xs
xsm
sm
md
lg

อลิสา โลหิตนาวี ชวนสาวๆ ปรับภาพลักษณ์ให้ดูดีด้วยสีสัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นสาวสมาร์ทยุคนี้ ใครว่าแค่สวยและดูดีแต่เพียงภายนอก บุคลิกภาพและมารยาทก็ต้องดีเต็มร้อยด้วย กุ้ง-อลิสา โลหิตนาวี จึงอาสามาพัฒนาภาพลักษณ์ของสาวๆ เปิด บริษัทอิมเมจ แมทเทอร์ส นำประสบการณ์และความรู้จากสถาบัน London Image Institute ที่อังกฤษ มาแบ่งปันให้สาวๆ เมืองไทย ได้รู้จักการพัฒนาภาพลักษณ์และเติมเสน่ห์ในการทำงาน

กุ้งเล่าว่า “ที่อยากทำตรงนี้ เพราะตัวเองเดินทางค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะไปประเทศทางตะวันตก ได้พูดคุยกับคนตำแหน่งใหญ่ๆ จึงต้องรู้จักวางตัว และสิ่งเหล่านี้ก็หล่อหลอมให้เราอยู่ในกรอบที่เป็นแบบแผน พอกลับมาเมืองไทยเห็นภาพลักษณ์ของสาวๆ บางครั้งรู้สึกหงุดหงิด จึงกลับไปศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และกลับมาเปิดบริษัทพัฒนาภาพลักษณ์ค่ะ”

คงเป็นเพราะธุรกิจหลายประเภทในปัจจุบัน จะเน้นหนักในภาพลักษณ์ของบุคลากรเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือธนาคาร ที่ต้องการบุคลากรที่มีภาพลักษณ์ที่ดีและน่าเชื่อถือ การแต่งกาย แต่งหน้าทำผม และมารยาทจึงเป็นสิ่งสำคัญ

“First Impression หรือความประทับใจครั้งแรกเห็น สำคัญมาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องไปสมัครงาน เพราะมีการวิจัยมาว่า คนรอบข้างจะใช้เวลาสังเกตภาพลักษณ์ภายนอก แค่ 20 วินาที ก็จะจำจุดเด่นของแต่ละคนได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจถ้าผู้บริหารจะจำได้แค่ว่า สาวปากแดงแจ๊ด หรือสาวกระโปรงสั้นจู๊ดคนนั้น ดังนั้นตอนไปสมัครงานควรแต่งกายให้ดูดีเรียบร้อย แต่งหน้าอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ว่าไฮไลต์ผมหลายๆ สี นอกเสียจากว่าคุณจะไปสมัครงานกับบริษัทโฆษณา”

กุ้งกล่าวต่อว่า “ส่วนมารยาทต่างๆ ที่บางคนอาจไม่ใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการวางตัวบนโต๊ะอาหาร รู้จักอุปกรณ์ว่าชิ้นนี้ของใคร หรือเวลาไปทานข้าวที่บ้านลูกค้า ก็ต้องรู้จักวางตัว มีสิ่งของไปฝากด้วย และเมื่อถูกเชิญไปบ้านลูกค้าแล้ว ก็ต้องรู้จักเชิญเขากลับมาเยือนบ้านเราบ้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นมารยาททางสังคมที่ดีต่อธุรกิจทั้งนั้น”

อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของสาวๆ คือสีสันของเสื้อผ้า ซึ่งเป็นตัวขับให้ใบหน้าดึงดูดสายตาได้ไม่น้อยไปกว่าเครื่องสำอาง กูรูด้านภาพลักษณ์เผยว่า ในต่างประเทศจะให้ความสำคัญกับสีประจำฤดูกาล เช่น สปริง-ซัมเมอร์ ออทั่ม-วินเทอร์ สำหรับสาวผิวสองสีอย่างชาวเอเชีย จะเหมาะกับเสื้อผ้าสีสดใสอย่าง สปริง ซัมเมอร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสีผิวแต่ละบุคคลเป็นหลัก

“ปัญหาของสาวออฟฟิศคือ สีของชุดยูนิฟอร์ม ไม่เข้ากับสีผิว เพราะส่วนใหญ่จะมีแค่สีเดียว ส่วนตัวกุ้งคิดว่า องค์กรน่าจะมีเฉดสีให้พนักงานได้เลือกอย่างน้อยก็ 2 เฉดสี อย่างสีเขียวก็ควรมีเขียวเข้มกับเขียวอ่อน และมีทางเลือกให้พนักงานได้เลือกทั้งกระโปรงและกางเกง เพราะสาวสะโพกใหญ่ แต่ต้องในยูนิฟอร์มสั้น ก็จะลำบากเวลาลุกนั่ง ทำให้เสียบุคลิกได้”

นอกจากนั้นทรงผมและการแต่งหน้าก็ต้องให้เข้ากับสีของเสื้อผ้า คนส่วนใหญ่จะเลือกทาปากสีเดียวกับชุด หรือบางครั้งชุดทำงานหากนำเครื่องประดับมาสวมให้เข้ากัน ก็สามารถใส่ออกงานกลางคืนได้ด้วย

“ง่ายมากๆ ที่เราจะหลงใหลไปกับแฟชั่นหรือเทรนด์ เพราะเห็นนางแบบใส่แล้วดูดี แถมดีไซเนอร์ส่วนใหญ่ก็มักจะออกแบบเสื้อผ้าให้ไม่สมสัดส่วน บางทีก็สั้นมากๆ หรือบางครั้งก็ยาวมากๆ จึงอยากเตือนสาวๆ ให้รู้จักเลือกแฟชั่นมาแต่งให้เหมาะกับตัวเอง บางคนแขนใหญ่แต่ใส่เสื้อแขนกุด ก็ยิ่งจะเน้นแขนเข้าไปใหญ่ บางครั้งคนที่แต่งตัวสไตล์เดิม แต่เปลี่ยนแค่สี ก็อาจดูดีกว่าสาวที่ตามแฟชั่น แต่ไม่เหมาะกับรูปร่างตัวเอง” กุ้งแนะนำทิ้งท้าย


ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะรักการแต่งกายสไตล์ไหน สำคัญที่สุดคือต้องเหมาะสมกับกาละเทศะ และบุคลิก ส่วนที่เหลือก็แค่มั่นใจ เท่านี้ก็พร้อมลุยในแบบสาวเทรนดีแล้ว

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net
กำลังโหลดความคิดเห็น