xs
xsm
sm
md
lg

Chill Out กลางเมือง! “ชา”หอมกรุ่นบรรยากาศสวย vs “กาแฟ”กลมกล่อมชื่อดังระดับโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาวเรากับร้านชาร้านกาแฟ ที่ตกแต่งสวยๆ บรรยากาศดีๆ ถือเป็นของคู่กั๊นคู่กัน เพราะการได้นั่งชิลล์ๆ จิบเครื่องดื่มรสเลิศ ในร้านสไตล์เก๋ไก๋ มันคือ อีกความสุข ..หาง่ายใกล้ตัว

เราจึงขอนำเสนอ 2 ร้านเครื่องดื่มอร่อยกลางเมือง ที่น่าชวนกันไปนั่งชิลล์ๆ แห่งแรกเป็นร้านชา บรรยากาศโรแมนติก ที่นำเข้าใบชาคุณภาพยอด กลิ่นเยี่ยม จากประเทศเยอรมนี มาเสิร์ฟให้คุณได้จิบชุ่มคอ อีกแห่งเป็นร้านกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก ที่มาเปิดสาขาแรก และสาขาเดียวในเมืองไทย นอกจากกาแฟจะกลมกล่อมเป็นเลิศแล้ว การตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ยังทำให้มองแล้วเพลิน อยากนั่งยาวๆ ให้สบายอารมณ์

Peony House
รวมสุดยอดชาหอมกรุ่น ในบรรยากาศดอกไม้

ร้านพีโอนี่เฮ้าส์ หรือที่แปลเป็นไทยว่า “บ้านดอกโบตั๋น” แห่งนี้ ถูกเนรมิตให้งดงาม ราวกับนำสวนดอกไม้ มาปลูกไว้ใจกลางเมือง เพื่อให้คุณได้หลีกหนีความวุ่นวาย มานั่งสบายๆ ผ่อนคลายอารมณ์ไปกับชา หลากรสหลายกลิ่น

“ที่บ้านชอบดื่มชาค่ะ ประกอบกับเรามีที่ดินตรงศาลาแดงนี้อยู่ จึงคิดว่าอยากเปิดร้านอะไรขึ้นมาสักอย่าง เมื่อช่วยกันคิดกับคนในครอบครัว ก็ได้ข้อสรุปว่า ไหนๆ ทุกวันนี้ร้านกาแฟก็มีค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว เราเปลี่ยนมาเป็นเปิดร้านชาดีมั้ย ลองทำร้านชาสบายๆ ให้วัยรุ่น หรือไม่ว่าคนวัยไหนก็เข้ามาลองได้ โดยไม่ไกลเกินไป เพราะบางครั้งการที่เราไป tea room บางแห่ง อย่างในโรงแรมหรู กว่าจะเข้าถึงได้ก็ค่อนข้างยาก เราจึงอยากทำร้านสบายๆ หากใครอยากดื่มชา ก็เข้ามาลองได้ ให้เขาสบายใจที่ได้มานั่ง เราจึงตัดสินใจทำร้านชานี้ขึ้นมา” พิชญา วงศ์กิตติโชติ เจ้าของร้านให้ข้อมูลความเป็นมาของร้าน พร้อมอธิบายต่อว่า

“คำว่า 'พีโอนี่' แปลว่า ดอกโบตั๋น คำว่าดอกโบตั๋นมาจากว่าบ้านนี้เป็นบ้านเก่าคุณยาย และคุณยายเป็นศิลปินภาพจีน ชอบวาดภาพจีน และท่านจะวาดภาพดอกโบตั๋นได้ค่อนข้างสวย ภาพดอกโบตั๋นหลายๆ ชิ้นในร้านก็คือ ภาพของคุณยายด้วย เราเลยตัดสินใจว่าตั้งชื่อว่า 'พีโอนี่' แล้วกัน เราจะได้นึกถึงคุณยาย ว่าท่านให้ที่ดินเรามาทำร้านนี้นะ และโดยส่วนตัวก็คิดว่า คำว่า 'พีโอนี่' มันก็น่ารักดีด้วย”

ที่มา..ความหอมกรุ่น เจ้าของร้านสาวบอกว่า ทางร้านจะเน้นขายชาเบลนด์ (Blend) หรือการนำใบชาไปแต่งให้มีกลิ่นที่หลากหลาย รวมถึงมีชาสมุนไพร-ชาผลไม้ ที่ไร้คาเฟอีน ให้คุณเลือกจิบเลือกชิมกว่า 60 ชนิด

“ชาของที่นี่ ส่วนใหญ่เรานำเข้าจากประเทศเยอรมนี ซึ่งสาเหตุที่เลือกชาจากบริษัทในเยอรมนี แทนที่จะเป็นชาจากอังกฤษ หรือฝรั่งเศส เป็นเพราะบริษัทที่เราเลือกซื้อชานี้ เขามีเทคโนโลยีการเบลนด์ที่ดี ทำให้ได้กลิ่นชาที่หอมมาก และหอมนาน แม้จะชงน้ำ2 - น้ำ3 กลิ่นหอมก็ยังคงอยู่”

สำหรับนักดื่มชาหน้าใหม่ ที่อยากมาลิ้มลองชา แต่หวั่นใจ ไม่รู้ว่าจะดื่มชารสชาติไหน ชาแต่ละกลิ่นเป็นอย่างไร ให้คลายกังวลได้ เพราะร้านนี้เขามีสำรับชากลิ่นต่างๆ ไว้ให้คุณได้ทดลองดอมดม หากถูกใจกลิ่นไหนก็ค่อยสั่งมานั่งจิบ และหากไม่มั่นใจชาชนิดไหนควรทานร้อน กลิ่นใดควรทานเย็น พนักงานที่ได้รับการอบรมจนเชี่ยวชาญ ก็แนะนำคุณได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องค่ะ

บรรยากาศ แม้ว่าย่านศาลาแดงจะเต็มไปด้วยตึกสำนักงานมากมาย ผู้คนจอแจ ทว่าเมื่อได้ย่างก้าวเข้ามาถึงภายในร้าน กลับทำให้ความรู้สึกผ่อนคลายลงได้ ด้วยเพราะภายในกว้างขวาง เน้นใช้สีขาวดูสะอาดตา ภายในตกแต่งไว้อย่างสวยงามตามสไตล์ Modern Chinese ประดับประดาด้วยภาพวาดดอกโบตั๋น และดอกไม้สดสีสันสวยงามทั่วทั้งร้าน

ดูจากหน้าร้านอาจเหมือนไม่ใหญ่นัก แต่ภายในกลับมีพื้นที่ลึกเข้าไป จนรองรับบรรดานักดื่มชาได้กว่า 40 ที่นั่ง โดยแบ่งได้เป็น 3 โซนใหญ่ๆ คือ ด้านหน้า เป็นเคาน์เตอร์บาร์สั่งอาหาร ที่มีทั้งขนมเค้ก ขนมหวาน วางโชว์ความงามเรียงรายอยู่ในตู้ รวมถึงมุมที่นั่งเก๋ๆ ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสบายตา

ถัดเข้าไป เป็นสวนกลางแจ้งขนาดย่อม ตกแต่งด้วยต้นไม้หลากชนิดดูร่มรื่น เหมาะนักที่จะนั่งยามบ่าย รับแสงแดดเบาๆ และด้านในสุดจัดให้เป็นแกลลอรี่ (gallery) แสดงภาพเขียนพู่กันจีน ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป พร้อมมุมสวยๆ หลากหลายให้เลือกจับจองพื้นที่เสพงานศิลป์ พร้อมชิมของอร่อย ที่สำคัญ ทางร้านไม่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบเหงา จัดหาเพลงคลอเบาๆ มาบรรเลงให้เพลิดเพลิน หรือท่านไหนจะอ่านนิตยสาร ท่องโลกอินเทอร์เน็ต (Internet) เขาก็เอาใจ มีนิตยสาร และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายไว้คอยบริการฟรีอีกด้วย

เมนูอร่อยเพลิน นอกจากชาหอมๆ หลายสิบกลิ่นที่มีให้เลือกแล้ว ทางร้านยังมีเบเกอรี่ (bakery) และขนมเค้กโฮมเมด (homemade) ไว้ให้เลือกนับ 10 ชนิด แถมด้วยอาหารกลางวันแสนอร่อย และกาแฟรสดีที่จัดมาตามคำเรียกร้องของลูกค้า โอกาสนี้ทางร้านมีชา และขนมโฮมเมด ที่ขายดีสุดๆ มาแนะนำดังนี้จ้า

ชาร้อน Peony (80 บาท) ถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน ด้วยเพราะมีส่วนผสมของกลีบดอกโบตั๋น นำมาเบลนด์รวมกับชาเขียว ชาอู่หลงไต้หวัน และราสเบอร์รี่ (Raspberry) ทำให้ได้ชากลิ่นหอมรสชาติหวานอ่อนๆ ปนเปรี้ยวเล็กน้อย ทานแล้วชุ่มคอนัก การได้จิบชาดอกโบตั๋นหอมหวล พรางมองภาพวาดดอกโบตั๋นแสนสวยไปด้วย เชื่อว่าหลายคนคงจะพบความผ่อนคลาย ได้ไม่ยากเลยหล่ะ
(ซ้าย) ชาร้อน  peony / (ขวา) ชาเย็น เลมอน วนิลา
ชาเย็นเลมอน วนิลา (70 บาท) ชาเย็นขายดีแก้วนี้ เป็นชาแดงที่ทำจากต้นรอยบอส (Rooibos) พืชสมุนไพรแถบแอฟริกาใต้ นำมาผสมกับเปลือกเลมอน (Lemon) และวนิลา (Vanilla) ดื่มแล้วหวานพอดี แต่เย็นชื่นใจเกินพิกัด แถมไม่มีคาเฟอีนด้วย ดีต่อสุขภาพครบสูตรจริงเชียว

วาฟเฟิลกล้วยหอม (150 บาท) ทำสดใหม่หอมกรุ่น กลิ่นนม และเนยโชยมาแต่ไกล ถูกวางทับด้วยกล้วยหอมชิ้นพอคำราดหน้าด้วยช็อคโกแลต (Chocolate) ชั้นดี แถมท้ายด้วยวิปปิ้งครีมฟูนุ่มที่เสิร์ฟมาด้านข้าง ตัดชิมกี่คำก็ไม่มีเบื่อ ขนมหน้าตางาม รสละมุนเคี้ยวเพลินชิ้นนี้ จะทานคู่กับชาร้อน หรือชาเย็นก็อร่อยเหาะ มิน่าล่ะ ถึงได้เป็นขนมขายดีอีกชิ้นประจำร้าน
(ซ้าย) วาฟเฟิล กล้วยหอม / (ขวา) เค้กช็อคโกแลตคลาสสิค
เค้ก ช็อคโกแลตคลาสสิค (95 บาท) ชิ้นนี้ทางร้านคอนเฟิร์มมาว่า ใช้ดาร์คช็อคโกแลต (Dark Chocolate) แท้เข้มข้นเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้ได้รสชาติหอมหวานกำลังดี เนื้อเค้กนุ่มเนียนฉ่ำรสช็อคโกแลต เคี้ยวหนึบนิดๆ พอกล้อมแกล้ม เมื่อทานคู่กับครีมสดที่ให้มาก็ได้รสผสมผสาน ที่กลมกล่อมลงตัว ชิ้นนี้แค่ได้จิบคู่กับชาร้อนสักถ้วย ก็ชิลล์เพลินเกินบรรยาย

ช่วงเลาชิลล์ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 7.00-20.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 9.00-17.00 น. 

ที่ตั้ง 32/3 ซอยศาลาแดง1 (เยื้องอาคารทิสโก้) ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ

โทร. 02-235-5369

Dean & Deluca
นั่งจิบกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก ในร้านเก๋ไก๋สไตล์โมเดิร์น

ที่มา..ความกลมกล่อม คาเฟ่สไตล์อเมริกันแห่งนี้ ถือได้ว่าอยู่ตรงกลางระหว่างร้านอาหาร และ ฟาสต์ฟู้ด (fast food) นั่นคือ มีเครื่องดื่ม อาหารรสเลิศ ทั้งกาแฟ สลัด พาสต้า แซนด์วิช และขนมต่างๆ ให้เลือกสรรเหมือนร้านอาหารทั่วไป แต่คุณก็ต้องยืนเลือกซื้อที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ และบริการตัวเองเหมือนดั่งร้านฟาสต์ฟู้ด

สำหรับ ดีน แอนด์ เดลูก้า ที่ตั้งอยู่ริมสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี แห่งนี้ ถือเป็นสาขาแรก และสาขาเดียวในประเทศไทย เปิดให้บริการความอร่อยมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2553 และเตรียมขยายเป็นกูร์เมต์ มาร์เก็ต (gourmet market) ขนาดใหญ่ ในปลายปี 2555 โดยจะนำสินค้าแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า (แบรนด์ดังระดับโลก สัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งโดยโจน ดีล, จิออร์จิโอ เดลูก้า และแจ๊ค เซ็กลิค เมื่อปี 1977) ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงสินค้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากทุกแหล่งผลิตชั้นเยี่ยมทั่วทุกมุมโลก ซึ่งมีขายเฉพาะที่ร้านดีน แอนด์ เดลูก้า เท่านั้น เข้ามาจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบ

“ร้านนี้เราเอาคอนเซ็ปต์มาจากอเมริกา ซึ่งจริงๆ แล้ว ดีน แอนด์ เดลูก้า ไม่ได้เป็นคาเฟ่ แต่เป็น กูร์เมต์มาร์เก็ต ที่ขายสินค้าหลากหลาย แต่เรามองว่า อยากเปิดคาเฟ่ก่อน เพื่อให้ลูกค้าได้ทำความรู้จัก ว่าสินค้าของเราคืออะไร เหมือนเป็นการพรีวิวิ (preview) กูร์เมต์ มาร์เก็ต ซึ่งจะเปิดเต็มรูปแบบในปลายปีหน้า” ผู้จัดการร้าน ดีน แอนด์ เดลูก้า อธิบายถึงที่มาของร้าน

บรรยากาศ ภายในร้านดูโล่งโปร่งสบาย ด้วยเพดานสูง รอบด้านเป็นกระจกใส เน้นตกแต่งด้วยสีขาว สีเงิน และสีดำ คอนเซปต์เดียวกับร้านต้นแบบที่ย่านโซโห ของเมืองแมนฮัตตัน ในกรุงนิวยอร์ก และนำมาประยุกต์อีกนิด ให้ตรงกับสไตล์ของคนไทย ด้วยการตกแต่งหน้าร้านให้ดูร่มรื่น น่าเข้ามานั่งพักผ่อนหย่อนใจให้สบายอารมณ์

ภายในกว้างขวางมีหลากมุมให้เลือกนั่งตามใจชอบ พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี “เราอยากให้ลูกค้าเข้ามาแล้วรู้สึกอบอุ่น เพราะเราเป็นคาเฟ่ ที่เราชอบให้ลูกค้าอยู่ อยากให้นั่งชิลล์ๆ เรามี Wi-Fi ให้ฟรีด้วย กาแฟก็อร่อย คือ อยู่ทำงานได้ อยู่เป็นชั่วโมงก็ได้ เราไม่ว่า อยากให้รู้สึกสบาย และเหมือนเป็นบ้านที่สอง ที่คุณจะมานั่งได้ยาวๆ” ผู้จัดการร้านแห่งนี้ยืนยันกับเรา

เมนูอร่อยเพลิน มีทั้งของคาว ของหวาน รวมถึงเครื่องดื่มรสเยี่ยมให้คุณได้เลือกหลายหลาก และในการนี้ ทางร้านได้แนะนำเมนูหน้าตาสวย รสชาติดี มายั่วน้ำลายเราดังนี้ค่ะ

กาแฟมอคค่าร้อน (95-125 บาท) จุดเด่นของกาแฟร้านนี้คือ การนำกาแฟคุณภาพเยี่ยม ของแบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า มาเบลนด์ด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน โดยผู้จัดการร้านระบุว่า กว่าจะมาเป็นกาแฟรสเลิศที่ได้ลิ้มรสกันอยู่นี้ ต้องลองเบลนด์กันกว่า 16 ครั้ง จึงจะได้กาแฟ..แก้วที่มีรสชาติ และกลิ่นเพอร์เฟค (perfect) ที่สุด อย่างที่ขายอยู่ คอกาแฟตัวยง หรือนักดื่มใหม่ใจรักกาแฟทั้งหลาย คงต้องมาลองให้รู้ชัดแล้วหล่ะ ว่ารสชาติกาแฟพันธุ์ดีของแบรนด์ดังระดับโลกจะหอมกรุ่นละเลียดลิ้นเพียงใด
(ซ้าย) กาแฟมอคค่า ร้อน / (ขวา) Mango Sticky Rice Milkshake
Mango Sticky Rice Milkshake (140 บาท) สมูทตี้ (Smoothie) ลูกผสมแก้วนี้เกิดจากแนวคิดที่ว่า ทางร้านอยากทำเครื่องดื่มที่หวานเย็นชื่นใจ แถมผสานความเป็นไทยอยู่ในตัว บาริสต้า (Barista) ประจำร้านจึงได้รังสรรค์สมูทตี้สีสวย ที่ทำมาจากมะม่วงสุก และข้าวเหนียวรสกล่อมกล่อมแก้วนี้ขึ้น เมื่อดูดดื่ม รสสัมผัสที่ได้ไม่เพียงแต่จะหวานหอม เย็นชื่นใจ หากแต่ยังได้เคี้ยวกรึบกรับ แบบเพลินๆ กับชิ้นข้าวเหนียวที่สอดแทรกอยู่ในทุกอณู

Cheesecaice Cupcake (ชิ้นละ 95 บาท) ลิ้มรสเครื่องดื่มหอมละมุนแล้ว ต้องมาต่อกันขนมอร่อยๆ ทานคู่กันซะหน่อย ทางร้านจึงเอาใจด้วยเมนูของหวานขายดี อย่าง Cheesecaice Cupcake ซึ่งแท้จริงคือ ชีสเค้กนั่นเอง แต่ได้ทำการตกแต่งให้รูปร่างออกมาคล้ายคัพเค้ก เพื่อให้ดูน่ารักน่าหม่ำไปอีกแบบ

คัพเค้กนี้มีให้เลือก 4 รส ทั้ง Dean and Deluca chocolate ที่รสเข้ม เต็มเนื้อช็อคโกแลต กัดชิมแล้วนุ่มลิ้น, Columbian coffee หอมละมุนกลิ่นกาแฟแท้ , Coconut อร่อยหวานมันได้รสมะพร้าว, และ Saffron orange สีเหลืองสด หวานนิด เปรี้ยวหน่อย ทานแล้วหอมหวานชื่นใจ และแม้จะมีถึง 4 รสชาติที่ต่างกัน แต่ความเหมือนของ Cheesecaice cupcake ทุกชิ้น คือ ผลิตจากชีสคุณภาพเยี่ยม รส และกลิ่นที่ได้ จึงหอมละมุนกลมกล่อมเป็นที่สุด
(ซ้าย) Cheesecaice Cupcake / (ขวา) Wellness salad
Wellness salad (220 บาท) ปิดท้ายกันด้วยอาหารที่เมื่อมาเยือนร้านนี้แล้ว ไม่อยากให้พลาด เพราะแค่ชื่อก็บอกแล้ว ว่าเป็นสลัดที่ดีต่อสุขภาพ จานนี้จึงไม่ใช่แค่สีสันสวยงาม หน้าตาน่าทาน แต่ยังเปี่ยมประโยชน์ด้วยสารอาหารครบ 5 หมู่ ทั้งผักผลไม้สดกรอบ อันได้จาก กีวี แตงกวา แครอท มะเขือเทศ และอโวคาโด, ทูน่าชิ้นเป้ง ห่อหุ้มมาด้วยงาดำหอมๆ, ชีสคุณภาพดีกลิ่นนุ่ม รสชาติเข้มข้น, ไข่ต้ม และถั่วสารพัดชนิด ก่อนจะปิดท้ายด้วยน้ำสลัดรสเยี่ยม มาเติมเต็มรสชาติให้กลมกล่อมขึ้นเป็นทวีคูณ จานนี้จึงอร่อย แถมได้ประโยชน์แบบเต็มๆ ที่สำคัญ ทางร้านเขาชั่งเมนูนี้มาเป๊ะแล้ว ว่าแต่ละจานจะให้พลังงานทั้งหมด 350 กิโลแคลอรี่ ทานแล้วไม่มีอ้วน โอ้ว! ใส่ใจรายละเอียดกันขนาดนี้ จะไม่ให้ขายดี ติดอัดดับต้นๆ เป็นเมนูที่ลูกค้าโปรดปรานได้ไงเนี้ย

ช่วงเวลาชิลล์ ทุกวัน 07.00-20.00 น.

ที่ตั้ง โครงการมหานคร พาวิลเลียน ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ (ติด BTS ช่องนนทรี)

โทร. 02-234-1434

เรื่องโดย Lady Manager
ภาพโดย ณัฐพันธ์ ครุธทิน
 


>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น