xs
xsm
sm
md
lg

นี่แหละ...โลกของ “แชมป์” ทายาทCoffee Beans By Dao

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ว่าความใฝ่ฝันในอนาคตจะยังไม่ปรากฏภาพเด่นชัด เพราะยังเด็กแถมประสบการณ์ในชีวิตยังน้อย แต่หนุ่มคนนี้ “ธนพนธ์ วงศ์สงวน” หรือ แชมป์ ลูกชายคนโตของ หมู-อัมพรพิมล วงศ์สงวน และคุณแม่สาวสวย ดาว-ณัฐธยาน์ ปางพุฒิพงศ์ (เจ้าของร้าน Coffee Beans By Dao ที่รู้จักกันดีในเรื่องความอร่อยของเค้กต่างๆ) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการวางแผนและการใช้ชีวิตที่น่าชื่นชม ยิ่งเวลาที่ได้พูดคุยกันหนุ่มคนนี้ก็แสดงความเป็นตัวตนที่ชัดเจนของตัวเองออกมาอย่างน่าจับตามองเลยทีเดียว

“แชมป์” หนุ่มหล่อคมเข้มวัย 18 ปี กำลังศึกษาอยู่เกรด 13 (เทียบเท่ากับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6) ที่ Harrow International School Bangkok ขณะที่เด็กรุ่นใหม่ในวัยอย่างเขาส่วนมากยังสนใจกับK-pop หรือเฮฮากับเพื่อนฝูงอยู่ แต่แชมป์กลับเริ่มวางเป้าหมายชีวิตทั้งเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิตเอาไว้เป็นสเต็ป พร้อมกับเริ่มก้าวตามเส้นทางของตัวเองอย่างช้าๆ
โดยเขาตั้งใจไว้ว่าจะเรียนต่อเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นคณะที่ชื่นชอบและฝันใฝ่เอาไว้ ไม่ใช่เพราะได้รับอิทธิพลจากคุณตาที่มีอาชีพเป็นวิศวกรรม แต่แชมป์บอกว่า เป็นสิ่งที่ชอบและอยากที่จะเป็นเองมากกว่า
“การที่ผมอยากจะเป็นสถาปนิก เพราะคุณตาท่านเป็นวิศวกร ทำให้ผมคลุกคลีและคุ้นเคยอยู่กับเรื่องแบบนี้ แต่นั่นก็เป็นเพียงหนึ่งปัจจัยเท่านั้น หลักๆ แล้วผมชอบและอยากที่จะเป็นสถาปนิกมากกว่า คงเพราะการเดินทางบ่อยของผมด้วยที่เป็นเหมือนการเปิดโลกให้ได้เห็นสถานที่ที่ได้รับการออกแบบดีๆ ที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ชอบเรื่องการออกแบบ ซึ่งทุกครั้งเวลาที่ผมได้ไปเห็นสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นผมเชื่อว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่มากกว่าการที่เรามองเห็นจากภายนอก ดังนั้นสิ่งที่เรามองเห็นอยู่นั้นจะต้องมีคอนเซ็ปต์ของมันแฝงอยู่และสิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมกำลังหลงใหลอยากที่จะรู้ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไร”


ความมุ่งมั่นและตั้งเป้าเกี่ยวกับการเรียนของหนุ่มมาดขรึมคนนี้ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น ทว่าเขายังวางแผนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท เกี่ยวกับการสร้างหนังและภาพยนตร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แชมป์ตั้งใจและต้องทำให้เป็นจริงให้ได้
“ผมเป็นคนชอบดูหนังมาก ดังนั้นเมื่อว่างจากการไปเรียนผมก็มักที่จะไปดูหนัง โดยหนังที่ผมดูสามารถดูได้ทุกแบบทุกแนวตั้งแต่หนังรางวัลจนถึงหนังทำเงิน ดังนั้นถ้าจะถามว่าผมชื่นชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษมั้ย ผมบอกได้เลยว่าไม่มี เพราะแต่ละเรื่องย่อมมีสิ่งที่ผมชื่นชอบแตกต่างกันไป อยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนด้วยว่าหนังที่ดูไปจะเชื่อมโยงกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกความตั้งใจอีกสเต็ปหนึ่งของผม”
แชมป์เป็นตัวอย่างของเด็กคิดดีทำดีเพราะเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นห้อมล้อมไปด้วยปู่ย่า ตายาย ที่คอยอบรมดูแลมาตั้งแต่เล็ก ๆ ซึ่งเขาจะสนิทกับพ่อและแม่มาก โดยเฉพาะพ่อหมูที่คอยสอนสั่ง อย่างเช่น เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กเวลานั่งรถไปโรงเรียนคุณพ่อก็จะชั่งสอนโดยจะสอนเกี่ยวกับสุภาษิตคำพังเพย โตขึ้นมาอีกหน่อยท่านก็จะหยิบยกเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวมาพรรณา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แชมป์บอกว่าสิ่งที่พ่อสอนนั้นเขาจะใส่ใจและจดบันทึกไว้เสมอ ขณะที่คุณแม่ดาวก็จะมีวิธีการเลี้ยงดูเอาใจใส่กับลูกอยู่เสมอ ที่สำคัญแชมป์บอกว่าบ้านหลังนี้จะให้อิสระกับความคิดและการตัดสินใจของแต่ละคนจึงไม่มีการบังคับแต่อย่างใด

เมื่อพูดถึงกิจกรรมในยามว่างเขาก็มีด้วยกันหลากหลายอย่าง ทั้งอ่านหนังสือ ฟังเพลง วาดรูปเพ้นติ้ง หรือจะเป็นการเล่นกีต้าร์ซึ่งเขามีวงเป็นของตัวเองที่เล่นกับเพื่อนๆ และมักไปซ้อมอยู่เป็นประจำ อีกสิ่งหนึ่งคือการถ่ายรูป บ่อยครั้งที่เขาจะฝากฝีไม้ลายมือการกดชัตเตอร์ไว้กับเมนูพิเศษในร้าน Coffee Beans By Dao ของคุณแม่ รวมถึงการเล่นกีฬา ซึ่งกีฬาสุดโปรดที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้มีรูปร่างที่สูงโปร่งกว่า 180 ซม.คงหนีไม่พ้นกีฬา “บาสเก็ตบอล”
“ผมชอบเล่น บาสเก็ตบอล ซึ่งไอดอลของผมคือ อาเบอร์เรียล เบอร์สัน เพราะเขามีสปิริตเวลาเล่นในเกมส์มาก เวลาดูตอนที่เล่นแล้วรู้สึกว่าเขามีพลังในการเล่นสูง มีเทคนิค ชั้นเชิง เพราะเป็นคนตัวเล็ก ไม่ได้มีสรีระ หรือว่าแข็งแรงที่จะเทียบกับคนอื่นได้ อาศัยเพียงสิ่งที่มีอยู่แล้วทำให้คนอื่นเห็น โดยการใช้ความเร็วและการฝึกฝนพยายามมากกว่าคนปกติ ทำให้สู้กับคนอื่นได้ ผมชอบจุดนี้ที่เขาพัฒนาตัวเอง”
เช่นเดียวกันกับแชมป์ ที่บอกว่าเมื่อเขาเรียนจบ เขาอยากที่จะลองทำอะไรด้วยตัวเองมากกว่า ถึงแม้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่จะมีธุรกิจหลายอย่างที่หวังว่าลูกชายคนนี้จะมาสานต่อ แต่แชมป์ก็ยังยึดมั่นกับความฝันและอุดมการณ์ของตัวเองโดยเขาบอกว่า “ผมเป็นคนไม่ชอบธุรกิจ ผมไม่ชอบงานบริหาร เลยไม่คิดอยากจะสานต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่ได้บังคับอะไร แล้วแต่เราเลยว่าอยากจะทำอะไร อย่างเช่นคุณพ่อผมท่านเป็นนักธุรกิจ เรียนธุรกิจมาท่านเลยเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ส่วนผมเข้ามาช่วยทำงานเท่าที่จะพอช่วยได้เป็นบางอย่างดีกว่า”
ทั้งนี้ก่อนจะจบการสนทนากัน แชมป์ ยังฝากย้ำด้วยว่า “หากเรารู้ว่าเราชอบหรือรักที่จะทำอะไร เราต้องพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ต้องเรียนรู้ ค้นคว้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าเรารู้ว่าตัวเราชอบและสนใจสิ่งไหนก็พุ่งเป้าไปในสิ่งนั้นเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องนั้นให้กระจ่างไปเลย ผมต้องบอกก่อนเลยว่าผมยังเด็กอยู่ แต่ผมมักจะทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ พร้อมกับฟังเสียงสัญชาตญาณของตัวเอง ฟังแล้วก็ต้องเชื่อในตัวเรามากที่สุด เมื่อใดที่คนอื่นพูดก็ฟังเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องเป็นตัวของเราเองและมีชีวิตกับสิ่งที่อยากทำ อย่าให้คนอื่นชักจูงเรา”
ถึงแม้จะมีอายุเพียง 18 ปี แต่ความคิดการอ่านของเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลยเมื่อเทียบกับเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งเรื่องการเรียนและการเดินตามหาฝัน เชื่อแน่ว่าทุกคนย่อมมีฝันเป็นของตัวเองอยู่ที่ว่าเราจะเดินตามหาฝันของเราเจอหรือไม่

 
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น