ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ไทยสำคัญของประเทศไทยกับงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่กำหนดมีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ ระหว่างวันที่ 8-12 เม.ย.55 ก็ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว
โดยเฉพาะวันที่ 9 เม.ย.55 อันเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ซึ่งพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะมีโอกาสได้แสดงความอาลัยพร้อมกับชื่นชมความงดงามอย่างสมพระเกียรติของริ้วขบวนพระอิสริยยศตามโบราชประเพณี ตั้งแต่พิธีการอัญเชิญพระโกศพระศพลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางที่กำหนดจนถึงพิธีอัญเชิญพระโกศโดยเกรินสู่พระเมรุ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ บริเวณท้องสนามหลวง
โอกาสนี้เพื่อให้พระราชพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสง่างามสมพระเกียรติแห่งขัตติยะราชนารีแห่งแผ่นดิน จึงได้มีการจัดฝึกซ้อมใหญ่เหมือนจริงริ้วขบวนพระอิสริยยศขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมาโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เข้าร่วมพิธีฝึกซ้อมใหญ่ ด้วย
สิ่งหนึ่งในริ้วขบวนพระอิสริยยศที่ไม่ได้เพียงแต่แสดงให้เห็นซึ่งความจงรักภักดีและความผูกพันที่พี่น้องประชาชนชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น หากแต่ภายในริ้วขบวนยังแสดงให้เห็นถึงความรักและความผูกพันในสายใยแห่งพระประยูรญาติซึ่งได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยโปรดเกล้าฯ ให้ร่วมส่งเสด็จในริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชอิสริยยศตั้งแต่ริ้วที่ 1-6
ณ อาคารพิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ภายในพระบรมมหาราชวัง เวลาเช้าตรู่ก่อนสัญญาณของการเริ่มฝึกซ้อมริ้วขบวนจะเริ่มขึ้นด้วยการยิงปืนสรุตทุก 1 นาที เพื่อถวายเกียรติแก่ขบวนพระราชอิสริยยศซึ่งกำลังจะเคลื่อนขบวนสู่พระเมรุ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง สถานที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบพระประยูรญาติทั้ง16 ท่าน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและเตรียมความพร้อมที่สุดอีกครั้งก่อนการเข้าสู่ริ้วขบวน แม้จะเคยฝึกซ้อมกันมาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกคนก็ยังคงตื่นเต้นและปลาบปลื้มใจที่สุดในโอกาสสุดท้ายที่จะได้ถวายงานร่วมส่งเสด็จราชนารีแห่งจักรีวงศ์ สู่สวรรคาลัย
บรรยากาศการรอเข้าร่วมริ้วขบวนเต็มไปด้วยความเป็นกันเอง แม้จะต้องตื่นก่อนรุ่งสางเพื่อเตรียมความพร้อม แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เมื่อพระประยูรญาติมามาพบเจอหน้ากัน กันก่อนการเข้าร่วมริ้วขบวนต่างก็ทักทายกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะนั่งรอพอให้ได้พูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ จนเกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขึ้นเป็นระยะๆ ไม่นานนักก็ถึงเวลาที่ต้องยืนขึ้นรับขบวนอัญเชิญเครื่องราชอิสริยยศที่เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเชิญมาถึง
โดยการคัดเลือกพระประยูรญาติที่ร่วมขบวนอัญเชิญเครื่องทองน้อย,เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเครื่องอิสริยยศราชูปโภค พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ นั้นผู้การกวาง-พ.อ.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล ในฐานะผู้ประสานงานสมาชิกราชสกุล บอกว่า ก่อนอื่นต้องดูที่ความอาวุโสก่อน แล้วจึงดูที่ชั้นยศโดยจะเริ่มจาก หม่อมเจ้าสาย ร.4ก่อน แต่เนื่องจากทุกวันนี้ราชสกุลสายรัชกาลที่ 4 ที่เป็นชั้นหม่อมเจ้าไม่มีอยู่แล้ว จึงเริ่มนับที่ชั้นหม่อมเจ้า สาย ร.5 แล้วจึงไล่มาเป็นชั้นหม่อมราชวงศ์ และ หม่อมหลวง ตามลำดับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างในขบวนอัญเชิญเครื่องทองน้อย,เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเครื่องอิสริยยศราชูปโภค ต้องถามแต่ละพระองค์และแต่ละคนก่อนว่าจะเดินไหวหรือไม่ เนื่องจาก ม.จ.แต่ละพระองค์ รวมถึง หม่อมราชวงศ์แต่ละท่านก็อายุมากแล้วอาจเดินในระยะไกลไม่ไหว
สำหรับผู้ที่รับหน้าที่ทำหน้าที่อัญเชิญเครื่องทองน้อยผู้การกวางบอกว่าต้องเป็นพระญาติที่สนิทหรือใกล้ชิดกันมากที่สุด เพราะฉะนั้นผู้ที่รับหน้าที่นี้จึงเป็น ม.ร.ว.สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัตน์ ที่มาทำหน้าที่แห่งความภักดีแทนท่านพ่อ ม.จ.ปุสาจน์ สวัสดิวัตน์ ที่ชันษามากแล้วไม่สามารถมาร่วมริ้วขบวนได้
ราชสกุลสวัสดิวัตน์ถือว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯมากที่สุด เพราะองค์ต้นราชสกุลคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ เป็นพระอนุชาของสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ(พระพันปีหลวง) ซึ่งเป็นพระอัยยิกาของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชชรัตน์ฯ
ด้าน 2 ท่านชายแห่งราชสกุล “ยุคล” พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล อัญเชิญเครื่องราชมหาจักรีบรมราชวงศ์,ร.ท.ม.จ.นวพรรษ์ ยุคล อัญเชิญเครื่องราชนพรัตนราชวราภรณ์ อยู่แถวหน้าถัดจาก ม.ร.ว.สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัตน์
ส่วนผู้แทนลำดับชั้นหม่อมราชวงศ์ จากสายราชสกุลต่างๆ ที่ร่วมอัญเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเครื่องอิสริยยศราชูปโภค อาทิ ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ อัญเชิญเครื่องราชปฐมจุลจอมเกล้า, ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อัญเชิญมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก,ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อัญเชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาวชิรมงกุฏ,ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล อัญเชิญพระสุพรรณศรีทองคำลงยา,ม.ร.ว.ประเดิมสวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ อัญเชิญพานพระศรีทองคำลงยา
ส่วนในลำดับชั้นหม่อมหลวงที่ร่วมอยู่ในริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องเครื่องอิสริยยศราชูปโภคครั้งนี้มีทั้งหมด 4คนด้วยกันอาทิ ม.ล.ชโยธิต กฤดากร,ม.ล.จิรเศรษฐ สุขสวัสดิ์.ม.ล.จิรพันธุ์ ทวีวงศ์,ม.ล.เทวพร เทวกุล
ม.ร.ว.ประเดิมสวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ ผู้ซึ่งเคยร่วมริ้วขบวนพระอิสริยยศครั้งประวัติศาสตร์มาถึง 4 ครั้งตั้งแต่งานพระราชทานเพลิงพระศพของพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ,สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี,สมเด็จพระเจ้าพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ และรอบนี้งานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ คุณชายเผยว่ารู้สึกตื้นเต้นและประหม่าทุกครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณชายภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตคือการมีโอกาสได้ถวายความจงรักภักดีครั้งสุดท้ายแด่เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ราชนารีผู้ทรงคุณแห่งแผ่นดิน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
