xs
xsm
sm
md
lg

“เกศาโภชนา” หม่ำอะไรผมสวย ไม่หลุดร่วง หงอกขาวก่อนวัย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

By Lady Manager

ผมดกดำ สลวยสวยเก๋ ดูยังไง มันก็น่าคลอเคลียชิดใกล้ แต่หลายคนเชียวค่ะ ที่อยากจะรักษาผมให้ดูดี แต่เกศาเจ้ากรรมไม่ร่วมมือ ทั้งเปราะบาง หลุดร่วง หรือบางคนเพิ่งเลยวัยรุ่นมาหมาดๆ ผมก็กลายเป็นสีขาวหลายหย่อมไปแล้ว!

ด้วยความปรารถนาดี อยากให้คุณๆ มีสุขภาพผมดี๊..ดี โปรเจกต์ YOU ARE WHAT YOU EAT สัปดาห์นี้ จึงขอนำเสนอเรื่องราวของ “เกศาโภชนา” มาดูกันว่า อะไรคืออาหารชั้นยอด ที่ช่วยเสริมสร้างผมคุณให้แข็งแรง เงางาม ไม่หงอกขาวก่อนวัยได้บ้าง

กับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งการชะลอวัย นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ที่ใจดีมาบอกเล่าเก้าสิบ ให้ความรู้เรื่องอาหารการกินอีกเช่นเคย

“อาหารที่กินแล้วช่วยให้ผมสุขภาพดี ไม่หลุดร่วง หรือหงอกก่อนวัย เราอาจแบ่งเป็น 2 เรื่องคือ ถ้าอยากให้ผมดี อย่างแรก..ต้องมาดูที่อาหารผม หรือเกศาโภชนา กับอีกส่วนเป็นเรื่องของการพักผม ซึ่งสองส่วนนี้ต้องทำควบคู่กันไป”

คุณหมอกฤษดา เกริ่นนำให้ทราบ ก่อนเริ่มอธิบายถึง แร่ธาตุหลัก 3 ชนิด ที่เป็นเสมือนอาหารอันโอชะของ ‘ผม’ อันได้แก่ ไบโอติน (Biotin), สังกะสี (Zinc), และซีลีเนียม (Selenium)

ไข่แดง(สุก)-จมูกข้าว แหล่งรวม “ไบโอติน” สารอาหารบำรุงผม

สารอาหารแรกที่คุณหมอกล่าวถึงคือ ไบโอติน ซึ่งพบได้มากในไข่แดงสุก และจมูกข้าวสาลี

“ไบโอติน คือ ธาตุบำรุงผมที่อยู่ในไข่แดง เรียกอีกอย่างว่า วิตามินบี7 (Vitamin B7) และหลักการกินไข่แดงให้ได้ประโยชน์ และไม่ต้องกังวลเรื่องคอเลสเตอรอล (Cholesterol) คือ ให้กินวันละ 1 ฟองครับ และต้องเน้นด้วยว่า ต้องเป็นไข่สุกเท่านั้น หากกินไข่ลวก อาจจะไม่ได้ช่วยบำรุงผม เพราะในไข่ขาวดิบ จะมีธาตุตัวหนี่งที่มันจะคอยดึงไบโอตินออกไป ฉะนั้นถ้าเรากินไข่ลวก ก็อาจไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพผม

และไบโอตินนี้ นอกจากจะมีในไข่แดงของสัตว์แล้ว ยังมีในไข่แดงของพืชด้วย ซึ่งไข่แดงพืชก็คือ จมูกข้าวนั่นเอง จมูกข้าวสาลี หรือที่เรียกว่า วีทเจิม (Wheat Germ) พวกนี้จะมีไบโอตินเยอะ เพราะส่วนนี้จะเป็นเหมือนสารอาหารที่พืชเก็บไว้ให้กับลูกของมัน ถ้าบางคนไม่รู้จัก ให้นึกถึงเมล็ดข้าวที่แหว่งไปนิดหน่อย ส่วนที่แหว่งหายไปคือ จมูกข้าว ที่มีไบโอตินอยู่เยอะเลย”

หอยนางรม-อาหารทะเล กินแล้วผมสวย ..ไม่ต้องห่วงคอลเลสเตอรอล!

แร่ธาตุลำดับต่อมา ที่ผอ.สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติเฉลยว่า เป็นอาหารผมเปี่ยมประโยชน์อีกชนิด คือ สังกะสี หรือ ซิงค์ ที่พบมากในอาหารทะเล โดยเฉพาะในหอยนางรม อ้อ! คุณหมอย้ำมาด้วยว่า อาหารทะเล แม้จะมีคอเลสเตอรอลสูง แต่ก็มีโอเมก้า3 (Omega3) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีอยู่ด้วย ดังนั้นเราจึงทานอาหารทะเลได้อย่างไม่ต้องกังวล

“แร่ธาตุสังกะสี หรือซิงค์ จะมีมากในหอยนางรม แต่หลายคนมักกลัวเรื่องคอเลสเตอรอล ซึ่งจริงๆ แล้ว คอเลสเตอรอลในอาหารทะเลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ เพราะในอาหารทะเลจะมีโอเมก้า3 อยู่ด้วย ซึ่งโอเมก้า3 จะคอยดักคอเลสเตอรอลพวกนี้อยู่แล้ว

พูดง่ายๆ คือ แม้จะมีคอเลสเตอรอลในอาหารทะเลจะเยอะจริง แต่ว่ามันก็มีไขมันที่เป็นพระเอก นั่นคือ โอเมก้า3 ที่ธรรมชาติได้สร้างมาดักไขมันเลวเอาไว้แล้ว แม้แต่ปลาหมึก ที่เชื่อว่าคนมีไขมันสูงไม่ควรกิน จริงๆ แล้วก็กินได้ เพราะมันมีโอเมก้า3 เหมือนกัน ถ้าเปรียบแล้ว โอเมก้า3 จะเหมือนกับเทศบาล คอเลสเตอรอลเหมือนขยะ ดังนั้นถ้าเรามีเทศบาลดี มันก็จะดักขยะได้ดี กำจัดขยะได้หมด

คุณหมอให้ตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ไม่ชอบทานหอยนางรม ให้หาเมล็ดฟักทอง, เมล็ดทานตะวันมาแทะเล็ม ก็ได้แร่ธาตุสังกะสีเช่นกัน

“ธาตุสังกะสี ที่มีในหอยนางรม จะเยอะพอๆ กับสังกะสีแบบเม็ด (อาหารเสริมชนิดเม็ด) ดังนั้นถ้าเรากินหอยนางรม 1 ถ้วยตวง จะได้สังกะสีพอๆ กับกิน สังกะสีที่เป็นวิตามินเสริม 1 เม็ดเลย แต่ถ้าใครไม่อยากกิน แหล่งอื่นที่มีสังกะสี ก็เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน กินสักวันละ 1 กำมือ ก็จะได้สังกะสีช่วยบำรุงผมเช่นกัน”
“เห็ด” สุดยอดอาหาร ต้าน “ผมหงอก”

สารอาหารตัวสุดท้าย ที่คุณหมอย้ำว่ามีประโยชน์ม้ากมาก ก็คือ ซีลีเนียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบมากใน ‘เห็ด’

“มีซีลีเนียมมากในเห็ด เป็นเห็ดอะไรก็ได้ เพราะเห็ดส่วนใหญ่จะมีซีลีเนียมหมดเลย เมนูง่ายๆ เช่น ต้มยำเห็ด ต้มเห็ด 5 อย่าง ที่เราเห็นขายกันทั่วไป พวกนี้หล่ะถือเป็นซุปบำรุงผมได้เลย"

ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรวัฒน์ ถึงกับยกย่องให้ ‘เห็ด’ เป็นพระเอกสำหรับผมเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีซีลีเนียมช่วบบำรุงผมแล้ว เห็ดยังมีแพนโทเธนิค (Pantothenic) ธาตุสำคัญอีกตัวที่ช่วยรักษาเม็ดสีภายในผม ป้องกันผมหงอกได้เป็นอย่างดี

“การที่ผมเราจะสีดำ สีทอง หรือสีจาง มันขึ้นอยู่กับเม็ดสีในผม อย่าง คนเอเชียที่ผมดำ เพราะว่ามันมีเมลานิน (Melanin) หรือเม็ดสีนินอยู่ในผม ซึ่งสารอาหารที่ช่วยบำรุงให้ผมดำก็คือ วิตามินบี5 (Vitamin B5)

วิตามินบี5 หรือเรียกอีกอย่างว่า แพนโทเธนิค เรามักคุ้นหู จากการที่แชมพูหลายยี่ห้อนำมาใช้เป็นส่วนผสม ซึ่งแท้จริงแล้ววิตามินตัวนี้มีอยู่ในเห็ดด้วย จะเห็นได้ว่าเห็ดเป็นพระเอกสำหรับเรื่องผมเลย มีทั้งซีลีเนียม และแพนโทเธนิค ทั้งนี้นอกจากในเห็ดแล้ว แพนโทเธนิคยังมีในบล็อกเคอรี่และถั่วด้วย อาหารเหล่านี้จะช่วยเพิ่มเม็ดสีนิน หรือเมลานินในผม ชะลอไม่ให้ผมขาวเร็ว และช่วยให้ผมดำได้ด้วย”
งาดำ-อัญชัน ภูมิปัญญาโบราณ ที่ได้ผลจริง!

เมื่อถามถึงภูมิความรู้โบราณ ที่หลายคนมักได้ยินกันว่า งาดำ และ ดอกอัญชัน ช่วยให้ผมสวยผมเงางามนั้นจริงแท้แค่ไหน? คุณหมอตอบทันควันว่า “จริงแท้แน่นอน”

“งา ช่วยเรื่องผมได้เช่นกันครับ เพราะมีธาตุซีลีเนียมและแคลเซียม (Calcium) เยอะ ซึ่งแคลเซียมก็ช่วยเรื่องผมได้เช่นกัน โดยเฉพาะงาดำ ให้จำง่ายๆ เราคนเอเชียผมดำ ก็ต้องกินงาดำ เพราะงาดำมีแคลเซียมเยอะมาก นอกจากนี้มันยังมีน้ำมันดีๆ ตัวหนึ่งที่ช่วยเรื่องผมได้ น้ำมันตัวนี้อยู่ในกลุ่มเซซาโมลิน (Sesamolin)

ถ้าเราทานงาดำ 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน จะได้ปริมาณแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมเลย ซึ่งมันจะช่วยบำรุงผมได้อย่างดี อย่างที่คนโบราณพูดถูกเป๊ะเลย นั่นคือ น้ำมันงา จะกินก็ได้ จะทาก็ดี แต่ต้องเน้นอีกอย่างว่า ควรทานเป็นงาคั่วดีกว่า เพราะการทานงาดิบ บางทีทานไปแล้วก็อาจเกิดพิษได้เหมือนกัน ทานงาคั่วดีกว่าครับ กลิ่นหอมชวนรับประทานกว่าด้วย”

เช่นเดียวกับดอกอัญชัน ที่คุณปู่ คุณย่า นิยมนำมาใช้ทาผม ทาคิ้ว กันมาตั้งแต่อดีต คุณหมอด้านเวชศาสตตร์ชะลอวัยยืนยันว่า ดอกอัญชันมีคุณประโยชน์ต่อผมจริง ทว่าควรใช้เฉพาะภายนอกนะคะ เนื่องจากการรับประทานอัญชัน หากมากเกินควร ก็อาจเกิดพิษได้

“อัญชัน ที่คนสมัยก่อนนิยมนำมาแต้มคิ้วเด็ก ให้คิ้วเด็กดำ หรือมักเอามาทาผม อันนี้ใช้ได้ดีเลยครับ เพราะในดอกอัญชันจะมีธาตุที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระชื่อ ธาตุม่วงต้านร่วงโรย หรือ OPCs (Oligomeric Proanthocyanidins) ซึ่งถือเป็นซูเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันไม่ให้ผมร่วงได้ด้วย

แต่อัญชันนี้ ถ้าให้ดีกับผม ควรจะใช้ทาหรือหมักผม อาจทำโดยบดแล้วกรองแต่น้ำเอามาหมักผมสักครู่ แล้วค่อยล้างออก ก็จะช่วยให้ผมสุขภาพดีขึ้น แต่ต้องระวังอย่าให้เข้าตาด้วย เพราะอัญชันมีพิษอยู่ เช่นเดียวกับการดื่มน้ำอัญชันนะครับ ทานได้แต่ไม่ควรทานเยอะ เพราะตัวอัญชันมีพิษทานแล้วอาจรู้สึกมึนได้”
ลดพุงกะทิ ช่วยเสกผม กลับมาดกดำได้!?

เมื่อบอกถึงอาหารบำรุงผมไปอย่างครบถ้วน คุณหมอแนะต่อว่า บางครั้งการที่ผมร่วง ไม่ดกดำ ขาดความเงางาม อาจเกิดจากปัจจัยภายในตัวเอง เช่นเรื่อง ความอ้วน ก็เป็นได้ ..นั่นแน่! หลายคนคงสงสัยว่า ‘ความอ้วน’ เกี่ยวข้องกับเรื่องผมดกดำได้อย่างไร เรื่องนี้คุณหมอหนุ่มของเรา ให้คำอธิบายว่า

“เคล็ดอีกอย่าง สำหรับคนอยากมีผมดกดำ แนะนำว่าถ้าใครอ้วน ให้ลดน้ำหนักด้วย ยิ่งลดหน้าท้อง ลดพุงได้มากเท่าไหร่ ผมคุณก็อาจจะกลับมาดกดำและดีขึ้นได้ เพราะลองสังเกตว่า ผู้ชายอ้วนมักจะมาพร้อมกับผมบาง นึกภาพอย่างขุนช้าง (ตัวเอกในวรรณคดีเรื่อง ขุนช้างขุนแผน) ได้เลย จะอ้วนด้วย ผมบางด้วย นั่นเป็นเพราะพุงกะทิ (หน้าท้องที่เต็มไปด้วยไขมัน) มันจะสร้างธาตุที่มาทำลายผม ทำให้ผมเสื่อมเร็ว ธาตุพวกนี้ก็เช่น อินซูลิน (Insulin) ที่สร้างมาจากไขมัน ซึ่งอินซูลิน เป็นธาตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายแก่เร็ว โทรมเร็ว และมันก็มีผลกับเรื่องผมได้เหมือนกัน ดังนั้นแนะนำว่า หนุ่มๆ หรือแม้แต่สาวๆ ที่ผมบาง อาจจะใช้วิธีง่ายๆ เช่น การลดน้ำหนักก่อน บางทีผมคุณอาจจะกลับมาดูดี หรือกลับมาดกดำก็ได้ ด้วยการลดพุงกะทินี่แหละ”
อยากผมสวย ต้องรู้จัก “พักผม” ซะบ้าง

เพราะสาวๆ สมัยเนี้ย ชอบกันนักกับแฟชั่น คาดผม, รวบผมตึงเปรี๊ยะ, ติดกิ๊บเก๋ไก๋ หรือบางนางชอบให้ผมอยู่ทรง เลยบรรจงประโคมเจล (gel) ฉีดสเปรย์ (spray) เสียแข็งโป๊ก ซึ่งคุณหมอว่า นั่นแหละคือ อีกหนทางนำความเสื่อมมาสู่สุขภาพผมโดยไม่รู้ตัว!

“อีกสิ่งสำคัญ ถ้าออยากให้ผมสุขภาพดีคือ ต้องพักผมบ้าง นั่นคือ ให้เลี่ยงพวกการมัด, การรัด, การผูก, การคาด เพราะพวกนี้จะทำให้ผมรั้ง จนหลุดร่วงง่าย หรือบางคนชอบม้วนผมเล่นโดยไม่รู้ตัว อันนี้ก็จะทำให้ผมหลุดเป็นหย่อมๆ เหมือนกับโดนมอด หรือปลวกแทะ

ประเภทที่อยู่ดีๆ นั่งม้วนผมตัวเอง พวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ตัว พอถึงเวลาหนึ่ง ผมมันจะหลุดเป็นวงออกมาเท่ากับเหรียญ 10 บาทเลย แล้วเขาก็จะ งง ว่าเพราะอะไร ซึ่งจริงๆ สาเหตุมันก็เกิดจากการชอบม้วนผมเล่นนี่แหละ พวกนี้จะทำให้ผมไม่แข็งแรง หลุดร่วงง่าย และบางลงได้

รวมไปถึงพวกเจล, น้ำมัน, แว็กซ์ (wax), สเปรย์ใส่ผม หรือยาย้อมผม โดยเฉพาะบรรดาผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า เปอร์ออกไซด์ (Peroxide) หรือคำว่า ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) ตัวนี้จะทำให้ผมขาว และผมแก่เร็วด้วย ดังนั้นก่อนเลือกซื้อควรดูข้างฉลาก ถ้ามีคำเหล่านี้ต้องพยายามเลี่ยง เพราะมันทำให้ผมแก่เร็ว” คุณหมอกฤษดา ให้ข้อมูล ทั้งเรื่องอาหารการกิน และ วิธีดูแลผมอย่างครบถ้วน
YOU ARE WHAT YOU EAT โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช

คลิกอ่าน แป้ง-น้ำตาล สาเหตุหน้ามันผิวอักเสบ อยากลดสิวเลี่ยงฝ้าต้องหม่ำอะไรแก้
คลิกอ่าน กินอะไรหน้าเด้ง เรามีเมนูเปี่ยม “คอลลาเจน” มาบอก
คลิกอ่าน อาหารลดระอุ! กินอะไรดี๊ด๊าดับร้อน เมนูใดควรเลี่ยง

พบความรู้ เรื่องอาหารการกิน กับคุณหมอกฤษดา เพิ่มเติมได้ที่ www.iaamcenter.com



>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น