มันต้องมีกันบ้างสำหรับอารมณ์เบื่ออาหาร จะหันไปทางอาหารญี่ปุ่นก็หน่าย เกาหลี ปิ้งย่าง ก็เริ่มเซ็ง ครั้นพออยากทานข้าว จะทานอะไรดี กะเพราไก่ไข่ดาวจานเดิมคงไม่ไหว.. มาหาเมนูแซ่บจัดจ้านถูกใจคนไทยอย่างเราเสียหน่อยดีกว่า
เพราะอาหารไทยมีเสน่ห์เด่นดังไปทั่วโลก ไม่เว้นกระทั่งอาหารพื้นเมืองรสดี หน้าตาสวย ที่สำคัญเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ แถมสะท้อนวิถีชีวิตชาวไทยเราได้ดีสุดๆ โอกาสนี้เราจึงขอนำเสนอ ร้านอาหารพื้นเมืองรสเด็ดอาหารใต้ตามแบบฉบับชาวจังหวัดภูเก็ต ที่เน้นรสร้อนแรง จัดจ้านกำลังดี มาเสิร์ฟให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลองกันถึงกลางกรุง
ภูเก็ตทาวน์
อาหารใต้ภูเก็ต ไม่เผ็ดจัด แต่รสเด็ดจังฮู้
ร้านภูเก็ตทาวน์ของเจ้าของร้านคนสวย คุณเกศ-เกศกร เกียรติกุล ตั้งอยู่ปากซอยทองหล่อ 6 ย่านที่เนืองแน่นไปด้วยชาวต่างชาติ ที่ดูไปแล้วไม่น่าจะพิสมัยในรสชาติเผ็ดร้อนนัก ทว่าร้านอาหารไทยพื้นเมืองรสจัดจ้านกลับเด่นตระหง่าน เป็นอีกร้านที่มาแรง แม้จะเพิ่งเปิดตัวได้เพียงปีเศษเท่านั้น
“ที่มาเปิดร้านนี้ มันเริ่มมาจากการที่เกศเข้ามาทำธุระที่ทองหล่อบ่อย พอหิวก็อยากทานข้าว แต่อาหารแถบนี้ก็มีแต่อาหารญี่ปุ่น เกาหลี อิตาเลียน เราก็ไม่อยากกิน อยากกินข้าว แต่พอไปกินข้าวก็เจอกับข้าวที่รสชาติค่อนข้างจืด อาจจะเป็นเพราะตัวเองชอบอาหารรสจัดด้วย เลยรู้สึกว่าไม่ถูกปากเรา
ก็เลยคิดว่าถ้ามาลองเปิดร้านอาหารรสจัดบ้าง มันน่าจะขายได้นะ เพราะมันก็น่าจะมีกลุ่มคนไทยที่อยู่ย่านนี้แล้วอยากทานข้าวรสชาติแบบนี้
ประกอบกับคิดว่าคุณแม่เราทำกับข้าวอร่อย มันน่าจะขายได้ แต่ตัวเองก็ทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น เริ่มแรกก็ต้องไปเริ่มเรียนกับคุณแม่อย่างจริงจัง เขาไม่มีสูตรหรอก พอแม่ทำเราก็ตวง และจดสูตรไปเรื่อยๆ
ช่วงแรกๆ เหนื่อยมาก จนตอนนี้ทุกอย่างก็คงที่แล้วค่ะ รสชาติอาหารจะได้มาตรฐานมาทานเมื่อไหร่ก็จะเหมือนเดิม” คุณเกศกร เล่าให้ฟังถึงที่มาร้านภูเก็ตทาวน์
บรรยากาศคลาสสิคสไตล์ชิโนโปรตุกีส
แม้ภายในห้องกระจกเย็นฉ่ำของร้านแห่งนี้ จะไม่ได้มีพื้นที่มากมาย ด้วยเป็นไปตามเงื่อนไขราคาที่ดิน ของย่านทองหล่อที่แพงยิ่งกว่าทอง ..แต่แม้จะไม่ใหญ่โต (รองรับลูกค้าได้ราว 40 ที่นั่ง) ทว่าการตกแต่งภายในกลับสวยงาม และแฝงไปด้วยเสน่ห์แห่งความคลาสสิคตามสไตล์ ‘ชิโนโปรตุกีส’ ที่เจ้าของร้านระบุว่า พี่ชายของเธอตั้งใจเพ้นท์กำแพงและตกแต่งร้านนี้ ให้ออกมาเหมือนบ้านเรือนในย่านเมืองเก่าของจังหวัดภูเก็ต ที่จะมีสไตล์การแบบผสมผสานกันทั้งไทย จีน และยุโรป เมื่อย่างก้าวเข้ามาถึงร้าน เราจึงสัมผัสได้ถึงความสวยงามที่แสนคลาสสิค มองไปมุมไหนก็เจริญตา ชวนให้เจริญอาหารนักเชียว
รสชาติภูเก็ต
“รสชาติอาหารของใต้ แต่ละจังหวัดไม่เหมือนกันนะคะ อย่างอาหารร้านเราจะเป็นใต้แบบจังหวัดภูเก็ตที่จะออกจีนๆ ปนอยู่ด้วย รสชาติก็จะไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ จะไม่เหมือนอย่างอาหารใต้ของทางนครศรีธรรมราชที่เผ็ดมากๆ แต่ใต้ภูเก็ตจะออกแนวใส่ขมิ้นเยอะ หวานนิดพอกลมกล่อม แต่ไม่เผ็ดมาก คนภาคอื่นทานได้ แม้แต่ฝรั่งก็ทานได้ เพราะมันไม่เผ็ดจนมากมาย และด้วยความที่เมนูบางอย่างคล้ายกับเมนูของจีนด้วย เช่น ผัดหมี่ ชาวต่างชาติที่เป็นคนฮ่องกงหรือคนจีนย่านทองหล่อก็จะชอบ”
เจ้าของร้านหน้าคม ผิวขาว ระบุถึงคอนเซ็ปต์รสชาติอาหารภายในร้านว่าไม่เผ็ดจัด แต่ก็เด็ดตามสไตล์เมืองใต้
เปิดเมนูเด็ด
เราไม่ขอรีรอ มาเปิดเมนูเด็ดกันเลยดีกว่า ว่าอาหารใต้สไตล์ภูเก็ตที่ไม่เผ็ดนักแต่จัดจ้านจะหรอยจังฮู้ ดูน่าทานแค่ไหน
สะตอผัดกะปิกุ้ง (170 บาท)
จานนี้ใช้กุ้งตัวโต เนื้อแน่น ที่เจ้าของร้านบอกว่า ใช้กุ้งทะเลสด ที่ส่งตรงมาจากทางใต้ ทำให้ได้กุ้งสดคุณภาพดี แถมส่วนประกอบแต่ละอย่างก็แสนพิถีพิถัน ตั้งแต่กะปิ ต้องใช้กะปิชนิดไม่เค็มมาก แห่งเมือง ระนอง ส่วนซอส ต้องเป็นซอสปรุงรสภูเก็ต ที่คุณเกศกระซิบว่า เป็นซอสรสพื้นเมือง ซึ่งมีขายเฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น
เมื่อผัดต้องผสมเหล้าจีนเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว เมื่อให้ความสำคัญทุกกระเบียดนิ้ว รสชาติจานนี้จึงออกมากลมกล่อม หวานนิด เค็มหน่อย แต่กลิ่นหอมฉุย โชยไปไกล
ขนมจีนน้ำยาปู (160 บาท)
เป็นอีกอาหารจานเด็ดที่ขายดีประจำร้านนี้ ด้วยเพราะความกลมกล่อมของกะทิคั้นสดผสมกับเครื่องแกงใต้ที่เข้มข้น นำมาเคี่ยวและปรุงจนได้รสหวานมัน ผนวกเข้ากับเนื้อปูสดก้อนโตๆ จึงได้เป็นน้ำยาปูหอมอร่อย เผ็ดหน่อย แต่กลมกล่อมมากมาย
ของอร่อยเคียงคู่น้ำยาปู ประกอบด้วยขนมจีนเส้นเหนียวนุ่ม ไข่ยางมะตูมสีสวย ด้านผักเครื่องเคียงจัดมาแน่นเอี๊ยด ทั้งผักพื้นบ้านเมืองใต้อย่าง ลูกเหรียง, หัวทือ (ผักพื้นบ้านภาคใต้ มีลักษณะคล้ายหัวข่า), ถั่วงอกหัวโตดอง, สับปะรดภูเก็ต ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เลือกสรรมานี้ ก็เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติแท้ๆ เหมือนอยู่เมืองใต้จริงๆ
ปลาทรายทอดขมิ้น (220 บาท)
ปลาทราย ถือเป็นปลาทะเลรสชาติดี เมื่อร้านนี้เขาทุ่มเท ส่งตรงปลาทรายสดๆ มาจากเมืองใต้ นำมาเคล้ากับขมิ้น ตะไคร้ แล้วปรุงรสจนได้ที่ จึงออกมาเป็นปลาทรายจานนี้ ที่หอมกรุ่นขมิ้น สีนวลสวย
ทางร้านเสิร์ฟร้อนๆ ได้กลิ่นหมอฉุยมาแต่ไกล ยามกัดกินกรุบกรอบ ทานได้ทั้งตัว จานนี้ไม่ต้องการน้ำจิ้มใดๆ เพราะเนื้อปลาภายในนุ่มเนียนหวานกรอบ ด้านนอกกลมกล่อมกำลังดี เลยเคี้ยวเพลินลืมอิ่มกันไปเลย
น้ำพริกกุ้งเสียบ (110 บาท)
มาถึงร้านอาหารใต้ทั้งที จะลืมน้ำพริก “กุ้งเสียบ” อีกอาหารชื่อดังของภาคใต้ได้อย่างไร และร้านนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง จัดกุ้งเสียบตัวโตกรุบกรอบมาคลุกเคล้ากับกะปิหอมรสเยี่ยม รสชาติเผ็ดซี๊ดกำลังดี เค็มนิด หวานหน่อย ทานคู่กับสารพัดผักที่มีมาให้กันแบบละลานตา ทั้งชะอมชุบไข่, ลูกเหรียง, ถั่วพู, ถั่วงอกหัวโตดอง, หัวทือ และมะเขือ
จานนี้อุดมด้วยคุณค่าจากสารพัดผัก รสอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก
เปิดให้ลิ้มลองความอร่อย 10.30-22.00 ทุกวัน
ที่ตั้ง 160/8 ซอย ทองหล่อ6 สุขุมวิท55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
โทร. 02-714-9402
เรื่องโดย Lady Manager
ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุธทิน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
เพราะอาหารไทยมีเสน่ห์เด่นดังไปทั่วโลก ไม่เว้นกระทั่งอาหารพื้นเมืองรสดี หน้าตาสวย ที่สำคัญเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ แถมสะท้อนวิถีชีวิตชาวไทยเราได้ดีสุดๆ โอกาสนี้เราจึงขอนำเสนอ ร้านอาหารพื้นเมืองรสเด็ดอาหารใต้ตามแบบฉบับชาวจังหวัดภูเก็ต ที่เน้นรสร้อนแรง จัดจ้านกำลังดี มาเสิร์ฟให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลองกันถึงกลางกรุง
ภูเก็ตทาวน์
อาหารใต้ภูเก็ต ไม่เผ็ดจัด แต่รสเด็ดจังฮู้
ร้านภูเก็ตทาวน์ของเจ้าของร้านคนสวย คุณเกศ-เกศกร เกียรติกุล ตั้งอยู่ปากซอยทองหล่อ 6 ย่านที่เนืองแน่นไปด้วยชาวต่างชาติ ที่ดูไปแล้วไม่น่าจะพิสมัยในรสชาติเผ็ดร้อนนัก ทว่าร้านอาหารไทยพื้นเมืองรสจัดจ้านกลับเด่นตระหง่าน เป็นอีกร้านที่มาแรง แม้จะเพิ่งเปิดตัวได้เพียงปีเศษเท่านั้น
“ที่มาเปิดร้านนี้ มันเริ่มมาจากการที่เกศเข้ามาทำธุระที่ทองหล่อบ่อย พอหิวก็อยากทานข้าว แต่อาหารแถบนี้ก็มีแต่อาหารญี่ปุ่น เกาหลี อิตาเลียน เราก็ไม่อยากกิน อยากกินข้าว แต่พอไปกินข้าวก็เจอกับข้าวที่รสชาติค่อนข้างจืด อาจจะเป็นเพราะตัวเองชอบอาหารรสจัดด้วย เลยรู้สึกว่าไม่ถูกปากเรา
ก็เลยคิดว่าถ้ามาลองเปิดร้านอาหารรสจัดบ้าง มันน่าจะขายได้นะ เพราะมันก็น่าจะมีกลุ่มคนไทยที่อยู่ย่านนี้แล้วอยากทานข้าวรสชาติแบบนี้
ประกอบกับคิดว่าคุณแม่เราทำกับข้าวอร่อย มันน่าจะขายได้ แต่ตัวเองก็ทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น เริ่มแรกก็ต้องไปเริ่มเรียนกับคุณแม่อย่างจริงจัง เขาไม่มีสูตรหรอก พอแม่ทำเราก็ตวง และจดสูตรไปเรื่อยๆ
ช่วงแรกๆ เหนื่อยมาก จนตอนนี้ทุกอย่างก็คงที่แล้วค่ะ รสชาติอาหารจะได้มาตรฐานมาทานเมื่อไหร่ก็จะเหมือนเดิม” คุณเกศกร เล่าให้ฟังถึงที่มาร้านภูเก็ตทาวน์
บรรยากาศคลาสสิคสไตล์ชิโนโปรตุกีส
แม้ภายในห้องกระจกเย็นฉ่ำของร้านแห่งนี้ จะไม่ได้มีพื้นที่มากมาย ด้วยเป็นไปตามเงื่อนไขราคาที่ดิน ของย่านทองหล่อที่แพงยิ่งกว่าทอง ..แต่แม้จะไม่ใหญ่โต (รองรับลูกค้าได้ราว 40 ที่นั่ง) ทว่าการตกแต่งภายในกลับสวยงาม และแฝงไปด้วยเสน่ห์แห่งความคลาสสิคตามสไตล์ ‘ชิโนโปรตุกีส’ ที่เจ้าของร้านระบุว่า พี่ชายของเธอตั้งใจเพ้นท์กำแพงและตกแต่งร้านนี้ ให้ออกมาเหมือนบ้านเรือนในย่านเมืองเก่าของจังหวัดภูเก็ต ที่จะมีสไตล์การแบบผสมผสานกันทั้งไทย จีน และยุโรป เมื่อย่างก้าวเข้ามาถึงร้าน เราจึงสัมผัสได้ถึงความสวยงามที่แสนคลาสสิค มองไปมุมไหนก็เจริญตา ชวนให้เจริญอาหารนักเชียว
รสชาติภูเก็ต
“รสชาติอาหารของใต้ แต่ละจังหวัดไม่เหมือนกันนะคะ อย่างอาหารร้านเราจะเป็นใต้แบบจังหวัดภูเก็ตที่จะออกจีนๆ ปนอยู่ด้วย รสชาติก็จะไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ จะไม่เหมือนอย่างอาหารใต้ของทางนครศรีธรรมราชที่เผ็ดมากๆ แต่ใต้ภูเก็ตจะออกแนวใส่ขมิ้นเยอะ หวานนิดพอกลมกล่อม แต่ไม่เผ็ดมาก คนภาคอื่นทานได้ แม้แต่ฝรั่งก็ทานได้ เพราะมันไม่เผ็ดจนมากมาย และด้วยความที่เมนูบางอย่างคล้ายกับเมนูของจีนด้วย เช่น ผัดหมี่ ชาวต่างชาติที่เป็นคนฮ่องกงหรือคนจีนย่านทองหล่อก็จะชอบ”
เจ้าของร้านหน้าคม ผิวขาว ระบุถึงคอนเซ็ปต์รสชาติอาหารภายในร้านว่าไม่เผ็ดจัด แต่ก็เด็ดตามสไตล์เมืองใต้
เปิดเมนูเด็ด
เราไม่ขอรีรอ มาเปิดเมนูเด็ดกันเลยดีกว่า ว่าอาหารใต้สไตล์ภูเก็ตที่ไม่เผ็ดนักแต่จัดจ้านจะหรอยจังฮู้ ดูน่าทานแค่ไหน
สะตอผัดกะปิกุ้ง (170 บาท)
จานนี้ใช้กุ้งตัวโต เนื้อแน่น ที่เจ้าของร้านบอกว่า ใช้กุ้งทะเลสด ที่ส่งตรงมาจากทางใต้ ทำให้ได้กุ้งสดคุณภาพดี แถมส่วนประกอบแต่ละอย่างก็แสนพิถีพิถัน ตั้งแต่กะปิ ต้องใช้กะปิชนิดไม่เค็มมาก แห่งเมือง ระนอง ส่วนซอส ต้องเป็นซอสปรุงรสภูเก็ต ที่คุณเกศกระซิบว่า เป็นซอสรสพื้นเมือง ซึ่งมีขายเฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น
เมื่อผัดต้องผสมเหล้าจีนเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว เมื่อให้ความสำคัญทุกกระเบียดนิ้ว รสชาติจานนี้จึงออกมากลมกล่อม หวานนิด เค็มหน่อย แต่กลิ่นหอมฉุย โชยไปไกล
ขนมจีนน้ำยาปู (160 บาท)
เป็นอีกอาหารจานเด็ดที่ขายดีประจำร้านนี้ ด้วยเพราะความกลมกล่อมของกะทิคั้นสดผสมกับเครื่องแกงใต้ที่เข้มข้น นำมาเคี่ยวและปรุงจนได้รสหวานมัน ผนวกเข้ากับเนื้อปูสดก้อนโตๆ จึงได้เป็นน้ำยาปูหอมอร่อย เผ็ดหน่อย แต่กลมกล่อมมากมาย
ของอร่อยเคียงคู่น้ำยาปู ประกอบด้วยขนมจีนเส้นเหนียวนุ่ม ไข่ยางมะตูมสีสวย ด้านผักเครื่องเคียงจัดมาแน่นเอี๊ยด ทั้งผักพื้นบ้านเมืองใต้อย่าง ลูกเหรียง, หัวทือ (ผักพื้นบ้านภาคใต้ มีลักษณะคล้ายหัวข่า), ถั่วงอกหัวโตดอง, สับปะรดภูเก็ต ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เลือกสรรมานี้ ก็เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติแท้ๆ เหมือนอยู่เมืองใต้จริงๆ
ปลาทรายทอดขมิ้น (220 บาท)
ปลาทราย ถือเป็นปลาทะเลรสชาติดี เมื่อร้านนี้เขาทุ่มเท ส่งตรงปลาทรายสดๆ มาจากเมืองใต้ นำมาเคล้ากับขมิ้น ตะไคร้ แล้วปรุงรสจนได้ที่ จึงออกมาเป็นปลาทรายจานนี้ ที่หอมกรุ่นขมิ้น สีนวลสวย
ทางร้านเสิร์ฟร้อนๆ ได้กลิ่นหมอฉุยมาแต่ไกล ยามกัดกินกรุบกรอบ ทานได้ทั้งตัว จานนี้ไม่ต้องการน้ำจิ้มใดๆ เพราะเนื้อปลาภายในนุ่มเนียนหวานกรอบ ด้านนอกกลมกล่อมกำลังดี เลยเคี้ยวเพลินลืมอิ่มกันไปเลย
น้ำพริกกุ้งเสียบ (110 บาท)
มาถึงร้านอาหารใต้ทั้งที จะลืมน้ำพริก “กุ้งเสียบ” อีกอาหารชื่อดังของภาคใต้ได้อย่างไร และร้านนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง จัดกุ้งเสียบตัวโตกรุบกรอบมาคลุกเคล้ากับกะปิหอมรสเยี่ยม รสชาติเผ็ดซี๊ดกำลังดี เค็มนิด หวานหน่อย ทานคู่กับสารพัดผักที่มีมาให้กันแบบละลานตา ทั้งชะอมชุบไข่, ลูกเหรียง, ถั่วพู, ถั่วงอกหัวโตดอง, หัวทือ และมะเขือ
จานนี้อุดมด้วยคุณค่าจากสารพัดผัก รสอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก
เปิดให้ลิ้มลองความอร่อย 10.30-22.00 ทุกวัน
ที่ตั้ง 160/8 ซอย ทองหล่อ6 สุขุมวิท55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
โทร. 02-714-9402
เรื่องโดย Lady Manager
ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุธทิน
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net