By Lady Manager
จากกรณีสองสาวฝาแฝด(อดีต)ภรรยาวัยรุ่น แฉสามีเฒ่า ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ (Hugh Hefner) เจ้าพ่อนิตยสารเพลย์บอย (Playboy) ในวัย 85 ปี ว่าหูหนวก เนื่องจากใช้ไวอากร้า (Viagra) ถี่จัด พร้อมกับเผยคำพูดของเจ้าพ่อเพลย์บอยว่า "เขายอมเสียการได้ยินดีกว่าสูญเสียสมรรถภาพทางเพศ"
ว่าแต่..ยาไวอากร้าที่มีฤทธิ์ทำให้เจ้าหนูโด่ไม่รู้ล้มนั้นจะทำให้หูหนวก สูญเสียการได้ยิน จริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ งั้นเราไปขอคำตอบที่ชัดเจนที่สุดกับ นพ.พูนศักดิ์ สุชนวณิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น กันดีกว่าค่ะ
“ไวอากร้าจะไปขยายหลอดเลือดดำบริเวณส่วนปลาย เช่น อวัยวะเพศชาย เพื่อให้มีการขยายและไปเก็บกักมีเลือดคั่ง แน่นอนพอเลือดคั่งอวัยวะเพศก็จะแข็งตัว ใช้งานได้
บริเวณส่วนปลาย เช่น หู หรือเส้นสมองพวกนี้ก็จะมีการขยายหลอดเลือดเหมือนกัน ดังนั้นจะมีผลกับความดัน คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงพวกนี้บางทีห้ามใช้ เพราะไปเปลี่ยนแปลงความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด”
คุณหมอพูนศักดิ์ขอไม่ฟันธงด้วยว่า กรณีเฮฟเนอร์ หูหนวกเพราะกินไวอากร้า เหตุเพราะเขาอาจมีโรคประจำตัวอย่างอื่นมาก่อนหน้านี้
“ส่วนเรื่องของการหูหนวกจะเกิดจากการที่เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้น พอมีการขยายตัวของหลอดเลือดดำจึงไปกดเบียดเส้นประสาทหูจึงทำให้การรับรู้ของเสียงลดลง ในส่วนประเด็นของฮิวจ์ เฮฟเนอร์หมอคิดว่าอาจไม่เกี่ยวกัน เขาอาจเป็นโรคประจำตัวโรคอื่นด้วยหรือไม่ก็ยังไม่มีข้อมูลออกมา ดังนั้นจะไปด่วนสรุปตัดสินว่า เขากินไวอากร้าแล้วหูหนวกคงไม่ได้ ยังไม่มีอะไรยืนยัน
แต่กรณีนี้คนที่อายุน้อยหมอยังไม่ค่อยเจอ โดยมากเราเจอเรื่องปวดหัวมากกว่า เราต้องดูว่าเขาเป็นโรคเดิมอยู่หรือไม่ เพราะข้อมูลตรงนี้เขาก็ไม่ได้เปิดเผยว่ามีโรคเดิมอยู่หรือไม่ ปกติในคนสูงอายุขนาดนั้นมักไม่มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรอก แต่จะเป็นคนที่มีอายุน้อยลงมาประมาณ 40 กว่าๆ เพราะผู้ชายกลุ่มนี้ยังอยู่ในวัยแอคทีฟ (active) อยู่ เพียงแต่มีปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว เขาจะใช้เยอะกว่า”
มากไปกว่านั้น คุณหมอบอกว่า ปัจจุบันนี้ผู้ชายวัยประมาณ 20 ต้นๆ ก็มาขอใช้ยาไวอากร้าเพื่อให้เจ้าหนูซู่ซ่าโด่งไม่รู้ล้มแล้ว แถมคุณหมอยังย้ำด้วยว่า ไม่พบเรื่องของการที่กินไวอากร้าแล้วมีปัญหาที่หูเท่าไหร่ แต่ปวดหัวทำให้หมดอารมณ์คึกบนเตียงซะงั้น “จะมีเรื่องปวดหัวเสียมากกว่า และบางทีการปวดหัวทำให้หมดอารมณ์ไปซะ กินไวอากร้าไปสรุปก็ใช้อะไรไม่ได้”
คุณหมอพูนศักดิ์เล่าว่า ผู้ชายส่วนใหญ่ที่กินไวอากร้า มักอุบภรรยา หวั่นเสียเชิงชาย
“ผู้ชายจะกลัวเสียเชิง เขาจะแอบกินกัน ส่วนใหญ่ผู้ชายเขาจะมาปรึกษากันเอง แต่ถ้ามีอาการปวดหัวเขาก็วิ่งกลับมา ภรรยาจึงไม่ทราบ
ปัจจุบันนี้มีผู้ชายไทยจำนวนน้อยที่มาปรึกษาเรื่องอวัยวะเพศไม่เเข็งตัว เพราะผมคิดว่าตามร้านหรือตามคลินิกที่เขาแอบขายไวอากร้ากัน ตามอินเตอร์เน็ตด้วย จึงไปหาซื้อกันเองเยอะ ทำให้ผู้ชายที่มาปรึกษาเรื่องการไม่แข็งตัวหายไปมากต่างจากอดีต หรือช่วงใหม่ๆ ที่ไวอากร้าเข้ามา จะมีคนมาปรึกษาเยอะมาก”
คุณหมอแจง ไวอากร้าช่วยเพียงเรื่องความมั่นใจ ไม่ได้ชะลอการหลั่ง ไม่มีผลต่ออารมณ์ทางเพศ
“ไวอากร้ามีฤทธิ์ให้อวัยวะเพศแข็งตัวเพื่อใช้ปฏิบัติการณ์เท่านั้น เอาจริงๆ แล้วอารมณ์ทางเพศไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนะ อารมณ์ทางเพศต้องมีสิ่งกระตุ้น สิ่งเร้าเหมือนเดิม ฉะนั้นคนที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ความสุขทางเพศบางครั้งแข็งตัวเสร็จบางทีไม่หลั่งก็มี ในกลุ่มคนที่หลั่งไวใช้ไวอากร้าอาจจะช่วยได้เหมือนกับว่า พอหลั่งไปเสร็จแล้วยังเเข็งตัวอยู่ ยังช่วยให้นานพอที่ผู้หญิงมีความสุขได้ แต่ไม่ได้ไปชะลอการหลั่ง
แต่ในอีกกลุ่มที่มีปัญหาไม่เเข็งตัว และไม่หลั่ง เช่นคนอายุมาก นั่นไม่ได้แก้ในเรื่องอารมณ์ ความสนุกทางเพศก็ไม่ได้แก้ จะไปช่วยในเรื่องความมั่นใจ สามารถทำให้ผู้หญิงของเขามีความสุขได้เท่านั้นเอง ฉะนั้นคนวัยไหนจะใช้ต้องขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นมี Sex Life เป็นอย่างไร”
คุณหมอชี้ว่า ก่อนกินไวอากร้าควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคก่อน บางครั้งอาจเป็นเพราะสภาพจิตใจ
“โรคที่มีผลต่อหลอดเลือดที่เจอบ่อยคือ โรคเบาหวาน ถ้าเราแยกโรคทั้งหมดแล้วได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทางกายกับทางจิตใจ ทางกาย เช่น ความดันโลหิตสูง รักษาโรคที่เป็นสาเหตุได้เสร็จ โรคเกี่ยวกับเส้นประสาท แก้ไขได้เสร็จ ควรแก้ไขตรงนั้นก่อน
ส่วนเรื่องของจิตใจนั้น บางคนไม่ได้ไม่แข็งตัวทุกครั้ง แต่ไม่เเข็งตัวในบางจังหวะ เช่น กับภรรยาตัวเองไม่เเข็ง ฉะนั้นเป็นเรื่องของอย่างอื่น ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมบ้าง หรือภรรยาอาจไม่ได้ดูแลตัวเองรูปร่างไม่สวย ส่วนทางเลือกสุดท้ายจึงจะเป็นยา อย่างที่บอกว่า ยาไม่ได้แก้ที่ความสุขทางเพศ ไม่ได้ทำให้เขาบรรลุจุดสุดยอดหรือมีความสุขมากขึ้นกว่าปกติ แต่มันทำให้เขาสบายใจขึ้นที่ทำให้คู่รักเขามีความสุข หรือแข็งตัวนานพอที่ให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้”
ส่วนเรื่องยาปลอมที่ระบาดหนักตามอินเตอร์เน็ตนั้น คุณหมอเสริมว่า
“ยาปลอมคือ ยาปลอม เราไม่สามารถทราบได้ว่ามีสารแปลกปลอม ผสมมาอย่างบริสุทธิ์หรือไม่ ฉะนั้นภัยจะกว้างมาก ตั้งแต่แพ้ยา อาจจะมีสารก่อมะเร็งถ้าเขาเตรียมยามาไม่ดี ส่วนยาจริงถ้าใช้นานๆ จะมีผลในเรื่องของเส้นเลือดในระยะยาวหรือไม่เป็นเรื่องที่กำลังศึกษากันอยู่”
สุดท้ายคุณหมอให้แง่คิดแก่พวกผู้ชายก๊วนนกเขาไม่ขันว่า
“ดังนั้นการใช้ยาไวอากร้านั้น คนเดือดร้อนจะเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง พอเอาเข้าจริง ผมเคยถามคู่สมรสที่มาปรึกษาผมด้วยกัน เขาบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ค่อยถือหรอก ไม่มีความสุขก็ไม่เป็นไร ผู้หญิงไม่ออกัสซึม (orgasm) ก็ได้ เขาอยู่ด้วยความรัก มีแต่ผู้ชายที่จะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
จากกรณีสองสาวฝาแฝด(อดีต)ภรรยาวัยรุ่น แฉสามีเฒ่า ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ (Hugh Hefner) เจ้าพ่อนิตยสารเพลย์บอย (Playboy) ในวัย 85 ปี ว่าหูหนวก เนื่องจากใช้ไวอากร้า (Viagra) ถี่จัด พร้อมกับเผยคำพูดของเจ้าพ่อเพลย์บอยว่า "เขายอมเสียการได้ยินดีกว่าสูญเสียสมรรถภาพทางเพศ"
ว่าแต่..ยาไวอากร้าที่มีฤทธิ์ทำให้เจ้าหนูโด่ไม่รู้ล้มนั้นจะทำให้หูหนวก สูญเสียการได้ยิน จริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ งั้นเราไปขอคำตอบที่ชัดเจนที่สุดกับ นพ.พูนศักดิ์ สุชนวณิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น กันดีกว่าค่ะ
“ไวอากร้าจะไปขยายหลอดเลือดดำบริเวณส่วนปลาย เช่น อวัยวะเพศชาย เพื่อให้มีการขยายและไปเก็บกักมีเลือดคั่ง แน่นอนพอเลือดคั่งอวัยวะเพศก็จะแข็งตัว ใช้งานได้
บริเวณส่วนปลาย เช่น หู หรือเส้นสมองพวกนี้ก็จะมีการขยายหลอดเลือดเหมือนกัน ดังนั้นจะมีผลกับความดัน คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงพวกนี้บางทีห้ามใช้ เพราะไปเปลี่ยนแปลงความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด”
คุณหมอพูนศักดิ์ขอไม่ฟันธงด้วยว่า กรณีเฮฟเนอร์ หูหนวกเพราะกินไวอากร้า เหตุเพราะเขาอาจมีโรคประจำตัวอย่างอื่นมาก่อนหน้านี้
“ส่วนเรื่องของการหูหนวกจะเกิดจากการที่เลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้น พอมีการขยายตัวของหลอดเลือดดำจึงไปกดเบียดเส้นประสาทหูจึงทำให้การรับรู้ของเสียงลดลง ในส่วนประเด็นของฮิวจ์ เฮฟเนอร์หมอคิดว่าอาจไม่เกี่ยวกัน เขาอาจเป็นโรคประจำตัวโรคอื่นด้วยหรือไม่ก็ยังไม่มีข้อมูลออกมา ดังนั้นจะไปด่วนสรุปตัดสินว่า เขากินไวอากร้าแล้วหูหนวกคงไม่ได้ ยังไม่มีอะไรยืนยัน
แต่กรณีนี้คนที่อายุน้อยหมอยังไม่ค่อยเจอ โดยมากเราเจอเรื่องปวดหัวมากกว่า เราต้องดูว่าเขาเป็นโรคเดิมอยู่หรือไม่ เพราะข้อมูลตรงนี้เขาก็ไม่ได้เปิดเผยว่ามีโรคเดิมอยู่หรือไม่ ปกติในคนสูงอายุขนาดนั้นมักไม่มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรอก แต่จะเป็นคนที่มีอายุน้อยลงมาประมาณ 40 กว่าๆ เพราะผู้ชายกลุ่มนี้ยังอยู่ในวัยแอคทีฟ (active) อยู่ เพียงแต่มีปัญหาอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว เขาจะใช้เยอะกว่า”
มากไปกว่านั้น คุณหมอบอกว่า ปัจจุบันนี้ผู้ชายวัยประมาณ 20 ต้นๆ ก็มาขอใช้ยาไวอากร้าเพื่อให้เจ้าหนูซู่ซ่าโด่งไม่รู้ล้มแล้ว แถมคุณหมอยังย้ำด้วยว่า ไม่พบเรื่องของการที่กินไวอากร้าแล้วมีปัญหาที่หูเท่าไหร่ แต่ปวดหัวทำให้หมดอารมณ์คึกบนเตียงซะงั้น “จะมีเรื่องปวดหัวเสียมากกว่า และบางทีการปวดหัวทำให้หมดอารมณ์ไปซะ กินไวอากร้าไปสรุปก็ใช้อะไรไม่ได้”
คุณหมอพูนศักดิ์เล่าว่า ผู้ชายส่วนใหญ่ที่กินไวอากร้า มักอุบภรรยา หวั่นเสียเชิงชาย
“ผู้ชายจะกลัวเสียเชิง เขาจะแอบกินกัน ส่วนใหญ่ผู้ชายเขาจะมาปรึกษากันเอง แต่ถ้ามีอาการปวดหัวเขาก็วิ่งกลับมา ภรรยาจึงไม่ทราบ
ปัจจุบันนี้มีผู้ชายไทยจำนวนน้อยที่มาปรึกษาเรื่องอวัยวะเพศไม่เเข็งตัว เพราะผมคิดว่าตามร้านหรือตามคลินิกที่เขาแอบขายไวอากร้ากัน ตามอินเตอร์เน็ตด้วย จึงไปหาซื้อกันเองเยอะ ทำให้ผู้ชายที่มาปรึกษาเรื่องการไม่แข็งตัวหายไปมากต่างจากอดีต หรือช่วงใหม่ๆ ที่ไวอากร้าเข้ามา จะมีคนมาปรึกษาเยอะมาก”
คุณหมอแจง ไวอากร้าช่วยเพียงเรื่องความมั่นใจ ไม่ได้ชะลอการหลั่ง ไม่มีผลต่ออารมณ์ทางเพศ
“ไวอากร้ามีฤทธิ์ให้อวัยวะเพศแข็งตัวเพื่อใช้ปฏิบัติการณ์เท่านั้น เอาจริงๆ แล้วอารมณ์ทางเพศไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนะ อารมณ์ทางเพศต้องมีสิ่งกระตุ้น สิ่งเร้าเหมือนเดิม ฉะนั้นคนที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ความสุขทางเพศบางครั้งแข็งตัวเสร็จบางทีไม่หลั่งก็มี ในกลุ่มคนที่หลั่งไวใช้ไวอากร้าอาจจะช่วยได้เหมือนกับว่า พอหลั่งไปเสร็จแล้วยังเเข็งตัวอยู่ ยังช่วยให้นานพอที่ผู้หญิงมีความสุขได้ แต่ไม่ได้ไปชะลอการหลั่ง
แต่ในอีกกลุ่มที่มีปัญหาไม่เเข็งตัว และไม่หลั่ง เช่นคนอายุมาก นั่นไม่ได้แก้ในเรื่องอารมณ์ ความสนุกทางเพศก็ไม่ได้แก้ จะไปช่วยในเรื่องความมั่นใจ สามารถทำให้ผู้หญิงของเขามีความสุขได้เท่านั้นเอง ฉะนั้นคนวัยไหนจะใช้ต้องขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นมี Sex Life เป็นอย่างไร”
คุณหมอชี้ว่า ก่อนกินไวอากร้าควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกโรคก่อน บางครั้งอาจเป็นเพราะสภาพจิตใจ
“โรคที่มีผลต่อหลอดเลือดที่เจอบ่อยคือ โรคเบาหวาน ถ้าเราแยกโรคทั้งหมดแล้วได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทางกายกับทางจิตใจ ทางกาย เช่น ความดันโลหิตสูง รักษาโรคที่เป็นสาเหตุได้เสร็จ โรคเกี่ยวกับเส้นประสาท แก้ไขได้เสร็จ ควรแก้ไขตรงนั้นก่อน
ส่วนเรื่องของจิตใจนั้น บางคนไม่ได้ไม่แข็งตัวทุกครั้ง แต่ไม่เเข็งตัวในบางจังหวะ เช่น กับภรรยาตัวเองไม่เเข็ง ฉะนั้นเป็นเรื่องของอย่างอื่น ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมบ้าง หรือภรรยาอาจไม่ได้ดูแลตัวเองรูปร่างไม่สวย ส่วนทางเลือกสุดท้ายจึงจะเป็นยา อย่างที่บอกว่า ยาไม่ได้แก้ที่ความสุขทางเพศ ไม่ได้ทำให้เขาบรรลุจุดสุดยอดหรือมีความสุขมากขึ้นกว่าปกติ แต่มันทำให้เขาสบายใจขึ้นที่ทำให้คู่รักเขามีความสุข หรือแข็งตัวนานพอที่ให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้”
ส่วนเรื่องยาปลอมที่ระบาดหนักตามอินเตอร์เน็ตนั้น คุณหมอเสริมว่า
“ยาปลอมคือ ยาปลอม เราไม่สามารถทราบได้ว่ามีสารแปลกปลอม ผสมมาอย่างบริสุทธิ์หรือไม่ ฉะนั้นภัยจะกว้างมาก ตั้งแต่แพ้ยา อาจจะมีสารก่อมะเร็งถ้าเขาเตรียมยามาไม่ดี ส่วนยาจริงถ้าใช้นานๆ จะมีผลในเรื่องของเส้นเลือดในระยะยาวหรือไม่เป็นเรื่องที่กำลังศึกษากันอยู่”
สุดท้ายคุณหมอให้แง่คิดแก่พวกผู้ชายก๊วนนกเขาไม่ขันว่า
“ดังนั้นการใช้ยาไวอากร้านั้น คนเดือดร้อนจะเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง พอเอาเข้าจริง ผมเคยถามคู่สมรสที่มาปรึกษาผมด้วยกัน เขาบอกว่าผู้หญิงเขาไม่ค่อยถือหรอก ไม่มีความสุขก็ไม่เป็นไร ผู้หญิงไม่ออกัสซึม (orgasm) ก็ได้ เขาอยู่ด้วยความรัก มีแต่ผู้ชายที่จะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
