ชื่อ "อริสโตเติล โอนาสซิส" ได้รับการยกย่องให้เป็นราชาแห่งการเดินเรือชาวกรีก เพราะเขาคือผู้บุกเบิกการใช้เรือบรรทุกน้ำมัน และเป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือสินค้า รวมไปถึงอู่ต่อเรือ และท่าเรือนับร้อยแห่งทั่วโลก และเหตุการณ์ที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นั่นคือการแต่งงานกับอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง แจ็คเกอรีน เคนเนดี้ ในปี 1968 หรือ 5 ปี หลังจากการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้
แม้ อริสโตเติล โอนาสซิส จะล่วงลับไปตั้งแต่ปี 1975 ทิ้งมรดกมหาศาลอาณาจักธุรกิจต่างๆ ของเขาที่เจ้าตัวตั้งใจมอบให้ทายาทจากรุ่นสู่รุ่น แต่อย่างไรก็ดี ทรัพย์สินมหาศาลของโอนาสซิส ได้รับการบริหารโดยมูลนิธิที่เขาก่อตั้งขึ้นโดยมีคณะกรรมการใหญ่อยู่ถึง 5 คน ในการดูแลทรัพย์สินทั้งหมดและเป็นมีอำนาจตัดสินใจว่า มรดกของโอนาสซิส จะตกอยู่ในการครอบครองทายาทคนใด
เรื่องมรดกของตระกูลโอนาสซิส กลายเป็นละครบทใหญ่ ที่แม้ปัจจุบันทายาทสายเลือดโดยตรง จะเหลือเพียงแค่คนเดียวคือ “เอทินา โอนาสซิส" แต่คณะกรรมการผู้ดูแลมรดก ก็ยังไม่ยอมยกมรดกมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้ทายาทคนสุดท้ายนี้อยู่ดี แม้ตามกฎพินัยกรรมจะระบุว่า เอทินา มีสิทธิเข้าครอบครองและบริหารกิจการของโอนาสซิสทั้งหมด ตั้งแต่เธอมีอายุ 21 ปีแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่ได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดการมรดก ให้เข้าเป็นเจ้าของอาณาจักรทั้งหมดนี้
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ สายเลือดที่พ่อของเอทิน่า “เธียรี รุสเซล” ที่เป็นชาวฝรั่งเศส ซึ่งคณะกรรมการจัดการมรดกนั้น ไม่ปลื้มเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนำซ้ำ แม่ของ เอทินา “คริสตินา โอนาสซิส” ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของโอนาสซิส ยังด่วนเสียชีวิตไปตั้งแต่ เอทินาอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น หนำซ้ำไม่กี่ปีถัดมา รุสเซล ก็ทิ้งเธอไปตั้งแต่วัยเยาว์
แม้ เอทินา จะเติบโตมาในฐานะทายาทแห่งตระกูลโอนาสซิส แต่เธอเองไม่เคยสนใจเรื่องราวของธุรกิจเดินเรือเลยแม้แต่น้อย เธอกลับชื่นชอบกีฬาขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ จนเธอเข้าเรียนการขี่ม้าอย่างจริงจังตั้งแต่เด็ก และได้พบรักกับนักขี่ม้าระดับโอลิมปิกชาวบราซิล อัลวาโร เด มิรานด้า เนโต้ และทั้งคู่ได้แต่งงานกันในที่สุดเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
ในตอนนี้ เอทินา ได้ย้ายตัวเองออกไปใช้ชีวิตร่วมกับสามีในคฤหาสน์สุดหรูที่เซาต์เปาโล และล่าสุดเธอได้ปรากฏตัวในการแข่งขันขี่ม้าข้ามเครื่องกีดขวางระดับนานาชาติที่ดูไบ ซึ่งเธอลงแข่งขันพร้อมสามี ร่วมกับนักขี่ม้าชั้นนำอีก 44 คนทั่วโลก
การที่ เอทินา ออกไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ทำให้ปมความขัดแย้งเรื่องมรดกของเธอดูรุนแรงมากขึ้น แม้จะมีตัวพินัยกรรมที่เขียนด้วยลายมือเอาไว้ว่า เอทินา จะมีสิทธิ์ในมรดก และบริหารธุรกิจในเครือมูลค่ากว่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทันทีที่เธออายุ 21 ปี แต่ในวันนี้ แม้ เอทินาจะมีอายุ 27 แล้วก็ตาม เธอยังถูกคณะกรรมการดูแลทรัพย์สิน ปฏิเสธความชอบธรรมในมรดกทั้งหมด
การที่ เอทินา ออกไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ทำให้ปมความขัดแย้งเรื่องมรดกของเธอดูรุนแรงมากขึ้น แม้จะมีตัวพินัยกรรมที่เขียนด้วยลายมือเอาไว้ว่า เอทินา จะมีสิทธิ์ในมรดก และบริหารธุรกิจในเครือมูลค่ากว่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทันทีที่เธออายุ 21 ปี แต่ในวันนี้ แม้ เอทินาจะมีอายุ 27 แล้วก็ตาม เธอยังถูกคณะกรรมการดูแลทรัพย์สิน ปฏิเสธความชอบธรรมในมรดกทั้งหมด
สเตลิออส ปาปาดิมิทรัว ประธานกรรมการผู้ดูแลมรดก กล่าวถึงทายาทคนสุดท้ายแห่งโอนาสซิสว่า “เราไม่มีทางยกอาณาจักรแห่งโอนาสซิสนี้ ให้กับคนที่ไม่เคยเข้าใจวัฒนธรรมของความเป็นโอนาสซิส ไม่เคยเรียนรู้วิถีการทำงาน ไม่เคยเข้าใจภาษาแห่งโอนาสซิส แม้จะเป็นทายาทของอริสโตเติลก็ตามที เอทินา เธอมีสิทธิ์ทุกอย่างเฉพาะทรัพย์สินในส่วนที่เธอเป็นเจ้าของ แต่เรื่องเข้ามาดูแลกิจการของ อริสโตเติล โอนาสซิส นั้น ไม่มีทางอย่างแน่นอน”
