xs
xsm
sm
md
lg

อารมณ์ลิเก ในงานออกแบบของสาวเท่ห์ “เอิ้น”ศริญญา ลิมป์ทองทิพย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

+


บันไดสู่ความสำเร็จนั้นจะต้องเริ่มจาก “ความรัก” และ “ความฝัน” มนุษย์เราทุกคนล้วนต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน แต่ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากพลังในตัวของเราเอง หากเราไม่มีพลัง ไม่มีไฟในการทำงาน ความสำเร็จก็ดูจะห่างไกลความเป็นจริงเสียเหลือเกิน “เอิ้น” ศริญญา ลิมป์ทองทิพย์ จัดเป็นอีกหนึ่งดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ไฟแรงที่มีพลังในการสรรค์สร้างงานศิลปะที่น่าจับตาไม่น้อย

จากเด็กโรงเรียนประจำ ที่ชื่นชอบในเรื่องของศิลปะใฝ่ฝันอยากเป็นนักออกแบบ เอิ้นตั้งธงไว้ว่าอนาคตเธอต้องการเป็นดีไซน์เนอร์ หลังจบมัธยมปลาย จากาเซนโยเซฟคอนแวนด์ เอิ้นพลาดเอ็นทรานซ์ จึงมาเรียนออกแบบนิเทศศิลป์ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ ก่อนจะบินไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรียนต่อด้านดีไซน์ที่ Chelsea College of Art and Design สาขา Textile Design ที่ University of The Arts London ประเทศอังกฤษ

“เอิ้น ไม่รู้สึกเสียใจที่เอนทรานซ์ไม่ติด เพราะที่ม.กรุงเทพฯทำให้เราได้เรียนรู้ทุกอย่างระบบความคิดถูกขัดเกลาใหม่ ทำให้ระบบความคิดเกี่ยวกับงานออกแบบเป็นขั้นตอน อีกอย่างเอิ้นอาจารย์ที่นี่ดีมากสอนและให้คำแนะนำ ที่ชัดเจนว่าว่าเราอยากทำงานเกี่ยวผ้าเป็นช่วงเรียนปี 3 อาจารย์สั่งงาน “เอิ้น” รู้สึกเบื่อกระดาษ ก็เลยถามว่าทำผ้าได้ไม๊? อาจารย์บอกได้ทำเลย เราก็ทำผ้าพันคอยาว ที่สามารถปรับใช้ได้หลายแบบ อาจารย์ก็ชอบ จบออกมาทำงานก็ยังไม่รู้ “เท๊กซ์ไทล์” (งานสิ่งทอ) เขาทำกันอย่างไร ก็รู้แล้วว่าเท่านี้ไม่พอเลยไปเรียนเพิ่มที่อังกฤษ กลับมามาเจองานของพี่มุก-เพลินจันทร์ก็ชอบเลยสมัครขอไปฝึกงานกับพี่มุกตรงนี้ทำให้รู้ขั้นตอนการทำงานมากขึ้น”
“เอิ้น”ศริญญา ลิมป์ทองทิพย์
หลังกลับจากอังกฤษเอิ้นเดินตามฝันที่ตั้งไว้อย่างซื่อตรง แม้ว่าตลอดทางจะพบอุปสรรคบ้างแต่สุดท้ายก็ก้าวเข้ามาอยู่แถวหน้าได้ โดยสร้างแบรนด์ของตัวเองภายใต้ชื่อ SRINLIM

เอิ้นบอกว่า สไตล์การออกแบบงานของเธอส่วนใหญ่จะหยิบเรื่องใกล้ตัวมาใช้ ทุกคอลเลกชั่นเน้นในเรื่องสีสันที่ฉูดฉาด จับคู่สีแปลกและเมื่อมาผสมกันแล้วนอกจากตัวเองรู้สึกสนุก งานออกมาโดดเด่นถูกใจลูกค้าหลายคนทำให้น่าหยิบจับ

“เอิ้นชอบอะไรที่ดูแล้วมันสดใส จะเน้นความสำคัญเรื่องสีสัน เพราะ .. จริงๆแล้วมาจากความเป็นตัวตนของตนเองโดยธรรมชาติ เป็นคนที่ชอบสีสดๆ และจับคู่สีใหม่ๆที่ยังไม่เคยเห็น เอามาผสมกันดู เอิ้นเชื่อว่าสีทุกสีนั้นอยู่ด้วยกันได้ หากเราจัดสัดส่วนและน้ำหนักของสีที่ลงตัว พยายามจะใช้สีดำในงานเหมือนกันนะคะ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยปรากฎสีนี้ในงานสักทีเลยค่ะ ถือเป็น mission ใหม่ที่น่าลอง”
LIKAY Collection ที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในตัวแทนนักออกแบบไทยโชว์ผลงาน Slow Hand Design (Taiwan)
ผลงานที่ออกมาแล้วดูเป็นที่ฮือฮาคงต้องยกให้งาน “นกยูง” และงาน “ลิเก” ซึ่งถือเป็นคอลเลคชั่นแรกๆ ที่นำไปโชว์ต่างประเทศและได้รับความสนใจอย่างมาก เอิ้นบอกว่างาน “ลิเก” ได้รับแรงบันดาลมาจากชุดลิเก เลือกนำมาเล่นในงานเพราะต้องการสะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทย และปรับทัศนคติและมุมมองคนไทยหลายคนที่มีต่อ “ลิเก” ให้ดูดีขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผลในระดับหนึ่ง งานชิ้นนี้ไปโชว์ที่ไต้หวันก็ได้รับคำชมมากมาย

“ก็มีคำถามว่าทำไมต้อง “ลิเก” เอิ้นคิดว่ามันท้าทาย คืออย่างที่รู้กันว่าพอเราเอ่ยถึง “ลิเก” หลายคนตีความหมายไม่ดี บางคนมองว่าเยอะเกินไป พอไปเห็นชุดลิเกรู้สึกมีเสน่ห์ ชอบสีสันด้วยเลยหยิบลวดลายชุดลิเกที่ประดับด้วยคริสตัลมาดู เห็นเครื่องทรงเพชรซีกที่เขานำมาประดับก็ถูกใจ พอมาใช้ในงานเอิ้นก็ลดทอนลงมา เอาเพชรที่อยู่บนตัวมาจัดวางใหม่ งานชุดนี้ออกไปคนชอบมาก ส่วน “นกยูง” ก็เป็นธรรมชาติใกล้ตัวที่เห็นแล้วปิ๊ง”

สินค้าของ SRINLIM ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวของเครื่องใช้ lifestyle จำพวกของตกแต่งบ้านและ accesories เช่น หมอนอิง, upholstery ผ้าบุเก้าอี้ หรือ ผ้าตกแต่งบ้าน, table ware รวมถึงผ้าพันคอ มีสีสันและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานงาน graphic design ไปกับผืนผ้าและผสมผสานงานปักมือเข้าไปด้วย

ท่ามกลางยุคสมัยที่เทคโนโลยีกำลังเป็นใหญ่ พื้นที่ของสินค้าที่มาจากมันสมองมีงานฝีมือเป็นส่วนผสมจึงมีน้อยนัก สินค้าขายยากเพราะราคาแพงกว่าปกติเนื่องจากต้นทุนความคิดที่สูง มีดีไซนเนอร์หลายรายต้องปรับตัวเองทำสินค้าเป็น mass product เพื่อความอยู่รอด แต่สำหรับเอิ้นเองยังยืนยันจุดยืนในการทำงานที่ว่าจะไม่ปรับตัวเองไปตามกระแส

"เอิ้นว่าเราสามารถทำงานออกแบบที่มีจุดยืนในตัวเราชัดเจนได้ และไม่โน้มเอียงไปตามกระแสลมได้ แต่ไม่ปฏิเสธนะคะว่าเรื่องเงินทุนกำไรก็สำคัญแต่ว่า เราสามารถปรับโดยการผสมผสาน ได้โดยไม่เสียความเป็นตัวเองน่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสม งานของเอิ้นจะยังคงไว้ซึ่งแนวทางโดยไม่เสียความเป็นตัวเอง เอิ้นอาจโชคดีที่ไม่ได้ขัดสนเงินทอง แต่สิ่งที่กล้าพูดคือ เอิ้นทำงานหนัก และไม่ได้สบายแบบได้อะไรมาง่ายๆ ทุกอย่างต้องพิสูจน์ด้วยความพยายามเช่นกันค่ะ และเชื่อเสมอว่าคุณค่าของคนนั้น วัดกันที่ผลของงาน"

แม้ว่าชื่อเสียงและยอดขายของ SRINLIM จะยังไม่โด่งดังมากนัก แต่เอิ้นบอกว่าไม่ใช่ปัญหา งานทุกชุดที่รังสรรค์ออกมาเธอทำด้วยใจ

“เอิ้นพอใจถ้างานของเอิ้นสามารถเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมของลูกค้า และสร้างบรรยากาศ ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกสนาน สดชื่น เพราะมันหมายถึงแรงบันดาลใจที่เอิ้นได้ต่อยอดร้อยเรียงเป็นลวดลายที่มาจากสิ่งที่เราสนใจ อย่างตอนนี้งานของเอิ้นได้วางที่ Aussino House ชิดลม, Trend Design Siam Paragon, เอ็มโพเรียมก็พอใจแล้วเพราะถือว่าได้รับความไว้วางใจในระดับหนึ่ง” เอิ้นกล่าว

ก่อนจากันในวันนั้น เอิ้นมองวงการดีไซน์เนอร์เมืองไทยว่ายังเป็นตลาดที่ไปได้ คนไทยเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องงานดีไซน์มากขึ้น ดังนั้นหากดีไซน์เนอร์ไทยไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ งานของคนไทยก็น่าจะไปได้ไกลติดตลาดสากลเพราะเรามีต้นทุนด้านศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับเอิ้นเองเอิ้นเลือกที่จะไม่หยุดนิ่งใช้ต้นทุนที่มีอยู่รอบตัวให้คุ้มค่ามากที่สุด
หลายคนที่ต้นทุนชีวิตสูงแต่ไม่มีความฝัน ไม่รู้ว่าสิ่งที่ต้องการคืออะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

ไม่ว่าต้นทุนชีวิตจะมีมากหรือน้อยไม่เท่ากัน แต่สิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันคือ ความฝัน และ ความพยายาม ไม่มีอะไรเกินความพยายาม
กำลังโหลดความคิดเห็น