เทรนด์ความงามเดี๋ยวนี้ สาวๆ ต้องการมีผิวหมดจด เกลี้ยงเกลา แต่ดันมีขนมาเป็นอุปสรรค บางคนอาศัยวิธีถอน หรือโกน เพราะทำง่ายและสะดวก แต่สิ่งที่ตามมาคือการอักเสบของผิว เกิดเป็นตุ่ม หรือเกิดขนคุด ส่วนใครที่เลือกวิธีการแวกซ์ หรือใช้สารเคมีกำจัดขน ก็เกิดการอักเสบและระคายเคือง สาวๆ เดี๋ยวนี้จึงนิยมไปทำเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งหากทำอย่างต่อเนื่องขนบริเวณนั้นๆ ก็จะถูกกำจัดอย่างถาวร
นพ.ธรรมสถิต จันทจิตร์ แห่งยศยาคลินิก กล่าวว่า ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์มาใช้เพื่อกำจัดขนซึ่งวิธีนี้ถือว่าได้ผลดี วิธีการคือการเลือกคลื่นแสงที่เหมาะสมหรือ Selective Photothermolysis โดยเลือกช่วงความยาวและความกว้างของคลื่นที่เหมาะสมที่ให้พลังงานเพียงพอไปยังขน
พลังงานจากเลเซอร์จะถูดดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานินในต่อมขน ก่อนที่ความร้อนจะกระจายออกไปเพื่อทำลายขนโดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง พลังงานเลเซอร์ถูกออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะเจาะจงกับเซลส์เม็ดสีในรากขน เมื่อเซลส์รากขนถูกทำลาย ขนก็จะหลุดร่วงไปและไม่ขึ้นใหม่
สำหรับคลื่นแสงในแต่ละความยาวคลื่นก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
1.คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่น 590-1,200 nm หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ IPL เป็นการใช้แสงความเข้มสูง เครื่องมือนี้เป็นการใช้ไฟแฟลชที่มีตัวกรองแสงเพื่อสร้างแสงมีความยาวคลื่นกับจังหวะการตกกระทบ โดยแสงจะเข้าไปทำลายขน และเพราะ IPL เป็นแสงความเข้มข้นสูงแต่ความยาวของคลื่นสั้นจึงทำให้พลังงานไม่สูงพอจะทำลายรากขนได้ทั้งหมด อาจจะได้ผลบ้างในไรขนอ่อนๆ บางๆ แต่ถ้าขนดกหนา ผลคือขนบางลงและขึ้นช้าแต่จะไม่หายไปทั้งหมด IPL เป็นเครื่องมือที่กำจัดขนได้รวดเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพราะผิวหนังอาจดูดซับพลังงานที่มากเกินไปทำให้ผิวไหม้ได้
2.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 800 nm หรือที่เรียกว่า Diode Laser เครื่องมือชนิดนี้ให้พลังงานสูงให้ผลได้ดีกว่า IPL เนื่องจากมีความยาวคลื่นที่เหมาะสม จึงสามารถทำลายลึกถึงรากขน เหมาะสำหรับกำจัดขนบริเวณพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น ขนหน้าอก หน้าท้องอย่างไรก็ตามเมื่อใช้กับผู้ที่มีสีผิวเข้ม อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 nm หรือที่เรียกว่า Long Pulse ND-YAG Laser หรือที่คุ้นหูว่าแย๊ก สามารถใช้กำจัดขนได้กับผิวหนังทุกประเภทความเข้ม และด้วยความยาวของคลื่นสูงจึงสามารถทะลุไปยังใต้ผิวหนังชั้นลึกสามารถกำจัดขนได้ลงลึก การดูดซับพลังงานที่ผิวหนังน้อย จึงเกิดประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ดี รวมทั้งมีระบบประคบให้ความเย็นของเครื่องมือยังปกป้องผิวหนัง เหมาะกับทุกสีผิวไม่ว่าสีผิวจะเข้มระดับใดก็ตาม ทั้งผิวขาว ผิวสองสี และผิวคล้ำ
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Long-Pulse มีข้อดีอีกอย่างคือ สามารถใช้เลเซอร์สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทำลายต่อมเหงื่อ จึงสามารถกำจัดกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์ใต้รักแร้ และลดการเกิดเหงื่อได้ด้วย
คุณหมอกล่าวเสริมว่า การใช้เลเซอร์กำจัดขนในครั้งแรก อาจมีขนหลงเหลืออยู่บ้างก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะขนจะเริ่มบางเป็นขนอ่อนลงเรื่อยๆ และหมดไปในที่สุด
ต่างกับวิธีกำจัดขนแบบชั่วคราว ที่เส้นขนจะงอกขึ้นมาใหม่เท่าเดิมอยู่เรื่อย ๆ เพราะรากขนยังไม่ได้ถูกทำลายไป ข้อดีอีกอย่างคือผิวบริเวณที่กำจัดขนจะเรียบเนียน กระชับ และขาวขึ้น เพราะพลังงานเลเซอร์จะไปช่วยกำจัดเซลล์เม็ดสี และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในบริเวณนั้นด้วย
สำหรับจำนวนของการยิงเลเซอร์กำจัดขน กว่าที่ขนจะถูกทำลายไปจนหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่หากมีการทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ปัญหาขนก็จะค่อยๆหมดไปอย่างถาวร โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 5-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพเส้นขนแต่ละคน อย่างไรก็ตามการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ก็ยังมีข้อควรระวังหรืออาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้เช่นการบวมเป็นรอยแดง แต่จะค่อยๆหายไปเอง
คุณหมอหนุ่มยังฝากข้อคิดเตือนใจว่า ผู้บริโภคจำเป็นต้องรู้เท่าทันก่อนจะจ่ายสตางค์ยิงเลเซอร์กำจัดขน ควรตรวจสอบว่าเครื่องมือที่ใช้เป็นเลเซอร์ประเภทใด เหมาะสมหรือไม่อย่างไรกับสภาพผิวและขนของแต่ละคน เนื่องจากเส้นขนจะมีลักษณะความหนาบาง และสีแตกต่างกันตามเชื้อชาติ สีผิว หรือบริเวณที่เส้นขนขึ้นอยู่ ดังนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล รวมทั้งความสะอาดของเครื่องมือ สถานที่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย เพียงเท่านี้ก็สามารถโบกมือลาขนได้เลย
Text by เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน: สังคม-สตรี
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net