ใครว่าอยากเรียนออกแบบต้องบินไปถึงต่างประเทศ เพราะแฟชั่นโชว์อวดผลงานนักศึกษาประจำปี 2554 จากนิทรรศการแสดงศิลปนิพนธ์ประจำปี 2554 ที่สถาบันออกแบบแฟชั่นและดีไซน์นานาชาติชื่อดังจากประเทศอิตาลี อาคาเดเมียร์ อิตาเลียนา ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Not in the sky, Not under ground ครั้งนี้ เป็นสิ่งการันตีว่า เรียนที่เมืองไทยก็เจ๋งไม่ต่างกัน
แคตวอล์ก ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ครั้งนี้ อบอวลไปด้วยสีสันแฟชั่นจากอิตาลี เมื่อเหล่ายังก์ดีไซเนอร์ซึ่งกำลังศึกษาและจบหลักสูตรในปีนี้ ต่างงัดไอเดียสร้างสรรค์มาอวดโฉม ด้วยแรงบันดาลใจด้านดีไซน์ สไตล์อิตาเลียน ซึ่งโชว์ครั้งนี้ก็มีเซเลบริตี้คนดังที่จบการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ด้วย
เริ่มจาก แจน-พัทธมน เตชะณรงค์ ทายาทโบนันซ่าเขาใหญ่ นำแฟชั่นดีไซน์ออกมาอวดโฉมถึง 9 ชุด โดยมีเพื่อนเซเลบริตี้มาร่วมเดินแบบมากมาย “คอลเลกชันนี้เป็นคอลเลกชันที่ 2 ต่อจาก Believe in no faith ที่ได้รับอิทธิพลจากยูนิฟอร์มของทหารเยอรมันเมื่อปีที่แล้ว คอลเลกชันนี้แจนพัฒนาจากคอนเซ็ปต์ Not in the sky, not under ground เป็นโจทย์ที่ทางโรงเรียนให้มา คือคอนเซ็ปต์เสื้อผ้าต้องเข้าถึงได้ง่ายและจับต้องได้ แจนจึงผสมผสานสไตล์เสื้อผ้าแบบวินเทจของผู้หญิงที่ยังคงเป็นที่นิยม กระโปรงบานยุค 50’s - 80’s เข้ากับฟอร์มเสื้อเชิร์ตของผู้ชายที่มีลูกเล่นอยู่ที่ปกเสื้อ ส่วนสีที่นำมาใช้ก็เป็นแนวสีเรียบหรือเอิร์ทโทน ขาว ดำ น้ำเงิน เทา และน้ำตาล”
หลังจากจบจากสถาบันแห่งนี้สาวแจนก็เตรียมไปหาประสบการณ์จากแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำสักปีหรือสองปี เพื่อสั่งสมประสบการณ์ไว้เพื่อเตรียมที่จะดีไซน์แบรนด์ของตัวเองในอนาคต
ด้านสาวผิง-พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์ ที่หายเงียบจากวงการไปนาน กลับมาพร้อมกับเซอร์ไพรส์ ปริญญาตรีด้านงานออกแบบ “ผิงเรียนดีไซน์ที่ London College of Fashion ที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 3 ปี แล้วจึงขอทรานซเฟอร์หน่วยกิจมาศึกษาต่อที่นี่ในปีสุดท้าย ในหลักสูตรปริญญาตรีค่ะ”
คอลเลกชันนี้ของผิงได้แรงบันดาลใจจากโจทย์ที่สถาบันฯ ตั้งไว้ คือ นำเสนอความเป็นอิตาลี จึงได้แรงบันดาลใจจากความอ่อนช้อยของรูปปั้นแกะสลักในประเทศอิตาลีมาออกแบบเป็นชุดพลิ้วไหว ภายใต้สีครีม สีเบจ ซึ่งเป็นสีของรูปปั้นส่วนใหญ่
“การเรียนที่ประเทศอังกฤษ หลักสูตรและการเรียนไม่แตกต่างจากเรียนในเมืองไทย เพราะการเรียนออกแบบ เราต้องใช้ไอเดียของเราเป็นหลัก ต้องใช้ความรักในงานออกแบบของเราเอง นอกจากการเรียนเย็บปักเท่านั้นที่อาจารย์จะสอน ผิงจึงคิดว่าเรียนที่ไหนก็ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรียนกับสถาบันจากประเทศต้นแบบดีไซน์อย่างสถาบันแห่งนี้ แต่ความแตกต่างจะอยู่ที่การใช้ชีวิต ซึ่งอยู่บ้านเรา เราได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งมีความสุขกว่าต้องไปอยู่คนเดียวที่ต่างบ้านต่างเมือง” ผิงเผยถือประสบการณ์การเรียนดีไซน์
ส่วนเป้าหมายในการเป็นนักออกแบบของสาวผิง คือการได้เปิดแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ซึ่งเน้นสไตล์คลาสสิกและไม่ตามแฟชั่น โดยเตรียมวางแผนเปิดแบรนด์ของตัวเองในเร็วๆ นี้
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net