xs
xsm
sm
md
lg

รู้จักตัวตน "แหน-นันทวัน แสงธรรมกิจกุล" เจ้าของฉายา "มาเฟียไฮโซ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หากเอ่ยถึงชื่อของ คุณแหน-นันทวัน แสงธรรมกิจกุล ในวงการเซเลบริตี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอ เพราะสาวใหญ่คนนี้อยู่ยงคงกระพันในแวดวงสังคมมาเนิ่นนาน แถมยังได้ฉายาว่าเป็น “มาเฟียไฮโซ” อีกต่างหาก ...เห็นเปรี้ยวจี๊ด ยิ้มเก่งแบบนี้ ทำไม๊ทำไม ใครๆ ถึงหาว่าเป็นมาเฟียซะได้ แล้วตัวตนที่แท้ของเธอจะน่ากลัวเหมือนฉายาหรือเปล่า ?

“ฉายามาเฟียเซเลบ มาเฟียไฮโซเนี้ย พี่อยากเป็นนะ อยากเป็นมากเลย แต่มันไม่ได้เป็น มันไม่ใช่ คือในความเป็นจริงใครล่ะไม่อยากเป็นมาเฟีย ถ้าพี่เป็นมาเฟียจริงนะ พี่จะสั่งทุกอย่างในโลกนี้เลย ไม่ต้องทำงาน ชี้นิ้ว สั่งคนโน้นคนนี้ ไปจัดการมา เอาเงินมาให้ฉัน ฆ่ามันให้ตายให้หมด” คุณแหนตอบพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เมื่อพูดถึงฉายาของตัวเอง

สั่งสมบารมี ให้อยู่ยงคงกระพันในวงสังคม
วี มาร์ / สมศักดิ์ ชลาชล เพื่อนเซเลบสุดซี้ของเธอ
คุณพี่แหนย้ำว่า ในความเป็นจริงเธอมิใช่มาเฟีย ที่ชี้นิ้วสั่งใครต่อใคร หรือนั่งอยู่เฉยๆ รอนับเงินแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้วเธอก็ยังต้องทำงานเฉกเช่นคนทั่วไป

กว่า 20 ปีมาแล้วที่ บริษัทเลมอนไฟว์ จำกัด ของเธอ รับจัดออแกไนเซอร์ และ รับจัดอาหารในงานเลี้ยง ทั้งยังรับเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำมากมาย นี่เองเป็นสาเหตุให้เธอมีเพี่อนฝูงในแวดวงสังคมเป็นจำนวนมาก แถมปรากฏตัวในงานสังคมบ่อยจนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี... ซึ่งกว่าที่จะมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ เธอว่าต้องสั่งสมบารมีมามิใช่น้อย

“เพื่อนของพี่ในวงสังคม จะเป็นกลุ่มที่เอ่ยชื่อไป ไม่มีใครไม่รู้จัก อย่าง สมศักดิ์ ชลาชล, ลี พึ่งบุญพระ เป็นกลุ่มที่มีตัวตน จับต้องได้ ไม่ต้องไปสอบประวัติ ไม่ต้องไปนั่งสงสัยว่า เขาคือใคร และจะเห็นหน้าเห็นตากันบ่อย แต่ส่วนของตัวพี่เอง คนรู้จัก คนเคยเห็นหน้า แต่หลายคนไม่รู้ว่าพี่ทำงานอะไร ออกงานสังคมอย่างเดียวหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นเพราะพี่เป็นคนไม่ชอบทำให้เพื่อนอึดอัดใจ ด้วยความที่เพื่อนพี่เป็นเจ้าของกิจการเยอะ บางทีถ้าเราประกาศตัวตลอดว่าเราเป็นเจ้าของบริษัท ออแกไนเซอร์ มันก็จะกลายเป็นว่า พอเพื่อนจัดงานอะไร เธอต้องใช้ของบริษัทฉันนะ ซึ่งพี่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เลยไม่ค่อยได้บอกใครเท่าไหร่ ว่าตัวเราทำอะไรอยู่บ้าง”

“กว่าจะอยู่มาได้ขนาดนี้ ต้องสั่งสมบารมีมาพอสมควร ซึ่งการสั่งสมบารมีก็คือ การคบกันอย่างจริงใจ การวางตัวที่ดี เซเลบสมัยก่อน สร้างบารมีด้วยความนิสัยดี อย่างถ้างานไหนมีคุณสมศักดิ์ มีพี่แหน ไปด้วย พวกเราจะพยายามทำให้งานเขาสนุก อยู่กันตั้งแต่เริ่มงาน จนจบงาน เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานสนุก

แต่เซเลบสมัยใหม่ มีบางคน มาเพื่อเอาของชำร่วย แล้วกลับบ้าน หรือวันนึงไป 3-4 งาน ไปเอาของชำร่วยที่เขาแจกแล้วกลับไป พอผู้จัดเขามีการแสดง มีงานจริงๆ ก็ไม่มีคนดูงานเขา พี่จะบอกกับน้องๆ เซเลบที่สนิทกันว่า ไม่ไปบ้างก็ได้ เราควรจะให้เกียรติกับเจ้าของงาน อยู่งานเขา ดูงานเขา ร่วมงานอย่างเต็มที่ เราถึงจะอยู่ในสังคมนี้ได้นาน”

ตัวตนแท้จริง...ฮากระจุย !

ทุกครั้งที่เห็นเซเลบสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ ปรากฏกายในงานสังคม หรือแม้กระทั่งในฐานะผู้ดำเนินรายการทีวี (รายการบางกอกกระซิบ ทางช่อง 3 ช่วงไฮโซอยากดัน ใครอยากดังมาดามแหนจัดให้) ผู้คนมักคุ้นเคยกับลีลาการพูดคุยที่สนุกสนาน ดูกี่ทีก็เป็นผู้หญิงอารมณ์ดี ซึ่งคุณพี่แหนเธอว่า เรื่องความอารมณ์ดี คุยสนุกสนานเนี้ย เป็นตัวตนของเธอเลยหล่ะ

“พี่เป็นคนสนุกสนานมาตั้งแต่เด็กเลย ตั้งแต่เรียนหนังสือ พี่จะเป็นหัวโจกมาตั้งแต่เด็ก หัวโจกในเรื่องขำๆ หัวหน้าแก๊งขำ ฮากระจุย ฮากระจาย มาตั้งแต่เด็ก เป็นคนชอบเรื่องสนุกสนาน เรียนหนังสือก็แทบจะไม่เรียน ครูประจำชั้นเขียนสมุดพกด่าเพียบเลย ว่าไม่ใส่ใจการเรียน (หัวเราะ)”

ทว่าถึงจะชื่นชอบความฮากระจุยกระจาย มาแต่เด็ก แต่เธอก็ยังมองว่าตัวเองเป็นสาวฮาที่เรียบร้อย

“พี่มองว่า พี่เป็นคนเรียบร้อยนะ ภาพลักษณ์ของพี่มันขัดกับตัวพี่มาก จนเพื่อนก็ตกใจ ว่าเห็นพี่แต่งตัวเปรี้ยว แต่พี่เป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เคยกินเบียร์ ไวน์ก็กินแต่ไวน์ขาว กับแชมเปญ เวลาออกงานสังคม แต่กินเยอะๆ ไม่เคย ส่วนมากจะรินมาแก้วนึง แล้วก็ปล่อยให้ยุงไข่ไปเลย แก้วเดียวอยู่จนงานจบ ถึงเราเปรี้ยวมากตั้งแต่เด็ก ก็เป็นเพราะเราชอบแต่งตัวเปรี้ยว เรามีความสุขกับการแต่งตัว เท่านั้นเอง”

ส่วนเคล็ดลับความเป็นคนอารมณ์ดีนั้น เธอมีหลักง่ายๆ คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ให้มองตัวเองเป็นหลัก

“พี่แหนจะพูดกับทุกคนเสมอ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เราต้องมองตัวเราเองเป็นหลัก อย่ามองคนอื่น อย่ามองคนข้างนอกว่า เขาเป็นคนทำให้เราเป็น ไม่มีใครทำให้เราเป็นได้ค่ะ มีแต่ตัวเราเองเท่านั้นที่ทำให้เราเป็นไป เราเสียใจเพราะคนอื่น มันก็เพราะเราเลือกที่จะให้ความสำคัญกับเขา หรือเวลาถูกใครหลอก เขาก็หลอกเราไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่ไปเชื่อเขาเอง ฉะนั้นอย่าไปโทษคนอื่น

แต่เห็นอามรณ์ดีแบบนี้ มันก็มีเวลาทุกข์เหมือนกันนะ แต่พี่จะเป็นคนที่เวลามีความทุกข์ ความโกรธ แต่เมื่อพี่ลุกไปจากตรงนั้น ออกจากสถานที่นั้น พี่ทิ้งทุกอย่างอยู่ตรงนั้นเลย ไม่เอากลับไปนั่งคิด กองไว้ตรงนั้น เราก็สบายใจ”

ไม่มีอนาคต... มีแต่ความสุข

“ถ้าไปถามคนทั่วไปว่าวางอนาคตอย่างไร เขาจะตอบได้ทันที เหมือนเตรียมพร้อมมาตลอดว่า ต่อไปจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สำหรับพี่ คนรอบข้างพี่จะพูดเสมอเลยว่าพี่เป็นคนไม่มีอนาคต นั่นคือพี่ตอบไม่ได้ว่าอนาคตวางไว้อย่างไร พี่ตอบได้อย่างเดียวว่า ขอแค่วันข้างหน้ามีความสุขอย่างนี้ตลอดไป นั่นคือพี่คิดว่า ทุกวันนี้พี่ว่าพี่สุขพอแล้ว

ไม่รู้นะว่าความสุขของใครเป็นอย่างไร แต่พี่คิดแค่ว่าตอนนี้ พี่สุขที่สุดแล้ว ถ้าพี่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น พี่อาจจะเป็นคนทะเยอทะยาน และไขว่คว้า เหมือนคนที่ไม่รู้จักจบ ไม่รู้ว่าความสุขควรจะพอตรงไหน ก็จะต้องปีนจนเหนื่อย เพื่อที่จะดึงความสุขที่คิดว่าอยู่สูงสุด ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่

ถ้าเราเอาแต่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ไปมองว่าคนอื่นดีกว่าเรา มีเงินมากกว่าเรา อย่างนั้นมันเป็นทุกข์นะ แต่สำหรับพี่ไม่ค่ะ พี่ว่าเราสุขแค่นี้พอแล้ว พี่ไม่เอาไปเปรียบเทียบกับความสุขของคนอื่นด้วย ซึ่งความสุขของพี่คือ อยากได้อะไรก็ได้ ในเรื่องแต่งตัวอย่างเดียวเลยค่ะ (หัวเราะ) เพราะพี่เป็นคนชอบเครื่องประดับ ชอบแต่งตัว เป็นคนชอบแต่งตัวที่สุดในชีวิต ซึ่งทุกวันนี้พี่อยากได้อะไร พี่ก็สามารถซื้อได้ แค่นี้ก็สุขแล้ว”

มาดามแหน พร้อมดัน!?

ไหนๆ ได้มาเจอตัวมาดามแหน ที่มีสโลแกนพ่วงท้ายว่า ‘ใครอยากดัง มาดามแหนจัดให้’ เราไม่ลืมที่จะถามเธอสักหน่อย ว่าหากจะให้มาดามแหน เธอช่วยดันให้เข้าวงสังคม กลายเป็นคนดังได้น่ะ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

“คงเรียกว่าดันขนาดนั้นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวของคนๆ นั้นเองด้วย และการจะดันใครสักคนมันเป็นเรื่องละเอียดนะคะ เราจะเชียร์ใครสักคน มันต้องไม่ออกหน้าออกตา มันต้องดูความประพฤติเขาก่อน แล้วสอนว่าเขาควรจะเดินไปทางไหน ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นถ้าคุณจะดังได้ มันก็ต้องด้วยตัวคุณเอง พี่ก็ทำได้แค่ให้คำแนะนำ ซึ่งพี่จะบอกกับหลายๆ คนที่มาขอคำปรึกษาว่า พี่ก็ทำได้แค่คอยแนะนำและชี้แนะ ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวคุณเอง เพราะพี่คงบังคับให้คนมารัก หรือมาเกลียดคุณไม่ได้

แต่สิ่งหนึ่งที่พี่จะสอนน้องๆ ที่รู้จักกันเสมอ นั่นคือ การมีมารยาทเสมอ ต้องดูแลใส่ใจผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เฉพาะกิจ เช่น หากเห็นว่าผู้ใหญ่เดินถือของหนัก เราก็ควรต้องช่วยถือให้ เขาก็จะมองว่าเด็กคนนี้น่ารัก มันเป็นการซึมซับนิสัยที่ดี เป็นการสร้างความน่ารักให้ตัวเอง

เราก็สอนว่าเรื่องมารยาทสำคัญที่สุด การวางตัวให้ดีสม่ำเสมอ การรักษาความน่ารักไว้ตลอด นั่นคือ หากใครเขาให้ความวางใจเราแล้ว อย่าไปล้ำเส้น อย่าไปตีตนเสมอเขา ต้องรู้จักให้เกียรติผู้อื่นเสมอ

ที่สำคัญแวดวงสังคมนี้อยู่ได้ค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องไม่โกหก คุณต้องมีความจริงใจกับทุกคน เพราะหากคุณโกหก สักวันคนก็จะรู้ว่าคุณโกหก เพราะเมื่อไม่ใช่เรื่องจริงก็จะยิ่งมีคนจ้องจับผิด ก็จะบอกต่อกันไปว่าฉันรู้จักคนนี้ดี เป็นใครมาจากไหน สุดท้าย คุณก็จะต้องหายไปจากสังคม เพราะคุณทำลายตัวเองดังนั้นในวงสังคม

ไม่ต้องบอกว่าคุณเป็นใคร ไม่ต้องคุยให้เวอร์ว่าคุณรวยมาจากไหน เพราะเราคงไม่คุยกับเขาเพราะเขาเป็นคนรวยหรอก เพราะเขาไม่ได้ให้อะไรเรา ถ้ารวยแต่นิสัยไม่ดี ก็ไม่รู้จะคบไปทำไม” คุณแหน-นันทวัน ถ่ายทอดเทคนิคการวางตัวในวงสังคม

ตลอดการสนทนาที่ออกรสในครั้งนี้ ทำให้เราได้รู้ว่า... นอกจากบุคลิกน่าคบหา คุยสนุกแล้ว ก็คงเป็นเพราะเทคนิคการวางตัวเหล่านี้เอง ที่ทำให้เธอมีเพื่อนฝูงมากมาย ทั้งยังผงาดอยู่ในวงการสังคมมาได้อย่างยาวนาน

เรื่องโดย Lady Manager
ภาพโดย อร่าม ทรงสวยรูป



>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น