By Lady Manager
ผู้หญิงรั่ว บ้า ต๊อง ที่กำลังครื้นเครงในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กขณะนี้ต้องยกให้นางเป็นที่หนึ่งเลย หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข ด้วยความที่เธอยืนยันว่า “ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต” มันพลิกชีวิตจากผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ ได้ไงล่ะ แล้วพริตตี้มือวางอันดับหนึ่งกับชื่อ “แย้” ฟังแล้วมันดูทะแม่งมั้ย?
หญิงแย้บอกว่าไม่ได้ชื่อ “แย้” มาตั้งแต่กำเนิดหรอก แต่ด้วยเหตุที่นางเต้นเหมือนแย้ ในตอนรับน้องที่มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงได้ชื่อ “แย้” มาแต่บัดนั้น
“ชื่อแย้นี่ เป็นชื่อปัจจุบันที่ทุกคนเรียก จริงๆ แล้วชื่อ “นน” มาจากชื่อจริงว่า นนทพร
เราก็รู้สึกว่า ชื่อนี้น่ารักอ่ะ แต่เพิ่มหญิงเข้าไปเพราะเมื่อตอนไปถ่ายแบบของแบรนด์ Morning Kiss ซึ่งเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ขายดีที่สุดใน Facebook หากนางแบบชื่อแย้คงจะไม่งาม เลยเพิ่มหญิงเข้าไป เป็นหญิงแย้ดีกว่า”
ปัจจุบันนี้งานเข้าหญิงแย้ตรึม ปรากฏตัวและโด่งดังยอดคลิกถล่มทลายใน Social Cam ด้วยการเป็นกูรูสอนแต่งหน้าแบบกระตุกต่อมฮาชาวเน็ต ทว่ารัศมีความเป็นดาราไม่หยุดนิ่งแค่นั้น นางยังขยับไปเล่นซิทคอมเรื่อง “สถานีบานฉ่ำ” ของช่องน้อยสี พร้อมทั้งงานพริตตี้ และถ่ายโฆษณา
ว้าว! รับทรัพย์ทุกช่องทางเลยนะจ๊ะ
ลงทุนยกเครื่อง เปลี่ยนเบ้าหน้า งานทะลักทะล้น!
"ก่อนหน้านี้หน้าแย้ แย่มากคือ ไม่ใช่หมวยน่ารัก แต่เป็นหมวยอาซิ้ม เป็นผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนหนึ่ง แต่โชคดีได้ขาว
แย้ทำจมูก ทำตา ทำปากบน ลักยิ้ม หน้าอก เมื่อก่อนปากแย้หนามาก หนากว่าด้านล่าง 2 เท่า แลดูเหมือนชะนีปากเยิน เวลาพูดจะไม่ค่อยสวย"
และสาเหตุที่หญิงแย้อยากมีนมเป็นของตัวเอง เพราะนางไม่สามารถใช้วิชาอาจารย์โกย(นม)ได้ แม้จะต้องโกยไล่เนื้อมาจากตาตุ่มก็ตาม แต่นางก็ยังเหมือนกะเทยอดอยากโดนยุงกัดนมอยู่ดี
เพราะด้วยสัดส่วน 27-24-35 นางจึงใช้ยกทรงได้แบบเดียวคือ ยกทรงแบบกะเปราะ เหมือนเอาถ้วยมาวางบนกระดาษ และด้วยปริมาณหน้าอกที่ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ นางจึงจัดหนักด้วยการเสริมอึ๋ม ด้วยซิลิโคนจาก USA ยี่ห้อ Silimed ทรงกลมตามใจแฟนหนุ่ม (เป็นหมอศัลย์ผู้ผ่าตัดเสริมให้นางเอง)
"ถ้าเป็นสมัยก่อน แย้จะไม่กล้าให้ใครเห็นหน้าอกเลยนะ เพราะกลัวคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกะเทย แย้ทำหน้าอก ประมาณเดือนสิงหาคม 2008 คือ หน้าอกแย้มันแบนมาก ทำให้มันขึ้นเป็นคัพC เลือกซิลิโคนทรงกลม ตอนเลือกทรงจะตามใจคุณหมอ เพราะไม่รู้จะไปตามใจใครแล้ว
สำคัญสุดคือ ต้องนวดต่อเนื่อง 6 เดือน นวดทุกวัน ถ้าวันละชั่วโมงได้ยิ่งดี เวลาเราทำศัลยกรรมแล้วรู้สึกว่าแต่งตัวได้ง่ายขึ้น ก่อนหน้านี้แย้มีงานถ่ายแบบเข้ามา แต่ปรากฏว่ามันมีชุดหนึ่งที่เหมือนใส่บิกินี่ข้างใน แล้วเป็นเสื้อคลุมให้เห็นร่องอก แล้วมันออกมาน่าเกลียดมาก เหมือนกระเทยอดอยาก เห็นซี่โครงขึ้น จึงอยากทำหน้าอก
จริงๆ แล้ว แนะนำว่า ถ้ามีแฟนจะดีมาก คือ เรานวดเองไม่ไหวนะ เพราะมือเราเล็ก เมื่อยและเหนื่อย ถ้าให้แฟนนวดจะดีมาก" แย้แนะให้พึ่งคุณแฟนช่วยนวดคลึงเต้านมหลังเสริมอึ๋มเพื่อมิให้พังพืดเกาะนมแข็งโป๊ก
"All New หญิงแย้" โฉม 2012
“เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ แย้เพิ่งทำจมูก ทำตา ทำปากบน พร้อมกันวันเดียวกันเลย ทำไปก็คุยกับแฟนไป
ทำศัลยกรรมครั้งแรกเลยคือปี 2008 อายุประมาณ 20 ทำจมูกออกมาแล้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ อาจจะรู้สึกว่าหน้าตาโอเคขึ้น แต่ไม่ได้มีคนทักมากเท่าไหร่ ตอนนั้นมีคนรู้จักเขาทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วมีส่วนลด 1,000 บาท เหลือ 8,000 บาท จึงไปทำเลย
หลังจากทำจมูกปุ้บ หลังจากนั้น 3 เดือนก็ทำหน้าอก
ตอนที่ทำศัลยกรรม อยู่ปี 3 เป็นเด็กเนิร์ด เด็กเรียนมาโดยตลอด เกรดเฉลี่ยก็ประมาณ 3.8 และพอทำจมูก ชีวิตเรามันดูมีอะไรมากขึ้นเยอะเลย เรารู้สึกว่าหน้าตาเป็นปราการด่านแรก คือ คนรุมจีบตรึมเลย
ครั้งที่สองไปแก้เพราะอยากให้โด่งกว่าเดิม อยากให้ปลายแหลม เพราะตอนนั้นคือว่า เทรนด์ปลายแหลมกำลังมาแรง และแย้เป็นคนหน้ามน การที่เสริมจมูกให้ปลายแหลมจะช่วยให้หน้าเราคมขึ้น ซึ่งผลตอบรับดีมาก งานเข้ามาเยอะขึ้น และครั้งล่าสุดคือ ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2012
ส่วนตานั้น เมื่อก่อนแย้จะเป็นคนตาตี่มาก แต่รูปทรงตาดีอยู่แล้ว คือ แย้ไม่ได้จะเปลี่ยนทรงตามาก เพราะแย้เข้าใจว่าหน้าแย้ไม่เหมาะกับการมีตาสองชั้นชัดๆ แย้ตาชั้นเดียวจะสวยกว่า จึงเน้นให้ตาอาจเท่าเดิมแต่เอาไขมันใต้ตาบนออก
ส่วนลักยิ้มก็แค่ เอาเข็มนำร่องแทงเข้าไป จากนั้นเอาไหมสอดแล้วเย็บ เวลายิ้มมันจะกระตุก อยากยิ้มแล้วหน้าหวาน เรารู้สึกว่าใครก็ตามที่มีลักยิ้มจะดูน่ารักขึ้นเลย
เมื่อก่อนแย้หนักแค่ 44 กิโลกรัมเองนะ แต่หน้ากลม บานมาก จึงไปฉีดโบท็อกซ์ ปกติฉีดโบท็อกซ์ต้องฉีดซ้ำ 6-8 เดือน มันเป็นที่สรีระของหน้าคนว่าคนๆ นั้นหน้าบานเพราะอะไร หนึ่ง-ไขมัน สอง-กระดูก สาม-กล้ามเนื้อ แต่แย้โชคดีที่บานเพราะกล้ามเนื้อจึงฉีดโบท็อกซ์" ลดความบานของหน้าได้ผล นางเล่าต่อว่า
"เคี้ยวแล้วเมื่อยเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่เรื่องที่สะเทือนใจคือดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ 7 วัน (ฮากันเข้าไป)
ครอบครัวแย้ตอนแรกแอนตี้นะ ตอนแรกดีใจมากลูกสาวอยากจะเป็นอาจารย์ประวัติศาสตร์ พอเริ่มทำศัลยกรรมเขาก็ไม่ชอบ แต่พอทำปั้บงานก็มา เงินก็มา เขาก็เริ่มยอมรับมากขึ้น”
ไม่เสพติดศัลยกรรม No ฉีดกลูต้าฯ เข้าเส้น!
“ถ้าถามว่าตอนนี้อยากทำอะไรเพิ่ม อยากทำคางมาก แต่คุณหมอไม่ยอมทำให้ หมอบอกแย้ว่า “นี่ ตัวเองจะเสพติดศัลยกรรมแล้วนะเนี้ย” แย้ว่าแย้ไม่ได้เสพติดศัลยกรรม ไม่งั้นแย้ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ไปแล้ว
นอกจากอยากทำคาง แย้ยังอยากจะมีแก้มส้ม หน้าผากโหนกนูน อยากจะมีปลายจมูกเชิดกว่านี้ อยากมากมายแต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่ได้ฉีดกลูต้าไธโอน (Glutathione) หมอห้ามเลย แย้ไม่กล้าเลยนะเอาเข็มมาจิ้มนู้นนี่นั่นเข้าไป เพราะตอนนี้ในเมืองไทยกลูต้าฯไม่ได้ถูกกฎหมายนะ ดังนั้นใครที่ฉีดกลูต้าฯให้ เท่ากับว่าทำผิดกฎหมายแล้ว เคล็ดลับคือ ครีมตัวขาว มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะล้างปุ้บชั้นจะตัวดำก็ตาม แต่มันปลอดภัย
จริงๆ แล้ว พวกพริตตี้เค้าไม่ค่อยฉีดกลูต้าฯหรอกนะ เขาใช้ครีมตัวขาวกัน อย่างขาแย้ที่ใส่ถุงน่องเพื่อประหยัดครีมตัวขาว นึกดูถ้าแย้ต้องทาครีมตัวขาวทั้งตัวมันจะหมดไวมาก และอีกอย่างนั่งไขว้ห้างปุ้บจะเป็นคราบเลย เหมือนเป็นขี้เกลือ ขึ้นรถเบาะเจ๊งหมด เพราะมันคือครีม’
สูญเม็ดเงินทำสวยไปเท่าไหร่!
หญิงแย้ลองให้พวกเราบวกลบคูณหารกันดู ว่านางสูญเงินไปกับการทำศัลยกรรมไปเท่าไหร่ และถอนทุนคืนได้หรือยัง
“หน้าอก 95,000 บาท จมูกแบบใช้กระดูกอ่อนหลังหูต่อปลายจมูก 50,000 บาท กรีดตา 21,000 บาท ปาก 15,000 บาท และโบท็อกซ์ครั้งละ 5,000-12,000 บาท รายได้ตอนนี้ถือว่าถอนทุนได้สบาย”
แม้จะเป็น 1 ใน 3 ของพริตตี้ค่าตัวสูงที่สุดแต่นางก็ยังแอบเค็ม ประหยัดโหนรถเมล์ ส่วนร้านเสริมสวยอย่าหวังได้แอ้มเงินจากหญิงแย้
"แย้ไม่เข้าร้านเสริมสวยเลย เพราะแย้เป็นกูรูด้านการแต่งหน้านะ เป็นแขกรับเชิญประจำรายการนุสบา ทางเคเบิ้ล แต่งหน้าเองทำผมเอง เพราะเสียดายตังค์ แย้ประหยัดมาก
รถเมล์ตอนนี้ก็ยังขึ้นอยู่ เสีย 8 บาท กับเสีย 40-50 บาท เสีย 8 บาทดีกว่า เสื้อผ้าก็ฟรีเพราะเป็นพรีเซนเตอร์อยู่”
หากใครได้ดูรีวิวแต่งหน้าของหญิงแย้ใน social cam จะพบว่าเครื่องสำอางแย้จะใช้แต่ของราคาถูก ไม่เน้นแบรนด์เนมดัง แม้แป้งตกแตกแพกเกจเยินยังไม่วายใช้อยู่
เราแอบเหลือบไปเห็นกระเป๋าหลุยส์ วิคตอง อันหรูหราไฮโซ นางก็ใช้อย่างสมบุกสมบันสมค่าสมราคามาก แย้เล่าว่าใช้มากว่า 3 ปี แล้ว หากสภาพยังไม่เยิน คาดว่านางก็ยังคงใช้ต่อไป
หญิงแย้ยืนยันว่า นางมาถูกทางกับเส้นทางศัลย์สายนี้
“เป็นพริตตี้กลางปี 2009 ถ้าเรายังหน้าเอ๊าะๆ อาซิ้มเหมือนเมื่อก่อน อาจจะเป็นได้ยากถ้าไม่ทำศัลยกรรม สมัยนี้พริตตี้เขาไม่ได้ต้องการแค่ความหมวยอย่างเดียว เขาต้องการความคม ถ่ายรูปขึ้น แต่แย้จะเข้าวงการมาด้วยการถ่ายโฆษณาก่อน จากนั้นประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สก่อน จากนั้นก็พริตตี้
จะเรียกว่าพริตตี้ค่าตัวสูงสุดก็ไม่ได้หรอก ไม่ใช่ว่าทำงานครั้งเดียวได้ล้าน เราทำแล้วเราเก็บ เราออมมากว่า ตอนแรกอยากเป็นอาจารย์ประวัติศาสตร์ ชอบอ่านประวัติศาสตร์มาก ไปๆ มาๆ พอสวยขึ้นเป็นแอร์โฮสเตสดีกว่า จากนั้นดันจับผลัดจับผลูได้เข้ารอบการประกวด เลยประกวดขำขำ จึงได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้ แย้ว่าเดินทางมาถูกนะ รู้สึกตัดสินใจถูก แต่เป็นนางเอกไม่ได้เพราะน้ำเสียงไม่ได้เลย ไปแคสบทนางเอกไม่ได้
ส่วนเรื่องคอมเม้นท์ เราอย่าไปสนใจมาก เรานึกสภาพเราไปคอมเม้นท์คนอื่นดู อย่างเราไปวิจารณ์ดารา แต่สรุปเค้าก็สวย”
คลิกอ่าน หญิงแย้ พริตตี้มหานิยมแนะข้อปฏิบัติก่อน-หลังทำศัลย์ เตรียมแจ่ม รับเจ็บยังไง?!
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ผู้หญิงรั่ว บ้า ต๊อง ที่กำลังครื้นเครงในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กขณะนี้ต้องยกให้นางเป็นที่หนึ่งเลย หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข ด้วยความที่เธอยืนยันว่า “ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต” มันพลิกชีวิตจากผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ ได้ไงล่ะ แล้วพริตตี้มือวางอันดับหนึ่งกับชื่อ “แย้” ฟังแล้วมันดูทะแม่งมั้ย?
หญิงแย้บอกว่าไม่ได้ชื่อ “แย้” มาตั้งแต่กำเนิดหรอก แต่ด้วยเหตุที่นางเต้นเหมือนแย้ ในตอนรับน้องที่มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงได้ชื่อ “แย้” มาแต่บัดนั้น
“ชื่อแย้นี่ เป็นชื่อปัจจุบันที่ทุกคนเรียก จริงๆ แล้วชื่อ “นน” มาจากชื่อจริงว่า นนทพร
เราก็รู้สึกว่า ชื่อนี้น่ารักอ่ะ แต่เพิ่มหญิงเข้าไปเพราะเมื่อตอนไปถ่ายแบบของแบรนด์ Morning Kiss ซึ่งเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ขายดีที่สุดใน Facebook หากนางแบบชื่อแย้คงจะไม่งาม เลยเพิ่มหญิงเข้าไป เป็นหญิงแย้ดีกว่า”
ปัจจุบันนี้งานเข้าหญิงแย้ตรึม ปรากฏตัวและโด่งดังยอดคลิกถล่มทลายใน Social Cam ด้วยการเป็นกูรูสอนแต่งหน้าแบบกระตุกต่อมฮาชาวเน็ต ทว่ารัศมีความเป็นดาราไม่หยุดนิ่งแค่นั้น นางยังขยับไปเล่นซิทคอมเรื่อง “สถานีบานฉ่ำ” ของช่องน้อยสี พร้อมทั้งงานพริตตี้ และถ่ายโฆษณา
ว้าว! รับทรัพย์ทุกช่องทางเลยนะจ๊ะ
ลงทุนยกเครื่อง เปลี่ยนเบ้าหน้า งานทะลักทะล้น!
"ก่อนหน้านี้หน้าแย้ แย่มากคือ ไม่ใช่หมวยน่ารัก แต่เป็นหมวยอาซิ้ม เป็นผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนหนึ่ง แต่โชคดีได้ขาว
แย้ทำจมูก ทำตา ทำปากบน ลักยิ้ม หน้าอก เมื่อก่อนปากแย้หนามาก หนากว่าด้านล่าง 2 เท่า แลดูเหมือนชะนีปากเยิน เวลาพูดจะไม่ค่อยสวย"
และสาเหตุที่หญิงแย้อยากมีนมเป็นของตัวเอง เพราะนางไม่สามารถใช้วิชาอาจารย์โกย(นม)ได้ แม้จะต้องโกยไล่เนื้อมาจากตาตุ่มก็ตาม แต่นางก็ยังเหมือนกะเทยอดอยากโดนยุงกัดนมอยู่ดี
เพราะด้วยสัดส่วน 27-24-35 นางจึงใช้ยกทรงได้แบบเดียวคือ ยกทรงแบบกะเปราะ เหมือนเอาถ้วยมาวางบนกระดาษ และด้วยปริมาณหน้าอกที่ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ นางจึงจัดหนักด้วยการเสริมอึ๋ม ด้วยซิลิโคนจาก USA ยี่ห้อ Silimed ทรงกลมตามใจแฟนหนุ่ม (เป็นหมอศัลย์ผู้ผ่าตัดเสริมให้นางเอง)
"ถ้าเป็นสมัยก่อน แย้จะไม่กล้าให้ใครเห็นหน้าอกเลยนะ เพราะกลัวคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกะเทย แย้ทำหน้าอก ประมาณเดือนสิงหาคม 2008 คือ หน้าอกแย้มันแบนมาก ทำให้มันขึ้นเป็นคัพC เลือกซิลิโคนทรงกลม ตอนเลือกทรงจะตามใจคุณหมอ เพราะไม่รู้จะไปตามใจใครแล้ว
สำคัญสุดคือ ต้องนวดต่อเนื่อง 6 เดือน นวดทุกวัน ถ้าวันละชั่วโมงได้ยิ่งดี เวลาเราทำศัลยกรรมแล้วรู้สึกว่าแต่งตัวได้ง่ายขึ้น ก่อนหน้านี้แย้มีงานถ่ายแบบเข้ามา แต่ปรากฏว่ามันมีชุดหนึ่งที่เหมือนใส่บิกินี่ข้างใน แล้วเป็นเสื้อคลุมให้เห็นร่องอก แล้วมันออกมาน่าเกลียดมาก เหมือนกระเทยอดอยาก เห็นซี่โครงขึ้น จึงอยากทำหน้าอก
จริงๆ แล้ว แนะนำว่า ถ้ามีแฟนจะดีมาก คือ เรานวดเองไม่ไหวนะ เพราะมือเราเล็ก เมื่อยและเหนื่อย ถ้าให้แฟนนวดจะดีมาก" แย้แนะให้พึ่งคุณแฟนช่วยนวดคลึงเต้านมหลังเสริมอึ๋มเพื่อมิให้พังพืดเกาะนมแข็งโป๊ก
"All New หญิงแย้" โฉม 2012
“เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ แย้เพิ่งทำจมูก ทำตา ทำปากบน พร้อมกันวันเดียวกันเลย ทำไปก็คุยกับแฟนไป
ทำศัลยกรรมครั้งแรกเลยคือปี 2008 อายุประมาณ 20 ทำจมูกออกมาแล้วไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่ อาจจะรู้สึกว่าหน้าตาโอเคขึ้น แต่ไม่ได้มีคนทักมากเท่าไหร่ ตอนนั้นมีคนรู้จักเขาทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วมีส่วนลด 1,000 บาท เหลือ 8,000 บาท จึงไปทำเลย
หลังจากทำจมูกปุ้บ หลังจากนั้น 3 เดือนก็ทำหน้าอก
ตอนที่ทำศัลยกรรม อยู่ปี 3 เป็นเด็กเนิร์ด เด็กเรียนมาโดยตลอด เกรดเฉลี่ยก็ประมาณ 3.8 และพอทำจมูก ชีวิตเรามันดูมีอะไรมากขึ้นเยอะเลย เรารู้สึกว่าหน้าตาเป็นปราการด่านแรก คือ คนรุมจีบตรึมเลย
ครั้งที่สองไปแก้เพราะอยากให้โด่งกว่าเดิม อยากให้ปลายแหลม เพราะตอนนั้นคือว่า เทรนด์ปลายแหลมกำลังมาแรง และแย้เป็นคนหน้ามน การที่เสริมจมูกให้ปลายแหลมจะช่วยให้หน้าเราคมขึ้น ซึ่งผลตอบรับดีมาก งานเข้ามาเยอะขึ้น และครั้งล่าสุดคือ ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2012
ส่วนตานั้น เมื่อก่อนแย้จะเป็นคนตาตี่มาก แต่รูปทรงตาดีอยู่แล้ว คือ แย้ไม่ได้จะเปลี่ยนทรงตามาก เพราะแย้เข้าใจว่าหน้าแย้ไม่เหมาะกับการมีตาสองชั้นชัดๆ แย้ตาชั้นเดียวจะสวยกว่า จึงเน้นให้ตาอาจเท่าเดิมแต่เอาไขมันใต้ตาบนออก
ส่วนลักยิ้มก็แค่ เอาเข็มนำร่องแทงเข้าไป จากนั้นเอาไหมสอดแล้วเย็บ เวลายิ้มมันจะกระตุก อยากยิ้มแล้วหน้าหวาน เรารู้สึกว่าใครก็ตามที่มีลักยิ้มจะดูน่ารักขึ้นเลย
เมื่อก่อนแย้หนักแค่ 44 กิโลกรัมเองนะ แต่หน้ากลม บานมาก จึงไปฉีดโบท็อกซ์ ปกติฉีดโบท็อกซ์ต้องฉีดซ้ำ 6-8 เดือน มันเป็นที่สรีระของหน้าคนว่าคนๆ นั้นหน้าบานเพราะอะไร หนึ่ง-ไขมัน สอง-กระดูก สาม-กล้ามเนื้อ แต่แย้โชคดีที่บานเพราะกล้ามเนื้อจึงฉีดโบท็อกซ์" ลดความบานของหน้าได้ผล นางเล่าต่อว่า
"เคี้ยวแล้วเมื่อยเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้รุนแรงอะไร แต่เรื่องที่สะเทือนใจคือดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ 7 วัน (ฮากันเข้าไป)
ครอบครัวแย้ตอนแรกแอนตี้นะ ตอนแรกดีใจมากลูกสาวอยากจะเป็นอาจารย์ประวัติศาสตร์ พอเริ่มทำศัลยกรรมเขาก็ไม่ชอบ แต่พอทำปั้บงานก็มา เงินก็มา เขาก็เริ่มยอมรับมากขึ้น”
ไม่เสพติดศัลยกรรม No ฉีดกลูต้าฯ เข้าเส้น!
“ถ้าถามว่าตอนนี้อยากทำอะไรเพิ่ม อยากทำคางมาก แต่คุณหมอไม่ยอมทำให้ หมอบอกแย้ว่า “นี่ ตัวเองจะเสพติดศัลยกรรมแล้วนะเนี้ย” แย้ว่าแย้ไม่ได้เสพติดศัลยกรรม ไม่งั้นแย้ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ไปแล้ว
นอกจากอยากทำคาง แย้ยังอยากจะมีแก้มส้ม หน้าผากโหนกนูน อยากจะมีปลายจมูกเชิดกว่านี้ อยากมากมายแต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่ได้ฉีดกลูต้าไธโอน (Glutathione) หมอห้ามเลย แย้ไม่กล้าเลยนะเอาเข็มมาจิ้มนู้นนี่นั่นเข้าไป เพราะตอนนี้ในเมืองไทยกลูต้าฯไม่ได้ถูกกฎหมายนะ ดังนั้นใครที่ฉีดกลูต้าฯให้ เท่ากับว่าทำผิดกฎหมายแล้ว เคล็ดลับคือ ครีมตัวขาว มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะล้างปุ้บชั้นจะตัวดำก็ตาม แต่มันปลอดภัย
จริงๆ แล้ว พวกพริตตี้เค้าไม่ค่อยฉีดกลูต้าฯหรอกนะ เขาใช้ครีมตัวขาวกัน อย่างขาแย้ที่ใส่ถุงน่องเพื่อประหยัดครีมตัวขาว นึกดูถ้าแย้ต้องทาครีมตัวขาวทั้งตัวมันจะหมดไวมาก และอีกอย่างนั่งไขว้ห้างปุ้บจะเป็นคราบเลย เหมือนเป็นขี้เกลือ ขึ้นรถเบาะเจ๊งหมด เพราะมันคือครีม’
สูญเม็ดเงินทำสวยไปเท่าไหร่!
หญิงแย้ลองให้พวกเราบวกลบคูณหารกันดู ว่านางสูญเงินไปกับการทำศัลยกรรมไปเท่าไหร่ และถอนทุนคืนได้หรือยัง
“หน้าอก 95,000 บาท จมูกแบบใช้กระดูกอ่อนหลังหูต่อปลายจมูก 50,000 บาท กรีดตา 21,000 บาท ปาก 15,000 บาท และโบท็อกซ์ครั้งละ 5,000-12,000 บาท รายได้ตอนนี้ถือว่าถอนทุนได้สบาย”
แม้จะเป็น 1 ใน 3 ของพริตตี้ค่าตัวสูงที่สุดแต่นางก็ยังแอบเค็ม ประหยัดโหนรถเมล์ ส่วนร้านเสริมสวยอย่าหวังได้แอ้มเงินจากหญิงแย้
"แย้ไม่เข้าร้านเสริมสวยเลย เพราะแย้เป็นกูรูด้านการแต่งหน้านะ เป็นแขกรับเชิญประจำรายการนุสบา ทางเคเบิ้ล แต่งหน้าเองทำผมเอง เพราะเสียดายตังค์ แย้ประหยัดมาก
รถเมล์ตอนนี้ก็ยังขึ้นอยู่ เสีย 8 บาท กับเสีย 40-50 บาท เสีย 8 บาทดีกว่า เสื้อผ้าก็ฟรีเพราะเป็นพรีเซนเตอร์อยู่”
หากใครได้ดูรีวิวแต่งหน้าของหญิงแย้ใน social cam จะพบว่าเครื่องสำอางแย้จะใช้แต่ของราคาถูก ไม่เน้นแบรนด์เนมดัง แม้แป้งตกแตกแพกเกจเยินยังไม่วายใช้อยู่
เราแอบเหลือบไปเห็นกระเป๋าหลุยส์ วิคตอง อันหรูหราไฮโซ นางก็ใช้อย่างสมบุกสมบันสมค่าสมราคามาก แย้เล่าว่าใช้มากว่า 3 ปี แล้ว หากสภาพยังไม่เยิน คาดว่านางก็ยังคงใช้ต่อไป
หญิงแย้ยืนยันว่า นางมาถูกทางกับเส้นทางศัลย์สายนี้
“เป็นพริตตี้กลางปี 2009 ถ้าเรายังหน้าเอ๊าะๆ อาซิ้มเหมือนเมื่อก่อน อาจจะเป็นได้ยากถ้าไม่ทำศัลยกรรม สมัยนี้พริตตี้เขาไม่ได้ต้องการแค่ความหมวยอย่างเดียว เขาต้องการความคม ถ่ายรูปขึ้น แต่แย้จะเข้าวงการมาด้วยการถ่ายโฆษณาก่อน จากนั้นประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สก่อน จากนั้นก็พริตตี้
จะเรียกว่าพริตตี้ค่าตัวสูงสุดก็ไม่ได้หรอก ไม่ใช่ว่าทำงานครั้งเดียวได้ล้าน เราทำแล้วเราเก็บ เราออมมากว่า ตอนแรกอยากเป็นอาจารย์ประวัติศาสตร์ ชอบอ่านประวัติศาสตร์มาก ไปๆ มาๆ พอสวยขึ้นเป็นแอร์โฮสเตสดีกว่า จากนั้นดันจับผลัดจับผลูได้เข้ารอบการประกวด เลยประกวดขำขำ จึงได้เข้ามาอยู่ในวงการนี้ แย้ว่าเดินทางมาถูกนะ รู้สึกตัดสินใจถูก แต่เป็นนางเอกไม่ได้เพราะน้ำเสียงไม่ได้เลย ไปแคสบทนางเอกไม่ได้
ส่วนเรื่องคอมเม้นท์ เราอย่าไปสนใจมาก เรานึกสภาพเราไปคอมเม้นท์คนอื่นดู อย่างเราไปวิจารณ์ดารา แต่สรุปเค้าก็สวย”
คลิกอ่าน หญิงแย้ พริตตี้มหานิยมแนะข้อปฏิบัติก่อน-หลังทำศัลย์ เตรียมแจ่ม รับเจ็บยังไง?!
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net