คอลัมน์ Sexociety โดย เริงฤทธิ์รัก
ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง(เย้)ในบ้านเรา เสียงเพลง กินตับๆๆๆๆ กลับมีชาวบ้านชาวช่องร้องกันอย่างโดนใจกันทุกวัย
แค่ร้องยังไม่พอ ต้องขยับส่ายเอว โยกสะโพกแอ่นหน้าแอ่นหลัง ให้เข้าจังหวะถึงใจโก๋กี๋ ที่มีความทะลึ่งตึงตังในอารมณ์ เพลงนี้มีความหมายอย่างไร เชื่อว่าคนฟังคงจะ get ไม่ยากเย็น และ มันได้กลายเป็นภาษาสแลงตามยุคสมัยไปเรียบร้อย
สาวแส้อาจจะวี้ดว้าย Oh My God หากถูกหนุ่มทะเล้นหยอกเอินด้วยคำว่า “อยากกินตับ” แต่หากเป็นชายแก่ คำนี้อาจจะแสยงหูสยองใจกับสาวน้อยไม่เดียงสา แต่คำนี้ใช่ว่าจะสงวนใช้กับชายได้ฝ่ายเดียว
ฝ่ายหญิงโดยเฉพาะสาวใหญ่ใจสนุก สามารถใช้เย้ายั่ว หนุ่มน้อยได้เช่นกันด้วยคำว่า “กินเด็ก งับเด็ก”
เรื่องกินตับงับเด็กนี้ ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นในยุคนี้ สมัยเจ้าสัวครองเมือง นอกจากมีหลายซ้อแล้ว ยังนิยมเสาะหาทุ่มเทเพื่อให้ได้มาซึ่งการเปิดซิงสาวรุ่นบริสุทธิ์
มันเป็นความภูมิใจของชายสูงวัยที่ได้สำแดงพลังทางเพศ แสดงอำนาจบารมี ที่ร่ำรวยสไตล์เจ้าสัวให้ปรากฏในสังคม
ขณะที่เถ้าแก่เนี้ยนั้นมีปรากฎการณ์กินเด็กน้อยกว่า ด้วยวัฒนธรรมคำครหา กดทับนินทาว่าร้ายหญิงมากกว่าชายสูงวัยที่นิยมกินตับเด็ก อย่างมากจะโดนค่อนขอดว่าเป็น “โคแก่กินหญ้าอ่อน" ขณะที่ “ไก่แก่แม่ปลาช่อน” กลับถูกขีดวงจำกัดด้วยค่านิยมชายเป็นใหญ่
อันที่จริงคนดังของโลกที่เป็นหญิง ซึ่งมีชื่อลือเลื่อง เรื่องรสนิยมงับเด็กนั้นมีมาหลายยุค ดังสุดๆ เห็น อย่าง จักรพรรดินีบูเช็กเทียน (หรือ จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน ตามสำเนียงกลาง), จักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย (Catherine the Great ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "มหาราชินี") ฯลฯ หญิงที่มีอำนาจเหล่านี้ล้วนมีเรื่องซุบซิบนินทารสนิยมเสวยเด็กหนุ่มทั้งสิ้น
ณ วันนี้เรื่องพรรค์นี้ในซีกโลกตะวันตก โดยเฉพาะในหมู่ไฮโซฮอลลีวูด นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว สาวใหญ่ดาวค้างฟ้าดารานักร้องต่างมีชื่อในการกินตับงับเด็ก เป็นภักษาหาร กันอย่างสง่า ออกหน้าออกตาตรึมไปทั่วสังคมมายาอเมริกัน
ในแวดวงบ้านเราก่อนกาลนานมา อาจจะมีหลบๆ ซ่อนๆ เรื่องนี้ แต่ชั่วโมงนี้ดาราหญิงและเหล่าเซแลบคนดัง ไฮโซไฮซ้อ เริ่มเปิดเผยไม่ปิดบังอีกต่อไป กระทั่งเป็นเทรนด์นิยมร่วมสมัยไปเสียแล้ว
ส่วนชายนั้นไม่ต้องพูดถึง เรื่องกินตับงับเด็กนี่มันของโปรดของตายอยู่แล้ว
บ้านเราตั้งแต่มาช่า อั้ม ดาราสาวใหญ่ เจ๊หลายเจ๊ ต่างกระฉ่อนชื่อลือชากันทั้งสิ้น มันไม่ใช่เรื่องชั่วดีถี่ห่างอะไร แต่นั่นมันแสดงให้เห็นถึงค่านิยม รสนิยมของยุคสมัยเปลี่ยนไป มันได้รับการยอมรับของสังคมให้เปิดกว้างมากกว่าเดิม ก้าวข้ามข้อห้ามคำตำหนิ อันคร่ำครึ ที่มีมานาน
เมื่อสังคมยุคใหม่ ยอมรับเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญทั่วทั้งโลก สังคมบ้านเราย่อมเปิดกว้างมากขึ้นตาม เรื่องเซ็กซ์ที่เคยปิดบังลับๆ ล่อๆ ซึ่งถูกแสดงออกอย่างเปิดเผย ช่างมันฉันไม่แคร์
ในความเป็นมนุษยที่เป็นจริง หากไม่เอาคำว่า “เพศ” มากีดขวางทางชีวิต แน่นอนว่านอกจากสุขภาพทั้งใจกาย ต้องได้รับการดูแลให้สมดุลกันแล้ว นอกจากอาหารการกิน หยูกยาสารพัด บำรุงกำลังร่างกาย มีให้เลือกใช้เลือกเสพ เทียบเคียงสมัยปู่ เจ้าสัว เถ้าแก่ ต้องเสาะหา ยาโป๊วมาบำรุงเพื่อความแข็งแรงแข็งขันในสมรรถนะของความเป็นชาย
ส่วนหญิงนั้นเล่า แม้นจะแตกต่างทางสรีระ ระบบภายในซับซ้อนกว่าชาย ทุกวันนี้ล้วนบำรุงได้ไม่แพ้กัน ชายกินตับได้ หญิงย่อมงับเด็กได้เช่นกัน
สวรรค์ไม่อาจปิดกั้น แบ่งคั่น ความสุขระหว่างเพศได้อีกต่อไป ชายทำได้ หญิงก็ทำได้ เท่าเทียมกัน หากชายยังเตะปิ๊ปดัง หญิงย่อมควบม้าได้เช่นกัน เพราะมันคือ ความสุขที่มนุษย์พึงมีได้ตามอัตภาพของตน
ในสังคมข่าวสารปัจจุบัน ข่าวฉาวคาวสวาทใช่จะเกิดขึ้นแค่ตามข่าวเท่านั้น ทุกวันนี้ค่านิยม กินตับงับเด็ก มันกลายเป็นเทรนด์ฮิตติดลมในสังคมหมู่ชนผู้ใฝ่หาความรัก ความสุขสม ความใคร่ ในสังคมเป็นจริง ที่ไม่สามารถดัดจริตปิดบังได้อีกต่อไป
ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมือง(เย้)ในบ้านเรา เสียงเพลง กินตับๆๆๆๆ กลับมีชาวบ้านชาวช่องร้องกันอย่างโดนใจกันทุกวัย
แค่ร้องยังไม่พอ ต้องขยับส่ายเอว โยกสะโพกแอ่นหน้าแอ่นหลัง ให้เข้าจังหวะถึงใจโก๋กี๋ ที่มีความทะลึ่งตึงตังในอารมณ์ เพลงนี้มีความหมายอย่างไร เชื่อว่าคนฟังคงจะ get ไม่ยากเย็น และ มันได้กลายเป็นภาษาสแลงตามยุคสมัยไปเรียบร้อย
สาวแส้อาจจะวี้ดว้าย Oh My God หากถูกหนุ่มทะเล้นหยอกเอินด้วยคำว่า “อยากกินตับ” แต่หากเป็นชายแก่ คำนี้อาจจะแสยงหูสยองใจกับสาวน้อยไม่เดียงสา แต่คำนี้ใช่ว่าจะสงวนใช้กับชายได้ฝ่ายเดียว
ฝ่ายหญิงโดยเฉพาะสาวใหญ่ใจสนุก สามารถใช้เย้ายั่ว หนุ่มน้อยได้เช่นกันด้วยคำว่า “กินเด็ก งับเด็ก”
เรื่องกินตับงับเด็กนี้ ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นในยุคนี้ สมัยเจ้าสัวครองเมือง นอกจากมีหลายซ้อแล้ว ยังนิยมเสาะหาทุ่มเทเพื่อให้ได้มาซึ่งการเปิดซิงสาวรุ่นบริสุทธิ์
มันเป็นความภูมิใจของชายสูงวัยที่ได้สำแดงพลังทางเพศ แสดงอำนาจบารมี ที่ร่ำรวยสไตล์เจ้าสัวให้ปรากฏในสังคม
ขณะที่เถ้าแก่เนี้ยนั้นมีปรากฎการณ์กินเด็กน้อยกว่า ด้วยวัฒนธรรมคำครหา กดทับนินทาว่าร้ายหญิงมากกว่าชายสูงวัยที่นิยมกินตับเด็ก อย่างมากจะโดนค่อนขอดว่าเป็น “โคแก่กินหญ้าอ่อน" ขณะที่ “ไก่แก่แม่ปลาช่อน” กลับถูกขีดวงจำกัดด้วยค่านิยมชายเป็นใหญ่
อันที่จริงคนดังของโลกที่เป็นหญิง ซึ่งมีชื่อลือเลื่อง เรื่องรสนิยมงับเด็กนั้นมีมาหลายยุค ดังสุดๆ เห็น อย่าง จักรพรรดินีบูเช็กเทียน (หรือ จักรพรรดินีอู่เจ๋อเทียน ตามสำเนียงกลาง), จักรพรรดินีนาถแคทเธอรีนที่ 2 แห่งรัสเซีย (Catherine the Great ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "มหาราชินี") ฯลฯ หญิงที่มีอำนาจเหล่านี้ล้วนมีเรื่องซุบซิบนินทารสนิยมเสวยเด็กหนุ่มทั้งสิ้น
ณ วันนี้เรื่องพรรค์นี้ในซีกโลกตะวันตก โดยเฉพาะในหมู่ไฮโซฮอลลีวูด นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว สาวใหญ่ดาวค้างฟ้าดารานักร้องต่างมีชื่อในการกินตับงับเด็ก เป็นภักษาหาร กันอย่างสง่า ออกหน้าออกตาตรึมไปทั่วสังคมมายาอเมริกัน
ในแวดวงบ้านเราก่อนกาลนานมา อาจจะมีหลบๆ ซ่อนๆ เรื่องนี้ แต่ชั่วโมงนี้ดาราหญิงและเหล่าเซแลบคนดัง ไฮโซไฮซ้อ เริ่มเปิดเผยไม่ปิดบังอีกต่อไป กระทั่งเป็นเทรนด์นิยมร่วมสมัยไปเสียแล้ว
ส่วนชายนั้นไม่ต้องพูดถึง เรื่องกินตับงับเด็กนี่มันของโปรดของตายอยู่แล้ว
บ้านเราตั้งแต่มาช่า อั้ม ดาราสาวใหญ่ เจ๊หลายเจ๊ ต่างกระฉ่อนชื่อลือชากันทั้งสิ้น มันไม่ใช่เรื่องชั่วดีถี่ห่างอะไร แต่นั่นมันแสดงให้เห็นถึงค่านิยม รสนิยมของยุคสมัยเปลี่ยนไป มันได้รับการยอมรับของสังคมให้เปิดกว้างมากกว่าเดิม ก้าวข้ามข้อห้ามคำตำหนิ อันคร่ำครึ ที่มีมานาน
เมื่อสังคมยุคใหม่ ยอมรับเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญทั่วทั้งโลก สังคมบ้านเราย่อมเปิดกว้างมากขึ้นตาม เรื่องเซ็กซ์ที่เคยปิดบังลับๆ ล่อๆ ซึ่งถูกแสดงออกอย่างเปิดเผย ช่างมันฉันไม่แคร์
ในความเป็นมนุษยที่เป็นจริง หากไม่เอาคำว่า “เพศ” มากีดขวางทางชีวิต แน่นอนว่านอกจากสุขภาพทั้งใจกาย ต้องได้รับการดูแลให้สมดุลกันแล้ว นอกจากอาหารการกิน หยูกยาสารพัด บำรุงกำลังร่างกาย มีให้เลือกใช้เลือกเสพ เทียบเคียงสมัยปู่ เจ้าสัว เถ้าแก่ ต้องเสาะหา ยาโป๊วมาบำรุงเพื่อความแข็งแรงแข็งขันในสมรรถนะของความเป็นชาย
ส่วนหญิงนั้นเล่า แม้นจะแตกต่างทางสรีระ ระบบภายในซับซ้อนกว่าชาย ทุกวันนี้ล้วนบำรุงได้ไม่แพ้กัน ชายกินตับได้ หญิงย่อมงับเด็กได้เช่นกัน
สวรรค์ไม่อาจปิดกั้น แบ่งคั่น ความสุขระหว่างเพศได้อีกต่อไป ชายทำได้ หญิงก็ทำได้ เท่าเทียมกัน หากชายยังเตะปิ๊ปดัง หญิงย่อมควบม้าได้เช่นกัน เพราะมันคือ ความสุขที่มนุษย์พึงมีได้ตามอัตภาพของตน
ในสังคมข่าวสารปัจจุบัน ข่าวฉาวคาวสวาทใช่จะเกิดขึ้นแค่ตามข่าวเท่านั้น ทุกวันนี้ค่านิยม กินตับงับเด็ก มันกลายเป็นเทรนด์ฮิตติดลมในสังคมหมู่ชนผู้ใฝ่หาความรัก ความสุขสม ความใคร่ ในสังคมเป็นจริง ที่ไม่สามารถดัดจริตปิดบังได้อีกต่อไป