xs
xsm
sm
md
lg

นันทมาลี ภิรมย์ภักดี....สตรีผู้กุมบังเหียน ‘ม้าผยอง’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
 
     ตำนานแห่งโลกยานยนต์จอดนิ่งสนิทอยู่บนโชว์รูมครบวงจรที่ได้รับการกล่าวขานว่า ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค


 
     ทั้ง Dino, California, 599 GTO , 458 Italia ที่กร้าวกร้านหลายร้อยแรงม้าต่างสยบยอมอยู่เคียงกายสุภาพสตรีร่างเล็กอย่าง นันทมาลี ภิรมย์ภักดี ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะผู้บริหารในบริษัทคาวาลลิโน มอร์เตอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถเฟอร์รารี่ในประเทศไทย ทั้งได้รับการรับรองจากต้นสังกัดเฟอร์รารี่ที่อิตาลี ให้เธอดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทคาวาลลิโนฯ แห่งนี้ เพื่อคอยดูแลทุกรายละเอียดนับแต่การบริหารงานด้านการตลาด ส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์และองค์กร แก้ไขปัญหาร่วมกับทีมงานอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งต้องวางวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กร พัฒนาสารพัดโปรเจ็กต์เพื่อให้คนในสังคมรับรู้ความเคลื่อนไหวและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเจ้า ‘ม้าผยอง’ หรือ ‘ม้าลำพอง’ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งๆ ขึ้น
 
     และภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ยานยนต์ผู้ถือเป็นราชาแห่งสนาม ‘ฟอร์มูล่า วัน’ ก็ถูกมหาเศรษฐีเมืองไทยจับจองเป็นเจ้าของไปแล้วราว 30 คัน




 
 
     ความสำเร็จเกินคาดหมายนี้น่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ดีที่สุดถึงศักยภาพของเธอ. หญิงสาวที่ผู้คนกล่าวขานว่า คือ ‘ตัวจริง’ เป็นสาวเก่งที่ครบเครื่อง เป็น ‘เวิร์คกิ้งวูแมน’ แห่งยุค
 
     ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับคำนี้? แน่นอน เธอบอกว่าภูมิใจ เพราะคำชมเหล่านั้นเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่หลั่งรดหลังจากที่เธอทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อให้ธุรกิจของครอบครัวและผู้หลักผู้ใหญ่ที่เธอเคารพ...ได้รับผลที่น่าพอใจ
 
     “ภูมิใจนะคะ เพราะผู้ใหญ่ก็ชมมา หมายความว่าแรงกายที่เราทุ่มไปทั้งหมด การที่เราไม่ได้หลับไม่ได้นอนตลอดระยะเวลาที่ริเริ่มกันมา เราได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว งานเสร็จตามกำหนด ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และต้องยอมรับตรงๆ ว่าเรามีทีมงานที่แข็งแรงด้วย ซึ่งจากนี้เราก็ยิ่งต้องส่งเสริม ผลักดันและเสริมสร้างกำลังใจในการทำงานให้เขาอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน”
 
     เป็นความสำเร็จที่เธอทุ่มเกินร้อย แต่ไม่ได้คาดหวังหรือนำนิยามของคำว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ มากดดันการทำงานของตัวเอง เพราะสิ่งที่เธอให้ความสำคัญคือ ‘การลงมือทำ’ อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควบคู่กับการศึกษา ทำความเข้าใจในรายละเอียดของธุรกิจยานยนต์ระดับโลกอย่างเฟอร์รารี่ให้ได้มากที่สุด ทำความเข้าใจในทัศนคติขององค์กร มองวิสัยทัศน์แล้วนำมาปรับให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้
 
     ควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นพัฒนาโชว์รูมในไทยให้มีความเป็นสากลไม่แพ้โชว์รูมเฟอร์รารี่ที่ตั้งอยู่ ณ ชาติใดๆ ในยุโรป ส่วนในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคนั้น เธอเชื่อมั่นว่า หายห่วง เพราะรังม้าผยองที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีแห่งนี้...ไม่แพ้ใคร


 
     “เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้บริหารคาวาลลิโนฯ ของไทยให้ความไว้วางใจบิ๋ง ทั้งได้รับการผลักดันจากคุณวรวุฒิด้วย บิ๋งจึงได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ คอยดูแลเรื่องการติดต่อกับต่างประเทศเป็นหลัก โดยบิ๋งจะเป็นคนติดต่อกับเฟอร์รารี่โดยตรง ดูแลเรื่องการดูแลลูกค้า ดูแลเรื่องการขาย รวมทั้งดูแลเรื่องของการปรับโชว์รูมเฟอร์รารี่ที่นำเข้ามาในเมืองไทย รูปแบบที่เหมาะกับเมืองไทย แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องมุ่งให้ศูนย์เฟอร์รารี่ของเรามีมาตรฐานสากล ซึ่งเราถือเป็นบริษัทแรกๆ ที่ได้ทำศูนย์ที่ทันสมัย นับเป็นศูนย์ที่ใหม่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและใหญ่พอสมควร นอกจากนั้นเราก็เน้นดีไซน์ที่ทันสมัย ตามนโยบายของต้นสังกัดที่ว่า เฟอร์รารี่จะเก่าและโทรมไม่ได้ ”
 
     เธอบอกว่า หลักสำคัญที่เธอยึดไว้ในการทำงาน คือการใส่ใจทุกรายละเอียด มีความเข้าใจในงานทุกขั้นตอน 
 
    
     ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเธอใส่ใจกระทั่งตำแหน่งห้องน้ำ หรือที่ตั้งของประตู ที่ต้องถูกต้องเป๊ะ! ตามหลักฮวงจุ้ยถึงขั้นขอต่อรองกับทีมสถาปนิกจากเฟอร์รารี่ที่ว่ากันว่า ‘เพอร์เฟคชั่นนิสต์’ แบบ ‘ตัวพ่อ’ ทั้งนั้น 
 
    
     “ศูนย์เฟอร์รารี่ที่นี่จะมีสถาปนิกจากเฟอร์รารี่อิตาลีดีไซน์ให้ เราก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิดทุกอย่าง ส่วนเขาเองก็จะดูแลอย่างละเอียดไม่แพ้กัน เก้าอี้ทุกชิ้นที่เห็นส่งตรงมาจากอิตาลีเลยค่ะ แม้แต่โคมไฟ วิธีวางไฟ วิธีเจาะฝ้า กระเบื้องที่ใช้ สีพื้นที่ต้องผสมออกมาให้ได้ตามที่เขาต้องการ สถาปนิกจากเฟอร์รารี่ดีไซน์จะขอตรวจทุกอย่าง ว่าเป็นไปตามที่เขาต้องการไหม ส่วนเฟอร์นิเจอร์เขาส่งมาให้จากอิตาลีและกำหนดมาให้เลยค่ะ ว่าจะให้วางอะไรไว้ตรงไหน 
 
    
     “ทีมสถาปนิกจากเฟอร์รารี่ดีไซน์เขาละเอียดมาก เว้นแต่เรื่องฮวงจุ้ยที่เราให้ความสำคัญและขอต่อรองกับเขา อย่างเช่น ประตู เราต้องปรับ ห้องน้ำเราก็ให้ความสำคัญ หรือโต๊ะ เราก็ขอบิดตามที่อาจารย์บอก เราก็พยายามต่อรองค่ะ เป็น ‘อีสต์ มีท เวสต์’ ตะวันออกพบตะวันตก เขาก็ยอมให้ค่ะ”
 
    
     รายละเอียดที่เธอใส่ใจ ยังรวมไปถึงการคิดคอนเซ็ปต์ปาร์ตี้สำหรับส่งมอบรถให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าของเฟอร์รารี่ได้รับความประทับใจในวันที่มารับรถ ซึ่งจะได้พบกับการเฉลิมฉลอง จิบแชมเปญเคล้าเสียงเพลงก่อนรับมอบม้าผยองไปไว้ในครอบครอง 
 
    
     แต่เหล่านี้ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะเธอยังมีอีกหลากโปรเจ็กต์ หลายคอนเซ็ปต์ที่พร้อมพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้ธุรกิจที่เธอได้รับมอบหมายให้กุมบังเหียน...มุ่งหน้าไปในทิศทางที่น่าพอใจ


 
 
     “บางคนอาจคิดว่า ‘ฉันอยู่ตำแหน่งระดับนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ’ แต่สำหรับบิ๋ง บิ๋งลุยมาก บิ๋งผ่านการทำงานมามาก และบิ๋งใส่ใจกับงานทุกระดับ ตั้งแต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จนถึงงานในขอบเขตที่กว้างมากขึ้น ถ้าไม่ทำ เราก็จะไม่เข้าใจวิธีแก้ปัญหา เพราะฉะนั้น เมื่อไหร่ที่ทีมงานเจอปัญหา ด้วยประสบการณ์การทำงานที่เราผ่านงานมาทุกระดับจะทำให้เราสามารถหาทางแก้ไขได้ บิ๋งว่าการที่เราพร้อมเรียนรู้งานทุกอย่าง โดยไม่เกี่ยงงานคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ประสบความสำเร็จ”
 
     แต่ความสำเร็จในการบริหารธุรกิจ ยังไม่ถือว่าเพียงพอที่จะถูกยกให้เป็น ‘เวิร์คกิ้ง วูแมน’ เพราะเธอเชื่อว่า...
 
 
     “สำหรับบิ๋ง ‘เวิร์คกิ้งวูแมน’ ไม่ใช่แค่ทำงานเก่งอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าทำงานเก่งมาก แต่ลูกไม่เคยเห็นหน้าแม่เลย หรือทำแต่งานจนไม่สนใจสามีเลย ไม่สามารถบริหารจัดการชีวิตได้ ไม่มีเวลาส่วนตัวที่จะดูแลตัวเอง ไม่มีเวลาให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย ไม่ได้พบปะสังสรรค์กับผู้คนในสังคม ผู้หญิงเก่งในความหมายของบิ๋งก็คือ เราต้องบริหารสมดุลในชีวิตให้ได้ทั้ง 360 องศา ต้องสามารถบริหารเวลาในชีวิตให้ได้อย่างสมดุล”

 
     ซึ่งเธอก็ทำได้สมความหมาย ‘เวิร์คกิ้ง วูแมน’ ที่สามารถจัดการชีวิตทุกโหมดได้อย่างลงตัว เพราะไม่เพียงบทบาทการบริหารธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จ แต่เพราะเธอยังสามารถดูแลตัวเองได้อย่างสวยพริ้งสวนทางกับความรับผิดชอบที่หนาหนัก หาเวลาให้ตัวเองได้ออกกำลังกายทุกสัปดาห์เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและรูปร่างที่สวย น่ามอง ขณะเดียวกันก็ไม่เคยทุ่มให้กับงานจนไม่มีเวลาดูแลสามี หรือมัวทำงานเพลินจนไม่มีเวลาเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกน้อยผู้เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจได้หลับฝันดี
 
     “การดูแลตัวเองของบิ๋งก็คือการออกกำลังกายค่ะ มีเรียนซัลซ่า แล้วก็เต้นฮิพฮอพ บิ๋งจะหาเวลาไปเต้นก่อนที่จะเข้ามาออฟฟิศ สนุกดีค่ะ ได้ผ่อนคลาย บิ๋งจะพยายามเต้นให้ได้ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์
 
 
     “ถ้าเป็นเรื่องการพบหน้าค่าตากับสามีก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เย็นๆ เขาก็แวะมาที่โชว์รูมแล้ว เพราะว่าเราก็ทำงานให้เขานี่คะ (หัวเราะ) แล้วเวลากลับบ้านเราก็จะไม่เอาเรื่องหนักๆ ไปคุยกัน ส่วนลูกๆ ก็จะเจอกันตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน แล้วบิ๋งก็จะพยายามทำงานให้เสร็จแล้วกลับบ้านไปอ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอน ยอมรับว่าบางวันก็มีธุระ ต้องไปคุยงานกับลูกค้าต่อ แต่บิ๋งก็จะพยายามอ่านนิทานให้เขาฟังและส่งเขาเข้านอนให้ได้อย่างน้อย 3 วัน ในสัปดาห์ แล้วในช่วงวันหยุดบิ๋งก็จะพาเขาไปไหนต่อไหนด้วย”

 
     จึงไม่น่าแปลกใจที่บทบาทภรรยาคนสวยและคุณแม่คนเก่งของลูกน้อยจะยิ่งทำให้เธอคู่ควรกับคำว่า ผู้หญิงเก่ง ที่ไม่ใช่แค่ ‘เวิร์คกิ้ง วูแมน’ แบบธรรมดา
 
     แต่เป็น ‘เวิร์คกิ้ง วูแมน 360 องศา’
แม้แต่ม้าผยองที่ว่าแน่ ยังต้องยอมให้เธอควบคุม...กุมชะตา
 
                                   ..........…
                           เรื่องโดย : นางสาวยิปซี
                           ภาพโดย : ศิวกร เสนสอน
กำลังโหลดความคิดเห็น