ต้นปีเราได้สัมผัสพิธีเสกสมรสอันโรแมนติกเรียบหรูปหรูดุจเทพนิยาย ระหว่าง ดยุค และดัสเชสแห่งเคมบริดจ์ ไปแล้ว มาถึงช่วงกลางปีเราจะได้สัมผัสอีกหนึ่งรูปแบบของพิธีเสกสมรส ของราชวงศ์แห่งโมนาโก ที่จะเต็มไปด้วยความฟู่ฟ่า หรูหรา ตระการตากับงานเฉลิมฉลองสามวันสามคืน
แม้ตัวพิธีจะถูกกำหนดไว้เป็นวันเสาร์ที่ 2กรกฎาคม แต่การเฉลิมฉลองสุดพิเศษนั้น เริ่มต้นกันตั้งแต่วันพฤหัสที่ 30 มิถุนายน เป็นต้นไป ที่การเฉลิมฉลองพิธีเสกสมรสระหว่าง เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งโมนาโก กับเจ้าสาวนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิกชาวแอฟริกาใต้ ชาร์ลีน วิตสต็อก
หลังจากที่โดนพิษโรคเลื่อนมาหลายครั้งหลายครา ทั้งจากเหตุผลส่วนตัวของทั้งคู่เอง หรือแม้แต่จากเหตุปัจจัยภายนอกที่ไม่เอื้อต่อการจัดพิธี จนในที่สุด ก็ถึงวันแห่งความสุขที่สาวสวยสามัญชนอีกหนึ่งคน จะได้ก้าวขึ้นเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์กริมองดี นับตั้งแต่ดาราสาวผู้เลอโฉม เกรซ เคลลี พระชายาใน เจ้าชายอัลแบร์
รอยัล เว็ดดิ้ง ที่โมนาโกนั้น แตกต่างจากที่ลอนดอนอย่างสิ้นเชิง บรรยากาศการเฉลิมฉลองถูกปูพรมไปทั่วแคว้น โกซ เดอซู และที่สำคัญทุกอณูของพิธีสำคัญครั้งนี้ จะเต็มไปด้วยความฟู่ฟ่าหรูหรา แม้จะไม่มีการเปิดเผยถึงรายชื่อแขกระดับ เอ-ลิสต์ ผู้ได้รับเชิญมาร่วมพิธี แต่สื่ออย่าง เดลี่ เมลล์ คาดการณ์ว่า จะต้องมีชื่อของคนดังและมหาเศรษฐีหลายต่อหลายคน อาทิ คาร์ล ลาเกอร์ฟิลด์, จิออจิโอ อาร์มานี่, เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน หรือแม้กระทั่ง เดสมอน ทูทู สังฆราชติเตียนรักร่วมเพศคริสตจักร แห่งแอฟริกาใต้ ก็ได้รับเชิญมางานนี้เช่นกัน และแน่นอนเพื่อให้สมเกียรติ แขกวีไอพีระดับเอ-ลิสต์ทั้งหลายเหล่านี้ จะมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว พามาลงที่สนามบินในเมืองนีซก่อนเดินทางด้วยลีมูซีนเข้าร่วมพิธีอย่างอลังการ
แน่นอนว่า ดัชนีวัดความหรูชั้นดีอีกประการหนึ่งนั่นคือ ชุดสำหรับว่าที่เจ้าสาว ซึ่งคาดกันว่า ชาร์ลีน วิตสต็อก ต้องใช้ชุดราตรีจากห้องเสื้อสุดหรูอย่างน้อยถึง 4ชุด สำหรับพิธีเฉลิมฉลองทั้ง 3 วัน เริ่มต้นตั้งแต่วันแรกกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษ โดยวงร็อกระดับตำนานอย่าง “ดิ อีเกิลส์” ท่ามกลางค็อกเทลปาร์ตี้สำหรับแขกวีไอพีโดยเฉพาะ จากนั้นในวันศุกร์ ก็จะมีพิธีแสดงความยินดีที่ศาลากลางของโมโนโก ในช่วงกลางวัน ต่อด้วยคอนเสิร์ตจากวงดนตรีชื่อดังของฝรั่งเศสและ แอฟริกาใต้ในตอนค่ำ ส่วนในวันพิธีแต่งงานตามประเพณีแบบคาทอลิก โดย ชาร์ลีน จะสวมชุดแต่งงานสีขาวสุดหรู ที่ออกแบบโดย จิออจิโอ อาร์มานี่ ต่อเนื่องไปจนถึงงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำและปาร์ตี้ปิดท้าย
ความหรูหรายังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากตัวพิธี และชุดของ เจ้าชาย เจ้าหญิง สมาชิกราชวงศ์ และบรรดาแขกทั้งหลายแล้ว ชุดของเหล่าพนักงานเสิร์ฟเอง ก็ยังมีการตัดขึ้นสำหรับวาระพิเศษนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ อาหารทั้งหมดจะได้รับการควบคุมโดยเชฟชื่อดังอย่าง อแลง ดูคัสเซ ซึ่งแน่นอนว่า ตลอดการเฉลิมฉลองจะเสิร์ฟพร้อมแชมเปญชั้นดีชนิดไม่อั้นเลยทีเดียว
เรียกได้ว่า หากเปรียบเทียบความหรุหรากันแล้ว รอยัล เว็ดดิ้ง ของราชวงศ์กริมองดี คงจะทำให้ รอยัล เว็ดดิ้ง ของราชวงศ์วินด์เซอร์ ต้องชิดซ้ายไปเลยทีเดียว
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net