากาศทำให้เราอยากอ่าน หนังสือดีไซน์จากทั่วโลกเยอะมาก ไหนจะร้านหนังสือเก่า ร้านขายแผ่นเสียงอีก ไปอยู่ที่นั่นปีกว่าๆ ไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนั้น”
แต่ในอีกด้านหนึ่ง การไปเล่าเรียนต่างบ้านต่างเมืองของ ศริญญา ก็ทำให้เธอได้ประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลายเช่นกัน “ ถ้าเรียนอยู่เมืองไทยเราอาจจะมีเพื่อนช่วย แต่ที่โน่นจะค่อนข้างตัวใครตัวมัน เพราะแต่ละคนก็จะทำโปรเจ็กต์ยาวทั้งปี เราก็ต้องรู้เรื่องงานของเราดีที่สุดอยู่แล้ว คือต้องพึ่งตัวเอง 100เปอร์เซ็นต์ รู้จักเข้าหาอาจารย์ แต่โชคดีที่ อาจารย์ของเอิ้น น่ารักมาก รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ Mentor International ก็ดูแลเราดีมาก ให้คำแนะนำได้ทุกเรื่อง อย่างไปอยู่อังกฤษตอนแรกหอพักเต็ม เขาก็คอยช่วยเหลือแนะนำที่พักให้ค่ะ”
นอกจากเรื่องเรียนแล้ว ศริญญา ยังเล่าถึงประสบการณ์น่าตื่นเต้นระหว่างอยู่ที่ประเทศอังกฤษ “ตอนนั้นเพื่อนฝากส่งของกลับเมืองไทย แต่ดันลืมคืนกล่องแพ็กของ คือถ้าไม่คืนเขาก็จะคิดเงินเพิ่ม เราก็เลยวิ่งตามไปคืน ประตูตึกก็ปิด แต่เราไม่มีกุญแจ ในสภาพที่ใส่ชุดนอน ใส่สลิปเปอร์ ตอนนั้นเป็นหน้าหนาว ฝนก็ตก แล้วก็ไม่มีใครอยู่ในตึกเพราะออกไปทำงานกันหมด แต่โชคดีมีกระดาษกับปากกาอยู่ในมือ เลยจดเบอร์ฝ่ายซ่อมบำรุงตึกเอาไว้ แล้วไปขอโทรศัพท์ที่เนิร์สเซอร์รี่ฝั่งตรงข้าม แต่ปรากฏว่าเบอร์ที่ให้ไว้เป็นเบอร์เก่าอีก สุดท้ายเลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อน บอกคนขับไปว่าไม่มีเงินนะ แต่ถ้าเจอเพื่อนแล้วจะเอาเงินให้ โชคดีที่เพื่อนอยู่ห้องพอดี
อีกครั้งหนึ่ง ตอนเพิ่งไปถึงอังกฤษได้ประมาณสองอาทิตย์ พอดีมีเพื่อนที่บ้านอยู่ในโซนอันตราย พวกเรากลุ่มคนไทยเลยไปส่งเพื่อนผู้หญิงชาวญี่ปุ่น แต่ไม่ได้ตระหนักว่าเลยเที่ยงคืนแล้ว พอดีมีแก๊งเด็กวัยรุ่นมาหาเรื่อง ล้อพวกเราเป็นภาษาจีน แล้วทุบป้ายรถเมล์ให้เรากลัว แต่โชคดีที่รถเมล์มาพอดี เลยบอกคนขับรถว่ามีพวกอันธพาล คนขับรถเลยปิดไฟ และไล่พวกนั้นออกไป จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าเราไม่ควรจะไปในโซนอันตราย หรือในเขตที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย”
หลังจากเรียนจบและกลับมาอยู่เมืองไทย ศริญญา ทำงานอยู่ในบริษัทออกแบบของแต่งบ้านอยู่สักระยะ ก่อนจะลาออกมาเป็นอาจารย์พิเศษสาขาแฟชั่น ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จนได้เข้าประกวดโครงการ Talent Thai ของกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ และจากโครงการนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของเธอ กับแบรนด์ SRINLIM เมื่อปี 2552
“ตอนนั้นทางกรมส่งเสริมการส่งออก มีการสนับสนุนนักออกแบบไทย สู่ตลาดโลก ก็จะมีดีไซเนอร์รุ่นพี่หลายๆ คนโกอินเตอร์ แต่ส่วนใหญ่ตอนนั้นจะเป็น โปรดักซ์ดีไซน์ แต่เอิ้นมาจากสายงานกราฟิกดีไซน์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหม่ และทางกระทรวงได้ให้พื้นที่แสดงผลงานที่งาน BIG
เอิ้นได้ลองออกคอลเล็กชั่นแรกคือ นกยูง ซึ่งเป็นพวกของตกแต่งบ้าน ได้ลองทำหมอน โซฟา ผ้าบุโซฟา ทำไป 7-8 ลาย ซึ่งเราก็เริ่มจากศูนย์ ทำโลโก้เอง เว็บไซต์เอง แผนธุรกิจก็ยังไม่มี ผลิตผลงานออกไปแล้วค่อยดูฟีดแบ็กว่าเป็นอย่างไร พอทำไปสักพักเราจะเริ่มรู้ทาร์เก็ตเอง ค่อยๆ เรียนรู้กับลูกค้า คนที่ดีลงาน ซัพพลายเออร์ต่างๆ”
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ SRINLIM ก็จะมีทั้งต่างชาติและคนไทย และมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน เพราะคาแร็กเตอร์ของสินค้าก็ชัดเจนไม่แพ้กัน คือ เน้นลายกราฟิกที่สีสันฉูดฉาด อย่างคอลเล็กชั่น ลิเก ซึ่งเธอได้รับโจทย์ว่า ให้ออกแบบอะไรที่มีพื้นฐานจากวัฒนธรรมไทย เมื่อนำมารวมกับจุดเด่นของเธอที่ชอบทำงานเน้นสีสันจัดจ้าน จึงมาลงตัวที่ลิเก ศิลปะวัฒนธรรมไทยที่มีทั้งสีสันและความแวววาวของเครื่องประดับ โดยนำมาปรับให้ดูทันสมัยมากขึ้น
นอกจากงานสร้างแบรนด์ของตัวเองแล้ว เธอยังมีผลงานในการออกแบบภาพประกอบพ็อกเก็ตบุก ออกแบบห้องพักให้โรงแรมดัง รวมถึงงานศิลปะที่หอศิลป์ฯ ซึ่งเป็นการทำงานควบคู่กับงานศิลปะที่เธอรักได้อย่างลงตัว... :: Text by FLASH
ขอบคุณ Mentor International (www.mentor.ac) ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ สาขาถนนราชดำริ โทร 02 255 5157-9
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net หรือ App Store ได้แล้วที่ celeb online ipad edition
