xs
xsm
sm
md
lg

เพราะไลฟ์สไตล์เราไม่ตรงกัน/เริงฤทธิ์รัก Sexociety

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Sexociety โดย เริงฤทธิ์รัก

ไลฟ์สไตล์เราไม่ตรงกัน” ประโยคสรุปชีวิตรักคนดัง พี่บอลกับน้องฟ้า ท่ามกลางแสงแฟลชในนาทีแถลงข่าวของทั้งคู่

ผู้คนมากมายคงสงสัยว่า นั่นมันเป็นคำตอบที่ครอบคลุมทุกอย่างเลยใช่มั้ย

เรื่องของชีวิตคู่มันมีหลายแง่มุม ทั้งเปิดและปิดปนเปกันไป หากไม่ถึงกับหัวร้างข้างแตกขึ้นโรงพัก เป็นเรื่องเป็นราวระดับชาวบ้านก็แล้วไป คู่รักดาราชนชั้นดังทั้งหลาย จึงนิยมใช้ประโยคที่ดูดี รักษาหน้าตาของทั้งคู่เอาไว้ ไม่ให้ยับเยินไปมากกว่านี้

ความเข้าใจไม่ตรงกัน

อ้าว ไหงเป็นงั้น แล้วสมัยอี๋อ๋อจีบกันช่างดูดดื่ม หมายความว่า ห้วงนั้นเข้าอกเข้าใจกัน จนต้องชวนกันเข้าหออย่างเอิกเกริก แต่ไม่ทันเข้าโลง ก็ลาโรงบ๊ายบายกันซะก่อน ดื้อๆ

สำนวนที่ว่า “ยามรักน้ำต้มผัก ก็ยังว่าหวาน” จะจิ๊จ๊ะพูดอะไร ก็ให้น่ารักน่าใคร่อย่างทะนุถนอม ถูกหูถูกใจไปซะหมด เพราะยามนั้นทั้งสองต่างผ่อนปรนยินยอม แบ่งปันพื้นที่ส่วนตัว ให้กินกันและกันอย่างไม่หวงแหน

ไม่เคยเลี้ยงหมูหมากาไก่ ไม่ชอบซ้อนมอเตอร์ไซด์ ไม่ชอบไปวัด ไม่ชอบ…ฯลฯ แต่ความรักนอกจากจะทำให้ตาบอดแล้ว หูยังอื้อ มีอานุภาพให้คู่รักคู่สวาทยอมอ่อนยอมถอยได้คนละหลายกิโลฯ ไปไหนไปกันฉันและเธอ

ไปโน่นมานี่ จูงมือเหมือนกลัวจะพลัดพรากหลงทาง หน้าตามีน้ำมีนวลชวนสุขกันทุกเวลา ห่างเพื่อนฝูงได้เป็นเดือนเป็นปี

หากเป็นคนดังดาราเด่น ก็ต้องกอดกันสวีทหวานออกทีวีแทบจะครบทุกช่อง สำนวนชาวบ้านว่า “รักกันปานจะแหกตูดดม” ประมาณนั้น ครั้นตกร่องปล่องรักและอยู่กันไปกันมา..เริ่มสามวาสองศอก ไม่บอกไม่พูดกันมากขึ้น

บ้างก็ว่าเวลาทำงานโคตระยุ่ง จนจูนกันไม่ติดขึ้นทุกวัน ต่างคนต่างยุ่งชิบ

ทำไมสมัยแรกรัก เวลาและงานมันหายไปไหน ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอุปสรรค เจอกันสามเวลายังน้อยไป ค่าโทรศัพท์ไม่ต้องพูดถึง ยินดีจ่ายไม่เหนียวหนืด สายจะไหม้ก็ช่าง ไม่หวั่นใคร

แต่พอจะหมางเมินร้างเลิก ล้วนมีข้อสรุปที่ง่ายแสนง่าย แต่ฟังดูทะแม่งๆ ยากจะเข้าใจ ครานี้ลงเพื่อนฝูงจนได้ เจอะเจอแบบแยกวง ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างสนุกมากขึ้น

ทีนี้ละก้อติดเพื่อนมากกว่าติดกัน กว่าจะรู้ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ความสนิทใจมันก็จางหายไปตามวันเวลา

ฝรั่งมักใช้วิถีทางที่คุ้นหูกันมานาน SEPARATE แยกกันอยู่ เพื่อให้เวลาสำรวจใจตัวเองสักพักว่า เท็จจริงความรู้สึกลึกๆ เป็นอย่างไร

ระหว่างแยกกันอยู่นั่นแหละ เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด หากต่างคนพยายามจะลบรอยเจ็บปวดผิดหวังซึ่งกันและกัน บ้างก็กลับไปหาเพื่อนเก่า บ้างก็แสวงหากลุ่มเพื่อนใหม่ ..ส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างหลังมากกว่า


เพราะหากเป็นกลุ่มเพื่อนเก่า ทุกคนก็ล้วนรู้ถึงความเป็นไป รู้ไส้รู้เพื่อนกันหมดแล้ว ความสนุกสะดวกใจอาจเกิดได้น้อย เพราะเพื่อนเก่ามักรู้มากไป

แต่หากเป็นกลุ่มเพื่อนใหม่ ไม่มีใครรู้ตื้นลึกหนาบาง ไม่มีที่มาที่ไป..ใหม่ไปหมด ทั้งหน้าตาและไลฟ์สไตล์ ทำให้รู้สึกเป็นอิสระปลอดโปร่งโล่งใจ จะหัวเราะหัวใคร่ ออกลีลาสีสันยังไงก็ไม่ต้องแคร์

เผลอๆ สำรวจใจตัวเองไปมา ดันหลงไปสำรวจใจคนใหม่อีก..เฮ้อ


ชีวิตสมัยใหม่ในสังคมเมือง มันเป็นภาวะเปิดพื้นที่ให้ทุกคนเข้าร่วมผจญชีวิตอย่างเสรี ยิ่งเป็นผู้คนที่มีความสำเร็จเฉพาะตัวสูงอยู่แล้ว เชื่อได้เลยว่า ความสำเร็จและชื่อเสียงนั้น ถึงมันจะหอมหวนทวนลม แต่ขณะเดียวกัน มันก็กลายเป็นพายุร้ายในชีวิตคู่ไม่ยากนัก

หากต่างถือดีถือเด่น ไม่ง้อเอื้ออาทรกัน แน่นอนที่สุดว่า มือที่เคยเกาะกุมจูงจับกันในยามรักดูดดื่ม พลันจะกลายเป็นมือที่สะบัดปัดป้องในบัดดล

ยามแรกรักแทบจะนั่งซ้อนตักกันออกทีวี มาบัดนี้เธอและฉันห่างกันเหมือนอยู่คนละโลก ยิ้มเจื่อนๆ บนใบหน้า ย่อมบอกได้ถึงความจริงภายใต้สำนวนร่วมยุค ที่จะมีคู่รักคู้ร้างอีกไม่น้อยนิยมพูดซ้ำ “ไลฟ์สไตล์เราไม่ตรงกัน”

บางคู่แอบ(ทดลอง)อยู่กันตั้งหลายปี พอแต่งเป็นการเป็นงานฟู่ฟ่า ไม่ทันครบปีก็บอกเลิกรากันชนิดที่ว่า พวงมาลัยมงคลยังเหี่ยวไม่ทัน

ทดลองอยู่น่ะพอทำได้ แต่ทดลองเลิกอ่ะนะ..รับรองได้เลยว่า ต้องเลิกกันจริงๆ ทั้งหญิงและชาย

ขอบคุณ! ภาพประกอบจากซูเปอร์บันเทิงและอินเตอร์เน็ต
 

>>
อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ 
 http://www.celeb-online.net
 
กำลังโหลดความคิดเห็น