ขึ้นแท่นว่าเป็นสาวสวยระดับตำนานเลยทีเดียว สำหรับนางงามจักรวาลคนแรกของไทย “อาภัสรา หงสกุล” ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เธอก็ยังคงดูสวยไม่สร่าง ด้วยมารยาท การวางตัวที่สง่างาม แถมดูแลตัวเองเป็นอย่างดี สมกับดีกรีคนสวยระดับโลก!
ฉะนั้นหากจะให้คาดเดาถึงเรื่องความชอบความถนัดของคุณปุ๊ก-อาภัสรา เชื่อว่าหลายคนคงเดาว่า เธอน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องความสวยความงามเป็นที่สุด ซึ่งก็ไม่ผิดเลยค่ะ อดีตนางงามจักรวาลอย่างเธอ สันทัด เรื่องความสวยความงามไม่เป็นรองใครแน่ ...ไม่อย่างนั้น คงไม่รักษาความสวยได้ยาวนานขนาดนี้หรอก
ทว่านอกจากเรื่องความสวย ความงามแล้ว คุณอาภัสรายังมีสิ่งที่ชื่นชอบและเชี่ยวชาญอีกสองอย่าง ที่หลายคนคาดไม่ถึง โอกาสนี้เราได้รับเกียรติจากเธอ ให้เข้าสัมภาษณ์ซักถามในประเด็นต่างๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้ทราบ ความเป็นไปของเธอ ณ ปัจจุบันแล้ว คุณอาภัสรายังเปิดเผยถึงเรื่องราวความชื่นชอบส่วนตั๊วส่วนตัว ที่ทำให้เราได้รู้จักตัวตนของเธอเพิ่มขึ้นอีกเยอะเชียวค่ะ
คุณปุ๊ก-อาภัสรา มาพบกับเราในชุดเดรส (dress) สีดำ คอปกสีขาว ที่ดูสวยสง่า มาดมั่นตามแบบสาวนักธุรกิจ ซึ่งก็ตรงกับอาชีพ ณ ปัจจุบัน ของเธอ ที่เป็นนักธุรกิจหญิง เจ้าของกิจการสถานเสริมความงาม อาภัสราบิวตี้ แอนด์สลิมมิ่ง สปา (Apasra's Beauty and Slimming Spa)
“ปัจจุบันทำธุรกิจสปา คือ อาภัสราบิวตี้ แอนด์สลิมมิ่งสปา เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการดูแล ใบหน้า สัดส่วน และสปาเพื่อสุขภาพและความผ่อนคลายค่ะ ตอนนี้มี 2 สาขา เราเปิดมา 8 ปีเต็ม ปีนี้เข้าปีที่ 9 แล้ว” คุณอาภัสรา อัพเดทให้ฟังเรื่องของธุรกิจที่เธอทำอยู่ ก่อนเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของเธอว่า
“กิจวัตรประจำวันตอนนี้คือ ดูแลธุรกิจสปาทั้งสองสาขา และดูแลบ้าน ถ้ามีเวลาก็จะเข้าไปดูแลสปาทั้งสองแห่งค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวกเราก็จะดูงานอยู่ที่บ้าน สั่งงานจากที่บ้าน ถ้ามีนัดหรือมีประชุมก็จะเข้ามาที่สปา หรือบางครั้งก็จะมาทำทรีตเมนต์ (treatment) ที่สปาของตัวเอง
สาเหตุที่ไม่ได้เข้ามาเองทุกวัน เพราะเรามีผู้ช่วยด้วยค่ะ ในส่วนของการบริหารสปา เรามีผู้เชี่ยวชาญ และมีลูกชาย คือ หม่อมหลวงโจ้ (หม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร) มาช่วยทางด้านบริหาร การตกแต่ง และการดูแลเครื่องมือ เครื่องใช้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ส่วนตัวเองจะดูภาพรวมทั้งหมด ก็จะคลุกคลีอยู่กับงานตรงนี้ตลอด จะมีการโทรศัพท์เข้ามาพูดคุย และประชุมกันทุกสัปดาห์ ถึงแม้บางวันจะไม่ได้เข้าไปดูเอง แต่ก็ต้องพูดคุยกับพนักงานอยู่ตลอด”
นักบริหาร งานถนัดตั้งแต่อดีต
หลายคนอาจไม่เคยทราบว่าการเป็นผู้บริหารสปานี้ ถือเป็นงานถนัดที่คุณอาภัสราทำมาตั้งแต่อดีตแล้วค่ะ
“จริงๆ แล้วเรื่องสปานี้ ตัวเองจะเป็นคนที่มีประสบการณ์มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะว่าเคยเข้าไปบริหารงานให้กับสลิมเดอลีน สถาบันเสริมความงามแห่งแรกของประเทศไทย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ ปิดไปนานแล้ว ตอนที่เข้าไปบริหารงาน ตอนนั้นอายุแค่ 20 ปี แต่เราก็ไปบริหารอยู่เป็นปี ทำให้มีประสบการณ์ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงนี้ด้วยที่ทำให้เรามาเปิดอาภัสราฯ สปา อีกอย่างเราเป็นคนที่ชอบนวด ชอบทำสปา เวลาเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเราได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เราก็จะไปลองทำสปาที่ดีที่สุดของโลกมาเกือบทุกแห่ง และพอเห็นว่าเขามีอะไรดี เราก็จะนำเข้ามาใช้กับสปาของเราด้วย”
มีธุรกิจที่ต้องดูแลถึงสองแห่ง แถมยังต้องออกงานสังคมอยู่เนืองๆ แบบนี้ อดห่วงใยไม่ได้ ว่านางงามคนสวยของเราจะเหนื่อยหรือไม่ ทว่าเมื่อถามไป คุณอาภัสราให้คำตอบพร้อมกับรอยยิ้ม จนเราหายห่วง...
“พอเราได้ทำให้สิ่งที่เราชอบมันก็ทำให้ไม่เหนื่อยค่ะ เพราะคนเราพอทำอะไรด้วยใจรักมันก็สนุก เราได้ทำงานที่เราชอบมันก็สนุก นอกจากว่าบางทีมันมีงานอื่นมาซ้อน เช่น ต้องไปออกงานสังคมอื่นๆ บางช่วงมันก็อาจจะมีเหนื่อยบ้าง แต่โดยรวม พอได้ทำงานที่เราชอบมันก็สนุกมากกว่า”
นักบริหารมือโปรฯ สอนลูกน้องเอง กระทั่งการขัดห้องน้ำ!
ด้วยเพราะความเชื่อว่า หากจะบริหารงานได้ดี ต้องดูแลให้ดีในทุกกระบวนการ คุณอาภัสราจึงทุ่มเททำงานแบบสุดตัว สอนพนักงานเองเกือบทั้งหมด กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ อย่างการขัดห้องน้ำ หรือซักผ้าปูเตียงภายในสปา เธอก็ลงมือสาธิตสอนลูกน้องเองกับมือ
“เราจะสอนพนักงานเองหลายอย่าง แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น การทำความสะอาด การขัดห้องน้ำ เราก็ยังสอน ถ้าพนักงานบอกว่าห้องน้ำไม่สะอาด บอกว่าขัดยังไงก็ไม่ออก ‘เดี๋ยวอาภัสรา ทำให้ดูจะต้องออก' ไม่ออกไม่ได้ เพราะเราคิดว่าเรื่องความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ
หรือถ้าผ้าปูเตียงสกปรก พนักงานซักไม่ออก เราก็จะลองซัก ลองแช่ดู ทำให้ดูเองเลย ว่าต้องซักอย่างไรออกแรงอย่างไรเพื่อให้คราบสกปรกออก แต่ท้ายที่สุดถ้าซักไม่ออกจริงๆ ค่อยทิ้ง แต่อย่างไรก็ต้องทำให้สะอาดที่สุด ซึ่งการที่เราใส่ใจตรงนี้ ก็ทำให้เราได้รับโล่รางวัล ว่าเป็นสปาที่สะอาดจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย” เธอยิ้มตอบอย่างภูมิใจ
อีกเรื่องที่นักบริหารมืออาชีพอย่างเธอให้ความสำคัญ คือ การบริหารคนด้วยใจ เพื่อให้คนที่ทำงานกับเธอมีความสุขทั้งกายและใจ
“เราพยายามทำให้พนักงานมีกำลังใจเวลาทำงาน เพราะเมื่อมีกำลังใจดี มีความสุข ก็จะทำงานได้ดี ดังนั้นเราก็จะดูหลายอย่าง ดูไปถึงความเป็นอยู่ของเขา พยายามพูดคุยกับเขา มีอะไรให้ได้ก็จะให้ เพื่อให้เขามีความสุข เช่น พนักงานเขาอยากได้ชุดพนักงานใหม่ เขาอยากใส่ชุดสวยๆ ใหม่ๆ เราก็จะตัดให้ใหม่ทันทีโดยไม่หักเงินเขาด้วย และเราจะพยายามเลือกแบบที่ดี เพื่อให้เขาได้ใส่ชุดสวยๆ จะได้รู้สึกมีความสุข
หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราให้พนักงานได้เราก็อยากจะให้ เช่นที่ อาภัสราฯ สปา สาขารัชดา 32 เรามี 3 ชั้นค่ะ ชั้น1และ2 เราก็ให้บริการท่านสมาชิก ส่วนที่ชั้น3 เราก็ทำห้องพระ ทำห้องพักรับประทานอาหารให้กับพนักงาน หรือบางครั้งที่พนักงานเขามีความจำเป็น เช่น เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน พักฟื้นระยะหนึ่งแล้ว อยากกลับมาทำงาน แต่ยังหาคนดูลูกไม่ได้ เขามาขอเอาลูกไว้ที่ชั้น3 ซึ่งส่วนนั้นเราเห็นว่าไม่รบกวนแขกที่มาใช้บริการอยู่แล้ว เราก็อนุญาต เพราะเราก็เข้าใจถึงความจำเป็นของเขา
แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะส่งลูกไปให้คุณพ่อคุณแม่ที่ต่างจังหวัดดูแลอยู่แล้ว แต่ระหว่างที่ยังหาคนดูแลไม่ได้ เราก็อนุญาตระยะหนึ่ง ก็ให้เขาเอามาบ้าง... นิดๆ หน่อยๆ ค่ะ อะไรที่เราให้ได้ เราก็จะให้ เขาจะสบายใจ” สาวสวยไม่สร่างให้สัมภาษณ์ถึงหลักการบริหารที่ยืดหยุ่น และคำนึงถึงความสุขของผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ
นักพยากรณ์ อีกความถนัดที่หลายคนไม่เคยทราบ
หลังบอกถึงความถนัดแรกไปแล้ว อีกสิ่งที่คุณปุ๊กชื่นชอบมานาน และหลายคนอาจไม่รู้ คือ การเป็นสาวนักพยากรณ์ ที่เธอว่าคนรอบข้างมักคอนเฟิร์ม (confirm) ว่าแม่นมั่กๆ
“ตัวเองเคยเรียนเรื่องการดูดวงมาค่ะ เรียนมานานแล้ว ก็มีพรรคพวกญาติๆ เพื่อนฝูงขอให้ดูให้บ่อยๆ เราก็พอดูได้ ซึ่งคนรอบข้างก็บอกว่าแม่นมาก (หัวเราะ) เพื่อนๆ นักธุรกิจจะมีแต่คนอยากให้ดูให้ แต่เราไม่ได้เก่งอะไรนะคะ เพียงแต่ว่าเราเปิดตำราดู เอาเลขนี้บวกกับเลขนี้ เราก็พูดไปตามตำรา เราไม่ได้เก่งเอง แต่เราเรียนมา ในตำราเขาบอกว่าเลขนี้แปลว่าอย่างนี้ เราก็อธิบายไปตามนั้น ถ้าดูทั่วไป เราก็พอดูได้ ทำนายได้ตามที่เลขบอก แต่ถ้าเราไปเจอคนที่ดวงดีมาก มักจะทายแม่น เพราะดวงเขาจะมีดาวใหญ่มาเจอกัน คือ ดวงที่เด่นจะทำนายง่าย แต่ดวงปานกลางจะยากกว่านิดหน่อย”
ที่น่าสนใจ หลายท่านอาจไม่ทราบว่าคุณอาภัสรานี่แหละคือ คนหนึ่งที่เคยทำนายว่า คุณปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก จะได้ครองตำแหน่งนางงามจักรวาล
“ตอนที่ปุ๋ยได้เป็นนางสาวไทยแล้วจะไปประกวดที่เมืองนอก เราก็ทำนายให้ เรายังบอกเลยว่าเขาจะได้ตำแหน่ง เพราะเขามีไฝแดงขึ้นที่ฝ่ามือเหมือนกับเรา เพราะตอนที่เราได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe) เราก็มีไฝแดงขึ้นที่ฝ่ามือเหมือนกัน เราก็เลยทายว่าปุ๋ยน่าจะได้นะ เพราะมันมีไฝแดงขึ้นที่มือ พอเขาได้จริงๆ เราก็ดีใจด้วย ก็คิดเอาไว้แล้วว่าเขาน่าจะได้”
คุณอาภัสราเน้นว่า สำหรับเธอแล้ว การดูดวงไม่ใช่ดูเพื่อให้เชื่ออย่างงมงาย แต่ดูเพื่อให้รู้จักระวัง และหมั่นทำดีเสมอต่างหาก
“เราดูดวงเพื่อระวัง แต่ไม่ใช่ไปเชื่อหรืองมงาย เพราะว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้นะ อย่างเช่น บางคนดวงไม่ดี ดวงถึงฆาต แต่เขาไปทำบุญตลอด ก็ทำให้แคล้วคลาดไป เขาเรียกว่ากรรมตามไม่ทัน แต่บางคนบ่นว่า อุ้ย! ไปดูดวงทีไรไม่เคยแม่นเลย บอกว่าจะดวงไม่ดี แต่ทำไมดวงดีตลอด แบบนี้ก็เพราะคนนั้นเขาทำบุญมาก ใครทายเขาก็ไม่แม่น อย่างนี้มันก็มี เขาเรียกกรรมตามไม่ทัน ทำบุญไปเรื่อยๆ กรรมก็ยิ่งห่างไปใหญ่ แทนที่จะเจอเรื่องไม่ดี ก็กลายเป็นไม่เจอ”
ท้ายสุด สาวสวยไม่สร่างฝากหลักคิดในเรื่องของดวงชะตามาว่า
“จริงๆ มันคือหลักคิดของตัวเองด้วย ถ้าเรารู้ว่าดวงไม่ดี ก็ต้องรีบทำบุญ แต่ถ้าดวงดีอยู่แล้ว ก็ยิ่งต้องทำอีก เราจะได้รับสิ่งดีๆ แบบดีซ้ำซ้อน ดีจนหยุดไม่อยู่ ลื่นไหลไปตลอด ฉะนั้นเราต้องทำดีไปเรื่อยๆ พอทำดีเราก็มีความสุข จะไปทำอะไรก็มีความสุข เวลาจะทำอะไรให้ใคร เราจะต้องมีจิตใจที่ดี ที่สำคัญ การทำบุญกับคนใกล้ตัวถือเป็นสิ่งดีมาก เราต้องทำบุญกับคนใกล้ตัวก่อน บุญไกลตัวเราก็ทำด้วยตามโอกาส แต่ใกล้ตัวเราก็ทำได้ ทำกับคนใกล้ตัวได้หมด ให้เขามีความสุข
เช่น เราทำธุรกิจสปา ท่านสมาชิกของเราก็ถือเป็นคนใกล้ตัว เราก็ต้องซื่อสัตย์ และทำดีกับเขาด้วย พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ หรือพนักงานเราก็ดูแลเขาให้ดีที่สุดเหมือนกัน พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด แล้วเราก็จะมีความสุขไปด้วย” คุณอาภัสราบอกถึงข้อคิดและหลักปฏิบัติของเธอ ที่หลอมรวมทั้งเรื่องความเชื่อในเรื่องการดูดวง การทำดี และหลักการบริหารไว้อย่างลงตัว
สัมภาษณ์โดย Lady Manager
ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุธทิน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ฉะนั้นหากจะให้คาดเดาถึงเรื่องความชอบความถนัดของคุณปุ๊ก-อาภัสรา เชื่อว่าหลายคนคงเดาว่า เธอน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องความสวยความงามเป็นที่สุด ซึ่งก็ไม่ผิดเลยค่ะ อดีตนางงามจักรวาลอย่างเธอ สันทัด เรื่องความสวยความงามไม่เป็นรองใครแน่ ...ไม่อย่างนั้น คงไม่รักษาความสวยได้ยาวนานขนาดนี้หรอก
ทว่านอกจากเรื่องความสวย ความงามแล้ว คุณอาภัสรายังมีสิ่งที่ชื่นชอบและเชี่ยวชาญอีกสองอย่าง ที่หลายคนคาดไม่ถึง โอกาสนี้เราได้รับเกียรติจากเธอ ให้เข้าสัมภาษณ์ซักถามในประเด็นต่างๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้ทราบ ความเป็นไปของเธอ ณ ปัจจุบันแล้ว คุณอาภัสรายังเปิดเผยถึงเรื่องราวความชื่นชอบส่วนตั๊วส่วนตัว ที่ทำให้เราได้รู้จักตัวตนของเธอเพิ่มขึ้นอีกเยอะเชียวค่ะ
คุณปุ๊ก-อาภัสรา มาพบกับเราในชุดเดรส (dress) สีดำ คอปกสีขาว ที่ดูสวยสง่า มาดมั่นตามแบบสาวนักธุรกิจ ซึ่งก็ตรงกับอาชีพ ณ ปัจจุบัน ของเธอ ที่เป็นนักธุรกิจหญิง เจ้าของกิจการสถานเสริมความงาม อาภัสราบิวตี้ แอนด์สลิมมิ่ง สปา (Apasra's Beauty and Slimming Spa)
“ปัจจุบันทำธุรกิจสปา คือ อาภัสราบิวตี้ แอนด์สลิมมิ่งสปา เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการดูแล ใบหน้า สัดส่วน และสปาเพื่อสุขภาพและความผ่อนคลายค่ะ ตอนนี้มี 2 สาขา เราเปิดมา 8 ปีเต็ม ปีนี้เข้าปีที่ 9 แล้ว” คุณอาภัสรา อัพเดทให้ฟังเรื่องของธุรกิจที่เธอทำอยู่ ก่อนเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของเธอว่า
“กิจวัตรประจำวันตอนนี้คือ ดูแลธุรกิจสปาทั้งสองสาขา และดูแลบ้าน ถ้ามีเวลาก็จะเข้าไปดูแลสปาทั้งสองแห่งค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวกเราก็จะดูงานอยู่ที่บ้าน สั่งงานจากที่บ้าน ถ้ามีนัดหรือมีประชุมก็จะเข้ามาที่สปา หรือบางครั้งก็จะมาทำทรีตเมนต์ (treatment) ที่สปาของตัวเอง
สาเหตุที่ไม่ได้เข้ามาเองทุกวัน เพราะเรามีผู้ช่วยด้วยค่ะ ในส่วนของการบริหารสปา เรามีผู้เชี่ยวชาญ และมีลูกชาย คือ หม่อมหลวงโจ้ (หม่อมหลวงรุ่งคุณ กิติยากร) มาช่วยทางด้านบริหาร การตกแต่ง และการดูแลเครื่องมือ เครื่องใช้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ส่วนตัวเองจะดูภาพรวมทั้งหมด ก็จะคลุกคลีอยู่กับงานตรงนี้ตลอด จะมีการโทรศัพท์เข้ามาพูดคุย และประชุมกันทุกสัปดาห์ ถึงแม้บางวันจะไม่ได้เข้าไปดูเอง แต่ก็ต้องพูดคุยกับพนักงานอยู่ตลอด”
นักบริหาร งานถนัดตั้งแต่อดีต
หลายคนอาจไม่เคยทราบว่าการเป็นผู้บริหารสปานี้ ถือเป็นงานถนัดที่คุณอาภัสราทำมาตั้งแต่อดีตแล้วค่ะ
“จริงๆ แล้วเรื่องสปานี้ ตัวเองจะเป็นคนที่มีประสบการณ์มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะว่าเคยเข้าไปบริหารงานให้กับสลิมเดอลีน สถาบันเสริมความงามแห่งแรกของประเทศไทย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ ปิดไปนานแล้ว ตอนที่เข้าไปบริหารงาน ตอนนั้นอายุแค่ 20 ปี แต่เราก็ไปบริหารอยู่เป็นปี ทำให้มีประสบการณ์ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงนี้ด้วยที่ทำให้เรามาเปิดอาภัสราฯ สปา อีกอย่างเราเป็นคนที่ชอบนวด ชอบทำสปา เวลาเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเราได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อย เราก็จะไปลองทำสปาที่ดีที่สุดของโลกมาเกือบทุกแห่ง และพอเห็นว่าเขามีอะไรดี เราก็จะนำเข้ามาใช้กับสปาของเราด้วย”
มีธุรกิจที่ต้องดูแลถึงสองแห่ง แถมยังต้องออกงานสังคมอยู่เนืองๆ แบบนี้ อดห่วงใยไม่ได้ ว่านางงามคนสวยของเราจะเหนื่อยหรือไม่ ทว่าเมื่อถามไป คุณอาภัสราให้คำตอบพร้อมกับรอยยิ้ม จนเราหายห่วง...
“พอเราได้ทำให้สิ่งที่เราชอบมันก็ทำให้ไม่เหนื่อยค่ะ เพราะคนเราพอทำอะไรด้วยใจรักมันก็สนุก เราได้ทำงานที่เราชอบมันก็สนุก นอกจากว่าบางทีมันมีงานอื่นมาซ้อน เช่น ต้องไปออกงานสังคมอื่นๆ บางช่วงมันก็อาจจะมีเหนื่อยบ้าง แต่โดยรวม พอได้ทำงานที่เราชอบมันก็สนุกมากกว่า”
นักบริหารมือโปรฯ สอนลูกน้องเอง กระทั่งการขัดห้องน้ำ!
ด้วยเพราะความเชื่อว่า หากจะบริหารงานได้ดี ต้องดูแลให้ดีในทุกกระบวนการ คุณอาภัสราจึงทุ่มเททำงานแบบสุดตัว สอนพนักงานเองเกือบทั้งหมด กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ อย่างการขัดห้องน้ำ หรือซักผ้าปูเตียงภายในสปา เธอก็ลงมือสาธิตสอนลูกน้องเองกับมือ
“เราจะสอนพนักงานเองหลายอย่าง แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น การทำความสะอาด การขัดห้องน้ำ เราก็ยังสอน ถ้าพนักงานบอกว่าห้องน้ำไม่สะอาด บอกว่าขัดยังไงก็ไม่ออก ‘เดี๋ยวอาภัสรา ทำให้ดูจะต้องออก' ไม่ออกไม่ได้ เพราะเราคิดว่าเรื่องความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ
หรือถ้าผ้าปูเตียงสกปรก พนักงานซักไม่ออก เราก็จะลองซัก ลองแช่ดู ทำให้ดูเองเลย ว่าต้องซักอย่างไรออกแรงอย่างไรเพื่อให้คราบสกปรกออก แต่ท้ายที่สุดถ้าซักไม่ออกจริงๆ ค่อยทิ้ง แต่อย่างไรก็ต้องทำให้สะอาดที่สุด ซึ่งการที่เราใส่ใจตรงนี้ ก็ทำให้เราได้รับโล่รางวัล ว่าเป็นสปาที่สะอาดจากกระทรวงสาธารณสุขด้วย” เธอยิ้มตอบอย่างภูมิใจ
อีกเรื่องที่นักบริหารมืออาชีพอย่างเธอให้ความสำคัญ คือ การบริหารคนด้วยใจ เพื่อให้คนที่ทำงานกับเธอมีความสุขทั้งกายและใจ
“เราพยายามทำให้พนักงานมีกำลังใจเวลาทำงาน เพราะเมื่อมีกำลังใจดี มีความสุข ก็จะทำงานได้ดี ดังนั้นเราก็จะดูหลายอย่าง ดูไปถึงความเป็นอยู่ของเขา พยายามพูดคุยกับเขา มีอะไรให้ได้ก็จะให้ เพื่อให้เขามีความสุข เช่น พนักงานเขาอยากได้ชุดพนักงานใหม่ เขาอยากใส่ชุดสวยๆ ใหม่ๆ เราก็จะตัดให้ใหม่ทันทีโดยไม่หักเงินเขาด้วย และเราจะพยายามเลือกแบบที่ดี เพื่อให้เขาได้ใส่ชุดสวยๆ จะได้รู้สึกมีความสุข
หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราให้พนักงานได้เราก็อยากจะให้ เช่นที่ อาภัสราฯ สปา สาขารัชดา 32 เรามี 3 ชั้นค่ะ ชั้น1และ2 เราก็ให้บริการท่านสมาชิก ส่วนที่ชั้น3 เราก็ทำห้องพระ ทำห้องพักรับประทานอาหารให้กับพนักงาน หรือบางครั้งที่พนักงานเขามีความจำเป็น เช่น เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน พักฟื้นระยะหนึ่งแล้ว อยากกลับมาทำงาน แต่ยังหาคนดูลูกไม่ได้ เขามาขอเอาลูกไว้ที่ชั้น3 ซึ่งส่วนนั้นเราเห็นว่าไม่รบกวนแขกที่มาใช้บริการอยู่แล้ว เราก็อนุญาต เพราะเราก็เข้าใจถึงความจำเป็นของเขา
แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะส่งลูกไปให้คุณพ่อคุณแม่ที่ต่างจังหวัดดูแลอยู่แล้ว แต่ระหว่างที่ยังหาคนดูแลไม่ได้ เราก็อนุญาตระยะหนึ่ง ก็ให้เขาเอามาบ้าง... นิดๆ หน่อยๆ ค่ะ อะไรที่เราให้ได้ เราก็จะให้ เขาจะสบายใจ” สาวสวยไม่สร่างให้สัมภาษณ์ถึงหลักการบริหารที่ยืดหยุ่น และคำนึงถึงความสุขของผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอ
นักพยากรณ์ อีกความถนัดที่หลายคนไม่เคยทราบ
หลังบอกถึงความถนัดแรกไปแล้ว อีกสิ่งที่คุณปุ๊กชื่นชอบมานาน และหลายคนอาจไม่รู้ คือ การเป็นสาวนักพยากรณ์ ที่เธอว่าคนรอบข้างมักคอนเฟิร์ม (confirm) ว่าแม่นมั่กๆ
“ตัวเองเคยเรียนเรื่องการดูดวงมาค่ะ เรียนมานานแล้ว ก็มีพรรคพวกญาติๆ เพื่อนฝูงขอให้ดูให้บ่อยๆ เราก็พอดูได้ ซึ่งคนรอบข้างก็บอกว่าแม่นมาก (หัวเราะ) เพื่อนๆ นักธุรกิจจะมีแต่คนอยากให้ดูให้ แต่เราไม่ได้เก่งอะไรนะคะ เพียงแต่ว่าเราเปิดตำราดู เอาเลขนี้บวกกับเลขนี้ เราก็พูดไปตามตำรา เราไม่ได้เก่งเอง แต่เราเรียนมา ในตำราเขาบอกว่าเลขนี้แปลว่าอย่างนี้ เราก็อธิบายไปตามนั้น ถ้าดูทั่วไป เราก็พอดูได้ ทำนายได้ตามที่เลขบอก แต่ถ้าเราไปเจอคนที่ดวงดีมาก มักจะทายแม่น เพราะดวงเขาจะมีดาวใหญ่มาเจอกัน คือ ดวงที่เด่นจะทำนายง่าย แต่ดวงปานกลางจะยากกว่านิดหน่อย”
ที่น่าสนใจ หลายท่านอาจไม่ทราบว่าคุณอาภัสรานี่แหละคือ คนหนึ่งที่เคยทำนายว่า คุณปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก จะได้ครองตำแหน่งนางงามจักรวาล
“ตอนที่ปุ๋ยได้เป็นนางสาวไทยแล้วจะไปประกวดที่เมืองนอก เราก็ทำนายให้ เรายังบอกเลยว่าเขาจะได้ตำแหน่ง เพราะเขามีไฝแดงขึ้นที่ฝ่ามือเหมือนกับเรา เพราะตอนที่เราได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe) เราก็มีไฝแดงขึ้นที่ฝ่ามือเหมือนกัน เราก็เลยทายว่าปุ๋ยน่าจะได้นะ เพราะมันมีไฝแดงขึ้นที่มือ พอเขาได้จริงๆ เราก็ดีใจด้วย ก็คิดเอาไว้แล้วว่าเขาน่าจะได้”
คุณอาภัสราเน้นว่า สำหรับเธอแล้ว การดูดวงไม่ใช่ดูเพื่อให้เชื่ออย่างงมงาย แต่ดูเพื่อให้รู้จักระวัง และหมั่นทำดีเสมอต่างหาก
“เราดูดวงเพื่อระวัง แต่ไม่ใช่ไปเชื่อหรืองมงาย เพราะว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้นะ อย่างเช่น บางคนดวงไม่ดี ดวงถึงฆาต แต่เขาไปทำบุญตลอด ก็ทำให้แคล้วคลาดไป เขาเรียกว่ากรรมตามไม่ทัน แต่บางคนบ่นว่า อุ้ย! ไปดูดวงทีไรไม่เคยแม่นเลย บอกว่าจะดวงไม่ดี แต่ทำไมดวงดีตลอด แบบนี้ก็เพราะคนนั้นเขาทำบุญมาก ใครทายเขาก็ไม่แม่น อย่างนี้มันก็มี เขาเรียกกรรมตามไม่ทัน ทำบุญไปเรื่อยๆ กรรมก็ยิ่งห่างไปใหญ่ แทนที่จะเจอเรื่องไม่ดี ก็กลายเป็นไม่เจอ”
ท้ายสุด สาวสวยไม่สร่างฝากหลักคิดในเรื่องของดวงชะตามาว่า
“จริงๆ มันคือหลักคิดของตัวเองด้วย ถ้าเรารู้ว่าดวงไม่ดี ก็ต้องรีบทำบุญ แต่ถ้าดวงดีอยู่แล้ว ก็ยิ่งต้องทำอีก เราจะได้รับสิ่งดีๆ แบบดีซ้ำซ้อน ดีจนหยุดไม่อยู่ ลื่นไหลไปตลอด ฉะนั้นเราต้องทำดีไปเรื่อยๆ พอทำดีเราก็มีความสุข จะไปทำอะไรก็มีความสุข เวลาจะทำอะไรให้ใคร เราจะต้องมีจิตใจที่ดี ที่สำคัญ การทำบุญกับคนใกล้ตัวถือเป็นสิ่งดีมาก เราต้องทำบุญกับคนใกล้ตัวก่อน บุญไกลตัวเราก็ทำด้วยตามโอกาส แต่ใกล้ตัวเราก็ทำได้ ทำกับคนใกล้ตัวได้หมด ให้เขามีความสุข
เช่น เราทำธุรกิจสปา ท่านสมาชิกของเราก็ถือเป็นคนใกล้ตัว เราก็ต้องซื่อสัตย์ และทำดีกับเขาด้วย พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ หรือพนักงานเราก็ดูแลเขาให้ดีที่สุดเหมือนกัน พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด แล้วเราก็จะมีความสุขไปด้วย” คุณอาภัสราบอกถึงข้อคิดและหลักปฏิบัติของเธอ ที่หลอมรวมทั้งเรื่องความเชื่อในเรื่องการดูดวง การทำดี และหลักการบริหารไว้อย่างลงตัว
สัมภาษณ์โดย Lady Manager
ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุธทิน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
