>>ใครที่เคยคิดว่า “กุลสตรี” จะต้องเป็นผู้หญิงเรียบร้อย นั่งร้อยมาลัย เย็บปักผ้าเช็ดหน้า ทำอาหารด้วยตนเอง อยู่แต่ในบ้าน-ในครัวไม่ออกไปไหน นั่นคงเพราะชินตากับภาพลักษณ์สมัยหลายสิบปีก่อน เพราะกุลสตรีสมัยนี้ อย่าง “นิดา-ดณีญา บุนนาค” เธอสนุกสนานกับการทำขนมในครัวที่บ้าน ไม่น้อยหน้าการออกตระเวณชิมอาหารอร่อยๆ ข้างนอก และชอบเรื่องการเย็บปักถักร้อย ประดิษฐ์ประดอยสิ่งของ ไม่น้อยไปกว่าการใช้เทคโนโลยีทันสมัยอย่างคอมพิวเตอร์ ช่วยถ่ายทอดความสนใจในเรื่องการทำอาหารและงานฝีมือไปสู่เพื่อนๆ ในโลกไซเบอร์
::ลูกสาวคนเล็กของครอบครัว “บุนนาค”
สาวสวยวัย 23 ปีคนนี้ เป็นทายาทของคุณลักษมันตร์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และคุณแม่ดัยนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเชื้อสายไทย-สวิส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย และบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต นิดาเป็นน้องสาวคนเดียวของ “นินา-ญารินดา บุนนาค” นักร้องและนักแสดงสาวร่างสูงที่พ่วงดีกรีอาจารย์ทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสองศรีพี่น้องนี้อายุต่างกันถึง 8 ปี และมีบุคลิกลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันแบบสุดขั้ว
“พี่นินาเขาจะลุยๆ ชอบเล่นกีฬา และใช้ชีวิตกลางแจ้ง แต่นิดาจะชอบอยู่บ้าน ชอบกิจกรรมแนวแม่บ้านแม่เรือน ประดิษฐ์ประดอย ทำขนม ถ้าให้นิดาออกแดด เจออากาศร้อนนานๆ จะหน้ามืดและเป็นลม (หัวเราะ) ที่บ้านนิดาแต่ละคนจะไม่เหมือนกันเลย ชอบกันคนละอย่าง มีกิจกรรมโปรดคนละสไตล์ คุณแม่จะเก่งด้านการเงิน คุณพ่อก็เจ้าโปรเจ็กต์ ทำโครงการนั่นนี่ เดินทางท่องเที่ยว เข้าป่า”
4 พ่อ แม่ ลูก ตระกูลบุนนาคนี้ ต่างชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียนรู้และสัมผัสกับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ในแต่ละท้องที่
“พ่อ กับ แม่ พานิดาเที่ยวตั้งแต่นิดายังจำความไม่ได้เลย ทั้งไปต่างจังหวัดบ้าง เที่ยวป่าประเทศเพื่อนบ้าน ไปจนถึงเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งแต่ครั้งที่ไป จะอยู่นาน เที่ยวให้ปรุเลยและไม่ชอบเที่ยวตามไกด์บุ๊ค หรือไปตามแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่จะต้องไปที่ชาวท้องถิ่นเขาไป ต้องไปกินร้านอาหารชาวบ้าน ใช้ชีวิตเหมือนชาวLocal แต่ละทริปนิดาจะเป็นคนแพลนล่วงหน้าว่าจะไปไหนบ้าง เพราะเราจะมีลิสต์ร้านอาหารที่อยากกิน และร้านพวกนี้ยิ่งถ้าเป็นร้านดังๆ อย่างมิชลิน สตาร์ มันต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนเลย เราก็เลยต้องมานั่งจัดตาราง ว่าวันไหน ไปไหน กินอะไร จะได้โทรจองถูก โดยคุณแม่จะจัดงบมาให้ว่าเท่านี้นะ ไปดูสิว่าจะพักที่ไหน ทำอะไรบ้าง ส่วนคุณพ่อกับพี่นินา เขาจะลุยๆ อะไรก็ได้ เขาก็แฮปปี้ที่มีคนจัดการธุระให้” ฟังดูเหมือนจะไม่อยากกับแค่การจัดตารางการกิน การเที่ยว แต่ภาระนี้ทำให้ดณีญา ต้องนอนดึกไปเป็นอาทิตย์ เพราะไหนจะรีเสิร์จข้อมูล ไหนจะต้องกะเวลาโทรจอง เพราะด้วย Time Zone ที่แตกต่างกัน บางที่กว่าจะถึงเวลาที่ร้านเปิด ก็ตรงกับตี 2 ตี 3 ของเมืองไทย
“คุณพ่อ คุณแม่ จะชอบเดินทางไปประเทศแปลกๆ อย่างจอร์แดน ภูฏาน ฯลฯ แต่นิดากับพี่มันไม่ค่อยว่างไปรวมทริปด้วย ส่วนใหญ่นิดาจะไปพวกยุโรปกับญี่ปุ่น เพราะมีญาติอยู่สวิส และตอนนี้พี่นินาก็ทำโครงการพานักศึกษาไปดูงานที่เยอรมันด้วย ส่วนญี่ปุ่นก็เป็นทางผ่านแวะก่อนบินกลับเมืองไทย ตั้งแต่สมัยเรียนที่อเมริกา นิดาตกหลุมรักประเทศนี้ต้องไปทุกปีเลย อาหารอร่อย และนิดาชอบที่เขาใส่ใจในรายละเอียด คิดทุกเม็ดและทำอะไรทำจริง ตั้งใจทำจนชำนาญ อย่างร้านนี่ขายหมูทอด ก็จะทอดจะเก่งเลย ขายอยู่เมนูเดียวสืบทอดเป็น 10 ปี เขาจะภูมิใจในงานของเขามาก ทุกอย่างตั้งใจอย่างดีที่สุด และมีตำนาน อย่างแค่เทมปุระ เขาก็จะมีสตอรี่นะ ว่ากุ้งจับมาจากทะเลนั่นนี่ จับมาเป็น 30 - 40 ปีแล้ว เกลือกจากที่นั่นที่นี่ มีที่มาที่ไปหมด” ส่วนถ้าเป็นเมืองไทย ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะเป็นเจ้าของรีสอร์ททางภาคเหนือ ทั้งที่เชียงใหม่ ปาย และน่าน แต่สาวน้อยคนนี้กลับชื่นชอบในสายลม ชายหาด และท้องทะแลแสนสวยของเมืองไทยมากกว่า
::ลูกสาวคนเล็กของครอบครัว “บุนนาค”
สาวสวยวัย 23 ปีคนนี้ เป็นทายาทของคุณลักษมันตร์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และคุณแม่ดัยนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเชื้อสายไทย-สวิส กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย และบริษัทไทยสมุทรประกันชีวิต นิดาเป็นน้องสาวคนเดียวของ “นินา-ญารินดา บุนนาค” นักร้องและนักแสดงสาวร่างสูงที่พ่วงดีกรีอาจารย์ทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งสองศรีพี่น้องนี้อายุต่างกันถึง 8 ปี และมีบุคลิกลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันแบบสุดขั้ว
“พี่นินาเขาจะลุยๆ ชอบเล่นกีฬา และใช้ชีวิตกลางแจ้ง แต่นิดาจะชอบอยู่บ้าน ชอบกิจกรรมแนวแม่บ้านแม่เรือน ประดิษฐ์ประดอย ทำขนม ถ้าให้นิดาออกแดด เจออากาศร้อนนานๆ จะหน้ามืดและเป็นลม (หัวเราะ) ที่บ้านนิดาแต่ละคนจะไม่เหมือนกันเลย ชอบกันคนละอย่าง มีกิจกรรมโปรดคนละสไตล์ คุณแม่จะเก่งด้านการเงิน คุณพ่อก็เจ้าโปรเจ็กต์ ทำโครงการนั่นนี่ เดินทางท่องเที่ยว เข้าป่า”
4 พ่อ แม่ ลูก ตระกูลบุนนาคนี้ ต่างชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียนรู้และสัมผัสกับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ในแต่ละท้องที่
“พ่อ กับ แม่ พานิดาเที่ยวตั้งแต่นิดายังจำความไม่ได้เลย ทั้งไปต่างจังหวัดบ้าง เที่ยวป่าประเทศเพื่อนบ้าน ไปจนถึงเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งแต่ครั้งที่ไป จะอยู่นาน เที่ยวให้ปรุเลยและไม่ชอบเที่ยวตามไกด์บุ๊ค หรือไปตามแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่จะต้องไปที่ชาวท้องถิ่นเขาไป ต้องไปกินร้านอาหารชาวบ้าน ใช้ชีวิตเหมือนชาวLocal
แต่ละทริปนิดาจะเป็นคนแพลนล่วงหน้าว่าจะไปไหนบ้าง เพราะเราจะมีลิสต์ร้านอาหารที่อยากกิน และร้านพวกนี้ยิ่งถ้าเป็นร้านดังๆ อย่างมิชลิน สตาร์ มันต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนเลย เราก็เลยต้องมานั่งจัดตาราง ว่าวันไหน ไปไหน กินอะไร จะได้โทรจองถูก โดยคุณแม่จะจัดงบมาให้ว่าเท่านี้นะ ไปดูสิว่าจะพักที่ไหน ทำอะไรบ้าง ส่วนคุณพ่อกับพี่นินา เขาจะลุยๆ อะไรก็ได้ เขาก็แฮปปี้ที่มีคนจัดการธุระให้”
ฟังดูเหมือนจะไม่อยากกับแค่การจัดตารางการกิน การเที่ยว แต่ภาระนี้ทำให้ดณีญา ต้องนอนดึกไปเป็นอาทิตย์ เพราะไหนจะรีเสิร์จข้อมูล ไหนจะต้องกะเวลาโทรจอง เพราะด้วย Time Zone ที่แตกต่างกัน บางที่กว่าจะถึงเวลาที่ร้านเปิด ก็ตรงกับตี 2 ตี 3 ของเมืองไทย
“คุณพ่อ คุณแม่ จะชอบเดินทางไปประเทศแปลกๆ อย่างจอร์แดน ภูฏาน ฯลฯ แต่นิดากับพี่มันไม่ค่อยว่างไปรวมทริปด้วย ส่วนใหญ่นิดาจะไปพวกยุโรปกับญี่ปุ่น เพราะมีญาติอยู่สวิส และตอนนี้พี่นินาก็ทำโครงการพานักศึกษาไปดูงานที่เยอรมันด้วย ส่วนญี่ปุ่นก็เป็นทางผ่านแวะก่อนบินกลับเมืองไทย ตั้งแต่สมัยเรียนที่อเมริกา นิดาตกหลุมรักประเทศนี้ต้องไปทุกปีเลย อาหารอร่อย และนิดาชอบที่เขาใส่ใจในรายละเอียด คิดทุกเม็ดและทำอะไรทำจริง ตั้งใจทำจนชำนาญ อย่างร้านนี่ขายหมูทอด ก็จะทอดจะเก่งเลย ขายอยู่เมนูเดียวสืบทอดเป็น 10 ปี เขาจะภูมิใจในงานของเขามาก ทุกอย่างตั้งใจอย่างดีที่สุด และมีตำนาน อย่างแค่เทมปุระ เขาก็จะมีสตอรี่นะ ว่ากุ้งจับมาจากทะเลนั่นนี่ จับมาเป็น 30 - 40 ปีแล้ว เกลือกจากที่นั่นที่นี่ มีที่มาที่ไปหมด”
ส่วนถ้าเป็นเมืองไทย ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะเป็นเจ้าของรีสอร์ททางภาคเหนือ ทั้งที่เชียงใหม่ ปาย และน่าน แต่สาวน้อยคนนี้กลับชื่นชอบในสายลม ชายหาด และท้องทะแลแสนสวยของเมืองไทยมากกว่า
::อดีตนักศึกษาการโรงแรม
สิ่งที่ทำให้เธอกับ พี่สาว แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว นั่นอาจเป็นเพราะบ้านนี้ให้อิสระกับทุกคนเลือกทางชีวิตของตัวเอง ใครอยากทำอะไรเรียนอะไร ทุกคนจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกกฎหมายเท่านั้นพอ ซึ่งตัวดณีญาเอง ก็ได้ลองทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรียนขี่ม้า ร้องเพลง ดนตรี ศิลปะ ฯลฯ
“คุณพ่อ คุณแม่ เปิดโอกาสให้เราได้ทำทุกอย่าง ตอนเด็กๆ อยากเรียนไร เขาจะพาไปลองหมดเลย แล้วเราก็ชอบไปซะทุกอย่าง พอมาถึงการเรียน ก็รักทุกวิชาเลย ทำให้เป็นเป็นปัญหาตอนเลือกเข้ามหาวิทยาลัย เพราะอาร์ตก็ชอบ คณิตศาสตร์ก็ชอบ วิทยาศาสตร์ก็ชอบ ตอนเรียนไฮสกูลที่อังกฤษก็คะแนนสอบสำหรับเข้ามหาวิทยาลัยไว้เกรดสูงๆ ทุกวิชา ทำให้จะเลือกเรียนอะไรก็ได้ ยิ่งปวดหัวใหญ่ เพราะตัวเลือกเยอะมาก นั่นก็อยากรู้ นี่อยากเรียน”
ท้ายที่สุดเธอตัดสินใจเข้าเรียนธุรกิจการโรงแรม ที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล (Cornell University) สถาบันระดับไอวี่ลีกของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากว่าตอบโจทย์ความอยากรู้ อยากเรียนของเธอได้อย่างครบครัน
“ตอนแรกนิดากะเลือกเรียนทางด้านอาร์ตต่อที่อังกฤษ แต่พอมาดูหลักสูตรของที่นี่แล้ว มันน่าสนใจมาก เพราะเราจะได้เรียนแถบทุกสาขาเลย สากกะเบือยันเรือรบก็ว่าได้ ทั้งด้านบริการ การเงิน กฎหมาย การตลาด ไอที ไปจนถึงการทำอาหาร
สำหรับคนไทยอาจจะคุ้นเคยกับวิชาการโรงแรม ที่เน้นพวกเซอร์วิส ฝึกปูเตียง แต่สำหรับของที่นี่ถึงจะได้ชื่อว่าการโรงแรม แต่มันเน้นธุรกิจมากกว่า เป็นBusiness School ที่เน้นธุรกิจบริการ Hospitality ทั้งหมด โดยที่คอร์แนลจะเรียกว่า LeaderShip Schoolสอนให้เราจบมาแล้วสามารถบริหารคนได้ ไปปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ ซึ่งคนส่วนใหญ่แล้วจบมาก็จะไปต่อด้านไฟแนนซ์”ซึ่งการเลือกเรียนที่สถาบันนี้ของเธอ นอกไปจากหลักสูตรที่น่าสนใจแล้ว เธอยังมองไปถึงปัจจัยนอกคลาสเรียน
“ถ้าพูดถึงชื่อเสียงคอร์แนลก็ไม่เป็นสองรองใคร และที่สำคัญคือที่นี่คอนเนกชั่นดีมาก เพื่อนๆ ช่วยเหลือกัน รุ่นพี่รุ่นน้องเหนียวแน่น บรรดาศิษย์เก่าที่ตอนนี้เป็น CEO เป็นผู้บริหารของบริษัทต่างๆ ก็จะกลับมาบรรยายให้ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ และมา Recruit รุ่นน้องไปทำงาน เรียกได้ว่านอกจากความรู้แล้ว ที่นี่ยังเปิดประตูแห่งโอกาสให้เราได้ด้วย
ตอนที่นิดาเรียนจบพร้อมได้รับเกีรยตินิยม ทั้งอาจารย์และรุ่นพี่ อยากให้เราอยู่ต่อ ช่วยหางานที่โน่นให้ด้วย แต่นิดาอยากกลับบ้านแล้ว เพราะเรียนอยู่ต่างประเทศ 10 ปีแล้ว ประจวบกับพี่นินาตัดสินใจจะไปเรียนต่อ ก็เลยแปะมือกันพอดี นิดากลับมารับช่วงต่ออยู่เป็นเพื่อนคุณพ่อคุณแม่”
::หลงใหลในงานบ้านงานเรือน
หลังจากได้ลองเรียนรู้หลายแขนงวิชา ทำให้เธอพบว่า “การเข้าครัว” กิจกรรมที่เธอชื่นชอบตั้งแต่วัยเด็ก คือสิ่งที่เหมาะกับเธอที่สุด
“เรียนแล้วรู้เลยว่า ธุรกิจโรงแรมต้องไม่ใช่ทางสำหรับเราแน่ เพราะแม้ว่านิดาจะชอบเอนเตอร์เทนคน แต่เราชอบอยู่แต่กับคนที่เรารู้จัก บริการเพื่อนๆ รอบตัว แต่นิดาไม่พร้อมที่จะบริการทุกคน เราไม่ได้อินกับงานบริการขนาดนั้น มันต้องเป็นคนที่ Born to be นะ มีใจรักบริการมากๆ ถึงจะทำอาชีพนี้ให้ดีได้
ซึ่งพอสังเกตุตัวเอง วิชาที่ได้ทำอาหาร ทำขนม จะเป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้สุด พอกลับมาเมืองไทยก็เลยไปลงเรียนต่อด้านการทำขนม ของกอร์ดอง เบลอ ที่ดุสิตธานี เรียนมาได้ 3 คอร์สแล้ว ตอนนี้อยู่คอร์ส Superior Pastry ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของการทำขนม ได้เรียนรู้วิธีการทำขนมแบบมืออาชีพ ซึ่งแต่เมนูยากมาก อย่างการปั้นน้ำตาล การทำช็อกโกแลต ซึ่งเป็นเทคนิคขั้นสูง มิฉะนั้นช็อกโกแลตจะไม่ขึ้นเงา และไม่เซ็ตตัว ละลายง่าย”
แม้สาวคนนี้จะชอบทำขนมหวาน แต่ขนมสไตล์เธอก็ไม่ได้มีรสชาติหวานจ๋อย “นิดาไม่ชอบหวาน อย่างทำคาราเมลก็จะใส่เกลือไปหน่อย ตัดรสหวาน หรือถ้าเป็นช็อกโกแลต จะเน้นเป็นดาร์ก ช็อกโกแลต รสออกเข้มๆ มากกว่า อันนี้คือ ทำแบบทานเอง แต่ถ้าเกิดทำให้เพื่อนๆ หรือทำเป็นของขวัญก็จะทำหวานได้ ตามใจผู้รับค่ะ”
สไตล์ขนมที่เธอทำ สะท้อนถึงตัวเธอได้เป็นอย่างดี ที่แม้จะดูเป็นกุลสตรี ด้วยสไตล์หวาน ชอบใส่กระโปรง ชอบเข้าครัวและชอบงานฝีมือ แต่ที่จริงแล้วดณีญาบอกว่า ตัวเธอก็ไม่ได้เรียบร้อยอะไรนัก แถมติดจะเปิ่นๆ โก๊ะๆ และซุ่มซ่ามด้วยซ้ำ
“นิดาก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปแหละ แค่เพียงแต่ชอบอะไรที่แตกต่างจากสาวๆ ในยุคนี้นิดหน่อย ชอบเข้าครัว ชอบทำงานฝีมือ ประดิฐประดอย เย็บปักถักร้อย ซึ่งนิดาว่ามันสนุกดี ทำไปเพลินๆ ไม่ใช่ถึงกับว่าจะเป็น แม่บ้านแม่เรือนแบบปัดกวาดเช็ดถู ต้องเรียบร้อยตลอดเวลา
ซึ่งถ้าจะให้ทำงานบ้านอะไรก็ทำได้ทุกอย่างนะ เพราะตอนอยู่ต่างประเทศก็ต้องทำเองหมด แต่ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ทำแล้ว มีคนรับใช้ทำให้ และเวลาเราตั้งท่าจะทำปั๊ป จะโดนห้ามตลอด เพราะเป็นคนซุ่มซ่าม ชอบทำนู่นนี่ หล่น ร่วง แตกอยู่ตลอด(หัวเราะ) ยกเว้นตอนทำเข้าครัวเท่านั้นนะ ที่ไม่มีร่วง”
::สาวนักชิมชอบจดบันทึก
การเข้าครัวของสาวนิดา เน้นการทำขนมเป็นหลัก ส่วนเรื่องทำอาหารเธอมีฝีมืออยู่พอตัว แต่เธอไม่ได้เข้าคลาสเรียนอย่างจริงจัง เนื่องจากติดข้อแม้ส่วนตัวบางประการ
“นิดาเป็นคนรักสัตว์มาก สัตว์ทุกชนิดเลย ดังนั้นเวลาไปเห็นวัตถุดิบแบบสด แล้วเราต้องฆ่าเพื่อมาปรุงอาหารจึงทำไม่ได้ ตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว เวลาไปร้านอาหารทะเล แล้วเห็นปลา กุ้ง ปู ตัวเป็นๆ ให้เลือก จะไม่ทานเลย รับไม่ได้ เลยกลายเป็นคนไม่ค่อยกินสัตว์น้ำไปโดยปริยาย
ซึ่งถ้าจะเป็นเชฟทำอาหารจริงจัง บางเมนูมันจ้องใช้เนื้อสัตว์สดๆ มาปรุง เราต้องลงมือทำให้เขาตาย นิดาทำไม่ได้แน่ๆ ต้องเป็นแบบตายมาแล้วเรียบร้อยถึงจะทำได้ ดังนั้นจะไปเรียนทางนี้จึงลำบาก ทั้งๆ ที่นิดาแอบมองถึงอาชีพ ฟู้ด สไตลิสต์ เอาไว้ เพราะมันเป็นสายงานที่น่าสนใจและยังไม่ค่อยมีคนไทยทำ ก็อยากจะศึกษาต่อทางนี้ แต่ถ้าเรียนรู้การทำอาหารด้วย ก็คงต้องเป็นปัญหาแน่ๆ ตอนนี้ก็เลยได้แต่คิดอยู่”
ถึงจะมีปัญหาเรื่องการทำ แต่เรื่องการรับประทานนั้นเธอชื่นชอบมาก กิจกรรมโปรดคือการตระเวณชิมอาหารอร่อยๆ
“กลุ่มเพื่อนของนิดา จะชอบชวนกันหาร้านอาหารอร่อยๆ ทาน หรืออย่างเวลาเดินทางท่องเที่ยว ก็จะไปเสาะหาอาหารของแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านมีชื่อเสียงโด่งดัง หรือว่าร้านนิยมของคนท้องถิ่น จะไปแวะชิมหมด เวลาไปแต่ละที่นิดาจะชอบถ่ายรูปบรรยากาศร้านและอาหารแต่ละจานเก็บไว้...
คุณแม่ก็เลยแนะนำว่า ถ่ายมาแล้วก็ทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว จัดบันทึกรายละเอียดไว้ด้วย ว่าที่ไหน บรรยากาศอย่างไร มีเมนูอะไรบ้าง จะได้ไม่ลืม และเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคตได้ นิดาก็เลยเริ่มบันทึกแต่จดแบบออนไลน์ เขียนลงบล็อกของตัวเอง แล้วก็เริ่มมีคนเข้ามาอ่าน เราก็ยิ่งสนุก ยิ่งอยากเขียน จะได้แบ่งปันประสบการณ์ให้คนอื่นๆ ด้วย”
::แบ่งปันความภาคภูมิใจ
เริ่มต้นจากการทำเป็นกิจกรรมยามว่าง เมื่อได้รับกระแสตอบรับที่ดี ทำให้เธอลงมือทำ Blog อย่างจริงจัง และหวังว่าสิ่งนี้จะให้จุดสานฝันไปยังโปรเจ็กต์ในอนาคตของเธอ
“บล็อกของนิดาชื่อ www.mysousvidelife.wordpress.com จะเป็นเน้นเรื่องไลฟสไตล์ ทั้งพาไปชิม พาไปเที่ยว แนะนำการวิธีจัดงานเลี้ยง โดยนิดา จะมีลิสต์จดอยู่ในโทรศัพท์เลยว่า มีร้านไหนที่อยากไปสำรวจบ้าง แล้วก็มีแนะนำพวกสูตรขนมของนิดาเองด้วย จะเขียนเป็น 2 ภาษา ทั้งไทยและอังกฤษ ก็มีคนเข้ามาอ่านเยอะนะค่ะ แล้วก็มีฟีดแบ็กกลับมาดี ตอนนี้ก็เริ่มไปมาทำเพจ ในเฟซบุคด้วย ( www.facebook.com/mysousvidelife ) แล้วก็อัพวิดีโอสอนทำขนมลง Youtube
แต่ตอนนี้นิดายังไม่สามารถทำได้เต็มที่ เพราะต้องให้เวลากับการเรียนที่กอร์ดอน เบลอ แต่เหลืออีกแต่เดือนกว่าๆ ก็จะจบแล้ว หลังจากนั้นจะเดินหน้าลุยเต็มตัว เพราะนิดามองไปถึงว่าอนาคต อยากทำธุรกิจที่เกี่ยวเรื่องราวไลฟ์สไตล์เหล่านี้ เผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจ
เพราะคุณรุ่นนิดาจะชอบมองว่า เรื่องการเข้าครัว การทำงานฝีมือเหล่านี้ เป็นเรื่องโบราณ ไลฟ์สไตล์เชยๆ และเป็นสิ่งไกล ทั้งๆ ที่จริงเรื่องราวเหล่านี้ มันมีประโยชน์มากนะ ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาดูพวกรายการทำอาหาร ก็แค่ดู แต่ไม่ได้นำไปลงมือทำ อาจจะเป็นเพราะยาก หรือ ไม่น่าสนใจ นิดาเลยอยากทำรายการแนะนำเรื่องพวกนี้ สไตล์แบบมาร์ธา สจวต แต่ทำอย่างทันสมัยแฟชั่นเนเบิล เหมาะกับคนรุ่นใหม่ และนำไปทำตามได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำอาหาร งานฝีมือ หรือการประดิษฐ์ประดอย งานเย็บปักถักร้อย”
::Hand-Made Girl.
ทั้งรักในศิลปะ และชื่นชมในงานฝีมือ เธอจึงชอบประดิษฐ์สิ่งของด้วยฝีมือของตนเอง อย่างการเย็บตุ๊กตา ทำการ์ด ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นวันเกิดรอบข้าง นอกจากถ้าจะตั้งใจอบเค้กวันเกิดให้แล้ว การ์ดวันเกิดก็จะเป็นงานฝีมือที่เธอตั้งใจทำขึ้นเอง
“ครอบครัวจะปลูกฝังเรื่องการเขียนมาตั้งแต่เด็ก เวลาเรียนอยู่ต่างประเทศ แม้จะติดต่อกันผ่านทางคอมพิวเตอร์ได้ แต่เราก็ยังส่งจดหมายหรือโปสการ์ดหากันอยู่ตลอด จะเขียนกันแบบเหมือนจดหมายในสมัยก่อนเลย มีลงชื่อ ลงวันที่ สถานที่เขียน เรียบร้อยเลย ซึ่งนิดาจะเก็บไว้ทุกใบทุกฉบับ มันมีความหมาย จับต้องได้ สามารถเก็บเป็นที่ระลึกความทรงจำ
บางที่ก็เป็นโปสการ์ดที่วาดเองเลย เพราะบ้านนิดาชอบศิลปะกันทุกคน เราก็จะวาดรูปให้กัน โดยจะซื้อกระดาษที่ทำไว้สำหรับวาดรูปสีน้ำขนาดโปสการ์ด มาโชว์ฝีมือทำไปรษณียบัตรไว้ส่งเอง ไปเที่ยวไหนก็ส่งให้กันตลอด ขนาดไปทริปเดียวกันยังส่งกลับมาให้อีกฝ่ายเลย รวมไปถึงตามวันสำคัญ เทศกาลต่างๆ ก็จะมีทำการ์ด เขียนการ์ดให้เสมอ”
โดยผลงานของสาวนิดา ก็ไม่ผลการวาดรูป อันเป็นกิจกรรมโปรดมาแต่เด็ก ซึ่งเธอจะเป็นพวกไฮเปอร์ ไม่อยู่นิ่ง จุกจิก เขียนนู่นนี่ อยู่ตลอด จะมีก็แต่การวาดภาพ ที่ทำให้เธอหยุดนิ่ง มาใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเฟรมผลงานตรงหน้าได้ ซึ่งการไม่อยู่นิ่ง เคยสร้างวีรกรรมให้เธอมาแล้ว
“ตอนอยู่ในห้องเรียน ขณะฟังเลคเชอร์ นิดาก็อยู่ไม่สุข เขียนนู่น วาดนี่ไปเรื่อย ตามหนังสือนี่จะมีรูปพร้อยเลย และมีครั้งหนึ่ง เราฟังครูสอนไป ก็วาดรูปล้อคุณครูไปด้วย แล้วดันไปวาดในกระดาษที่เป็นการบ้าน และก็เผลอส่งไปให้คุณครูตรวจ โชคดีที่ไม่โดนว่าอะไรนะ แถมยังตรวจให้คะแนนรูปที่เราวาดกลับมาด้วย จนปัจจุบันนี้กระดาษแผ่นนั้น นิดายังเก็บไว้ดูขำๆ เล่นเลย”
“ถึงแม้ว่าการลงมือทำอะไรเอง มันอาจจะดูยุ่งยาก หลากหลายขั้นตอน แต่เมื่อทำเสร็จ มันจะกลายเป็นความภูมิใจที่ได้ทำอะไรสำเร็จเป็นผลงานของเราเอง นิดาก็เลยอยากถ่ายทอดความภาคภูมิใจให้คนรุ่นเดียวกันได้สัมผัสด้วย”
ดณีญาได้มองหนทางธุรกิจไว้ ทั้งในเรื่องรายการทีวี ที่ธุรกิจเคเบิลทีวีกำลังขยายตัว รวมไปถึงเรื่องของเว็บไซต์ ที่เธอก็ยังคงสนใจ เพราะสามารถอัปเดตได้ตลอดเวลา และพร้อมรับฟีดแบ็กจากผู้ชม ผู้อ่านได้อย่างรวดเร็ว แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ เธอตั้งไว้ว่าเป็นเป้าหมายระยะไกล ที่จะค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเป็นบล็อกเกอร์ แบ่งปันประสบการณ์แห่งความอร่อยและความสุนทรีย์ของการใช้ชีวิต ที่สนุกสนานกับการสร้างสรรค์งานฝีมือ :: Text by FLASH mag.
Credit
นางแบบ :: ดณีญา บุนนาค
เสื้อผ้า :: Miss Sixty มีจำหน่ายที่ โซน C ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด โทรศัพท์ 0-2613-1037
แต่งหน้า :: ชิษณุพงศ์ พันพิพัฒน์ จากเครื่องสำอาง ลอร่า เมอร์ซิเออร์ (Laura Mercier ) โทรศัพท์ 0-2229-7225
สไตลิสต์ :: ไซม่อน พี
ช่างภาพ :: กมลภัทร พงศ์สุวรรณ
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net