“ฮิรากิ” เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านบางนา-ศรีนครินทร์ ลูกค้าประจำส่วนมากจะเป็นคนในละแวกนั้น ที่มีรสนิยมรู้จักเลือกกินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อย สมราคา และเป็นประเภทไม่ตามแห่ไปกินอาหารญี่ปุ่นตามห้างดังๆ ซึ่งเมื่อเปรียบคุณภาพกับราคาแล้ว ร้านฮิรากิกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าตั้งเยอะ
เชฟใหญ่ของร้านนี้คือ คุณบุญศรี มีประสบการณ์จากร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังมาแล้ว ตั้งแต่ย่านธนิยะ ซึ่งเป็นถิ่นที่ชาวญี่ปุ่นแวะเวียนมารับประทานกันเป็นประจำ ไปจนถึงภัตตาคารนิปปอนเต ราชประสงค์ และห้องชินทาโร่ โรงแรมโฟร์ซีซั่น เห็นประสบการณ์ของเชฟแล้วคงการันตีรสชาติอาหารของฮิรากิได้เป็นอย่างดี
ร้านนี้เปิดมากว่า 15 ปีแล้ว ถือเป็นเจ้าแรกที่นำ Stone Grill หรือหินภูเขาไฟมาทำอาหารประเภทปิ้งย่างในเมืองไทย ซึ่งความพิเศษของหินที่ว่านี้คือเก็บความร้อนได้ดี และยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะไม่ต้องใช้น้ำมันก็สามารถปิ้งย่างเนื้อสัตว์ทุกชนิดบนหินร้อนได้ แถมคนกินอยากกินเนื้อให้สุกขนาดไหนก็สามารถทำกินเองบนโต๊ะอาหารได้เลย โดยเชฟจะนำหินภูเขาไฟไปอบในอุณหภูมิ 400 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้หินร้อนนานถึงครึ่งชั่วโมง
ใครที่ชอบอาหารปิ้งย่าง ควรจะลองมาหาประสบการณ์ปิ้งเนื้อจากหินภูเขาไฟร้อนกันดูบ้าง ที่นี่เตรียมเนื้อชั้นดีเกรดเอสำหรับเป็นวัตถุดิบในการย่าง อาทิ เนื้อยูเอสเทนเดอร์ลอย (250 กรัม ราคา 1,450 บาท++) หรือตรงส่วนสันใน เหมาะสำหรับคนที่ชอบเนื้อนุ่มลิ้น แต่ถ้าชอบติดมันหน่อย แนะนำให้เลือกเซอร์ลอย (250 กรัม ราคา 1,080 บาท++) เทกซ์เจอร์จะเหนียวนิดหนึ่งพอให้เคี้ยวเอารสชาติความหอมของเนื้อให้อวลอยู่ในปากได้นาน
แต่ถ้าชอบเนื้อนุ่มๆ ก็มีเนื้อโกเบให้เลือกอร่อยได้ ส่วนคนไม่ชอบเนื้อจะเลือก Lamb (880 บาท++) หรือ Mix Grill (680 บาท++) มีทั้งเนื้อ-หมูและไก่ ซีฟู้ดคอมบิเนชั่น มีปลาหมึก กุ้งปลากระพง ในราคา 780 บาท++ ซอสที่จิ้มเนื้อนั้นมีให้เลือก 2 แบบคือ ซอสพริกไทยดำและน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยๆ
ถ้าใครไม่ชอบปิ้งย่างก็มี สุกี้ ชาบู ให้เลือกด้วย ที่เด็ดอยู่ที่น้ำซุปสูตรเด็ดที่ต้มให้หวานหอมด้วยผัก ซดตอนร้อนๆ แล้วจะหวานชุ่มคอจริงๆ ส่วนน้ำจิ้มชาบูที่เป็นซอสงานั้นจะเพิ่มความมันด้วยเนยถั่ว เวลาจิ้มเนื้อแล้วจะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติได้อร่อยเหาะจริงๆ
สลัดต่างๆ อันเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมีให้เลือกทั้ง สลัดปลาแซลมอน (320 บาท++) สลัดปูอัด (180 บาท++) สลัดเนื้อ (220 บาท ++) สลัดกุ้ง (200 บาท++) ไม่ว่าจะเป็นสลัดประเภทไหน เชฟจะปรุงน้ำสลัดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมั่นใจในรสชาติคือ ใช้หอม กระเทียม ขิง นำมาสับให้ละเอียด ผสมน้ำส้มสายชู น้ำมันงา ปรุงให้ออกรสเปรี้ยวนำ แต่จะมีกลิ่นสมุนไพรอื่นๆ มาช่วยให้รสชาติเข้มข้นขึ้น
ถ้ากินอาหารอย่างอื่นแล้วยังไม่อิ่ม ขอแนะนำให้สั่ง “ข้าวผัดกระเทียม” (80 บาท++) มาปิดท้าย เพราะเมนูนี้อร่อยกว่าที่เคยกินร้านอื่นๆ มา สอบถามได้ความว่าเชฟปรุงน้ำซอสกระเทียมในสูตรเฉพาะตัว มิน่าจึงทำให้กลิ่นของกระเทียมละมุนลิ้นไม่ฉุนเฉียว แถมเนื้อข้าวก็นุ่มนิ่ม
ความจริงอาหารเด็ดๆ อย่างอื่นๆ ยังมีให้เลือกลิ้มลองอีกมากมาย อย่าง ซาชิมิ ซูชิ เทปันยากิ สเต็ก หรือใครจะกินแบบเซ็ตเมนูมีให้เลือก 25 ชุดคือ มัสสึเซน 8 รายการ (ราคา 950บาท++) ประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อย ซุป ข้าวปั้น ผักต้มรวม ปลาหิมะหมักเต้าเจี้ยวย่าง กุ้งหรือปูนิ่มชุบแป้งทอด ก๋วยเตี๋ยว ไอศกรีม ผลไม้
ใครที่ชอบกินอาหารอร่อยในบรรยากาศเงียบๆ ไม่พลุกพล่านนั้น ฮิรากิน่าจะถูกใจ ส่วนการตกแต่งก็เป็นสไตล์โมเดิร์นเจแปนนิสต์ ที่เน้นความเรียบง่ายอย่างมีสไตล์
ร้านฮิรากิ ตั้งอยู่ที่โรงแรมโนโวเทล บางนา เปิดบริการ 2 รอบคือ 11.00-14.30 น และ 18.00-22.30 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2366-0505 ต่อ 1470,1471
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net