ชื่อ รสทิพย์ อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับนักชิมทั่วไป เพราะร้านนี้เพิ่งจะเปลี่ยนเจ้าของใหม่มาได้ไม่นานนี้เอง แต่ความโดดเด่นของร้านนี้ที่ปรับปรุงใหม่นั้นขอแนะนำให้แวะเข้าไปลิ้มลอง เพราะมีซีฟู้ดเป็นๆ สดๆ รสชาติดีมาให้บริการในราคาที่สมเหตุสมผล
หน้าตาร้านรสทิพย์ดูออกจะธรรมดามากๆ เหมือนร้านอาหารแบบจีนๆทั่วไปที่ใช้ผ้าปูโต๊ะสีแดง ซึ่งเป็นที่คุ้นเคยกันดี แต่คุณต่ายเจ้าของร้านบอกว่า หลังจากเข้ามาปรับปรุงใหม่แล้วก็พยายามจะสร้างมาตรฐานให้ดีขึ้นในเรื่องความสะอาดและถ้วยชามเครื่องใช้บนโต๊ะ ให้ดูดีมาคลาสขึ้นมาหน่อย
มาพูดถึงเรื่องเมนูอาหารกันดีกว่า ร้านนี้จะเน้นอาหารประเภท ซีฟู้ด เป็นหลัก ซึ่งโดยมากไม่ว่า กุ้ง ปลา ปู จะเป็นๆ แบบว่ายน้ำให้เห็นๆ อยู่ในบ่อปูนหน้าร้าน แถมยังคัดซีฟู้ดจากแหล่งคุณภาพทั้งนั้น อาทิ ปูม้าจะสั่งจากสุราษฎร์ฯ ซึ่งอยู่ฝั่งทะเลอ่าวไทย และต้องเป็นขนาดใหญ่อย่าง 3 ตัวโล ถึงจะกินได้เนื้อแน่นๆ เต็มปากเต็มคำ ส่วนปลานั้นจะไม่สั่งแบบแช่แข็งเหมือนร้านทั่วๆ ไป เพราะเวลานำออกจากช่องฟรีซในตู้แช่เพื่อมาประกอบอาหารนั้น น้ำเนื้อของปลาสดจะละลายไปกับน้ำแข็งทำให้เสียรสชาติของปลาไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น ทางร้านจะสั่งเนื้อปลาแช่ด้วยน้ำแข็งเท่านั้น จะได้น้ำเนื้อปลาที่ยังสดอยู่ตลอด เวลานำไปปรุงรสชาติจะเหมือนปลาสดๆ
มาร้านนี้ต้องสั่งหอยแมลงภู่อบ (120 บาท) ใช้หอยแมลงภู่ตัวโตเนื้อเต็มคำ มาทำความสะอาดอย่างดีจนหมดโคลน รวมทั้งดึงเส้นดำๆ ที่ติดมากับเปลือกหอยออกให้หมดล้างน้ำจนสะอาด นำหอยที่ล้างสะอาดใส่ในหม้ออบ ใส่พวกเครื่องสมุนไพรสดทั้งตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า ใบโหระพา พริกขี้หนูสด นำไปอบบนเตาให้ร้อนพอให้ฝาหอยเปิด หอยจะคายน้ำออกมา ก่อนเสิร์ฟจะบีบมะนาวลงไปด้วย ดังนั้นน้ำหอยแมงภู่ของร้านนี้จึงซดได้คล่องคอสบายใจในเรื่องความสะอาด รสชาติเหมือนซดต้มยำอร่อยแซบเหลือหลาย จานนี้ลูกค้าประจำรู้ดีว่า จะต้องสั่งถึง 2 หม้อจึงจะยอมหยุด
กุ้งรสทิพย์ (190-260 บาท) แค่เห็นหน้าตาสีส้มของกุ้งสดตัดสีเขียวของใบสาระแหน่ก็ชวนน้ำลายสอแล้ว ใช้กุ้งก้ามกรามตัวใหญ่พอประมาณ นำมาลวกให้สุกเล็กน้อย แกะเปลือกออกเพื่อให้หยิบใส่ปากแบบสบายๆ ราดด้วยน้ำยำที่ต้องบอกว่ารสแซบเหลือหลาย จานนี้จะมีผักกาดขาว และถั่วฝักยาวลวกและกระเทียมสดๆ ใส่มาด้วย
ออเดิร์ฟทะเลเผา ราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของกุ้งก้ามกราม ปูม้า ปูทะเล ปูไข่ มีทั้งขนาดธรรมดาและบิ๊กไซส์ อย่างปูทะเลและปูไข่นั้น บางวันมีตัวใหญ่ขนาดตัวละ 8 ขีดกันเลย เรียกว่าย่างตัวเดียวก็เต็มจานแล้ว ส่วน “น้ำจิ้มซีฟู้ด” นั้น รสชาติแซบอร่อยเหลือ เพราะกินซีฟู้ดให้อร่อยนั้นน้ำจิ้มต้องแซบด้วย ร้านนี้น้ำจิ้มสอบผ่านใช้ได้รสชาติ 3 รสกลมกล่อมจัดจ้าน
ผัดจับเต็ง (150 บาท) เป็นเมนูที่เชฟคิดขึ้นมาใหม่ ต่อยอดจากผัดโหงวก๊วยที่มี 5 อย่าง ดังนั้น ผัดจับเต็งจึงมีส่วนประกอบมากถึง 10 อย่างคือ เนื้อไก่ เนื้อกุ้ง แฮม หน่อไม้ฝรั่ง พุทราจีน แปะก๊วย เห็ดหอม แห้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แครอท นำมาผัดเข้าด้วยกัน ปรุงรสให้ออกหวานเค็มหอมซีอิ้ว ส่วนผสมหลายๆ อย่างเวลาเคี้ยวจึงอร่อยเพลินดี
อาหารทะเลประเภทปลาก็น่ากินไปหมด ที่น่าสนใจคือ “ปลานกแก้ว” ที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักตามร้านซีฟู้ด แต่ร้านนี้นำมาขึ้นเมนูไว้ด้วย สามารถนำมาทำทั้งนึ่งซีอิ้ว นึ่งบ๊วย ราดพริกสามรส หรือทอดกระเทียมพริกไทยก็ได้ สำหรับผู้เขียนนั้นคิดว่าปลาเนื้อดีๆ แค่นึ่งซีอิ้วหรือนึ่งบ๊วยก็อร่อยเหาะแล้ว เพราะนำไปทอดจะทำให้เสียรสชาติหมด แต่น่าเสียดายที่วันไปชิมนั้น ปลานกแก้วหมดร้านพอดี เลยไม่รู้จะบรรยายความอร่อยได้อย่างไรดี
เมนูยังมีให้เลือกอร่อยอีกเยอะ ใครที่อยากจะกินแบบสั่งซีฟู้ดทั้งกุ้ง ปู ปลาสดๆ มาชั่งตามน้ำหนักแล้วให้ที่ร้านนำไปผัดพริกขี้หนูสวน ผัดพริกเผา อบวุ้นเส้น ผัดผงกะหรี่ หรือแกงส้ม ทางร้านจะคิดค่าเครื่องปรุงในราคา 45-70 บาท อารมณ์เหมือนไปนั่งกินซีฟู้ดตามชายทะเลชะอำหรือพัทยาที่ซื้อของสด ๆ เป็นกิโล ๆ มาจากอวนแล้วให้ร้านเพิงริมชายหาดปรุงเป็นอาหารหลากหลายให้กิน ได้ทั้งความสุขได้ทั้งความสด
หรือถ้าแวะมาตอนกลางวันก็มีอาหารจานเดียวราคาย่อมเยาให้ลิ้มลองตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวผัด ไปจนถึงข้าวราดกว่า 20 เมนู ในราคาจานละ 35 - 45 บาท
ร้านรสทิพย์ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. (หยุดจันทร์ที่ 2และ3) ตั้งอยู่ต้นซอยชัยพฤกษ์ (ที่จะเข้าไปยังตลิ่งชัน) ทางเข้าวัดไก่เตี้ย พอเลี้ยวเข้ามาแล้วต้องชิดขวาทันที เพราะร้านตั้งอยู่ตรงปากซอยพอดี ถ้าไปไม่ถูก โทร.ถามที่ 0-2433-8431
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net